เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 516 กดดันบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์

ตอนที่ 516 กดดันบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์

 

“เด็กน้อยผู้นี้ช่างทำให้ผู้คนเกิดความเกลียดชังเสียจริง ไม่แปลกใจเลยด้วยนิสัยเช่นเจ้ายังทำให้ข้าต้องลงมือออกมาได้ ” เสี่ยวหลุนก็ได้ส่งเสียงดังเชอะออกมา ครอบคลุมประกายแสงสีขาวขึ้นมาตลอดทั้งร่าง แล้วก็ได้พบเห็นการปรากฏของแสงที่ดูกระจ่างสาดออกมาจากภายในเตาโบราณขึ้นมาเป็นสาย ประดุจดั่งมีเพลิงเปลวไฟสีรุ้งเผาผลาญออกมาก็มิปาน

 

เยี่ยจงก็ได้แต่เพียงเหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้า ทอสีหน้าเรียบเฉยขึ้นมา ที่มาที่ไปของเสี่ยวหลุนมาจนถึงตอนนี้เรียกได้ว่าเขายังไม่ทราบได้อย่างแน่ชัด ย่อมไม่อาจที่จะใช้เรื่องเช่นนี้มาทำให้แตกตื่นตกใจได้

 

บริเวณทางด้านหลัง บนใบหน้าของบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆ ก็ได้ปรากฏความสงสัยขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต่างก็มองออกว่า เยี่ยจงในขณะนี้แม้จะมิได้ใช้ออกมาด้วยเตาหลอมโบราณชิ้นนี้ แต่ว่าฉากที่เห็นอยู่นี้ กลับทำให้พวกเขาต้องทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมาจนถึงขีดสุดได้

 

“นี้ คงจะมิใช่เตาหลอมในตำนานชิ้นนั้นหรอกนะ?” สตรีศักดิ์สิทธิ์เผ่าซือก็ได้ส่งเสียงดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน ราวกับคิดอันใดขึ้นมาได้ก็มิปาน

 

“มิใช่ เตาหลอมในตำนานชิ้นนั้นได้ถูกทำลายไปตั้งแต่แรกแล้วมิใช่หรือ วัตถุชิ้นนี้สมควรที่จะต้องเป็นสิ่งที่ตกทอดมาในภายหลังเท่านั้น ” บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งตำหนักอัสนีลี้ลับก็ได้ส่งเสียงดังขึ้นมา เหมือนกับว่าได้เกิดความเคร่งเครียดขึ้นมาเป็นสาย เห็นได้ชัดว่า เหมือนกับว่าเขานั้นได้เกิดความหวาดกลัวต่อเตาหลอมนี้อยู่หลายส่วน

 

ภายในเตา นับตั้งแต่ช่วงเวลาเริ่มแรก สือซิ่งก็ยังคงกรนด่าออกมาอย่างไม่ขาดสาย แต่ว่าไม่นานนัก เขาก็ไม่ส่งเสียงโวยวายออกมา หลังจากนั้นก็ได้เกิดเสียงดังกึกก้องขึ้นมาเป็นสาย เห็นได้ชัดว่าเขานั้นเริ่มที่จะรู้สึกว่าไม่มีวิธีที่จะใช้ออกมาได้แล้ว

 

“เคร้งเคร้งเคร้ง——”

 

เสียงจากสมบัติเซียนก็ได้ดังลอดออกมา ไม่ทราบว่าที่แท้เกิดเรื่องอันใดขึ้นมากันแน่ จากนั้นบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์กลุ่มนี้อ้าปากตาค้างจ้องมองลงไป แล้วก็ได้พบเห็นกระบี่、เกราะ、เข็มเป็นต้นกระจัดกระจายลอยกระทบอยู่ภายในเตาไปมา จากนั้นก็ได้เกิดประกายแสงสีขาวกวาดอยู่ทางด้านล่าง แล้วก็ได้ยินเสียงโลหิตกระทบกันไปมา

 

สมบัติปราณเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นที่รู้จักกันโดยทั่ว ระหว่างที่สือซิ่งได้เอาวัตถุนี้ออกมาอยู่ข้างกาย แต่ว่าขณะนี้กลับถูกเก็บไปทีละอย่าง ในการคาดคิดเอาไว้ เขาถือได้ว่าได้กำลังเผชิญหน้ากับสภาวะบางอย่างที่อยู่เบื้องหน้า

 

“ซูม——”

 

หลังจากนั้นเอง เสี่ยวหลุนก็ได้กวาดเตาหลอมโบราณออกไป จนกระทั่งคายสือซิ่งที่อยู่ทางด้านในออกมา

 

ในขณะนี้เอง บุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดต่างก็หน้าเปลี่ยนสีไปในในเวลาเดียวกัน เป็นถึงองค์ชายหกรัฐสือ ผู้ที่จะขึ้นไปเป็นราชาคนต่อไปแห่งรัฐสือ ขณะนี้กลับถูกจัดการถึงเพียงนี้ได้ ตลอดทั่วทั้งร่างกายบนล่างเหมือนดั่งถูกกักเอาไว้จนไม่อาจที่จะดิ้นได้อยู่นานหลายวันแล้วก็มิปาน ดูไปแล้วดำทมิฬอย่างไร้ที่เปรียบ นอกจากนี้แล้ว ตลอดทั่วทั้งร่างกายของเขาก็ได้ปกคลุมไปด้วยควันสีขาว ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่เรียกได้ว่าเจ็บปวดมากมายอย่างไร้ที่เปรียบอยู่หลายส่วน

 

“แค๊กแค๊ก——”

 

ฉากนี้ แม้แต่เยี่ยจงเองก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องไอออกมา เสี่ยวหลุนผู้นี้ถึงกับอำมหิตเพียงนี้ การเป็นถึงระดับองค์ชายหกแห่งรัฐสือยังต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้ ถึงแม้ว่านี้จะเป็นเพราะว่าขณะนี้สือซิ่งไม่อาจที่จะใช้พลังลมปราณออกมาได้ แต่ว่าหากมองอีกด้านหนึ่งก็เหมือนกับเป็นเครื่องบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของเสี่ยวหลุนได้

 

“หรือไม่ก็ ช่างมันเถอะ?” เยี่ยจงกวาดตามองไปที่เสี่ยวหลุน กล่าวออกมากึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม

 

“จะช่างมันได้อย่างไรกัน? สิ่งที่ผนึกเข้ากับภายในจิตใจของเขาเป็นถึงสิ่งที่ปู่หลุนข้าต้องการที่สุด น่าเสียดายที่เขาฉลาดจนเกินไป ยังไงก็ต้องจัดการให้ตายให้ได้ ทว่าก็ไม่เป็นไร รอคอยหลังจากที่ปู่หลุนได้หล่อหลอมเขาไปแล้ว ไม่ส่าจะเป็นของสิ่งใดก็คงจะต้องตกเป็นของข้าอย่างแน่นอนแล้ว ” เสี่ยวหลุนส่งเสียงดังเชอะออกมาคำหนึ่ง แล้วก็ได้ควบคุมเตาหลอมโบราณอีกครั้ง

 

“เจ้าคนวิปริต เจ้าวันนี้ถึงกล้า——” ทางด้านบนพื้นดิน สือซิ่งในที่สุดก็มีสติกลับคืนมา เงยหน้าขึ้นมาอย่างยากลำบาก ภายในดวงตาประดุจเหมือนมีความเย็นเยียบไหลผ่านก็มิปาน

 

“มีวาจาไร้สาระมากมายอะไรกันอีก รีบไสหัวกลับเข้าไปให้ข้าเสียเถอะ!” เยี่ยจงก็ได้ย่างก้าวออกไปทางด้านหน้า กวาดเท้าออกไปข้างหนึ่ง ระหว่างนั้นก็ได้โยนร่างกายของสือซิ่งเข้าไปยังปากของเตาหลอมอีกครา

 

เสี่ยวหลุนก็ได้ส่งเสียงออกมาด้วยความยินดีออกมาจากภายในห้วงสมองของเยี่ยจง จากนั้นก็ได้ปลดปล่อยเตาหลอมจะเปล่งประกายแสงสีทองขึ้นมา เริ่มทำการหล่อหลอมขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

 

เห็นได้ชัดว่า ขณะนี้เสี่ยวหลุนมีความสนใจจนแทบคลั่งขึ้นมา หากมิสามารถที่จะครอบครองเครื่องมือต้องห้ามของสือซิ่งแล้วละก็ มันก็คงจะนอนตายตาไม่หลับอย่างแน่นอน

 

“เจ้าบัดซบผู้นี้……”

 

บริเวณที่ห่างออกไปก็ได้มียอดฝีมือชนชั้นราชันแทบกระอักโลหิตออกมา พวกเขานั้นต่างก็เป็นยอดฝีมือชนชั้นราชันจากรัฐสือโดยทั้งสิ้น อีกทั้งยังมาเพื่อที่จะให้การคุ้มกันสือซิ่ง แต่ว่าขณะนี้กลับได้แต่เพียงจ้องมองสือซิ่งถูกเยี่ยจงจัดการจนมาถึงขั้นนี้ได้

 

“เยี่ยจง ”

 

บุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์มากมายในขณะนี้ต่างก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างเคร่งเครียด ทุกผู้คนต่างก็ตระเตรียมความพร้อมที่จะใช้เครื่องมือต้องห้ามในมือของตนเองออกมา เพราะว่าสิ่งที่เยี่ยจงกระทำถือได้ว่าเป็นการกระทำที่บ้าเกินไปแล้ว การมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ครึ่งขั้นบรรลุก็ว่าไปแล้ว แต่ยังถึงกับยังมีเครื่องมือต้องห้ามอีก อีกทั้งยังสามารถที่จะเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเดินไปมาในที่แห่งนี้อีก สิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่พอจะทำให้บุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์คลั่งตายได้แล้ว

 

เยี่ยจงหัวเราะคิกคักกวาดสายตาเพื่อที่จะจ้องมองเข้าไปยังสถานที่แห่งนี้อย่างช้าๆ ความเคลื่อนไหวนี้ได้หยุดความเคลื่อนไหวทั้งหมดของบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เอาไว้ โดยเฉพาะเหล่าขุมกำลังจากบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์ที่มีความแค้นส่วนตัวกับเยี่ยจง ขณะนี้ต่างก็ได้ถูกเสียงหัวเราะของเขาจนเกิดอาการขนลุกขนพองขึ้นมา

 

“พี่เยี่ย ควรหยุดได้แล้วนะ ขณะนี้ทางด้านนอกยังมีชนชั้นมหาราชันประทับถึงสิบแปดตน หากมองในมุมมองของเจ้า ถือได้ว่าอันตรายอย่างยิ่งยวด ยังคงรีบถอยไปเสียก่อนจะดีกว่า ” ซือคงชิงฉีขณะนี้ซึ่งได้อยู่ในสถานที่แห่งนี้ หลังจากที่นางได้จ้องมองไปที่เยี่ยจงแล้ว ก็ได้ส่งเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา เพื่อที่จะให้เยี่ยจงถอยออกไป

 

“สหายร่วมแนวทางท่านนี้ เจ้ายังคงรีบจากออกไปเร็วหน่อยเถอะ การที่จะสามารถได้ครอบครองคัมภีร์วิถีเซียนนั้นย่อมไม่ถือว่าเป็นเรื่องง่าย นี้ถือได้ว่าเป็นโอกาสวาสนาของเจ้าเองแล้ว อย่าปล่อยให้เกิดความผิดพลาดเลย ” สตรีหิมะแห่งตำหนักเยือกแข็งลี้ลับก็ได้อยู่ในท่าทีที่มิได้ออกความคิดเห็นแต่อย่างไรมาตั้งแต่ต้น แต่ว่าในขณะนี้นางก็ได้เอ่ยขึ้นมา ราวกับต้องการที่จะเตือนสติเยี่ยจงก็มิปาน

 

เยี่ยจงหัวเราะขึ้นมา จ้องมองเข้าไปยังสตรีหิมะแล้วพยักหน้าไปมา แล้วกล่าว : “ขอบคุณน้องสาวท่านนี้ด้วย รอเมื่อวันใดข้ามีเวลาว่างจะต้องไปหาเจ้าที่ตำหนักเยือกแข็งลี้ลับเพื่อดื่มชาแน่นอน ข้าฟังออกได้ถึงความจริงใจที่คิดต้องการที่จะให้ข้าจากไป ทว่าข้าในขณะนี้ยังมีเรื่องที่ต้องกระทำอยู่อีกเล็กน้อย น้องสาวโปรดวางใจได้ เจ้าต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน ”

 

หลังจากที่สิ้นเสียง เยี่ยจงก็ได้ขยับร่างกายคราหนึ่ง แล้วก็ได้เข้ามาจนถึงบริเวณทางด้านหน้าของบุตรเทพชิงหวิน จ้องมองเข้าไปยังบนร่างกายของเขาด้วยสายตาที่เย็นชา

 

หลังจากนั้น บริเวณใจกลางฝ่ามือของเยี่ยจงก็ได้ทอประกายปะทุแสงสีทองอันคมกล้าออกมา จากนั้นก็ได้กวาดฝ่ามือออกไป

 

“ตูม——”

 

ร่างกายของบุตรเทพชิงหวินก็ได้มีประกายแสงสีเขียวปรากฏขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเขายังพอที่จะมีพลังในการต้านทานแรงกดดันของพลังแห่งเซียนนี้ได้อยู่บ้าง ขณะนี้เมื่อได้ถูกเยี่ยจงฟาดออกไปก็อดไม่ได้ที่จะปลดปล่อยพลังออกมา

 

“เด็กน้อยระดับเยื่องบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ แต่ละคนเหตุใดถึงได้มีความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้กัน ” หลังจากที่ได้ทดลองอยู่หลายครา เยี่ยจงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา กายเนื้อของเด็กน้อยผู้นี้ถือได้ว่าไม่ธรรมดาอย่างถึงที่สุด ในเวลาเดียวกันยังถึงกับครอบครองเครื่องมือต้องห้ามเอาไว้อยู่ คิดที่จะสังหารเขาย่อมมิใช่เรื่องที่ง่ายดาย

 

“เยี่ยจง เราเจ้ามีความแค้นกันอย่างงั้นหรือ?” บุตรเทพชิงหวินก็ได้จ้องมองไปทางด้านของเยี่ยจง ไม่อาจที่จะทราบได้ถึงสภาพจิตใจและความเคลื่อนไหวที่เยี่ยจงได้ลงมือออกมาแม้แต่น้อย

 

“เราเจ้าไร้ซึ่งความแค้นต่อกัน แต่น่าเสียดาย ที่เจ้าคือบุตรเทพชิงหวิน ” เยี่ยจงหัวเราะออกมา มิได้กล่าววาจาไร้สาระออกมามากมาย เพียงแต่ชี้ไปยังทางด้านของบุตรเทพชิงหวิน

 

บริเวณทางด้านหลัง เสี่ยวหลุนประดุจมองเห็นบางอย่างก็มิปาน ก็ได้เปิดฝาครอบของเตาออกมา เสียงดัง “ซวบ” ก็ได้ดังขึ้นมาเพื่อที่จะดูดบุตรเทพชิงหวินเข้าไป

 

“เจ้า——”

 

บริเวณทางด้านหลัง ก็ได้มียอดฝีมือชนชั้นราชันแห่งหุบเขาเทพชิงหวินหลายคนที่ได้กระโดดเข้ามาตั้งแต่แรกขณะนี้ก็ได้ทอสีหน้าแตกตื่นขึ้นมา เมื่อนึกถึงฉากที่เกิดขึ้นกับสือซิ่งเมื่อครู่ พวกเขาก็เกิดอาการขนลุกขนพองขึ้นมา พวกเขาคิดไม่ถึงว่า เยี่ยจงถึงกับสามารถที่จะลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ในขณะหลังจากที่ได้ลงมือต่อสือซิ่งไปแล้ว ก็ถึงคราวที่จะลงมือต่อบุตรเทพชิงหวินแล้ว

 

“ซวบซวบซวบ——”

 

เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ท่ามกลางเตาโบราณก็ได้มีสมบัติเซียนสาดเป็นประกายขึ้นมานับสิบสายออกมา จากนั้นไม่นานนักก็ได้ถูกประกายแสงสีขาวกลืนกินเข้าไป ฉากนี้ได้ทำให้ผู้ที่มาจากหุบเขาเทพชิงหวินแต่ละคนเหมือนกับถูกแทงเข้าไปภายในหน้าอก ควรทราบว่า สมบัติปราณที่อยู่บนตัวของบุตรเทพชิงหวินต่างก็ถือได้ว่าไม่ธรรมดาแม้แต่ชิ้นเดียว อีกทั้งยังจัดได้ว่ามีสถานะที่สูงส่งภายในหุบเขาเทพชิงหวิน แต่ว่าขณะนี้กลับต้องมาถูกเยี่ยจงหลอกไป นี้ได้ทำให้พวกเขาเกือบที่จะกระอักโลหิตออกมาจนเกือบถึงขั้นตายทั้งเป็นได้

 

“ใช่แล้ว พวกเจ้าทั้งสองก็เข้าไปด้วยสิ ”

 

ทันใดนั้นเอง เยี่ยจงราวกับนึกอันใดขึ้นมาได้ก็มิปาน ระหว่างนั้นก็ได้ชี้ไปยังทางด้านของบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งตำหนักอัสนีลี้ลับและสตรีศักดิ์สิทธิ์เผ่าซือ

 

วินาทีนั้นเอง ทั้งสองคนก็ได้ถูกดูดเขาไปยังเตาหลอมโบราณ จากนั้นก็ได้มีสมบัติเซียนนับสิบลอยออกมา ในขณะนี้เอง ยอดฝีมือจากตำหนักอัสนีลี้ลับและเผ่าซือต่างก็ได้กระอักโลหิตออกมาในเวลาเดียวกัน พวกเขาต่างก็สบตามองกันมาตั้งแต่แรก เยี่ยจงอย่างน้อยก็คงจะต้องลงลมือ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะถึงกับเด็ดขาดถึงเพียงนี้ ถึงกับไม่เอ่ยวาจาไร้สาระออกมาเลย ก็ได้เริ่มลงมือในทันที

 

“ถอย! ถอย! ไม่อาจที่จะทนอยู่ต่อไปได้อีกแล้ว ไปเชิญเหล่ามหาราชันลงมือมา จะต้องสังหารเยี่ยจงผู้นี้ลงในสถานที่แห่งนี้ให้ได้ ไม่เช่นนั้นคงต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นทั่วทั้งฟ้าดินแล้ว!” บริเวณทางด้านหลังก็ได้มีคนร้องตะโกนออกมา จากนั้นก็ได้หันกายทะยานออกไปจากอารามใหญ่

 

“ครืน——”

 

จากนั้น ร่างกายของเขาพึ่งจะเดินไปถึงประตูของอารามใหญ่ ทันใดนั้นเอง กลุ่มพลังแรงกดดันขุ่มหนึ่งก็ได้ปกคลุมเข้าไปตลอดทั่วทั้งฟ้าดิน วินาทีนั้นเอง บนตัวของยอดฝีมือนั้นก็ได้ถูกบางสิ่งบางอย่างกรีดเข้าไปจนกลายเป็นเพียงก้อนเนื้อชิ้นเล็กชิ้นน้อยกองอยู่บนพื้น

 

“นี้มัน——”

 

เยี่ยจงก็ได้ทอสีหน้าแปรเปลี่ยนไป หันหน้ากลับมาอย่างดุร้าย เหม่อมองเข้าไปยังบริเวณอาราม ในขณะนี้เอง เขาก็ได้มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง เพราะว่า ขณะนี้เขาก็ได้พบเห็นกับโลงศพหยกขนาดใหญ่นั้นอีกแล้ว ขณะนี้โลงศพก็ได้ปรากฏขึ้นมาอยู่บนท้องฟ้า ถึงแม้ว่าจะมิได้แผ่พุ่งพลังออกมา เพียงแค่ลอยอยู่ด้วยลักษณะนั้นอย่างเงียบเชียบ แต่ว่าต่อให้เป็นคนตาบอดเองก็ยังดูออกว่า ที่ยอดฝีมือเมื่อครู่เหล่านั้นถูกสังหารย่อมต้องมีความเกี่ยวข้องกับโลงศพนี้อย่างแน่นอน

 

เยี่ยจงขมวดคิ้วขึ้นมา สุสานเซียนนี้ถือได้ว่าเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยสภาวะการสังหารที่น่าตกใจจนเกินไป ในข้อนี้เขาย่อมทราบดีอยู่แก่ใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าขณะนี้เขาเองก็ยังดูไม่ออกว่า สภาวะการสังหารอันน่าตกใจถือได้ว่ามิได้ถูกควบคุมอย่างแท้จริง นี้ยังเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น

 

“ช่างน่าเสียดาย ไม่มีเวลาแล้วสินะ……”

 

เยี่ยจงส่ายหน้า เดิมทีเขาได้ตระเตรียมที่จะจัดการกับบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์จากขุมกำลังที่มีความแค้นเก่าก่อนกับตนเองในคราเดียว เพื่อที่จะได้ทำให้พวกเขาต้องร่ำไห้ซะให้เพียงพอ แต่ว่าขณะนี้เขาก็ทราบว่า ในเวลานี้ไม่มีเวลาแล้ว

 

“ทว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็สามารถที่จะปล่อยไปได้ ส่วนท่านผู้นี้ ย่อมไม่อาจที่จะปล่อยได้อย่างแน่นอนอยู่แล้ว!”

 

เยี่ยจงหันกายกลับมา ไม่มีแม้แต่ความลังเล ก็ได้มุ่งหน้าเข้าไปยังทางด้านหน้าของราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจ หลังจากนั้นก็ได้เดินเข้าไปทางด้านของมันเรื่อยๆ ทอสีหน้าประหลาดออกมาอย่างยิ่ง

 

“เยี่ยจง เจ้าต้องการที่จะไม่อาจอยู่ร่วมโลกกับหุบเขาหมื่นปีศาจข้าอย่างงั้นหรือ?” น้ำเสียงของบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจเริ่มที่จะเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาหลายส่วน เห็นได้ชัดว่า ผู้ใดที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับเขานั้นก็ต้องกลายเป็นขี้เถ้าภายในเตาหลอมขนาดใหญ่นั้น ต่างก็ไม่อาจที่จะควบคุมสติให้นิ่งเฉยได้ เพียงแต่ว่าเขาจะเกิดความหวาดหวั่นอยู่ แต่ว่าสีหน้าก็ยังคงอยู่ในสภาะที่เย็นเยียบเป็นสาย

 

“เจ้าก็ช่างเยือกเย็นได้เสียจริงนะ ผู้น้อยขอนับถือจริงๆ เพียงแต่ว่า——” เยี่ยจงยื่นมือออกมา ฟาดออกไปเบาๆ ไปยังใบหน้าของราชานกยูงน้อยบุตรศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจ หลังจากทันใดนั้นเอง ก็ได้มีเสียงดัง “ชิ้ง” ขึ้นมาทางด้านของเขา ระหว่างนั้นเขาก็ได้กางกรงเล็บในมือออกมา แล้วก็ได้คว้าจำราชานกยูงน้อยไปในทันทีแล้วโยนขึ้นไปลอยอยู่ท่ามกลางอากาศ

 

ทันใดนั้นเกาะที่ติดอยู่บนร่างก็ได้หลุดออกมา สิ่งที่ดูไปแล้วน่าแตกตื่นตกใจอย่างถึงที่สุดก็คือ、ด้วยสรีระที่งดงามที่สุดในดินแดน、ถึงกระทั่งมีรูปโฉมที่งดงามทลายเมืองได้เลย ในเวลาเดียวกันก็ได้ปรากฏเค้าปีศาจสาวที่มีเสน่ห์ดึงดูดขึ้นมา แล้วก็ได้มีสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังบรรยากาศอันสูงส่งขึ้นบนใบหน้า ปรากฏขึ้นมาอย่างบริเวณเบื้องหน้าของเยี่ยจง

 

“นี้——” ต่อให้เป็นเยี่ยจงที่มีความสงบนิ่งเป็นอย่างยิ่ง ในเวลานี้ก็อดที่จะทึ่งขึ้นมาหลายส่วนมิได้ เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่ได้เปิดเผยโฉมของราชานกยูงน้อย จะถึงกับเกิดเรื่องอย่างฉากเบื้องหน้านี้ขึ้นมาได้

 

“เจ้า——” ในขณะนี้ ราชานกยูงน้อยก็ได้มีเสียงที่เปลี่ยนไป ประดุจดั่งเสียงนกร้องโหยหวนขึ้นก็มิปาน เรียกได้ว่าเมื่อได้ยินได้ฟังย่อมต้องหลงไหลอย่างแน่นอน แต่ว่าภายในนั้นกลับแฝงเอาไว้ด้วยความโกรธเกรี้ยวขึ้นมาเป็นสาย

 

“ที่แท้ก็เป็นสตรีผู้หนึ่งจริง ” เยี่ยจงเชยคางของราชานกยูงน้อยขึ้นมา มองซ้ายทีขวาที เหมือนกับกำลังเล่นสนุกอยู่ “แต่เดิมก็เป็นมนุษย์ด้วยนิ ใยต้องกลายมาเป็นปีศาจกันเล่า?”

.

.

.

.

กลุ่ม / 100บาทครับ

กลุ่มละ 80ตอน
โปรโมชั่น กลุ่ม 6-13 ราคา 600
VIP5 https://goo.gl/ekcF7V
VIP6 https://goo.gl/4rqw89
VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA
VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x
VIP9 https://goo.gl/1jPZtn
VIP10 https://goo.gl/L8awva
VIP11 https://goo.gl/rojEiG
VIP12 https://bit.ly/2lRgnUn
VIP13 https://bit.ly/2mkmj8y
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
INBOX m.me/ZuiQiangWuShen
#####Fanpage#####
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset