เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 525 เสี่ยงรับอันตรายในช่วงแรก เพื่อแย่งชิงวาสนาแห่งดินแดน

ตอนที่ 525 เสี่ยงรับอันตรายในช่วงแรก เพื่อแย่งชิงวาสนาแห่งดินแดน

 

 

 

 

“ทว่ากล่าวไปถึงสิ่งที่อยู่ข้างหน้า สุสานชั้นที่สองนั้นได้ถูกเปิดขึ้นมาด้วยสภาวะสังหารแล้ว เมื่อเข้าไปแล้วยากที่จะออกมา หากว่าเข้าไปแล้ว ไม่ระวังแม้แต่น้อย ก็คงจะต้องตายตกไปในทันที อีกทั้งยังตายอย่างไร้ซึ่งศพที่สมบูรณ์ ”

 

“แต่ สมบัติแห่งแดนซีฮวงแห่งโลงศพเก้าสวรรค์ อย่างน้อยก็จะต้องอยู่ในสุสานชั้นที่สองแห่งนี้——ท่ามกลางเมืองมาร ใจกลางโลงศพเก้าสวรรค์จะต้องฝังเอาไว้ด้วยความลับสู่ความสำเร็จเป็นเซียนอย่างแน่นอนแล้ว ”

 

“หากว่านอกเสียจากว่ามียอดฝีมือของสำนักใหญ่อย่างพวกข้าคิดที่จะเข้าไป พวกข้าก็คงจะไม่ขัดขวาง แต่ว่าก็ไม่ช่วยเหลือเช่นกัน ทั้งหมดนั้นคงต้องดูแลตนเองกันแล้ว ”

 

ระหว่างนั้นก็ได้มีเสียงระเบิดดังตูมตูมดังขึ้นมา เป็นเหมือนกับสัญญาณที่ชนชั้นราชันพลังเทวะขั้นที่ห้าเก้าสิบกว่าคนแจ้งออกมาก่อนหน้านี้

 

ทั่วทั้งทางด้านข้างของดินแดนเสี่ยวหนานก็ได้เกิดความเคลื่อนไหวขึ้นมาขณะนี้ ชนชั้นมหาราชันถึงกลับปล่อยข่าวสารเช่นนี้ออกไป เช่นนั้นก็เป็นที่บอกได้ว่า มีการคงอยู่ของเมืองมารอยู่ตรง ในข้อนี้หากมองจากผู้คนหมู่มากแล้ว ต่างก็ถือได้ว่าเป็นวาสนาครั้งใหญ่ แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ ผู้คนมากมายต่างก็ยังคงในอาการครุ่นคิด เพราะว่าแม้แต่ ชนชั้นราชันพลังเทวะขั้นที่ห้าหลังจากที่เข้าไปก็เหมือนกับถูกเด็ดปีก หากคนอื่นๆ ที่เข้าไปภายใน อย่างน้อยก็คงจะต้องมอดไหม้จนไม่เหลือแม้แต่ซาก

 

“โลงศพเก้าสวรรค์ของสมบัติแห่งแดนซีฮวง หากว่าสามารถที่จะครอบครองได้ ก็เหมือนกับก้าวขึ้นสู่สวรรค์อีกก้าวหนึ่งแล้ว แต่ว่าก็ยากจนเกินไป แม้แต่ชนชั้นมหาราชันต่างก็ยังถึงกับไม่อาจที่จะยืนยันความปลอดภัยที่อยู่ภายในได้ ไม่แน่ว่าภายในนั้นอาจจะต้องเกิดสภาวะสังหารขึ้นมาอย่างแน่นอน การที่จะเข้าไปก็มีแต่ตายกับตาย!”

 

“จะกล่าวเช่นนี้ก็ไม่ถูก นับแต่โบราณกาลมา มีสถานที่ใดกันที่เก็บเอาไว้สมบัติแห่งแดนที่ไม่มีอันตรายแม้แต่น้อยกัน ข้ากลับรู้สึกได้ว่า สุสานชั้นที่สองนี้จะต้องถูกผนึกเอาไว้ไม่ทราบกี่หมื่นปีมาแล้ว ชัดเจนอีกหน่อยก็ถือได้ว่าปกคลุมอยู่อย่างสมบูรณ์แบบ อย่างน้อย็คงจะไม่ปรากฏขึ้นมาอย่างง่ายดายแน่ ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ ชนชั้นราชันพลังเทวะขั้นที่ห้าทั้งสิบกว่าคนนั้นคงจะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับมาหรอกกระมั่ง และอาจจะต้องตายตกอยู่ภายในแล้ว! พวกข้าหากว่าเข้าไปด้วยความระมัดระวังซักหน่อย ตรวจสอบอย่างละเอียดสักรอบแล้วละก็ ไม่แน่ว่ายังจะพบกับวาสนาได้อีก ”

 

“ไม่เลว ก็เป็นเหมือนดั่งสุสานชั้นที่หนึ่งก็มิปาน ที่ผู้คนมากมายได้รับประโยชน์ไปอย่างงั้นหรือ? ท่ามกลางพวกเรามีคนมากถึงเพียงนี้ ต่อให้ใช้ออกคนละหนึ่งฝ่ามือ ก็ย่อมสามารถที่จะฉีกกระชากสุสานชั้นที่สองนี้เป็นชิ้นๆ ได้แล้ว!”

 

ท่ามกลางหมู่ผู้คน ก็ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะกล่าวถึงอันตรายที่เกี่ยวกับสุสานชั้นที่สองไปแล้ว อีกทั้งยังบอกกล่าวออกมาให้ทราบแต่แรก แต่ว่าคนมากมายขณะนี้กลับอดกลั้นไม่มองในข้อนี้

 

ท่ามกลางอากาศ บุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์ของแดนลับแลที่ยิ่งใหญ่แต่ละแห่งก็ได้มีสีหน้าสงบขึ้นมาอย่างถึงที่สุด พวกเขาเลือกที่จะคัดเลือกยอดฝีมือไว้ติดตามอยู่ข้างกายอย่างเงียบเชียบ กลับมิได้ฆ่าสังหารเข้าไปท่ามกลางสุสานชั้นที่สองเป็นคนแรก เพียงแต่สงบจิตใจรอคอยเอาไว้

 

เห็นได้ชัด บุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์กลุ่มนี้ต่างก็เข้าใจกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะอย่างไร กลุ่มแรกที่ได้เข้าไปภายในย่อมไม่ปลอดภัยอย่างถึงที่สุด ด้วยความรู้ของพวกเขาที่พบพานคลื่นลมมามากมาย ย่อมไม่เข้าไปภายในอย่างง่ายดายแน่นอน

 

หลังจากนั้นสักพัก เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวก็ได้สลายหายไป กลุ่มผู้คนบริเวณท่ามกลางสนามหึกเฮิมขึ้นมา ในที่สุดก็มีคนอดทนไว้ไม่อยู่ ฆ่าสังหารออกไปเป็นกลุ่มแรก ส่วนคนอื่นๆ ที่อยู่บริเวณทางด้านหลัง วินาทีนั้นก็ได้มียอดฝีมือฆ่าสังหารเข้าไปเกือบพันคน มุ่งหน้าเข้าไปยังปากทางเข้าของตำหนักใต้ดินเข้าไป

 

ระหว่างที่พวกเขาได้เข้าไป ก็พบเห็นว่าได้มีพลังมารพุ่งออกมาจากใจกลางของตำหนักใต้ดิน ปกคลุมไปด้วยประกายโลหิตทั่วสี่ด้าน ราวกับเป็นการแจ้งเตือนถึงอะไรบางอย่างก็มิปาน

 

“ชนชั้นมหาราชันกลุ่มนี้ คิดที่จะให้คนเหล่านี้เป็นเหมือนหมากตัวหนึ่งจริงอย่างงั้นหรือ!” เยี่ยจงหยักไหล่ไปมา ทอสีหน้าสงบอย่างมาก ภายในคนกลุ่มนี้อย่างน้อยก็คงจะผ่านการตัดสินใจของตนเองมาก่อนแล้ว ดังนั้นต่อให้ตายก็คงจะขอตายอย่างเปล่งประกาย เยี่ยจงเองก็คงไม่เกิดความเจ็บปวด

 

“ทว่านี้ยังเป็นแค่เพียงกลุ่มแรกเท่านั้น เมื่อมีคนกลุ่มแรกเข้าไปยังภายในของเมืองมาร ไม่นานนักก็คงจะต้องมีกลุ่มที่สองตามมา เมื่อมีชนชั้นมหาราชันได้เริ่มกล่าวออกมาว่ามีสมบัติแห่งแดนซีฮวงอย่างโลงศพเก้าสวรรค์ ทั้งหมดต่างก็มีการตัดสินใจกันแล้วละ ” น้ำเสียงของเสี่ยวหลุนเย็นเยียบเป็นอย่างยิ่ง “เสี่ยงรับอันตรายในช่วงแรก เพื่อแย่งชิงวาสนาแห่งดินแดน คำพูดนี้แม้แต่ชนชั้นมหาราชันต่างก็ไม่อาจที่จะไม่ใคร่ครวญมาก่อนได้ แล้วจะถึงคราวของยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวสู่ระดับราชันหรือชนชั้นราชันอีกอย่างงั้นหรือ?”

 

“บรึมมมมม——”

 

ในระหว่างที่เยี่ยจงและเสี่ยวหลุนกำลังสนทนากันอยู่ ทั่วทั้งสภาวะอากาศของดินแดนเสี่ยวหนานก็ได้ปกคลุมไปด้วยประกายโลหิต สถานที่แห่งนี้ทั้งหมดก็ได้แปรเปลี่ยนเต็มไปด้วยปีศาจประหลาด เห็นได้ชัดว่าเป็นที่น่ากลัวอย่างไม่ธรรมดา

 

ไม่นานนัก ก็ได้มีคนทะยานออกมาจากภายในใจกลางของตำหนักใต้ดิน เพียงแต่ว่าคนที่ทะยานออกมานั้นในมือกลับถือได้ว่าด้วยยาปราณที่มีอายุนับหมื่นปีอยู่มากมาย ขณะนี้ก็ได้หัวเราะฮาฮาออกมายกใหญ่

 

“ผัวะ——”

 

ในช่วงเวลาแรกก็ได้มีคนพุ่งออกมา ฟาดไปยังพื้นดินที่คนผู้นั้นยืนอยู่ คิดที่จะชิงยาปราณในมือของเขาเพื่อดูแล้วดูอีก

 

“พวกเจ้าแย่งชิงยาปราณของข้าทำไมกัน? ด้านในมีอยู่เป็นทางเลย หากว่าต้องการก็เข้าไปเอาเองสิฃ!” คนที่ออกมานั้นก็ได้มีโทสะขึ้นมา แย่งชิงยาปราณกลับไปแล้วก็หันกายหนีไป

 

“ยาปราณเป็นทางเลยหรือ?”

 

“สุสานชั้นที่สอง?”

 

“สมบัติแห่งแดนซีฮวงโลงศพเก้าสวรรค์!?”

 

เดิมทีแล้วผู้คนมากมายต่างก็ได้มีความอดกลั้นอยู่ภายในใจอยู่สายหนึ่ง พริบตานั้นเองก็ได้ขาดสะบั่น ในขณะนั้นเอง ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนต่างก็ประดุจดั่งสายธารถาโถมเข้าไปยังทางด้านขวาของตำหนักใต้ดินก็มิปาน นี้ถือได้ว่าเป็นโอกาสวาสนาที่สวรรค์มอบมาให้ อีกทั้งยังเป็นวาสนาระดับเซียน ย่อมไม่มีผู้คนผิดพลาดไปได้

 

และบรรยากาศที่ไหลเวียนออกมาจากทางด้านหลัง ตลอดทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านก็ได้มียอดฝีมือปรากฏตัวขึ้นมายิ่งมาก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัด ยังคงมียอดฝีมือจำนวนมากเอาแต่มองดูอยู่ แต่ว่าขณะนี้พวกเขาต่างก็ไม่อาจที่จะนั่งต่อไปได้ ลงมือออกไปมากมาย คิดที่จะแย่งชิงวาสนาไป

 

“แม้จะต้องตายก็ยังถือได้ว่าคุ้มค่าถึงเพียงนี้ ช่างเป็นเรื่องที่เล่นกับจิตใจผู้คนเสียเหลือเกิน ” เยี่ยจงมือไพล่หลัง ถอนหายใจออกมาด้วยความเย็นชา

 

ถ้าหากถูกผู้คนได้ยินเข้า คาดว่าคงจะต้องทำให้ผู้คนไม่น้อยกระอักหิตออกมาแน่ วาสนาที่อยู่ภายในสายตาของพวกเขานี้ แต่ว่าในสายตาของเยี่ยจงก็ไม่ต่างอันใดกับเข้าไปหาที่ตาย

 

“เจ้ากล่าวออกมาเช่นนี้ ไม่เกรงกลัวว่าอีกสักครู่จะมีผู้คนที่ไม่ยอมรับออกตัวเพื่อที่จะมาหาเรื่องเจ้าอย่างงั้นหรือ? ต่อให้ไม่มาหาเรื่องเจ้า ถ้าหากเปิดโฉมหน้าที่แท้จริงของเจ้า เกรงว่าเจ้าเองก็คงจะหนีไม่พ้นแล้วกระมั่ง?” แล้วก็ได้มีเสียงกระซิบดังเข้ามาอย่างแผ่วเบา ซือคงชิงฉีที่อยู่ท่าทีที่องอาจ ก็ได้ปรากฏขึ้นมาบริเวณทางด้านข้างของเยี่ยจง นางดูไปแล้วเหมือนกับมีอายุเพียงแค่สิบเจ็ดสิบแปดปีเท่านั้น มีเส้นผมสีดำลอยไปมา ขนตายาวที่กำลังสั่นไหวอยู่ ผิวพรรณดูขาวเนียนผุดผ่อง โครงหน้างดงามได้รูปประดุจตุ๊กตัวหนึ่งก็มิปาน ทำให้ผู้คนอดที่จะเหม่อมองจนแทบหยุดหายใจ ภายในใจก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกหวั่นไหวติดต่อกันขึ้นมาได้

 

“อ๋อ? หากกล่าวออกมาเช่นนี้ นางเซียนชิงฉีได้ตระเตรียที่จะจดจำใบหน้าของข้าแล้วอย่างงั้นหรือ?” เยี่ยจงก็ได้จดจ้องไปยังสายตาที่อยู่ทางด้านข้างของซือคงชิงฉี แต่ก็มิได้ใส่ใจอะไรมากมาย เขาเข้าใจได้เป็นอย่างดี หลังจากที่ไต๋ซือหวู่โหวกลับไปเมื่อวันก่อน ก็คงจะถ่ายทอดคำพูดต่อมหาราชันแห่งมวลมนุษย์ซือคงจาไปแล้วอย่างแน่นอน และซือคงชิงฉีก็พอที่จะสามารถทราบถึงโฉมหน้าที่แท้จริงของตนเองได้ ทั้งหมดนั้นก็ได้อยู่ในความคาดหมายอยู่แล้ว

 

“ข้าต้องที่จะให้เจ้าเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงในขณะนี้ เจ้าจะทำอย่างไรเล่า?” ซือคงชิงฉีก็ได้หัวเราะอย่างมีเสน่ห์ขึ้นมา ราวกับว่ามีความสนใจต่อคำถามนี้เป็นอย่างมาก

 

“ง่ายดายมาก แค่ทำให้เจ้ากลายเป็นผู้ร่วมคณะ คาดว่าเมื่อเวลานั้นมาถึง คงจะต้องมีคนระดับบุตรศักดิ์สิทธิ์มาเพื่อร้องขอไมตรีอย่างแน่นอนแล้ว ” เยี่ยจงกล่าวออกมาด้วยใบหน้ากึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้มขึ้นมา

 

“คนอย่างเจ้าผู้นี้ เจ้าไม่คิดที่จะเกิดความเป็นห่วงข้าขณะนี้ว่าปรากฏตัวขึ้นมาเพื่ออะไรอย่างงั้นหรือยังไงกัน?” ซือคงชิงฉีขมวดคิ้วดกดำเรียวงามขึ้นมา ทอใบหน้าแดงระเรือเล็กน้อยขึ้น

 

“เอาเถอะ ข้าก็ไม่อยากให้เจ้าลำบากใจ ถ้างั้นช่วยอธิบายเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในเมืองมารอย่างละเอียดให้หน่อยเถอะ แล้วก็อย่าได้ใช้วิธีชักจูงอย่างไต๋ซือหวู่โหวกับข้าด้วยละ ” เยี่ยจงส่ายหัวออกมาอย่างมิได้ตั้งใจ กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็น

 

“เจ้าทราบอยู่แล้วหรือว่าข้าจะกล่าวอะไร?” ซือคงชิงฉีมองไปเบื้องหน้าด้วยดวงตาทอเป็นประกาย

 

“คุณหนูใหญ่ มาหาข้าในเวลาเช่นนี้ นอกเสียจากว่าจะชักชวนให้ข้าเข้าไปยังภายในแล้ว เจ้ายังสามารถทำอันใดได้อีกกัน?” เยี่ยจงทอสีหน้าไม่ใส่ใจขึ้นมา

 

“เอาเถอะ ทว่านี้เพียงเป็นการคาดเดาของชนชั้นมหาราชันกลุ่มนั้น ข้าเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นจริงอย่างแน่นอนได้นะก ” ซือคงชิงฉีทอสีหน้าจริงจังขึ้นมา “หากเป็นไปตามคำพูดหลังจากการคาดเดาของชนชั้นมหาราชันแล้ว พื้นที่สุสานเซียนที่แท้จริงคงจะต้องอยู่ภายในสุสานชั้นที่สองนั้น หรือก็คือใจกลางเมืองมารนั้นเอง และเมืองมารนี้เอง เกรงว่าจะมิใช่เมืองมารอย่างแท้จริง เพราะว่ามีอยู่หลายครั้งครา ระหว่างเซียนและมารนั้นมีเส้นแบ่งกั้นบางๆ เท่านั้น เมืองมารแห่งนั้น คงจะมาจากคำพูดเท่านั้น ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นถ้ำหมู่บ้านแห่งเซียน ”

 

“แม้แต่เจ้าก็คิดที่จะกระตุ้นข้าไปด้วย ” เยี่ยจงส่ายหน้า คำพูดเช่นนี้ของซือคงชิงฉี กล่าวออกมาก็เหมือนมิได้กล่าวออกมา

 

“เด็กน้อยสิบกว่าคนก่อนหน้านี้ต่างก็ได้ยืนยันแล้วว่า ภายในนั้นจะต้องมีร่องรอยของหนึ่งในจักพรรดิฟ้าห้าทิศอย่างแน่นอน เรื่องราวเหมือนกับว่าอยู่เหนือความคาดหมายอยู่เล็กน้อย ” ซือคงชิงฉีหลังจากที่เกิดความลังเล ในที่สุดก็ได้แสดงสีหน้าท้อแท้ขึ้นมา

 

“ร่องรอยของหนึ่งในจักรพรรดิฟ้าห้าทิศ?” ในขณะนั้นเอง เยี่ยจงในที่สุดก็ได้ขยับขึ้นที่ใบหน้า ตำนานเล่าขานของจักรพรรดิฟ้าห้าทิศ ไม่ว่าจะเป็นคนใดก็ถือได้ว่าเป็นการคงอยู่ที่สูงสุดยากจะเอื้อมถึง ในส่วนนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องกล่าว เพียงแค่จักรพรรดิฟ้าตะวันออกเซ่าเฮ่าที่เหลือทิ้งอย่างคัมภีร์สายทางแห่งดวงตะวันเอาไว้ ก็ถือได้ว่าเป็นการดึงดูดสายตาของคนมากมายนับไม่ถ้วนได้แล้ว หากมิใช่เป็นเพราะเยี่ยจงได้รับคัมภีร์สายทางแห่งดวงตะวันเพียงส่วนเดียวแล้วละก็ ขณะนี้เขาก็คงจะค้นหาสถานที่เพื่อเร้นกายฝึกฝนไปแล้ว มีหรือที่จะมาปรากฏขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้

 

“ใช่แล้ว ข่าวสารนี้ถือได้ว่าได้รับการยืนยันแล้ว ข้าจะเข้าไปยังภายในวันพรุ่งนี้ เจ้าหากว่ามีความสนใจที่จะร่วมมือกันแล้วละก็ เมื่อเวลานั้นมาถึงก็ขอให้รีบมาหาข้า ข้าจะดูแลเจ้าให้ดีเอง ” ซือคงชิงฉียิ้มขึ้นมาน้อยๆ จากนั้นก็ได้หันกายจากไป

 

เมื่อได้มองดูเงาร่างของซือคงชิงฉีจากไปแล้ว เยี่ยจงค่อยส่ายหน้าออกมา กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา : “เสี่ยวหลุน คำพูดเมื่อครู่ของหนูน้อยนั้น มีกี่ส่วนที่เป็นจริงกัน ”

 

“อย่างน้อยก็เป็นจริงกว่าแปดส่วน หากว่าไม่มีข่าวลือที่แน่นอน แดนลับแลเหล่านี้ก็ย่อมไม่ส่งคนของพวกเขาเข้าไปภายในอย่างแน่นอน อีกทั้งข้ายังทราบดีว่า ได้มีชนชั้นมหาราชันอยู่หลายคนเข้าไปยังภายในหลายกลุ่มแล้ว อีกทั้งยังน่าจะยังมีชนชั้นมหาราชันหนึ่งในสิบเก้าคนเข้าไปแล้ว ” เสี่ยวหลุนกล่าวออกมา

 

“แม้แต่ชนชั้นมหาราชันก็เข้าไปแล้ว หรือว่าจะสามารถที่จะพบกับตำนานของหนึ่งในจักรพรรดิฟ้าห้าทิศจริงอย่างงั้นหรือ?” เยี่ยจงขมวดคิ้วขึ้นมา ครุ่นคิดอย่างละเอียด แต่ว่าในเวลานี้เขาเองก็มิได้รีบร้อน เพียงแต่เหม่อมองออกไปยังสถานที่ห่างไกลออกติดต่อกัน

 

แล้วก็ได้ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งวัน ในครั้งนี้ ท่ามกลางอากาศก็ได้มีบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์จากแดนลับแลต่างๆ แบ่งกลุ่มกันแล้ว แล้วก็ได้หลั่งไหลกันเข้าไปยังท่ามกลางของตำหนักใต้ดิน และท่ามกลางสนาม โดยส่วนมากแล้วก็ได้มียอดฝีมือเข้าไปภายในกว่าครึ่งแล้ว ชนชั้นมหาราชันทั้งสิบเก้าตนถึงแม้ว่าจะมีการปรากฏขึ้นมาท่ามกลางอากาศ แต่ว่าก็เพียงแต่จะพบเห็นกลุ่มประกายแสงเท่านั้น แต่กลับไม่พบเห็นร่างที่แท้จริง ผู้ใดก็ไม่อาจทราบได้ ว่าชนชั้นมหาราชันเหล่านี้ได้เข้าไปยังภายในหรือไม่

 

“บุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์จากแดนลับแลแต่ละฝ่ายต่างก็ได้เข้าไปแล้ว ดูเหมือนว่า ภายในเมืองมารจะมีสุสานเซียนอยู่จริงแล้ว หรือจะกล่าวได้ว่ามีร่องรอยของหนึ่งในจักรพรรดิฟ้าห้าทิศก็ว่าได้ ย่อมไม่แปลกปลอมอย่างแน่นอน ดูเหมือนว่า ข้าเองก็คงต้องเคลื่อนไหวแล้ว!” เยี่ยจงเมื่อได้ครุ่นคิดอยู่นาน ก็ได้ตัดสินใจลองเสี่ยงดูสักครา หากว่าสถานที่แห่งนี้มีการคงอยู่ของหนึ่งในจักรพรรดิฟ้าห้าทิศตามที่เล่าขานกันจริงแล้วละก็ เขาไม่ว่าจะอย่างไรก็ย่อมไม่อาจที่จะผิดพลาดไปได้อย่างแน่นอน

 

“ซวบ——”

 

ขณะที่กำลังกัดฟันไปมา ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้คลื่อนไหวขึ้น กลายเป็นประดุจประกายแสงมุ่งหน้าเข้าไปยังทางเข้าของตำหนักใต้ดิน

 

ขณะนี้ก็ได้มีเงาร่างของผู้คนได้ไปภายในของตำหนักใต้ดินเรื่อยๆ ดังนั้นจากข้อนี้เยี่ยจงจึงมิได้ตกกลายเป็นที่ดึงดูดของผู้อื่น

 

เมื่อได้เข้ามาจนถึงประตูใหญ่ของตำหนักใต้ดิน ก็พบกับบริเวณทางด้านของตำหนักสวรรค์เก้าชั้น มีเสามังกรขนาดใหญ่ลอยอยู่ท่ามกลางอากาศ ปรากฏในจุดที่ไม่แน่นอน กำลังสั่นไหวอยู่ตรงทางเข้า ขณะนี้ยอดฝีมือมากมายต่างก็ได้เข้าไปยังภายในกันแล้ว เห็นได้ชัด ด้านในย่อมต้องเป็นสุสานชั้นที่สองแล้ว

 

“ถ้ำหมู่บ้านแห่งเซียน หรือก็คือ เมืองมาร!”

 

“ในเวลานี้ถือได้ว่าอันตรายเป็นอย่างยิ่ง เพื่อที่จะแย่งชิงวาสนาแห่ง!”

 

เยี่ยจงหลังจากที่ได้จ้องมองไปที่เหล่าผู้คุ้มกันนั้น จากนั้นก็ได้ก้าวเท้าออกไปก้าวหนึ่ง ร่างกายก็ได้มุ่งหน้าออกไปบริเวณทางด้านหน้า แล้วก็ได้พุ่งเข้าไปท่ามกลางรอยแตกแยกในทันที

.

.

.

.

กลุ่ม / 100บาทครับ

กลุ่มละ 80ตอน
โปรโมชั่น กลุ่ม 6-13 ราคา 600
VIP5 https://goo.gl/ekcF7V
VIP6 https://goo.gl/4rqw89
VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA
VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x
VIP9 https://goo.gl/1jPZtn
VIP10 https://goo.gl/L8awva
VIP11 https://goo.gl/rojEiG
VIP12 https://bit.ly/2lRgnUn
VIP13 https://bit.ly/2mkmj8y
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
INBOX m.me/ZuiQiangWuShen
#####Fanpage#####
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset