เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 545 ส่วนลึกของสุสาน

ตอนที่ 545 ส่วนลึกของสุสาน

 

 

 

“เยี่ยจง เจ้าอย่าได้สังหารข้า ข้าคือลูกน้องอันดับหนึ่งของบุตรศักดิ์สิทธิ์ เจ้าหากว่าฆ่าข้า บุตรศักดิ์สิทธิ์ย่อมไม่ปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน!” ราชันปีศาจชุดดำอาบเหงื่อเย็นเยียบไปทั่วร่าง ทอสีหน้าจนตรอกขึ้นมาหลายส่วน ขณะนี้เขาก็ได้เอ่ยปากขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดอยู่หลายส่วน ไม่ว่าจะมองเช่นไร ต่างก็พร้อมที่จะร่างแหลกลาญเช่นนี้ไปได้ทุกเวลา

 

“เจ้าวางใจเถอะ หลังจากที่เจ้าจากไปแล้ว ข้าย่อมต้องไปหาสร้างความยุ่งยากกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้าแน่นอน รวมไปจนถึงสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่มีพันแรงดึงดูดร้อยเสน่ห์ของพวกเจ้า ข้าย่อมไม่เกรงใจที่จะเก็บไว้ร่วมหลับนอนอย่างแน่นอน!”

 

เยี่ยจงหัวเราะเสียงเย็นชาติดต่อกัน กระบี่แสงจันทร์ในมือก็ได้ฟันออกไป ปิดหนทางถอยหนีของราชันปีศาจชุดดำไปจนสิ้น จนทำให้เขาไม่อาจที่จะทะยานไปอย่างวุ่นวายในจุดเดิมได้ แต่ก็ยังคงไม่อาจที่จะหลบหนีไปได้

 

“ไม่——”

 

“บุตรศักดิ์สิทธิ์ช่วยข้าด้วย!”

 

ราชันปีศาจชุดดำตะโกนออกมาเสียงดัง แต่ว่าทั้งหมดนั้นเรียกได้ว่าสายจนเกินไปแล้ว ขณะนี้เยี่ยจงแม้ว่าจะมิได้ใช้ออกมาด้วยพลังเทวะ แต่ว่าใจกลางของทุกกระบี่ ก็ได้รวมเอาไว้ด้วยสภาวะของพลังที่ยากจะต้านทานเอาไว้ด้วยอยู่ชนิดหนึ่ง จนสามารถที่จะฆ่าสังหารคู่ต่อสู้ลงได้อย่างง่ายดาย ต่อให้เป็นราชั้นในระดับอย่างบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์ ต่างก็ยังจำเป็นที่จะต้องหลบหนีไปในทันที อย่าว่าแต่ราชันปีศาจธรรมดาเหล่านี้เลย?

 

“ฉึก——”

 

คมกระบี่สายหนึ่งก็ได้แทงเข้ามา ราชันปีศาจชุดดำตนนี้จึงได้แต่เพียงกรีดร้องขึ้นมาอย่างเจ็บปวด ร่างกายก็ได้แตกกระจายไปในทันที กลายเป็นเพียงก้อนเนื้อแหลกเหลวเท่านั้น ลอยควั้งอยู่ท่ามกลางอากาศ

 

เห็นได้ชัด ในขณะที่ได้ตายลงไปแล้ว ราชันปีศาจตนนี้ก็ยังไม่อาจที่จะเข้าใจได้ เพราะเหตุใดเยี่ยจงจึงสามารถที่แสดงความแข็งแกร่งได้น่าหวาดกลัวจนถึงเพียงนี้ในสถานที่แห่งนี้ได้กัน พวกเขาเดิมที่ยังคิดที่จะระบายความแค้นของบุตรศักดิ์สิทธิ์ของตนเองออกมา ปิดล้อมสังหารเยี่ยจงลง แต่ว่าคิดไม่ถึงท้ายที่สุดแล้วแม้แต่ชีวิตของตนเอง ก็ยังต้องถูกช่วงชิงไปในทันที อีกทั้งยังไม่หลงเหลือแม้แต่คนเดียวที่จะสามารถส่งข่าวแจ้งกลับไปได้ด้วยซ้ำ

 

เมื่อได้สังหารราชาปีศาจทั้งห้าแห่งหุบเขาหมื่นปีศาจจนหมดสิ้นแล้ว เยี่ยจงก็ได้ใช้ออกด้วยวิชาดำดินรุกคืบมุ่งหน้าตรวจสอบรอบด้านอีกรอบหนึ่งอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักก็ได้พบกับราชันปีศาจอีกหลายตน สอบถามเกี่ยวกับราชาปีศาจแห่งหุบเขาหมื่นปีศาจเหล่านี้ เขามิได้มีความรู้สึกที่ดีเลยแม้แต่น้อย ขณะนี้ก็ได้ลงมือออกไปอย่างหนักหน่วง จนราชันปีศาจเหล่านี้แทบจะไม่มีเวลาที่จะสวนกลับไปแม้แต่น้อยก็ได้ตายตกลงไปในทันที

 

ในบริเวณรอบด้านกว่าร้อยลี้ หลังจากที่ยืนยันได้แล้วว่าไม่มียอดฝือของหุบเขาหมื่นปีศาจอยู่อีกแล้ว เยี่ยจงจึงค่อยมุ่งหน้าไปยังสถานที่นัดหมาย

 

ขณะนี้ จงหลี่และหลิงเฟ่ยทั้งสองคนก็ได้มาถึงกันแล้ว พวกเขาทั้งสองคนนั้นอยู่ในอาการกระวนกระวายใจ เมื่อพบเห็นเยี่ยจงปรากฏตัว จึงค่อยถอนหายใจออกมายาวๆ คำหนึ่ง

 

“พี่เยี่ย ครั้งนี้เป็นข้าที่ผิดต่อท่านไปแล้ว ข้าคิดที่จะลากดึงผู้คนเพิ่มมาเพื่อช่วยเหลืออีกซักหลายคน แต่คิดไม่ถึงจะเป็นการแพร่งพรายเส้นทางออกไป เมื่อครู่พวกเราก็แทบจะไม่มีจิตใจอยู่กับเนื้อกับตัว ไม่ง่ายเลยที่จะต้องมาพบเจอกับคู่ต่อสู้มุ่งหน้ามายังสถานที่แห่งนี้ ” จงหลี่เร่งรีบกล่าวอธิบายออกไป ทอสีหน้ากระอักกระอ่วน

 

เยี่ยจงมองไปที่เขาคราหนึ่ง ในที่สุดก็ทราบได้ ในครั้งนี้สมควรที่จะเป็นจงหลี่ขายตนเองไป ไม่เช่นนั้นแล้วก็คงจะไม่อธิบายกับตนเองเช่นนี้ ถึงกับมีความหาญกล้าถึงเพียงใดก็ตาม เขาก็คงจะไม่กล้าที่จะปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าตนเองเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้น อีกทั้งจงหลี่ยังถือได้ว่าเป็นคนที่ไม่กระทำเรื่องที่ไร้น้ำใจถึงเพียงนี้แน่นอน

 

“ช่างเถอะ ในเมื่อราชันปีศาจเหล่านั้นก็ได้ถูกข้าสังหารไปแล้ว ” เยี่ยจงส่ายหน้า อีกทั้งยังไม่สนใจแต่อย่างไร “กล่ามาเถอะ ต่อจากนี้พวกเราสมควรกระทำอย่างไร?”

 

“พี่เยี่ยท่านไม่โกรธจริงอย่างงั้นหรือ? เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี ข้ายังเกรงว่าพี่เยี่ยจะมีโทสะจนฟาดพวกเราทั้งสองจนตายลงไป!” จงหลี่ตบไปที่หน้าอก ใบหน้าทอแววหวาดกลัวขึ้นมา

 

เยี่ยจงมองไปที่เขา เกิดอาการหดหู่อย่างถึงที่สุด ตนเองเป็นคนที่ไม่แบ่งแย่งหนักเบาถึงเพียงนั้นเชียวอย่างงั้นหรือ? หลิงเฟ่ยเองก็ดำคล้ำไปทั้งใบหน้า เห็นได้ชัด เกี่ยวกับการปรากฏตัวของคนเช่นนี้ เขาย่อมรู้สึกเสียหน้าไปเป็นอย่างมาก

 

“เอาเถอะ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องเหล่านี้แล้ว ครั้งนี้พวกเราต้องเข้าไปตามหาวาสนาแห่งเซียน ไม่แน่ว่าอาจจะกลายเป็นจุดรวมตัวกันของผู้คนทั้งหมดในบริเวณสุสานชั้นที่สองนี้ก็เป็นได้ แต่ก็ยังไม่ถือได้ว่ามีวาสนาที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าพวกเราได้ ในส่วนที่สำคัญที่สุด หากว่าไม่ระวังตกไปอยู่ในมือของพวกเขา ควรทราบว่า แผนที่ที่เป็นถึงแผนที่สุสานเซียนที่แท้จริงนั้น กลับอยู่ในมือของพวกเรากันแล้ว!” จงหลี่ยกนิ้วนับขึ้นมาคำนวณ ทอสีหน้าถอนหายใจอย่างแรง “กำลังคนในตอนนี้ยังถือได้ว่าอ่อนแอไปบ้าง ยังสมควรที่จะหายอดฝีมือมาร่วมมือกันอีก น่าเสียดายการที่จะหาคนที่เชื่อใจได้นั้นเรื่องได้ว่ายากเย็นจนเกินไป หากว่าสามารถที่จะค้นหาชนชั้นราชันพลังเทวะขั้นที่ห้าซักหลายคนมาร่วมมือ ในครั้งนี้คงจะต้องสามารถที่จะกระทำได้สำเร็จกว่าก้าวส่วนแล้ว!”

 

“เช่นนั้นตอนนี้หมายความว่าอย่างไร?” เยี่ยจงกวาดตามองไปที่จงหลี่ ทอสีหน้าประหลาดขึ้นมา

 

“เข้าไปยังเขตแดนนี้ก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ อย่ามัวแต่ชักช้าอีกเลย ” จงหลี่กระวนกระวายอย่างถึงที่สุด “แม้ว่าพวกเราจะมีแผนที่ของสุสานอยู่ในมือ ที่ถือได้ว่าเป็นวาสนาที่สำคัญที่สุด แต่ว่าถ้าหากเป็นอย่างที่เจ้ากล่าวมาทั้งหมด ในมือของไต๋ซือหวู่โหวนั้นยังมีแผนที่อีกส่วนอยู่ เขาที่เป็นถึงชนชั้นมหาราชัน หากว่าสามารถที่จะค้นหาจุดหมายขึ้นมาแล้วละก็ พวกเราย่อมมิใช่คู่ต่อสู้ของเขาอย่างแน่นอน ดังนั้น เดินหน้าต่อไปก่อนค่อยว่าถึงเรื่องอื่นเถอะ ”

 

เยี่ยจงพยักหน้าตอบรับ เขาขณะนี้ก็ทราบดีว่า จงหลี่แม้ว่าจะมีพลังฝีมือที่ไม่ถือว่าดีมากนัก แต่ว่าเด็กน้อยผู้นี้ก็ยังถือได้ว่ามีความประหลาดอยู่ ราวกับว่ามีความสามารถอันน้อยนิดในหลากหลายแขนง นึกไม่ถึงยังถึงกับมีความสามารถที่ด้านการคำนวณทำนายทายทักอีกด้วย ต่อมา สามคนหนึ่งคณะก็ได้เพิ่มความเร็วขึ้น หากเป็นไปตามการคำนวณการเดินทางของจงหลี่

 

“ข้าว่านะพี่เยี่ย ชิ้นส่วนสุดท้ายของแผนที่สุสานเซียนที่แท้จริงนั้น เจ้าคงจะต้องบอกกล่าวต่อข้าให้ละเอียดสักครา เพราะว่าหากว่าไปจนถึงที่หมายแล้วละก็ หากเกิดข้อผิดพลาด พวกเราคงจะต้องตายอย่างไร้ที่กลบฝั่งแล้ว ” จงหลี่ทอสีหน้าจริงจังอย่างถึงที่สุดขั้นมา

 

เยี่ยจงพยักหน้าตอบรับ จากนั้นก็ได้ร่างตัวแผนที่จากความทรงจำขึ้นมา ยื่นไปให้แก่จงหลี่ เพื่อที่จะให้เขานำทางไปได้

 

จากการนำทางของจงหลี่ ในครั้งนี้สามคนหนึ่งคณะก็ได้เร่งเดินทางไปอย่างรวดเร็ว ประสบพบเจอกับอันตรายอยู่ไม่น้อย หลังจากผ่านไปแล้วเจ็ดวัน ในที่สุดก็ได้มาจนถึงพื้นที่ที่เป็นบริเวณส่วนลึกของสุสานชั้นที่สองแห่งหนึ่ง

 

“โฮก——”

 

บริเวณที่ห่างไกล ก็ได้มีพยัคฆ์อสรพิษบินอย่างบนอากาศ มีขนาดใหญ่โตกว่าร้อยช่วงตัว แผ่พลังอันน่าหวาดกลัวกวาดออกไป ที่หางของมันที่ได้ทำให้ยอดฝีมือไม่น้อยตายตกไป ในกลุ่มนั้นก็ได้รวมเอาไว้ด้วยระดับราชันพลังเทวะขั้นที่สองและขั้นที่สามอีกด้วย

 

“เป็นพลังฝีมือที่น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง ราชันปีศาจระดับพลังเทวะขั้นที่ห้า!” เยี่ยจงเหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้า ทอสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างยิ่ง ราชันปีศาจเหล่านี้แม้ว่าจะมีแต่เพียงพลังกายเนื้อ แต่ว่าพลังฝีมือก็ยังถือได้ว่าน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้เยี่ยจงพลังกายาทองไม่สูญสลายความสำเร็จเล็ก ก็ยังไม่กล้าพอที่จะบอกได้ว่าตนเองจะสามารถที่จะใช้เพียงพลังกายเนื้อในการต่อกรกับราชันปีศาจที่มีพลังในระดับนี้ได้

 

“เปลี่ยนไปใช้อีกเส้นทาง เส้นทางนี้ถูกปิดไปแล้ว!” จงหลี่ก็ได้ออกความเห็นขึ้นมาในทันที นำทางเปลี่ยนไปใช้อีกเส้นทางอย่างรวดเร็ว แต่ว่าไม่นานนัก พวกเขาก็ได้พบว่า บริเวณทางด้านหน้าก็ได้มีราชสีห์ขนาดใหญ่ขวางทางเอาไว้อยู่ตนหนึ่ง

 

ต่อจากนั้น ก็ได้เปลี่ยนเส้นทางไปอีกทั้งหมดสี่ห้าครั้ง แต่ว่าในทุกครั้งก็มักที่จะพบเจอกับราชันปีศาจพลังเทวะขั้นที่ห้าขวางทางอยู่ เข่นฆ่าสังหารยอดฝีมือไปมากมาย ราวกับว่ามีความตั้งใจที่จะมิให้ชนชั้นราชันเหล่านี้ไม่ให้พวกเขาเข้าไปใกล้ยังส่วนลึกในเขตแดนนี้

 

“เลวร้ายยิ่ง เหตุใดถึงได้มียอดฝีมือมากมายถึงเพียงนี้มุ่งหน้าไปยังสถานที่แห่งนี้กัน ที่แท้นอกเสียจากว่าพวกเรากับไต๋ซือหวู่โหวแล้ว ยังมีคนอื่นๆ ที่ได้แผนที่สุสานเซียนที่แท้จริงอีกอย่างงั้นหรือ?” จงหลี่ทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมาอย่างถึงที่สุด “อีกทั้ง สถานที่แห่งนี้ยังถึงกับมีราชันปีศาจพลังเทวะระดับที่ห้ามากมายคอยเฝ้าเอาไว้อยู่ คิดที่จะเข้าไปถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ยากอย่างยิ่ง ที่ยุ่งยากที่สุดก็คงจะเป็น สถานที่แห่งนี้เป็นถึงสุดปลายของบริเวณสุสานที่แท้จริง คิดที่จะเข้าไปยังประตูทางเข้าออกจริง ไม่ทราบว่ายังจะต้องพบเจอกับอันตรายมากน้อยแค่ไหนกัน ”

 

เยี่ยจงเองก็ได้ขมวดคิ้วขึ้นมา หลังจากนั้นก็ได้หยุดฟัง เขาเพียงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา : “ดูเหมือนว่าจะเป็นไปอย่างที่เจ้าคำนวณเอาไว้ก็มิปาน แน่นอนว่าย่อมต้องมีคนที่ได้แผนที่สุสานเซียนเช่นเดียวกัน อีกทั้งเด็กน้อยเหล่านั้นยังถือได้ว่ามีจิตใจที่โหดเหี้ยมกว่าพวกเรามากแล้ว ดังนั้นจึงจะสามารถทำให้เกิดฉากเบื้องหน้าเช่นนี้ขึ้นมาได้ ”

 

“ดังนั้นยอดฝีมือที่ได้เข้าสู่สุสานชั้นที่สองมาต่างก็วอดวายกันไปแล้ว อีกทั้งยังได้ใช้เลือดเนื้อเพื่อที่จะเปิดเส้นทางในการเข้าสู่สุสานเซียนอย่างงั้นหรือ?” หลิงเฟ่ยทอสีหน้าซีดขาวขึ้นมาอีกหลายส่วน เห็นได้ชัด การคาดคิดเช่นนี้ได้ทำให้พวกเราทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมาอยู่หลายส่วน

 

“สมควรที่จะเป็นเช่นนี้มิผิดแล้ว ทว่าก็ช่างเถอะ นี้ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นโอกาสของพวกเรา หากว่าพวกเราสามารถที่จะเข้าไปยังค้นหาวาสนาที่ภายในได้แล้วละก็ ท้ายที่สุดจะต้องตายด้วยน้ำมือของผู้ใดก็ยังไม่อาจที่จะทราบได้ด้วยซ้ำ ” เยี่ยจงหัวเราะเสียงเย็นชา ทอสีหน้าเย็นชาขึ้นมาอย่างยิ่ง

 

“เช่นนั้นความหมายของพี่เยี่ยท่านก็คือ……” จงหลี่เกิดความว้าวุ่นขึ้นมาอย่างยิ่ง คว้าจับไปที่ตัวของแผนที่คำนวณออกมาไม่หยุด

 

“ทางถูกปิด จนทำให้เดินทางได้ช้าลงไปเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังต้องเก็บพลังเอาไว้ เพราะว่าที่ด้านในนั้นเกิดอะไรขึ้นมาย่อมไม่อาจที่จะชัดเจนได้ พวกเราจำเป็นที่จะต้องคิดหาวิธีที่จะเข้าไปยังภายในให้ปลอดภัยที่สุด ในเมื่อยังไงซะก็มีผู้คนมากมายอยู่ในที่แห่งนี้ พวกเราต่อให้เร่งรีบไปก็ไม่มีประโยชน์ ” เยี่ยจงกล่าว

 

“มีเหตุผล ” จงหลี่ยังคงว้าวุ่นอยู่ ทว่าในเวลาเช่นนี้กลับไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกแล้ว ต่อมาเขาก็ได้นำพาทั้งสองคนเข้าไปยังเส้นทางที่มิได้ถูกปิดต่อไป ระหว่างทางก็ได้พบเจอกับราชันปีศาจพลังเทวะขั้นที่ห้าขวางทางเอาไว้อยู่อีกไม่น้อย บนพื้นดินก็ได้มีซากศพกลาดเกลื่อนอยู่เต็มไปหมด

 

เมื่อได้พบเจอกับทิวทันศ์เช่นนี้ สามคนหนึ่งคณะก็ได้แยกย้ายกัน ทว่าการปรากฏของยอดฝีมือในครั้งนี้ถือได้ว่ามีอยู่อย่างมากมาย อีกทั้งในบางพื้นที่ยังเรียกได้ว่ามีโลหิตอยู่ตามรายทางเต็มไปหมด

 

ระหว่างทางที่เข้าไปนั้นเรียกได้ว่าเป็นเหมือนเส้นทางโลหิตก็ว่าได้ จากนั้นก็ได้ค่อยๆ ที่จะมุ่งหน้าเข้าใกล้ไปยังบริเวณทางด้านที่เป็นจุดหมาย และตลอดทางมานี้ ทั้งสามคนก็ได้พบเห็นว่ามียอดฝีมืออีกมากมายที่ได้หลุดลอดเข้ามาได้ เห็นได้ชัด ภายในหลายวันมานี้ ก็ได้มีคนที่ได้กระตุ้นเรื่องนี้จนมาจนถึงขั้นนี้ได้ ในครั้งนี้ ก็ได้มีการปรากฏของชนชั้นราชันปรากฏขึ้นมาอยู่เต็มไปหมดในเขตแดนแห่งนี้ อีกทั้งยอดฝีมือที่มีระดับต่ำเกินกว่าระดับราชัน ยังไงเสียก็ย่อมไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ได้

 

เยี่ยจงก็ได้เกิดความยินดีขึ้นมา ยังดีที่ตนเองได้ทะลวงพลังขึ้นมาแล้ว ไม่เช่นนั้นแล้วในครั้งนี้ก็คงจะไม่อาจที่จะมีคุณสมบัติที่พอที่จะเข้ามาแย่งชิงในสถานที่แห่งนี้แล้ว

 

“จริงๆ แล้วก็เป็นไปตามการคาดคำนวณของข้า เส้นทางนี้เป็นทางที่มุ่งหน้าเข้าไปยังสุสานเซียน เจ้าดูไปที่ทั้งสองด้าน ” จงหลี่ใช้ทั้งสมองใช้ทั้งความคิด ด้วยท่าทางที่น่าเกลียดเป็นอย่างยิ่ง ขณะนี้เขาก็ได้ชี้ออกไปยังเส้นทางทั้งสองด้าน ก็สามารถที่จะพบกับหินสลักอยู่ไม่น้อย ด้านบนนั้นก็ได้รวมเอาไว้ด้วยร่องรอยบางอย่างขึ้นมาเป็นสาย หากว่ามีความเข้าใจในสถานที่แห่งนี้แล้วละก็ อีกทั้งยังจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อย แน่นอนว่าย่อมต้องได้รับประโยชน์ไม่น้อยเลย

 

เพียงแต่น่าเสียดาย ขณะนี้กลับไม่มีคนคิดที่จะทำความเข้าใจในสถานที่แห่งนี้เลย คนเหล่านี้ต่างก็เหมือนกับมองไม่เห็นสถานที่แห่งนี้ จึงได้พยายามที่จะค้นหาเส้นทางในการเข้าต่อไป มีอยู่ในบางครั้งบางคราวที่ได้พบเจอกับยาปราณที่มีอายุนับหมื่นปีขึ้นมาส่วนหนึ่ง ต่อมาก็ได้ก่อเกิดจนกลายเป็นการแย่งชิงขึ้น เกิดการแย่งชิงจากผู้คนนับไม่ถ้วนขึ้นมา

 

ไม่นานนัก เยี่ยจงก็ได้พบว่าเรื่องเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าหดหู่อย่างยิ่ง ในระหว่างที่ได้เข้าไปใกล้ขึ้น ทั่วสี่ด้านนึกไม่ถึงจะเป็นเพียงความว่างเปล่าที่ถูกปิดกั้นเอาไว้ ไร้หนทางที่จะยั้งเท้าเดินทางได้

 

“ดูเหมือนว่า พวกเราจะได้เข้าไปใกล้ยังพื้นที่ที่เป็นสุสานเซียนจริงแล้ว หรือว่าดินแดนแห่งนี้จะมีเซียนอยู่จริงอย่างงั้นหรือ?” จงหลี่ที่ยากจะเผยสีหน้าที่เคร่งเครียดออกมาได้ “หากว่ามีการคงอยู่ของเซียนขึ้นมาจริงแล้วละก็ นี้ก็สมควรที่จะเป็นพลังกดดันแห่งเซียน เหมือนดั่งพลังกดดันแห่งเซียนในสุสานชั้นที่หนึ่งก็มิปาน ทว่าอีกทั้งยังถือได้ว่าน่ากลัวยิ่งกว่า……”

 

เมื่อกล่าวมาจนถึงตรงนี้ ทันใดนั้นจงหลี่ก็คิดขึ้นถึงบางอย่างขึ้นมาได้ เขาก็ได้ตบไปที่สมองขึ้นมา มองไปที่ภายในดวงตาเยี่ยจงแล้วกล่าว : “คงจะมิใช่ว่าเด็กน้อยสือซิ่งผู้นั้นได้รับบันทึกแห่งเซียนม้วนนั้นไป แล้วกล่าวเป็นว่าได้มีการบันทึกบางอย่างของสถานที่แห่งนี้เอาไว้หรอกนะ? หากว่าเป็นเช่นนี้แล้วละก็ เกรงว่าการเดินทางในครั้งนี้ย่อมถือได้ว่ายุ่งยากขึ้นอย่างมากแล้ว ”

 

จากนั้นเยี่ยจงก็ได้หวนนึกขึ้นมา ส่ายหน้าแล้วกล่าว : “สิ่งของนั้นข้าได้พบเห็นมาก่อน สมควรที่จะมิใช่ หากว่าข้าคาดเดาไม่ผิดแล้วละก็ เกรงว่าแผนที่ในมือของพวกเรานั้นมิได้มีเพียงแค่ชุดเดียว ท่ามกลางตำหนักสวรรค์เก้าชั้นเมื่อวันก่อน นอกเสียจากพวกเราแล้ว เกรงว่ายังมีคนที่ได้ตัวแผนที่ที่สมบูรณ์ไปได้ ”

 

“ยังมีแผนที่ที่สมบูรณ์อีก เป็นไปได้อย่างไรกัน……” จงหลี่เกิดความว้าวุ่นขึนมาอย่างยิ่ง คิดคำนวณไม่หยุด เพราะว่าเขาค่อยๆ ที่จะพบว่า เรื่องราวราวกับว่าได้อยู่นอกเหนือการควบคุมไปแล้ว พวกเขาในครั้งนี้มาเพื่อที่จะไขว่คว้าวาสนาแห่งเซียน แต่ว่าราวกับว่ากลับมีคนนำหน้าไปก่อนแล้วก้าวหนึ่ง หากว่าเป็นเช่นนั้นจริงขึ้นมาแล้วละก็ เกรงว่าเรื่องราวคงจะใหญ่โตไม่น้อยเลยทีเดียว

.

.

.

.

กลุ่ม / 100บาทครับ

กลุ่มละ 80ตอน
โปรโมชั่น กลุ่ม 6-13 ราคา 600
VIP5 https://goo.gl/ekcF7V
VIP6 https://goo.gl/4rqw89
VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA
VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x
VIP9 https://goo.gl/1jPZtn
VIP10 https://goo.gl/L8awva
VIP11 https://goo.gl/rojEiG
VIP12 https://bit.ly/2lRgnUn
VIP13 https://bit.ly/2mkmj8y
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
INBOX m.me/ZuiQiangWuShen
#####Fanpage#####
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset