เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 500 คำกล่าวของบัญชาสวรรค์

ตอนที่ 500 คำกล่าวของบัญชาสวรรค์

 

ท่ามกลางประกายแสงที่สาดส่อง ก็ได้มีเงาร่างของคนที่ร่างกายสวมเอาไว้ด้วยเกราะสีทองปรากฏขึ้นมา ภายในมือของมันก็ได้ถือเอาไว้ด้วยหอกยาวที่หลอมขึ้นมาจากเหล็กอยู่ด้ามหนึ่ง ท่ามกลางหอกเหล็กยาวนั้นก็ได้ส่องเป็นประกายขึ้นมา ราวกับสามารถที่จะทำลายทุกสิ่งกลับคืนสู่ความเป็นศูนย์ก็มิปาน แต่ว่าหอกยาวภายในมือของมันในขณะนี้ก็ได้แทงกวาดเข้ามาอย่างไม่ขาดสายออกมา เพื่อที่จะเข้าประมือกับมหาราชันผู้หนึ่ง อีกทั้งยังไม่ตกเป็นรองเลยแม้แต่น้อย

 

“คิดไม่ถึงว่า นี้จะเป็นซากแห่งเซียนในตำนานหรือยังไงกัน? เพราะเหตุใดเพียงแค่ซากศพก็ได้มีพลังในการต่อสู้ได้มากมายถึงเพียงนี้กัน ราวกับถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่อาจที่จะคาดคิดเอาไว้ได้!” มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อที่อยู่ลักษณะกอดอกอยู่บริเวณทางด้านหลัง ก็ได้ทอสีหน้าลำบากใจขึ้นมาอยู่หลายส่วน

 

การลงมือร่วมกันของมหาราชันทั้งห้า ไม่เพียงแต่จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดขึ้นมา อีกทั้งยังมีอันตรายจนสามารถที่จะตายลงไป ถึงกับยากที่จะต่อกรกับบุคคลเฉกเช่นนี้ได้

 

“ฮูม——”

 

มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อก็ได้ขมวดคิ้วขึ้นมาในเวลาเดียวกัน ซากแห่งเซียนนั้นถึงกับคำรามก้องขึ้นมา ภายในเสียงคำรามก็ได้ก่อให้เกิดความสั่นไหวอันน่าหวาดกลัวอยู่ ในระหว่างที่เสียงนั้นได้ทอดลงมา ก็ได้พบเห็นประกายแสงโลหิตปกคลุมขึ้นมาไปทั่วทั้งอาราม อีกทั้งพลังความน่าหวาดกลัวแต่ละสายนั้นยังออกมาจากเงาร่างสายนั้น สิ่งเหล่านี้ก็ได้ปกคลุมอยู่บนร่างของศพที่สวมเกราะเอาไว้อยู่ ขณะนี้ก็ได้จู่โจมออกมาด้วยพลังอันน่าหวาดกลัว จนสั่นสะท้านไปทั่วทั้งผืนฟ้า

 

“เริ่มที่จะยุ่งยากขึ้นมาแล้วสิ!”

 

มหาราชันแห่งหุบเขาเทพชิงหวินก็ได้ขมวดคิ้วขึ้นมา ซากศพมีอยู่อย่างมากมายเหล่านี้ อีกทั้งยังมีพลังฝีมือที่ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง ขณะนี้มหาราชันทั้งห้าอย่างพวกเขาก็ได้ร่วมมือกัน อีกทั้งยังตกอยู่ในสภาวะถอยร่นอย่างพ่ายแพ้ติดต่อกันเรื่อยๆ

 

“ต่อให้พวกเขาฟาดฟันซากศพเหล่านี้ไป ก็ใช่ว่าจะสามารถที่จะเข้าไปสู่ท่ามกลางเพลิงกาฬลำดับที่เก้าที่แท้จริงได้ อย่างมากก็เพียงเข้าไปได้เพียงแค่ภายในอารามเท่านั้น ซึ่งเป็นสถานที่ที่เป็นสุสานเซียนที่แท้จริง ที่อยู่ในตำแหน่งที่ตั้งของบัลลังก์ราชันสีทองนั้น!” มหาราชันแห่งตำหนักอัสนีลี้ลับก็ได้ทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมาอย่างถึงขีดสุด ขณะนี้ก็ได้ขมวดคิ้วแล้วกล่าวออกมา เห็นได้ชัดว่าต้องเกิดอันใดขึ้นมาอย่างแน่นอน

 

บริเวณที่ห่างไกล เยี่ยจงก็ได้เหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้า ทอสีหน้าเยียบเย็นอย่างถึงที่สุด เขาทราบว่าตามคำกล่าวของสภาวะสังหารตามที่เสี่ยวหลุนบอกมานั้น อย่างน้อยก็ได้ถูกเปิดขึ้นมาแล้ว ถึงแม้ว่าวในขณะนี้จะดูเหมือนว่าจะอยู่ในการควบคุมอยู่ก็ตามที แต่ว่าผู้ใดจะทราบได้กันว่าต่อมาจะเกิดอะไรขึ้นมากันแน่?

 

ทันใดนั้นเอง ในบริเวณรอบนอกของดินแดนเสี่ยวหนาน บริเวณทั่วทุกสี่ทิศแปดด้านก็ได้มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาในเวลาเดียวกัน จากนั้นก็สามารถที่จะตรวจพบได้ว่าในบริเวณที่ห่างไกลออกไป ได้มีบรรยากาศที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งฟ้าแผ่กระจายออกมาเป็นกลุ่มขณะนี้

 

เห็นได้ชัดอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่ามหาราชันทั้งห้าจะลงมือในเวลาเดียวกัน หมายมั่นที่จะเก็บซ่อนข่าวลือเหล่านี้เอาไว้ แต่ว่าในที่สุดข่าวสารก็ยังคงถูกแพร่ออกไปอยู่ดี

 

พื้นที่ที่เป็นสุสานเซียน นามนี้ถือได้ว่าเพียงพอที่จะสามารถดึงดูดยอดฝีมือระดับสูงสุดเข้ามาได้มากมายนับไม่ถ้วน และในขณะนี้เอง เมื่อเทียบกับขุมกำลังที่มีอยู่อย่างมากมายและรวมกำลังกันอยู่ในเวลานี้ ชั่วพริบตาก็ได้ทำให้บุคคลที่อยู่รอบนอกของดินแดนเสี่ยวหนานเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมายิ่งขึ้นได้ และก็เป็นเหมือนกับการกระตุ้นเหล่าชนชั้นมหาราชันทั้งหลายที่ซ่อนตัวอยู่ปรากฏตัวขึ้นมาได้ภายในพริบตา ต่อมาก็ได้เข้ามาจนถึงบริเวณรอบนอกของอารามที่ถูกปกคลุมเอาไว้ด้วยประกายโลหิตอยู่

 

“ทุกท่าน พวกเรายื่นมือเข้าไปได้ลึกจนเกินไปแล้วกระมั่ง?” เดิมทีมหาราชันทั้งห้าที่กำลังลงมือกันอย่างรุนแรงอยู่ก็ได้หันหน้ากลับมาในเวลาเดียวกัน ในขณะนี้เอง พวกเขาก็ได้นำอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุออกมาในเวลาเดียวกัน จากนั้นก็ได้กวาดเหล่าซากศพทั้งหมดด้วยพลังทำลายอันน่าหวาดกลัวอย่างสูงสุด จากนั้นมหาราชันทั้งห้าก็ได้หันหน้ากลับมาในเวลาเดียวกัน เหม่อมองกลับไปยังบริเวณทางด้านหลัง

 

ในตำแหน่งทางด้านหลัง ขณะนี้ท่ามกลางผืนฟ้าก็ได้มีการปรากฏเงาร่างปกคลุมเต็มอยู่ทั่วทั้งผืนฟ้า ร่างกายของพวกเขาก็ได้แผ่พุ่งพลังอันน่าหวาดกลัวขึ้นมาอย่างถึงที่สุด เห็นได้ชัดว่าต่างถือได้ว่าเป็นชนชั้นมหาราชันอย่างไม่ต้องสงสัย ฉากเบื้องหน้าแทบจะทำให้ผู้คนต่างก็กลืนน้ำลายลงคอ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดต่างก็คาดคิดไม่ถึงว่า ท่ามกลางดินแดนเสี่ยวหนานในวันนี้ ถึงกับมีการรวมตัวกันขึ้นมาของมหาราชันทั้งสิบสามคนเอาไว้ได้?

 

ฉากเบื้องหน้านี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่า ร้อยพันปีมานี้ ต่างก็น้อยนักที่ชนชั้นระดับมหาราชันจะพบปะกันได้มากมายเช่นนี้ได้ และในวันนี้ชนชั้นมหาราชันเหล่านี้กลับปรากฏตัวขึ้น เห็นได้ชัดว่าต่างก็มาเพื่อพื้นที่ที่เป็นสุสานเซียน

 

“การเดิมพันในครั้งนี้ถือได้ว่ามีความเสี่ยงสูงจนเกินไปแล้ว!” เยี่ยจงเหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้า ราวกับว่าเกิดอาการอ้าปากตาค้างขึ้นมาอยู่หลายส่วน ท่ามกลางทางด้านหลังนั้นก็ได้มีชนชั้นมหาราชันอยู่ทั้งหมดแปดคน เขาเพียงจดจำออกเพียงแค่สองคนเท่านั้น หนึ่งในนั้นสมควรที่จะเป็นมหาราชันแห่งเผ่ามนุษย์ซือคงจานั้นเอง และอีกทางด้านหนึ่งนั้นก็ยังมีอีกคนหนึ่ง ไต๋ซือหวู่โหวที่มีหน้าท้องที่กำลังส่ายไปมาอยู่

 

มหาราชันเผ่ามนุษย์ทั้งสองคนต่างก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมา กระนั้นกลับอยู่เหนือการคาดเดาของเยี่ยจงอยู่หลายส่วน เขาเดิมทีคิดที่จะจัดการเข่นฆ่าสังหารเหล่ามหาราชันที่ไล่ล่าเขาอยู่เหล่านี้ เพียงแต่มิใช่การตระเตรียมที่จะจัดการกับมหาราชันทั้งสองคนที่เป็นมิตรกับตนเองเช่นนี้

 

“ซือคงจา เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน? บัญชีของเจ้าหนูเยี่ยจงก่อนหน้านี้ข้ายังไม่ได้คิดกับเจ้าเลยนะ เจ้ากลับคิดที่ตระเตรียมที่จะทำลายเรื่องราวดีๆ ของข้าด้วยอย่างงั้นหรือ? เจ้าคิดว่าข้าจะเกรงกลัวเจ้าให้ได้หรืออย่างไรกัน?” มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อก็ได้ปรากฏเงาร่างสูงใหญ่ขึ้นมา มันทอดวงตาเยียบเย็นมองเข้าไปยังทางด้านของมหาราชันเผ่ามนุษย์ซือคงจา ทอสีหน้าเย็นเยียบขึ้นมาอย่างถึงขีดสุด อีกทั้งภายในคำพูดยังแฝงเอาไว้ด้วยความโกรธแค้นอยู่ภายใน

 

“พี่ลิ่วเอ่อมีเพลิงแค้นมากเกินไปหน่อยแล้วกระมั่ง?” ซือคงจายิ้มน้อยๆ ขึ้นมา “ที่พวกข้าปรากฏตัวขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้ในวันนี้ กลับมิใช่มาทำลายเรื่องดีๆ ของท่านทั้งห้า ในทางกลับกัน กลับเป็นการมาเพื่อที่จะช่วยเหลือพวกท่านทั้งห้า ”

 

“ช่วยเหลือ?” มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อขมวดคิ้วขึ้นมา ทอสีประหลาดใจขึ้นมา

 

จากนั้นเยี่ยจงก็ได้กรอกดวงตาไปมาอย่างช้าๆ เป็นครั้งแรกที่พบว่า เรื่องราวในสถานที่แห่งนี้ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาไปจนหมดสิ้นแล้วก็มิปาน

 

“เมื่อวันก่อน ท่านผู้เฒ่าบัญชาสวรรค์แห่งตำหนักบัญชาสวรรค์ได้กล่าวออกมาว่า กล่าวว่าจะเกิดเรื่องบางอย่างที่ดินแดนเสี่ยวหนานที่เป็นสถานที่ต้องห้าม และหากว่ามีมหาราชันเข้าไปภายใน จะต้องทำให้เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอน……ท่านผู้เฒ่าบัญชาสวรรค์ยังกล่าวอีกว่า แดนต้องห้ามดินแดนเสี่ยวหนานนี้ ได้มีการสร้างสภาวะหมื่นสังหารมานับแต่โบราณ กล่าวกันว่ามีการคงอยู่ที่สามารถจะเข่นฆ่าสังหารชนชั้นมหาราชันระดับสูงได้ เดิมทีการเข่นฆ่าสมควรที่จะไม่ก่อเกิดความเคลื่อนไหวใดๆ ทว่าเมื่อมีการปรากฏของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุที่มหาราชันทั้งห้าใช้ออกมา สภาวะแห่งการสังหารก็จะถูกกระตุ้นขึ้นมา และหากว่าเกิดสภาวะสังหารไปทั่วทั้งดินแดน เกรงว่าดินแดนซีฮวงในระยะหมื่นลี้คงจะต้องกลายเป็นทะเลโลหิตก็เป็นได้ ” ซือคงจากล่าวออกมาอย่างเย็นชา แต่ว่าเขาก็ยังคงกล่าวออกมาได้ภายในพริบตา อีกทั้งยังคงทำให้มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อและพวกรวมเป็นมหาราชันทั้งห้าแต่ละคนทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมาอยู่เต็มสิบ

 

ตำหนักบัญชาสวรรค์、ท่านผู้เฒ่าบัญชาสวรรค์ทั้งสองสิ่งนี้ ได้ทำให้พวกเขาไม่อาจที่จะไม่เชื่อได้

 

“สถานที่แห่งนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงพื้นที่ที่เป็นสุสานเซียน แต่ก็มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะเก็บซ่อนความลับแห่งเซียนเอาไว้อยู่!” บริเวณทางด้านหลัง มหาราชันแห่งหุบเขาเทพชิงหวินก็ได้กล่าวออกมาอย่างเย็นชา เพื่อที่จะบอกถึงความสำคัญของสถานที่แห่งนี้ออกมา เห็นได้ชัดว่า ต่อให้ทราบว่าสถานที่แห่งนี้มีการคงอยู่ของสภาวะสังหารอันน่าหวาดกลัวเช่นนี้อยู่ก็ตาม แต่ว่าก็ยังคงไม่มีผู้ใดยินยอมที่จะถอยออกไป

 

“ท่านผู้เฒ่าบัญชาสวรรค์ยังกล่าวอีกว่า ชนชั้นราชันที่มีพลังเทวะต่ำกว่าขั้นที่สามลงไปพื้นที่ที่เป็นสุสานเซียน สมควรที่จะไม่สามารถกระตุ้นสภาวะสังหารเหล่านี้ได้ ในเมื่อมีความเป็นไปได้ว่าจะมีความลับเซียนในตำนานอยู่ แต่ว่ายอดฝีมือที่ได้เข้าไปภายในตอนนี้ ก็คงจะเกิดฉากโศกนาฎกรรมขึ้นมาอย่างไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยง ” ไต๋ซือหวู่โหวขยับปากอย่างเกียจคร้าน ทอสีหน้าเย้ยหยันอย่างถึงที่สุด “หากกล่าวออกมาอย่างง่ายดาย ต่อให้เหล่าผู้เยาว์ของพวกเจ้าเข้าร่วมการแย่งชิง หากมองจากความสามารถของแต่ละฝ่าย ที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ อาตมาอย่างข้ากลับมิได้มีลูกศิษย์ผู้สืบทอด จะเข้าไปแก่งแย่งกับพวกเจ้าได้อย่างไรกัน? มิสู้ให้ข้าฟักไข่ออกมาเองยังจะง่ายเสียกว่า!”

 

หวู่โหวหดหู่อย่างยิ่ง หันกายหายลับไปยังบริเวณทางด้านของขอบฟ้า เห็นได้ชัดว่า ฉากเบื้องหน้าสายตาก็ได้ทำให้พวกเขาเกิดความไม่พอใจอย่างถึงที่สุด

 

ซือคงจาหัวเราะอย่างหมดหนทางขึ้นมา หลังจากนั้นก็ได้ค่อยๆ กล่าวออกมา : “ทั้งห้าท่านมีความคิดเห็นเช่นไร? หากว่าเชื่อท่านผู้เฒ่าบัญชาสวรรค์แล้วละก็ ก็มอบหมายโอกาสนี้ให้แก่ชนชั้นรุ่นเยาว์ ทุกคนต่างฝ่ายต่างก็มองเห็นวาสนานี้กันแล้ว……แต่ว่า ทุกท่านหากว่าคิดที่จะทำให้แผ่นดินนับหมื่นลี้กลายเป็นทะเลโลหิตแล้วละก็ พวกข้าจะต้องลงมือเข้าขัดขวางอย่างแน่นอน!”

 

“ชนชั้นราชันที่สูงกว่าพลังเทวะขั้นที่สามงั้นหรือ? ได้!” มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อหลังจากที่ครุ่นคิดขึ้นมา ทันใดนั้นเองหัวเราะออกมาอย่างเย็นเยียบคำหนึ่ง “เช่นนั้นข้าก็คงจะต้องรอดูอยู่ที่ด้านนอกแล้วกระมั่ง พื้นที่ที่เป็นสุสานเซียนนี้ ที่แท้แล้วมีความลับการคงอยู่ของสิ่งใด!”

 

หลังจากที่สิ้นเสียง ร่างกายของมหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อก็ได้เลือนหายไป ส่วนชนชั้นมหาราชันคนอื่นๆ หลังจากที่มองไปยังทางด้านหลังแล้ว ต่างก็ค่อยๆ เลือนหายไป ในช่วงเวลาเดียวกัน จนเกิดเสียงดังสนั่นดังขึ้นมาตลอดทั่วทุกพื้นที่

 

“ชนชั้นราชันที่สูงกว่าพลังเทวะขั้นที่สาม ถอยเร็ว ยอดฝีมือที่หลงเหลือต่างฝ่ายก็เข้าไปแสวงหาวาสนาเถอะ สถานที่แห่งนี้เป็นถึงพื้นที่ที่เป็นสุสานเซียน ได้รวบรวมความเร้นลับของการสำเร็จสู่เซียนเอาไว้อยู่ เหล่าผู้เยาว์ ยังไงก็คงจะฝากเอาไว้ที่พวกเจ้าแล้วละ!”

 

เสียงนั้นก็ได้ดังออกมาอย่างช้าๆ แต่ว่ากลับทำให้บริเวณทางด้านหลัง ที่มียอดฝีมือระดับราชันและระดับครึ่งก้าวสู่ระดับราชันที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างถี่ยิบต้องอ้าปากตาค้างขึ้นมา จากนั้นแต่ละคนก็ได้หายใจถี่ด้วยความตกใจ เห็นได้ชัดว่า ไม่ว่าจะเป็นคนใดก็คงจะคิดไม่ถึงว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นมานี้จะเกิดขึ้นมาในลักษณะนี้ได้

 

“ให้ตาย——” เยี่ยจงที่ซ่อนเร้นอยู่ท่ามกลางเพลิงกาฬลำดับที่เจ็ด ก็ได้ทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมาอย่างถึงขีดสุด “ท่านผู้เฒ่าบัญชาสวรรค์นี้มันเป็นตัวอะไรกัน? ถึงกับสามารถคาดเดาได้จนถึงขั้นนี้ แผนการสังหารอันงดงามของข้ากลับต้องมามลายสิ้นไปเสียได้——”

 

“เจ้าเด็กน้อย นี้ที่แท้ก็เป็นแผนการของเจ้างั้นหรือ? เจ้าแท้จริงแล้วได้มองออกถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้อยู่แล้ว อีกทั้งยังคงกระทำเรื่องเช่นนี้ต่ออีกอย่างงั้นหรือ?” ทันใดนั้นเองก็ได้มีเสียงดังขึ้นมาอย่างเกียจคร้านดังกระทบเข้าไปในโสตประสาทหูของเยี่ยจง จนทำให้ร่างกายของเยี่ยจงสั่นไหวไปมา ตัดสินใจที่จะถอยออกไปทางด้านนอกไกลนับสิบลี้ หลังจากนั้นเขาจึงค่อยหันหน้ากลับไป เพียงแค่มองปราดเข้าไปเพียงคราเดียวทั่วทั้งสายตาก็ได้พบเห็นกับพุงน้อยลูกหนึ่ง!

 

ขณะนี้ไต๋ซือหวู่โหวที่มีจมูกประดุจไม่เหมือนมีจมูก ดวงตาที่ไม่เหมือนดวงตา เขาที่ถือได้ว่าเป็นชนชั้นมหาราชันได้อย่างแท้จริง แต่ว่ากลับมิได้มีกลิ่นอายของชนชั้นระดับมหาราชันแม้แต่น้อย อีกทั้งยังส่งสีหน้ากึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้มมองไปทางด้านของเยี่ยจง

 

“ผู้เยาว์เยี่ยจง ขอพบท่านผู้อาวุโสหวู่โหว!” เยี่ยจงในขณะที่กำลังลังเล ก็ได้ยกมือขึ้นมาคารวะ ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร เมื่อครั้งก่อนก็มีบุคคลผู้นั้นคอยต้านทานมหาราชันปีศาจทุนเทียนเอาไว้ จึงถือได้ว่ามีบุญคุณกับตนเองอยู่ไม่น้อย

 

“มองหาพระแสงอันใดกัน คำถามของอาจารย์ปู่อย่างข้า เจ้ากล้าที่จะไม่ตอบงั้นหรือ?” ไต๋ซือหวู่โหวจ้องเขม็งไปยังภายในดวงตาของเยี่ยจง

 

เยี่ยจงกรอกตาขาวไปมาอยู่รอบหนึ่ง จากนั้นก็ตอบกลับไปอย่างไม่อาจที่จะทำอะไรได้ : “ความจริงข้าเพียงแต่มองออกแค่ว่า สถานที่แห่งนี้มีสภาวะสังหารอันน่าตกใจอยู่เท่านั้น อีกทั้งสภาวะสังหารนั้นเป็นเช่นไร ข้ากลับมิได้เข้าใจเลย ทว่าภายใต้การคาดเดาของข้า สมควรที่จะสามารถที่จะฆ่าสังหารชนชั้นมหาราชันได้สักคนสองคน อย่างน้อยก็คงพอที่จะทำให้ตกใจตายได้สักคน แต่ว่าเมื่อมีการปรากฏตัวขึ้นมาของผู้อาวุโส จึงได้ทำให้แผนการของผู้เยาว์สูญเปล่าไป!”

 

“เจ้าคิดจริงหรือไงว่าชนชั้นระดับมหาราชันนั้นฆ่าได้อย่างง่ายดายงั้นหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าเฒ่าบัดซบทั้งห้าก็ยังมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุคุ้มกายอยู่ อีกทั้งยังมีบางคนที่มาเดิมทีก็มิได้มาด้วยร่างจริง สังหารแล้วจะอย่างไร?” ไต๋ซือหวู่โหวก็ได้ส่งเสียงดังชิออกมา ก้าวออกไปด้านหน้าหลายก้าว มองพินิจพิจารณ์เยี่ยจง “ทว่าเด็กน้อยเจ้าไม่เลวเลยทีเดียว การไล่ล่าเมื่อวันก่อน ไม่เพียงแต่ไม่ตาย อีกทั้งยังสามารถที่จะแสดงการละเล่นนี้มาไว้อยู่ในมือ เพียงแต่น่าเสียดายที่พลังฝีมือของเจ้านั้นยังอ่อนโทรมอยู่ ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ ไม่แน่ว่าในวันนี้เจ้าอาจจะทำให้เกิดคลื่นมรสุมโลหิตภายใต้น้ำมือของเจ้าก็เป็นได้ ”

 

“ท่านผู้อาวุโสชมเชยเกินไปแล้ว ” เยี่ยจงยิ้มออกมาอย่างไร้อารมณ์ แผนการในวันนี้ดูเหมือนว่าจะล้มเหลวแล้ว

 

“ทว่า เจ้าก็ช่างโชคร้ายเสียจริง เดิมทีคิดที่จะสังหารชนชั้นมหาราชัน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกลับต้องมาพลิกผันเพราะคำพูดของเฒ่าตายยากที่ชอบทำนาย อีกทั้งยังเหมาะเจาะกันเป็นอย่างดี อีกทั้ง ยังทำให้พื้นที่ที่เป็นสุสานเซียนปรากฏขึ้นมาในวันนี้ได้ หากว่าขุมกำลังอย่างหุบเขาหมื่นปีศาจ หุบเขาเทพชิงหวินได้ครอบครองไปแล้วละก็ เจ้าหนูเจ้าจะมีชีวิตต่อไปได้อย่างงั้นหรือ?” ไต๋ซือหวู่โหวก็ได้หัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งอย่างไม่ใส่ใจ เห็นได้ชัดว่า สถานการณ์ของเยี่ยจงในขณะนี้เป็นเหมือนกับที่เขากล่าวมา เขานั้นมิได้มีผู้สืบทอด จึงมิอาจที่จะเข้าร่วมในศึกวาสนาแห่งเซียนในครั้งนี้ได้ และเยี่ยจงยังเป็นตัวดึงดูดกระแสของการแย่งชิงในครั้งนี้ได้ แต่ว่าภายในสถานที่แห่งนี้นั้นมีชนชั้นมหาราชันมากมายคอยคุมเชิงเอาไว้อยู่ เขาจะสามารถที่จะแสดงวิชาผีสางออกมาได้อย่างไรกัน!

 

“ใช้แล้ว!” ทันใดนั้นเอง ไต๋ซือหวู่โหวก็ได้ตบที่ท้องน้อยของตนเองคราหนึ่ง ทอสีหน้าแปลกประหลาดจนปรากฏขึ้นมา จากนั้นบนใบหน้าของเขาก็ได้เกิดความเร่าร้อนขึ้นเดินเข้ามาหาทางด้านของเยี่ยจง ในตอนที่เยี่ยจงยังมีปฏิกิริยากลับมาไม่ทัน ก็ได้ถูกเขาจับมาที่หัวไหล่ ประดุจดั่งเกิดความใกล้ชิดขึ้นมาอยู่หลายสาย “เสี่ยวเยี่ยจงนะ เจ้าว่า อาจารย์ปู่อย่างข้าอย่างน้อยก็ถือได้ว่าเป็นผู้มีพระคุณต่อเจ้าที่ช่วงชีวิตถึงครึ่งหนึ่งมิใช่หรอกหรือ? วันนี้ อาจารย์ปู่อย่างข้ามีเรื่องเล็กน้อยที่อยากจะรบกวนเจ้า ถือซะว่าเป็นการร่วมมือกันระหว่างเจ้าข้า เจ้าเห็นเป็นอย่างไร?”

 

เยี่ยจงภายในพริบตานั้นราวกับคาดเดาขึ้นมาได้ถึงความคิดของหวู่โหว เขาส่ายหน้าไปมาคล้ายกับไม่ค่อยจะยินยอมสักเท่าไร กล่าวออกมาเสียงแผ่วเบา : “คงจะไม่ดีหรอกกระมั่ง?”

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ

โปรโมชั่น กลุ่ม 6-12 ราคา 550

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

INBOX m.me/ZuiQiangWuShen

#####Fanpage#####

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset