เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 530 ธนูเทวะโห้วอี่

ตอนที่ 530 ธนูเทวะโห้วอี่

 

 

 

“ตายซะ! ต่อให้เจ้าเป็นสุดยอดรุ่นเยาว์เผ่ามนุษย์ ความภาคภูมิของเผ่ามนุษย์แล้วจะเป็นอย่างไรเล่า? เมื่ออยู่เบื้องหน้าธนูเทวะโห้วอี่ เจ้าก็จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”

 

“ในเวลานี้ยังไม่มีคนที่สามารถที่จะหลบหนีจากการไล่ล่าของธนูเทวะโห้วอี่ได้มาก่อน นอกเสียจากว่าเจ้าจะอยู่ในระดับมหาราชัน ต่อให้เจ้ามีขอบเขตในระดับชนชั้นราชันพลังเทวะขั้นที่ห้าแล้วจะอย่างไร? เมื่อใช้ในการสังหารเจ้า เจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน!”

 

ชนชั้นราชันกลุ่มนี้ก็ได้หัวเราะฮาฮาออกมาเสียงดัง บนใบหน้าก็ได้เผยความเย็นชาออกมา เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความเชื่อมั่นต่อธนูด้ามนี้อย่างเต็มเปี่ยม แล้วก็ได้แผลงศรนี้ออกไปในเวลาเดียวกัน พวกเขายังได้นำสมบัติเซียนของตนเองออกมา มุ่งหน้าทะยานสังหารออกไปทางด้านหน้าหมายที่จะทำการไล่ฆ่าสังหารเยี่ยจงลงไปในทันที

 

“เคร้ง——”

 

แล้วก็ได้มีเสียงดังกึกก้อง เยี่ยจงก็ได้ฟาดฟันออกไปด้วยสำนึกกระบี่ตัดความว่างเปล่าก็ได้ถูกทำลายลง ประกายศรนั้นประดุจลำแสงก็มิปาน เล็งเป้าไปยังบริเวณทางด้านที่เยี่ยจงอยู่ ไล่ล่าสังหารเข้ามาติดต่อกัน

 

เยี่ยจงก็ได้ขมวดคิ้วขึ้นมาน้อยๆ ขยับเท้าใช้วิชาดำดินรุกคืบออกมา ถอยหลังไปยังบริเวณทางด้านหลังไม่หยุด แต่ว่าไม่ว่าเขาจะถอยไปด้านหลังเช่นไร ประกายศรสายนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง ราวกับไม่ตายก็ไม่หยุดก็มิปาน

 

“ธนูเทวะโห้วอี่ แม้ว่าจะเป็นเพียงสิ่งของเลียนแบบที่มหาราชันศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าทลายดวงตะวันในอดีตใช้ทลายดวงตะวันทั้งเก้า แต่ว่ายังคงมีความแข็งแกร่งอย่างมาก สามารถที่จะแทงทะลุหมื่นสรรพสิ่ง ข้าเองก็ไม่เชื่อว่าเจ้าจะสามารถหลบเลี่ยงได้!” ชนชั้นราชันหลายคนที่ช่วยกันแผลงศรก็ได้หัวเราะอย่างเย็นชาติดต่อกัน บนใบหน้าก็ไม่อาจที่จะซ่อนเร้นจิตสังหารเอาไว้ได้

 

ทว่า ต่อให้หัวเราะเย็นชาติดต่อกัน คนเหล่านี้ต่างก็มิได้ได้ใจมากมาย เห็นได้ชัดว่าชื่อเสียงเรียงนามของเยี่ยจงนั้นถือได้ว่าเป็นประกาย ต่อให้จะอยู่ในช่วงเวลาใด พวกเขาก็ยังมิได้หยุดใช้สมบัติเซียนเลยแต่อย่างไร อีกทั้งยังผสานมือกันอย่างสอดคล้อง เพื่อทำการสังหารเยี่ยจง

 

“ซวบซวบซวบ——”

 

ร่างกายของเยี่ยจงเองก็ได้เลือนรางไม่ชัดเจนอย่างยิ่งขึ้นมา ในทุกครั้งที่มีการย่างเท้าในแต่ละครั้ง ร่างกายก็ได้พุ่งออกประดุจภาพมายาก็มิปาน บัดเดียวซ้ายบัดเดียวขวา มีความรวดเร็วประดุจภูตผีเทพยาดา ในทุกครั้งที่ได้ปรากฏขึ้นมาในแต่ละด้าน ต่างก็ถือได้ว่าเหนือความคาดหมาย เห็นได้ชัดว่า ในขณะนี้เอง วิชาดำดินรุกคืบก็ได้ถูกเยี่ยจงใช้ขึ้นมาจนถึงขีดสุดแล้ว

 

“วิชาแห่งเผ่ามนุษย์ วิชาดำดินรุกคืบ!”

 

มีชนชั้นราชันจดจำกระบวนท่านี้ขึ้นมาได้ ก็อดไม่ได้ที่จะกัดฟันดังกรอด เยี่ยจงผู้นี้ถือได้ว่ามีราคาค่างวดมากจนเกินไปแล้ว ต่อให้เขาใช้ออกมาด้วยวิชาให้วิชาหนึ่งก็ตาม ต่างก็มีกลิ่นอายของระดับที่มีความใกล้เคียงของเทวะขึ้นมา จนทำให้ผู้คนกล่าวอันใดไม่ออก ยากที่จะคาดคิดได้ เด็กน้อยผู้นี้ที่แท้ได้แย่งชิงโอกาสวาสนามามากมายแค่ไหนกัน จึงจะสามารถมาจนถึงขั้นนี้อย่างทุกวันนี้ได้

 

ด้วยการใช้ออกด้วยวิชาดำดินรุกคืบในระดับสูงสุด ไม่เพียงแต่แค่ประกายศรสายนี้ขณะนี้ยังไม่อาจที่จะทำอันตรายต่อเยี่ยจงแม้แต่ปลายขน แม้แต่สมบัติเซียนเหล่านั้นก็ได้ถูกทำให้ร่วงหล่นสู่ท่ามกลางด้านบนของพื้นที่ว่าง มิได้ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย

 

ชนชั้นราชันเหล่านี้ทั้งหมดก็ได้แตกตื่นตกใจ ทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมาอย่างถึงที่สุด แต่ว่าเยี่ยจงก็ได้ขมวดคิ้วไปมาขึ้นมา เพราะว่าถ้าหากมิใช่เป็นเพราะเขาใช้ออกด้วยวิชาแห่งเผ่ามนุษย์อย่างวิชาดำดินรุกคืบแล้วละก็ เกรงว่าคงต้องถูกไล่ต้อนไปได้ตั้งแต่แรกแล้ว และเช่นนี้เองก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้อยู่ดี เพราะว่าเขาจะช้าจะเร็วก็ต้องถูกไล่ตามมาได้ตั้งแต่แรกแล้ว

 

“เคร้ง——”

 

เยี่ยจงทันใดนั้นเองหยุดอยู่ท่ามกลางอากาศ เขาก็ได้หลับตาลง แล้วก็หวนนึกถึงสภาวะความเข้าใจอันลี้ลับชนิดหนึ่งขึ้นมาภายในหัว มรรคกระบี่เทวะก็ได้ถูกเขาแสดงขึ้นมาจนถึงระดับสูงสุด แต่ว่ายังคงมิได้แสดงพลังในสภาวะของพลังเทวะที่แท้จริงออกมาได้ และในขณะนี้เอง เขาก็ได้คิดขึ้นมาภายในจิตใจ กระบี่แสงจันทร์ใจกลางฝ่ามือก็ได้กวาดออกไปอีกครั้ง มุ่งหน้าเข้าทำลายประกายศรนั้นลง!

 

“หาที่ตาย!”

 

“ถึงกับกล้าที่จะปะทะกันซึ่งๆ หน้ากับธนูเทวะโห้วอี่ ช่างไม่รู้จักตายเลยจริงๆ !”

 

ชนชั้นราชันกลุ่มนี้ก็ได้พบเห็นว่าเยี่ยจงถึงกับมิได้หลบเลี่ยงอีก เพียงแต่หันกลับมาลงมือ แต่ละคนต่างก็อยู่ในอาการหัวเราะฮาฮาออกมาเสียงดัง ในสายตาของพวกเขา อย่าว่าแต่เยี่ยจงใช้ออกด้วยอาวุธศักดิ์สิทธิ์ครึ่งขั้นบรรลุ ต่อให้ใช้ออกมาด้วยอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุ ขณะนี้เองก็ย่อมไม่อาจที่จะต้านทานลูกศรนี้ได้

 

จากนั้น ไม่นานนัก บนใบหน้าของชนชั้นราชันกลุ่มนี้ก็ได้สลักไปด้วยรอยยิ้มขึ้นมา

 

“กร๊อบ——”

 

ระหว่างที่กระบี่นี้ของเยี่ยจงได้ทอดลง ก็ได้พบว่าประกายศรที่ไร้สภาพนั้นในครั้งนี้ได้สั่นไหวขึ้นเล็กน้อย แล้วก็ได้เลือนรางหายไปท่ามกลางอากาศ

 

ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ขยับเพียงเล็กน้อย แล้วก็ได้ถอยไปยังท่ามกลางอากาศติดต่อกันสามก้าว แต่ว่าเขาก็ราวกับมิได้รู้สึกอันใดก็มิปาน บ่นพึมพำอยู่กับตนเองแล้วกล่าว : “เป็นสมบัติเซียนที่ไม่เลวเลย อีกทั้งยังมีขีดจำกัดที่เข้าใกล้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุแล้ว หากมิใช่ว่าข้าใช้ออกมาด้วยมรรคกระบี่เทวะแล้วละก็ วันนี้ไม่แน่ว่าอาจจะต้องพ่ายแพ้ไปแล้ว ”

 

“นี้……เป็นไปได้อย่างไรกัน!?”

 

“เขาถึงกับสามารถทำลายธนูเทวะโห้วอี่ภายในกระบวนท่าเดียวงั้นหรือ? ควรทราบว่า ต่อให้เป็นชนชั้นราชันพลังเทวะขั้นที่ห้า ก็ใช่ว่าจะสามารถต้านทานการโจมตีนี้ได้มิใช่หรือ!?”

 

“อีกทั้ง เขาถึงกับไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย เด็กน้อยผู้นี้ เขาที่แท้มีพลังในการฝึกปรือถึงขั้นนี้ได้อย่างไรกัน!”

 

“มรรคกระบี่เทวะ? เมื่อครู่ผู้เยาว์นี้ถึงกับบอกว่าจะใช้ออกมาด้วยมรรคกระบี่เทวะงั้นหรือ!?”

 

ชนชั้นราชันเหล่านี้ต่างก็ตกตะลึงขึ้นมา จากนั้นร่างกายก็ได้แข็งทื่อขึ้นมา เรื่องที่เยี่ยจงสามารถที่จะต้านทานธนูเทวะโห้วอี่ได้ เดิมทีก็ถือได้ว่าเป็นบุคคลที่น่าตกใจอยู่แล้ว เพราะว่านี้ก็เป็นเหมือนกับการบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของ และยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงน่าหวาดกลัวก็คือ เขาถึงกับใช้พลังเทวะออกมาได้ด้วยตนเองงั้นหรือ?

 

ควรทราบว่า ต่อให้เป็นระดับมหาราชันที่แท้จริง ก็ใช่ว่าจะสามารถที่จะใช้ออกมาด้วยพลังเทวะได้ และเบื้องหน้าสายตาอย่างเจ้าหนูที่มีพลังในระดับครึ่งก้าวสู่ระดับราชันสูงสุดเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ถึงกับกล่าวออกมาว่าเขานั้นได้ใช้ออกมาด้วยพลังเทวะอย่างงั้นหรือ?

 

คำพูดนี้ประดุจสายฟ้าฟาดลงมาก็มิปาน จนทำให้ร่างกายของชนชั้นราชันกลุ่มนี้สั่นเทาไปทั่วทั้งร่าง

 

“จะต้องฆ่าเจ้าหนูผู้นี้ลงให้จงได้ หากว่าปล่อยให้เขาเติบใหญ่ขึ้นมาแล้วละก็ คงยากที่จะคาดคิดได้แล้ว!” แล้วก็ได้มีขบเคี้ยวเขี้ยวฟันจนดังกร๊อบขึ้นมา ขณะนี้ทอสีหน้าจนตรอกอย่างถึงขีดสุด

 

บริเวณทางด้านหลัง แม้แต่หานหวูยีและหานหวูเซียงต่างก็งุนงงขึ้นมาเล็กน้อย ทว่าพวกเขาทั้งสองก็มิได้กล่าวอันใดมากมาย เพียงแต่นั่งสมาธิลง เพื่อที่จะฟื้นคืนพลังกลับคืนมาให้เร็วขึ้น

 

ขณะนี้ทั้งสองคนต่างก็ถือได้ว่าได้สูญเสียพลังในการต่อสู้ไปแล้ว หากมิใช่ขณะนี้เยี่ยจงลงมือออกมาแล้วละก็ ต่อให้เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งตำหนักเยือกแข็งลี้ลับ อย่างน้อยก็คงจะต้องตายตกลงไปอย่างแน่นอนแล้ว

 

“จะต้องฆ่าเขาให้จงได้! บุตรศักดิ์สิทธิ์เยือกแข็งลี้ลับสังหารไม่ได้ก็ต้องไม่ต้องสังหาร เยี่ยจงผู้นี้หากว่าปล่อยให้เติบใหญ่ขึ้นมา ท่ามกลางสี่ดินแดน ผู้ใดจะสามารถรับมือได้อีกกัน!”

 

“สุดยอดรุ่นเยาว์เยี่ยจง ถือได้ว่ามีนามที่เลื่องลือไม่น้อย แต่ว่าจะต้องตายไปซะ!”

 

เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว ที่ชนชั้นราชันกลุ่มนี้ก็ได้มีปฏิกิริยากลับมาภายในพริบตา เข้าใจถึงความสำคัญของภารกิจขึ้นมา

 

“อย่าได้สนใจมากมายไป ทั้งหมดลงมือพร้อมกัน ทุ่มเทพลังสังหารเขาให้จงได้!” ชนชั้นราชันคนอื่นๆ ก็ได้ตะโกนออกมา ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็ได้ถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว ชนชั้นราชันกลุ่มนี้ก็ได้ลงมือพร้อมกัน รั้งดึงสายของธนูเทวะโห้วอี่ หมายจะแผลงศรเพื่อสังหารเยี่ยจงลง

 

“ถี่ถี่ถี่——”

 

ชนชั้นราชันเหล่านี้ขณะนี้ก็ได้เกิดความเจ็บปวดใจขึ้นมาจำใจ ต่อให้ก่อนหน้านี้เผชิญหน้ากับบุตรศักดิ์สิทธิ์เยือกแข็งลี้ลับ ในเวลาที่เผชิญหน้ากับพลังน้ำแข็งธารสมุทรร้อยสายของบุตรศักดิ์สิทธิ์เยือกแข็งลี้ลับ พวกเขาต่างก็ยังไม่มีความหวาดกลัวถึงเพียงนี้ เพราะว่าพวกเขาต่างก็ทราบกันดี การเป็นถึงบุตรศักดิ์สิทธิ์แน่นอนว่าย่อมต้องอยู่ในยอดฝีมือชนชั้นราชันอย่างแน่นอน มีพลังฝีมือไร้ขีดจำกัด ยากที่จะต่อกรได้

 

แต่ว่าเยี่ยจงเบื้องหน้าสายตาผู้นี้ ถูกเรียกขานว่าเผ่ามนุษย์ร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่、สุดยอดรุ่นเยาว์เผ่ามนุษย์ นับตั้งแต่ปรากฏตัวขึ้นมาจนถึงตอนนี้ก็ถือได้ว่าแสดงปาฏิหาริย์มามากจนเกินไป หนึ่งคนหนึ่งกระบี่เข้ากดดันพวกเขาเอาไว้

 

ควรทราบว่า นี้ยังพึ่งผ่านไปเพียงไม่กี่กระบวนท่าเท่านั้น?

 

ประกายศรสายหนึ่งก็ได้พุ่งเข้ามาประดุจดาวมรณะก็มิปาน เปล่งประกายแสบนัยน์ตา ลมปราณฟ้าดินขณะนี้ก็ประดุจดั่งเกิดความเคลื่อนไหวขึ้นมาก็มิปาน เข้าไปยังภายในกลางของธนูเทวะโห้วอี่อย่างบ้าคลั่ง

 

วินาทีนั้นเอง คมศรหลายสิบสายก็ได้พวยพุ่งออกไปในเวลาเดียวกัน พลังโจมตีเช่นนี้ถือได้ว่าน่าหวาดกลัวจนอยู่นอกเหนือสามัญสำนึกไปแล้ว

 

เยี่ยจงมิได้ถอยออกแม้เพียงครึ่งก้าว เท้าของเขาก็ได้ใช้ออกด้วยวิชาดำดินรุกคืบ ร่างกายก็ได้เข้าไปใกล้เพื่อกดดันยังบริเวณทางด้านหน้า ในเวลาเดียวกันกระบี่แสงจันทร์ใจกลางฝ่ามือก็ได้แผ่กระจายคมกระบี่แต่ละสายออกมา

 

“เคร้ง——”

 

“เคร้ง——”

 

ประดุจสายฟ้าที่ทอดลงมาจากสวรรค์ชั้นที่เก้า เหมือนดั่งกระบี่เซียนกำลังร่ำร้อง ในทุกครั้งที่ได้เข้าปะทะ ต่างก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับที่ไร้ขีดจำกัดอันน่าหวาดกลัว ความน่าหวาดกลัวแต่ละสายก็ได้ถูกกระตุ้นปกคลุมแผ่กระจายออกไปยังบริเวณทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน จนเหมือนกับสามารถที่จะทำลายขุนเขาลงไปได้เลย

 

“เด็กน้อยผู้นี้……เขาคิดที่จะใช้พลังเราเป็นหินลับมีดหรือไง เพื่อที่จะลับมรรคกระบี่ของตนเอง เขาจึงได้ใช้ออกมาด้วยมรรคกระบี่เทวะจริงๆ !” ชนชั้นราชันกลุ่มนี้ก็ได้ร่ำร้องขึ้นมา เกิดความเย็นเยียบขึ้นมาจำใจ ไม่มีคนที่คิดถึง ว่าภายในการโจมตีอันน่าหวาดกลัวเช่นนี้ เยี่ยจงไม่เพียงแต่จะไม่ถอย อีกทั้งยังลงมือออกมาด้วยพลังที่เข้มแข็งถึงเพียงนี้ ในเวลาเดียวกันก็คิดที่จะชนชั้นราชันกลุ่มนี้อย่างพวกเขามาเพื่อลับมรรคกระบี่ของตนเอง เรื่องราวเช่นนี้ ย่อมมิใช่เรื่องคนปกติธรรมดาจะสามารถที่จะกระทำออกมาได้?

 

เยี่ยจงมีพลังกายาทองไม่สูญสลาย、มีวิชาดำดินรุกคืบ、มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุ บวกกับสำนึกแห่งความเชื่อมั่นที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ ภายใต้การต่อสู้ของความเป็นอัจฉริยะในเชิงของมรรคะ ถือได้ว่าทำให้ผู้คนกลัวขึ้นมาได้

 

“เคร้ง——”

 

แล้วก็ได้กวาดออกไปอีกหนึ่งกระบี่ ในครั้งนี้ คมกระบี่สายนี้ของเยี่ยจงก็ได้ตั้งขึ้นในแนวของหน้าอก ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้มุ่งหน้าไป ประดุจดั่งมหาราชันแห่งมนุษย์กำลังท้าทายฟ้าดินอยู่ก็มิปาน แล้วก็ได้ฟาดฟันกระบี่ออกไปทางด้านหน้าอีกหนึ่งกระบี่

 

กระบี่นี้ ก็ได้มีพลังกลิ่นอายที่สูงล้ำอยู่ชนิดหนึ่งเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อยู่ภายใน แม้ว่ายังคงเป็นเพียงแค่การออกกระบี่ที่ปกติธรรมดา แต่ว่ากลับแตกต่างจากกระบี่ก่อนหน้านี้แทบจะหมดสิ้น ภายในกระบี่นี้ได้ทำให้ผู้คนมากมายสัมผัสได้ในระดับพลังที่สูงล้ำ มีพลังทำลายที่ไร้ขีดจำกัดอยู่ชนิดหนึ่ง เหมือนมันได้จ้องมองไปยังใต้หล้า เหมือนดั่งเผ่ามนุษย์โบราณสูงสุดปรากฏขึ้นสู่ดินแดน ปกครองสี่ดินแดนแต่เพียงผู้เดียว

 

ในขณะนี้เอง เยี่ยจงก็ได้ทลายมรรคกระบี่สายสุดท้ายเอาไว้ ท่ามกลางในการต่อสู้เช่นนี้ เขาถึงกับเข้าสู่แนวทางริเริ่มได้ จนสามารถที่จะสร้างมรรคกระบี่เทวะของตนเองขึ้นมา

 

“ตูม——”

 

กระบี่หนึ่งก็ได้แทงออกไป ท่ามกลางสภาวะชนิดนี้ที่เดิมทีแล้วได้รวมเอาไว้ด้วยบรรยากาศแห่งพลังเทวะเอาไว้อยู่ จนทำให้ชนชั้นราชันเหล่านี้สั่นเทาขึ้นมา ราวกับมีความคิดที่จะก้มตัวลงกราบไหว้ ราวกับว่าพวกเขานั้นได้เผชิญหน้าอยู่กับระดับมหาราชันที่แท้จริงอยู่ก็มิปาน

 

“ตึง——”

 

ในครั้งนี้ ธนูเทวะโห้วอี่ก็ได้ถูกฟาดลอยไปในทันที และที่ได้เข้าไปใกล้ยิ่งกว่า ชนชั้นราชันที่ได้อยู่ในระยะของกระบี่นี้ทั้งหมดเจ็ดแปดคนก็ได้กลายเป็นเพียงเศษเนื้อไปตั้งแต่ช่วงเวลาแรกแล้ว

 

“แนวทางริเริ่มงั้นหรือ!?” ในเวลานี้ บุตรศักดิ์สิทธิ์เยือกแข็งลี้ลับหานหวูยีเป็นครั้งแรกที่ได้ส่งเสียงดังขึ้นมาด้วยความแตกตื่น ต่อให้เขาที่มีลักษณะนิสัยเยือกเย็น ขณะนี้บนใบหน้าก็ได้ปรากฏความยากที่จะเชื่อขึ้นมาได้

 

แนวทางริเริ่ม! เพียงแค่ยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวสู่ระดับราชันสูงสุด ถึงกับสามารถที่จะใช้แนวทางริเริ่ม อีกทั้งยังเป็นพลังเทวะที่คิดค้นขึ้นด้วยตนเอง? เรื่องเช่นนี้หากถูกเปิดเผยออกไป แน่นอนว่าย่อมต้องทำให้เกิดการสั่นสะเทือนไปทั้งสี่ดินแดนแน่นอน จนทำให้ใต้หล้าเกิดการสั่นไหวขึ้นมาได้แล้ว!

 

เพราะว่า ด้วยวัยเพียงแค่นี้ก็สามารถที่จะใช้แนวทางริเริ่มได้ นี่มันที่แท้เป็นอะไรกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ไม่อาจที่จะทำความเข้าใจได้

 

“ไป——”

 

ชนชั้นราชันที่หลงเหลืออยู่อีกหลายคนต่างก็หน้าถอดสี ขณะนี้ก็ได้มีมีคนพุ่งกายออกไป ถอยไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางพวกเขาที่เป็นยอดฝีมือพลังเทวะขั้นที่สี่ แต่ว่าขณะนี้ก็ได้เกิดหวาดกลัวขึ้นมาตั้งแต่แรก แทบจะไม่อาจที่จะต่อสู้ได้แล้ว!

 

เยี่ยจงทอสีหน้าเมินเฉย กระบี่แสงจันทร์ในมือก็ได้ถูกกวาดออกไป คมกระบี่ก็ได้สาดสังหารเข้าไปยังบริเวณทางด้านหน้า กระบี่นี้มิได้มีความแปรเปลี่ยนใดๆ ไม่มีแม้แต่จิตสังหาร จะมีก็แต่เพียงรังสีกระบี่ที่รวมกันขึ้นมาอย่างรุนแรง

 

“ซูม——”

 

ต่อให้อยู่ในช่วงหลบหนี ชนชั้นราชันก่อนหน้าก็ได้กลายเป็นเพียงแค่หมอกโลหิตสายหนึ่ง ไม่หลงเหลือสิ่งใดเอาไว้

 

“ซูมซูม——”

 

บริเวณทางด้านหลัง ชนชั้นราชันทางด้านหลังเหล่านั้นต่างก็แตกตื่นจนกรีดร้องขึ้นมาในขณะนี้ แต่ว่านี้ก็ไม่อาจที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร ทั้งหมดไม่แม้แต่จะเคยคาดคิดมาก่อนด้วยซ้ำ ว่าเขานั้นจะต้องมาพบเจอกับกระบี่ที่น่าหวาดหวั่นเบื้องหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นราชันใดๆ ต่างก็ไม่มีวิธีที่จะต้านทานรับเอาไว้ได้ มีแต่เพียงต้องกระบวนท่า แล้วกลายเป็นเพียงหมอกโลหิตไป ไม่หลงเหลือแม้แต่ความคิดใดๆ !

 

มรรคกระบี่เทวะ ขณะนี้ด้วยการกระทำของเยี่ยจง เรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่ผู้คนไม่เคยคาดคิดกันมาก่อน ในขณะนี้เอง เยี่ยจงราวกับกลิ่นอายของเทพราชันเยาว์วัยชนิดหนึ่ง จนเป็นที่จับตามองของหมื่นสรรพสิ่ง

.

.

.

.

กลุ่ม / 100บาทครับ

กลุ่มละ 80ตอน
โปรโมชั่น กลุ่ม 6-13 ราคา 600
VIP5 https://goo.gl/ekcF7V
VIP6 https://goo.gl/4rqw89
VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA
VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x
VIP9 https://goo.gl/1jPZtn
VIP10 https://goo.gl/L8awva
VIP11 https://goo.gl/rojEiG
VIP12 https://bit.ly/2lRgnUn
VIP13 https://bit.ly/2mkmj8y
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
INBOX m.me/ZuiQiangWuShen
#####Fanpage#####
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset