เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 539 ความเคลื่อนไหวของพ้นพลังสวรรค์

ตอนที่ 539 ความเคลื่อนไหวของพ้นพลังสวรรค์

 

 

 

“ไม่มีเวลาที่จะมานั่งต่อปากต่อคำกับเจ้าแล้วหรอกนะ สังหารเจ้าไปเลยละกัน จะได้เป็นประจักษ์ให้แก่ข้าไปได้ในตัวเลย!” กงยี่จวินก็ได้ก้าวเท้าเดินอยู่ท่ามกลางอากาศ จากนั้นก็ได้ค่อยๆ ที่จะเดินเข้าไปหาเยี่ยจงในระยะทางที่ไม่ห่างมากนัก ภายในดวงตาก็ได้ทอประกายเย็นเยียบขึ้นมา จากนั้นเขาก็ได้หัวเราะขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาแล้วกล่าว : “เจ้าไปสู่ประตูนรกเสียเถอะ!”

 

“กร๊อบ——”

 

ระหว่างที่มีเสียงของเขาได้ทอดลง ก็คล้ายดั่งมีสายอัสนีบาตรฟาดลงมาปกคลุมนับหมื่นสาย ครู่เดียวก็ได้ปกคลุมอยู่ภายในพื้นที่ของทั้งสองคน

 

ในขณะนั้นเอง บริเวณโดยรอบก็ได้มีสายที่ของผู้คนมากมายจับจ้องจนเกิดอาการแตกตื่นขึ้นมา ทุกผู้คนต่างก็ได้ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว ทอใบหน้าปั้นยากขึ้นมาอย่างถึงที่สุด

 

พ้นพลังสวรรค์!

 

มนุษย์ในดินแดนต่างก็ทราบ กล่าวกันโดยส่วนมากแล้ว มีเพียงช่วงเวลาที่ได้เข้าสู่ระดับราชันเท่านั้นจึงจะสามารถที่จะเผชิญหน้ากับพ้นพลังสวรรค์ได้ แต่ว่าเป็นเหมือนกับการกลายเป็นบุคคลที่ได้กลายเป็นมารร้ายสูงสุดก็ว่าได้ นับตั้งแต่เริ่มเบิกทางสู่ระดับราชัน การเพิ่มระดับขั้นนั้นกลับต้องมาเผชิญหน้ากับพ้นพลังสวรรค์ในทุกครั้ง! และสิ่งที่เรียกกันว่าพ้นพลังสวรรค์นี้ บุคคลภายนอกย่อมไม่อาจสอดมือเข้ามายุ่งเกี่ยวได้ ไม่ว่าจะมีคนที่ไม่ระวังก้าวเข้ามายังพ้นพลังสวรรค์แล้วละก็ ก็เป็นเหมือนกับว่าตนเองได้ถูกดึงเข้าไปยังพ้นพลังสวรรค์แล้ว กล่าวกันตามปกติธรรมดา ย่อมไม่มีผู้คนยินยอมที่จะต้องมาเผชิญหน้ากับสิ่งเช่นนี้อย่างแน่นอน เพราะว่าสิ่งที่เรียกกันว่าพ้นพลังสวรรค์นั้น หากไม่มีการเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะเผชิญหน้าแล้วละก็ โดยส่วนมากแล้วก็มีแต่เพียงคำว่าตายเพียงคำเดียวเท่านั้น!

 

ผู้คนทั้งหมดต่างก็แตกตื่นตกใจขึ้นมา กงยี่จวินผู้นี้ก็ช่างร้ายกาจอย่างยิ่ง ใช้พลังขอบเขตเข้ากดดันผู้คนก็ยังว่าไปแล้ว นึกไม่ถึงหลังจากที่เก็บตัวไปแล้วก็ยังคิดที่จะกดดันให้ตายกันไปอีก ในขณะนั้นเองจึงค่อยได้ปะทุออกมา ดึงดูดการข้ามพ้นพลังสวรรค์ เห็นได้ชัด เขาคิดที่จะหยิบยืมพลังของพ้นพลังสวรรค์ใช้เพื่อจัดการให้เยี่ยจงตายลง

 

“พ้นพลังสวรรค์?”

 

ท่ามกลางทะเลอัสนี เยี่ยจงทอสีหน้าแปลกใจ เขาเดิมทีแล้วจำเป็นที่จะต้องข้ามพ้นพลังสวรรค์ จึงมีความคิดที่เป็นห่วงขึ้นมาแต่ก็นึกไม่ถึงว่ากงยี่จวินเองจะมาไม้นี้

 

“ที่แท้ พ้นพลังสวรรค์ยังมีวิธีใช้เช่นนี้อยู่อีก เป็นพลังฝีมือที่ไม่เลวเลย ” เยี่ยจงทันใดนั้นก็ได้ยกมือขึ้นบีบไปที่จมูก ทอสีหน้าแปลกใจขึ้นมา เขาเป็นครั้งแรกที่ประสบกับพ้นพลังสวรรค์ คิดไม่ถึงยังมีกระบวนท่าเช่นนี้ ขณะนี้เขาเองก็ได้แต่เฝ้ารอคอย สิ่งนี้ที่เรียกกันว่าพ้นพลังสวรรค์ ใช่ว่าจะสามารถกดขี่ตนเองให้ตายลงไปได้จริง

 

ภายในพริบตาเดียว พลังอัสนีสายฟ้าจำนวนมากก็ได้ทอดลง ประดุจดั่งเกิดอัสนีอสรพิษร่ายรำขึ้นมาอย่างวุ่นวายก็มิปาน

 

ในขณะนั้นเอง ประดุจดั่งมีอสนีบาตปกคลุมอยู่ตลอดทั่วทั้งผืนฟ้าก็มิปาน มุ่งหน้าเข้ากดดันลงไปยังบริเวณทางด้านล่าง

 

เพียงแค่เวลาเพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้น ภูเขาศิลาทั่วทั้งป่าศิลาก็ได้แหลกลาญจนกลายเป็นฝุ่นผง จนเกิดเสียงดังเสียดหูดังขึ้นมาในขณะนั้นเองมุ่งหน้าแผ่กระจายออกไปบริเวณทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน

 

ขณะนี้ บริเวณทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านก็ได้เต็มไปด้วยทะเลอัสนีนับไม่ถ้วน อสนีบาตนับไม่ถ้วนก็ได้ซัดโถมเข้ามา ทำให้ผู้คนเกิดอาการขนลุกชูชันขึ้นมา

 

“กงยี่จวินนึกไม่ถึงแม้แต่การลงมือเช่นนี้ก็ยังจะใช้ออกมาได้ เพียงแค่นี้ก็เป็นเครื่องบ่งบอกได้แล้วว่าเขานั้นเกิดความหวาดกลัวต่อไต๋ซือน้อยผู้นั้นเช่นไร แต่ว่าเพียงแค่นี้ก็เป็นเครื่องบ่งบอกได้แล้วว่าเขานั้นมีพลังฝีมือที่ไม่ธรรมดาอย่างถึงที่สุด!” ผู้คนมากมายที่มองดูอยู่โดยรอบต่างก็ถอนหายใจออกมา ระยะทางห่างไกลออกไป เกรงว่าตนเองจะโดนลูกหลงเข้าไปยังภายใน นั้นก็เพราะว่าด้วยความสามารถของพวกเขา กลับสภาวะที่น่าหวาดกลัวขนเกินไปเช่นนี้ ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่คิดที่จะโดนลูกหลงเข้าไปอย่างแน่นอน

 

“ตูมตูมตูม——”

 

อัสนีมังกรคำรนแต่ละสายก็ได้ปกคลุมอยู่ตลอดทั่วทั้งผืนฟ้า จนกระทบไปยังบนร่างกายของกงยี่จวิน แต่ว่าเขาก็ยังคงยืนกอดอกอยู่อย่างสงบ เห็นได้ชัดมีความคุ้นเคยกับสภาพเช่นนี้แล้ว กลับมิได้เกิดความหวาดกลัวมากมายนัก เพียงแต่พลิกมือกลับเพื่อทำลายสายอสนีบาต

 

“กร๊อบ——”

 

และในเวลาเดียวกัน มังกรอัสนีทั้งเก้าสายก็ได้เข้าผสานกันออกมา มุ่งหน้าหมุนวนเข้าไปยังทางด้านของเยี่ยจงเข้าไป เห็นได้ชัด ทะเลอัสนีนับหมื่นสายเมื่อครู่ทว่าเพียงแค่ยังเริ่มต้นขึ้นมาเท่านั้น เช่นนี้จึงถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอาหารจานหลักเลยก็ว่าได้

 

เยี่ยจงขมวดคิ้วไปมา เขาเป็นครั้งแรกที่ได้เผชิญหน้ากับพ้นพลังสวรรค์ อีกทั้งยังไม่มีประสบการณ์อันใด ต่อมาเขาก็ได้ใช้ออกด้วยวิชาดำดินรุกคืบ ร่างกายในบริเวณท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ก็ได้ไหลเวียนไม่หยุดนิ่ง จนทำให้มังกรอัสนีทั้งเก้าสายนี้ไม่อาจที่จะปกคลุมไปที่บนร่างของเขาได้

 

“ซวบ——”

 

แต่ว่าไม่นานนัก ทะเลอัสนีบริเวณทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านก็ได้ถูกดึงดูดจนเคลื่อนไหว มังกรอัสนีทั้งเก้าสายในขณะนี้ประดุจดั่งกรงขังก็มิปาน จนผนึกเยี่ยจงเอาไว้อยู่ภายในใจกลาง จากนั้นก็ได้บีบรัดเข้าหากัน หมายจะสังหารเขาลงในที่แห่งนี้

 

“เจ้าจมูกโค ไม่มีประโยชน์หรอก นอกเสียจากว่าจะมีพลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า ภายในดินแดนก็ไม่มีคนที่สามารถรอดพ้นจากพ้นพลังสวรรค์ไปได้แล้ว ” กงยี่จวินเอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นเยียบ ราวกับว่ากำลังกล่าวที่มีความเป็นไปได้ที่แน่นอนออกมาก็มิปาน

 

หลังจากที่เงียบงัน ผู้คนทั้งหมดต่างก็ขนลุกชูชัน กงยี่จวินผู้นี้ก็ลงมือได้อำมหิตเกินไปแล้วจริงๆ เห็นได้ชัดว่าได้ใช้เพื่อต่อกรกับธนูเทวะโห้วอี่ของเยี่ยจงที่ก่อนหน้านี้ใช้ไว้ไล่ล่าเขา เห็นได้ชัด เขาคิดที่จะให้เยี่ยจงได้ลองทดสอบดู ว่าการที่ถูกผู้คนไล่ล่าจนไม่อาจมีหนทางหนีรอดไปได้แล้วนั้นที่แท้มีรสชาติเช่นไรกัน

 

“ตูม——”

 

กรงอสนีบาตก็ได้ปิดตัวลง ในขณะนี้ก็ได้ปกคลุมอยู่ตลอดทั่วทั่งร่างของเยี่ยจงจนกักอยู่ภายในบริเวณใจกลาง ประดุจดั่งเป็นเหมือนกับว่าได้มีประกายสายฟ้ากวาดเข้ามาดุจแส้ก็มิปาน และในเวลาเดียวกันนี้ ก็ยังคงมีอัสนีบาตรนับไม่ถ้วนมุ่งหน้าเคลื่อนไหวไปยังอีกทางด้านหนึ่ง เห็นได้ชัด ไม่เพียงแต่คิดที่จะทำให้เยี่ยจงกลายเป็นฝุ่นผงเท่านั้น อสนีบาตเหล่านี้ยังไม่คิดที่จะหลงเหลือร่างกายเอาไว้ด้วย

 

กงยี่จวินยังคงยืนอยู่กับที่ไม่เคลื่อนไหว ระหว่างนั้นก็ได้พลิกฝ่ามือใช้ออกมาด้วยอสนีบาตที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งอีกหลายสายออกมา จากนั้นก็ได้รวมอสนีบาตสายอื่นๆ ฟาดลงไปยังร่างของเขา แต่ก็ยังทำได้เพียงแค่เหมือนกับทำให้เขารู้สึกเพียงแค่คันขึ้นมาก็มิปาน เขาเดิมทีก็มิได้มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย เห็นได้ชัด เขานั้นมีความคุ้นเคยต่อสิ่งเหล่านี้แทบจะทั้งสิ้น ขณะนี้เขาก็ได้คิดที่ดูว่า เยี่ยจงจะถูกฆ่าสังหารเช่นนี้ไปได้หรือไม่

 

ยอดฝีมือทั้งหมดที่มองอยู่โดยรอบต่างก็เกิดอาการขนลุกขนพองขึ้น ผู้คนไม่น้อยต่างก็เข้าใจเป็นอย่างดี หากว่าตนเองตกเข้าไปอยู่ภายใต้สภาวะเช่นนี้ เกรงว่าแม้แต่พ้นพลังสวรรค์ในรอบแรกก็ยังไม่อาจที่จะทนทานได้ไหว

 

นี้ถือได้ว่าเป็นมารร้ายได้อย่างแท้จริง、เป็นพรสวรรค์ที่แท้จริงจึงจะสามารถที่จะกระทำเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้ พ้นพลังสวรรค์นั้นก็เหมือนกับบทลงโทษของพวกเขา แล้วก็เป็นเหมือนกับบททดสอบของพวกเขา และพ้นพลังสวรรค์ในทุกครั้งหากว่าสามารถผ่านพ้นไปได้อย่างปลอดภัย ก็จะทำให้พวกเขามีความสามารถที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งมีสภาวะไร้ผู้ต้านในระดับเดียวกัน! ดังนั้น พ้นพลังสวรรค์นี้ก็เป็นเหมือนเครื่องบ่งบอกของคนผู้หนึ่งว่ามีพลังมารร้ายที่แข็งแกร่งได้ถึงเพียงไหนกัน

 

แต่ว่า การฝึกปรือเช่นนี้ มิใช่ว่าทุกผู้คนจะสามารถที่จะเผชิญหน้าได้ คนมากมายเมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับพ้นพลังสวรรค์ เพียงแค่ชั่วครู่เดียวก็อาจที่จะถูกมอดไหม้ไปจนถึงพลังเทวะได้ และขณะนี้คนมากมายต่างก็จดจ่อเอาไว้ เยี่ยจงจะสามารถที่จะเป็นหนึ่งในคนเช่นนั้นหรือไม่

 

“ตูม——”

 

ทันใดนั้น กรงขังจากท่ามกลางทะเลอัสนีก็ได้เกิดเสียงดังขึ้นมา วินาทีนั้นก็ได้พบเห็นกับพลังในการทำลายของอสนีบาตนับไม่ถ้วน เยี่ยจงก็ได้ปรากฏร่างขึ้นมา จากนั้นก็ได้ก้าวออกไปอย่างช้าๆ แม้ว่าขณะนี้ร่างกายของเขาจะมีอยู่หลายส่วนที่ถูกเผาไหม้ไป แต่ว่าอสนีบาตเหล่านี้กลับมิได้สามารถทำร้ายเขาได้แต่อย่างไร ขณะนี้เขาเพียงยืนกอดอกอยู่กับที่ แล้วก็ได้เกิดพลังอันน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุดแผ่กระจายออกมาจากภายในร่างกายออกมา

 

“ไต๋ซือน้อยผู้นี้ถึงกับน่ากลัวยิ่ง ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้เหมือนจะเคยได้ยินมาว่า เขานั้นเป็นเหมือนกับสุดยอดรุ่นเยาว์แห่งเผ่ามนุษย์เยี่ยจงผู้นั้นก็มิปาน นึกไม่ถึงจะถึงกับสามารถที่จะฝึกปรือจนถึงขั้นพลังกายาทองไม่สูญสลายได้ เพียงแค่นี้ก็เป็นเครื่องบ่งบอกได้ถึงความแข็งแกร่งของเขาได้แล้ว!”

 

“กล่าวกันว่า ในระดับพ้นพลังสวรรค์นั้นถือได้ว่ามีความสำคัญต่อความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อเป็นอย่างยิ่งงั้นหรือ? หากว่าเขาสามารถที่จะเข้าสู่ระดับพลังกายาทองไม่สูญสลายได้จริงแล้วละก็ พ้นพลังสวรรค์เหล่านี้อย่างน้อยก็คงจะไม่อาจที่จะทำอันใดต่อเขาได้!”

 

“แต่ว่าก็ใช่ว่าจะกล่าวเช่นนี้ได้ ด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยคนที่มีพรสวรรค์ในด้านมารร้ายที่สามารถสร้างความเคลื่อนไหวในการดึงดูดพ้นพลังสวรรค์ได้ ก็จะยิ่งทวีความแข็งแกร่งได้มากยิ่งขึ้น หากว่าไต๋ซือน้อยผู้นี้มีพลังกายาทองไม่สูญสลายอยู่จริงแล้วละก็ พวกเขาต่อจากนี้หากต้องมาเผชิญกับพ้นพลังสวรรค์ เกรงว่าจะมีความแข็งแกร่งที่มากยิ่งกว่าเดิมก็ว่าได้ ”

 

คนมากมายต่างก็กำลังถกเถียงกัน เห็นได้ชัด ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ยังสามารถที่จะหลบรอดจากอสนีบาตได้โดยที่ร่างกายยังอยู่ครบถ้วน นี้เดิมทีแล้วก็เป็นเครื่องบ่งบอกได้ถึงความแข็งแกร่งที่สามารถเย้ยฟ้าของเขาได้แล้ว ไม่แปลกใจเลยที่ก่อนหน้านี้ถึงกับสามารถที่จะไล่ล่ากงยี่จวินจนไร้หนทางหลบหนีไปได้ เพียงแต่ว่า ขณะนี้พ้นพลังสวรรค์นั้นถือได้ว่าเกิดผลลัพธ์ที่ห่างไกลออกมา เขาในท้ายที่สุดแล้วจะสามารถที่จะหลบรอดจากความคายเช่นนี้ได้สำเร็จหรือไม่นั้น ยังถือได้ว่าบอกได้ยากอย่างยิ่ง

 

ท่ามกลางอัสนีท่ามกลางผืนฟ้า เยี่ยจงก็ยังคงยืนกอดอกอยู่กับที่ เมื่อได้ผ่านพ้นประสบการณ์เมื่อครู่นี้แล้ว เขาเองก็ได้เข้าใจขึ้นมาเป็นอย่างดี ด้วยความแข็งแกร่งของร่างกายตนเอง หากเป็นอสนีบาตปกติธรรมดาก็ย่อมไม่อาจที่จะทำอันใดต่อเขาได้แม้แต่น้อย ขณะนี้ขาก็ได้ทอสีหน้าเมินเฉยจดจ้องเข้าไปที่กงยี่จวิน แล้วก็ได้สาดดวงตาเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย

 

ขณะนี้หากว่าเขายินยอมแล้วละก็ ขอเพียงถอดอาภรยุทธ์ก่อฟ้าห้าธาตุออก ระหว่างนั้นก็จะสามารถที่จะดึงดูดสภาวะของพ้นพลังสวรรค์เข้าสู่ร่างได้ ขณะนี้เยี่ยจงเกิดการคาดหวังรอคอยอยู่หลายส่วน หากว่าทั้งสองคนสามารถที่จะเพิ่มพูนพ้นพลังสวรรค์แล้วละก็ จนสามารถที่จะนำตนเองทะลวงเข้าสู่ระดับพลังเทวะขั้นที่หนึ่งได้ในขณะนี้ จะมีความน่าหวาดกลัวมากถึงเพียงใดกัน? ควรทราบว่า พ้นพลังสวรรค์แม้ว่าจะน่ากลัว แต่ว่าก็ถือว่าเป็นวาสนา หากว่าตนเองสามารถที่จะเพิ่มพูนพ้นพลังสวรรค์เพิ่มอีกเท่าตัวเพื่อใช้ในการฝึกปรือแล้วละก็ อย่างน้อยขอบเขตระดับราชันพลังเทวะขั้นที่หนึ่งก็ย่อมเพียงพอที่จะสามารถที่จะเกิดขึ้นมาในระดับที่ยากจะคาดคิดขึ้นมาได้

 

“ชิ——”

 

กงยี่จวินเองก็ได้ส่งเสียงดังอย่างเย็นชาขึ้นมา เกิดความหวั่นไหวขึ้นมาภายในจิตใจ ระหว่างนั้นเองก็คล้ายกับว่าได้เกิดนิมิตรที่ไม่เหมือนเดิมขึ้นมา จากที่เขาดู พลังขั้นที่หนึ่งของพ้นพลังสวรรค์เยี่ยจงสมควรที่จะไม่อาจที่จะต้านทานเอาไว้ได้ แต่ว่าขณะนี้เยี่ยจงกลับยังคงทอสีหน้าเหมือนกับไม่มีเรื่องราวใดขึ้นก็มิปาน จนทำให้เขาเกิดความไม่สบายใจขึ้น ขณะนี้เขาก็ได้เดินเหินอยู่ท่ามกลางอากาศ ในเวลาเดียวกันก็ได้ชักนำพ้นพลังสวรรค์หมายที่จะทำลายเยี่ยจงจนมอดไหม้ไป

 

“บรึมบรึมบรึม——”

 

ในขณะนั้นเอง สรรพสิ่งทั่วทั้งฟ้าดินที่สามารถพบเห็นได้ ในระหว่างที่ทั้งสองคนได้เข้าใกล้กัน พ้นพลังสวรรค์ก็ได้เปลี่ยนจนกลายเป็นความโหดร้ายขึ้นมา เพราะว่า พ้นพลังสวรรค์นี้เดิมทีแล้วได้มุ่งหน้ามาจากทางด้านของกงยี่จวิน จึงย่อมต้องอยู่ทางด้านข้างของเขา จนทำให้ความสามารถที่จะสัมผัสได้ถึงความน่าหวาดกลัวของการลงทัณฑ์สวรรค์ที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิมขึ้นมาได้

 

“บรึมบรึมบรึม——”

 

ในขณะนี้ ประดุจดั่งเกิดกองทัพรถศึกนับหมื่นได้ทะยานขึ้นถึงฟากฟ้าก็มิปาน ทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านก็ได้เกิดการสั่นไหวขึ้นมาของพื้นดินขึ้นมาในขณะนี้ หุบเขามากมายต่างก็ถูกทำลายลง ผืนดินอันกว้างใหญ่ก็ได้ปรากฏรอยแตกร้าวขึ้นมาเป็นสายสาย ปราณสายธารบริเวณทางด้านล่างก็ได้ถูกสูบจนเหือดแห้ง เปลี่ยนจนกลายเป็นเพียงแค่พื้นที่แห้งแล้งผืนหนึ่ง

 

บริเวณที่ห่างไกล ยอดฝีมือเหล่านั้นก็ได้ถอยแล้วถอยไปอีก ทุกๆ คนต่างก็หลั่งเหงื่อเย็นเยียบขึ้นมาเต็มศีรษะ ฉากนี้ถือได้ว่ามีความน่าหวาดกลัวจนเกินไป!

 

“มนุษย์มารผู้นี้ก็ช่างน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว นึกไม่ถึงเขาจะถึงกับคิดวิธีเช่นนี้ขึ้นมาได้ เรียกได้ว่าเป็นการกวาดล้างก็ยังได้เลย พี่ใหญ่เยี่ยจงคงไม่เป็นไรหรอกนะ?” หลิงเฟ่ยก็ได้ปาดเช็ดไปที่เหงื่ออันเย็นเยียบ ตลอดทั่วทั้งใบหน้าก็ได้เกิดความเป็นห่วงขึ้นมาแล้วกล่าว

 

“ตอนนี้คงได้แต่เพียงปรารถนาให้เขาไม่เป็นไรแล้วละ เดิมทีแล้วเขาเองก็อยู่ในช่วงเวลาของการทะลวงพลัง ขณะนี้กงยี่จวินนึกไม่ถึงกลับหยิบยืมพ้นพลังสวรรค์เข้ามา ผู้ใดก็ไม่อาจที่จะทราบได้ว่าสถานการณ์ในภายหลังจะเป็นเช่นไรได้ ” จงหลี่เองก็ได้ยืมขึ้นมาอย่างขมขื่น ขณะนี้ก็อยู่สภาพที่หดหู่ขึ้นมาอย่างถึงที่สุด

 

ส่วนยอดฝีมือคนอื่นๆ นั้นต่างก็อยู่ในอาการแตกตื่นตกใจ เพราะว่ามาจนถึงขั้นนี้ พวกเขาก็ยังไม่อาจที่จะทำความเข้าใจว่าแท้จริงแล้วภายในท่ามกลางพ้นพลังสวรรค์นั้นเกิดอะไรกันขึ้น ตามที่พวกเขาทั้งหมดทราบกับก็มีเพียงแค่ข้อเดียวเท่านั้น นั้นก็คือทั้งสองคนต่างก็สมควรที่จะยังไม่ตายตกไป แต่ว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรกันขึ้นนั้น กลับไม่มีผู้ใดสามารถที่จะทราบได้

 

“ตูม——”

 

บริเวณท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ กงยี่จวินก็ได้เข้าไปใกล้เรื่อยๆ ในเวลาเดียวกันนั้นเองอสนีบาตทั้งหมดต่างก็ได้ปกคลุมเยี่ยจงเอาไว้อยู่ภายในในระยะกว่าร้อยลี้ก็ว่าได้ ขณะนี้ก็เป็นเหมือนกับว่าพ้นพลังสวรรค์นั้นกำลังถูกเพิ่มพูนขึ้นมาด้วยพลังของเขาเพียงคนเดียว พริบตานั้น พลังทำลายของพ้นพลังสวรรค์นี้ก็ได้ทวีคูณขึ้นมา

 

กงยี่จวินก็ได้หัวเราะอย่างเย็นชาขึ้นมา เขาที่ถือได้ว่าเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์เช่นนี้ อีกทั้งยังได้ผ่านพ้นการเข่นฆ่าสังหารคู่ต่อสู้อันแข็งแกร่งเช่นนี้มาแล้วไม่น้อย ดังนั้นขณะนี้เขาเองก็ย่อมต้องมีความเชื่อมั่นต่อการลงมือของตนเองเป็นอย่างยิ่ง คิดว่าเยี่ยจงต้องอยู่ในกำมืออย่างแน่นอน คาดว่าเพียงแค่ชั่วพริบตา ก็คงจะต้องมอดไหม้หายไป

 

แต่ว่า ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ได้ชาด้านขึ้นมา บนใบหน้าของเขานั้นก็ได้แข็งตัวขึ้นมาภายในพริบตา แล้วก็ได้พบว่าเยี่ยจงในขณะนี้กำลังเดินออกมาทีละก้าว ไม่ว่าอสนีบาตเหล่านี้จะกระทบถูกร่างของเขาอย่างไร ก็ได้ถูกขวางรั้งเอาไว้ด้วยความเคลื่อนไหวของประกายแสงสีทองขึ้นมา ประกายแสงสีทองเหล่านี้ก็ได้เกิดกระทบถูกอัสนีอย่างไม่หวาดเกรง อีกทั้งยังสามารถที่จะดึงพลังบริสุทธิ์ของอสนีบาตเหล่านั้นออกมา จนกลายเป็นการเสริมพลังให้แก่ร่างกายของเยี่ยจง

 

เห็นได้ชัด เกี่ยวกับพ้นพลังสวรรค์นี้ เยี่ยจงแทบจะไม่เกรงกลัวแต่อย่างไร

 

“พ้นพลังสวรรค์ของเจ้า มิได้มีความแข็งแกร่งอย่างที่คิดเอาไว้ ไม่เช่นนั้น มาให้ข้าช่วยเพื่อทำให้มันตื่นตาขึ้นมาหน่อยดีกว่าหรือไม่?” เยี่ยจงยิ้มน้อยๆ เอ่ยขึ้นมา ราวกับว่าสิ่งที่กล่าวออกมาเป็นเรื่องที่ปกติธรรมดาก็มิปาน

.

.

.

.

กลุ่ม / 100บาทครับ

กลุ่มละ 80ตอน
โปรโมชั่น กลุ่ม 6-13 ราคา 600
VIP5 https://goo.gl/ekcF7V
VIP6 https://goo.gl/4rqw89
VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA
VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x
VIP9 https://goo.gl/1jPZtn
VIP10 https://goo.gl/L8awva
VIP11 https://goo.gl/rojEiG
VIP12 https://bit.ly/2lRgnUn
VIP13 https://bit.ly/2mkmj8y
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
INBOX m.me/ZuiQiangWuShen
#####Fanpage#####
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset