เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 549 หลุมศพเซียนปรากฏขึ้น

ตอนที่ 549 หลุมศพเซียนปรากฏขึ้น

 

 

 

“อารามเซียนโบราณกาลปรากฏขึ้นมาแล้ว!”

 

“ท่ามกลางอารามเซียนนั้นได้ซ่อนเอาไว้ด้วยสมบัติสูงสุด เป็นไปได้ว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นพื้นที่สุสานเซียนที่แท้จริง!”

 

“สมบัติประจำตระกูลเซียน ยาปราณประจำตระกูลเซียน!”

 

ราชันปีศาจกลุ่มนี้ขณะนี้ก็ได้อุทานขึ้นมา ผู้ใดยังสนใจที่จะนำขึ้นไปฆ่าสังหารเยี่ยจงในขณะนี้อีกกัน?

 

“พวกเราไป!”

 

เยี่ยจงที่อยู่ในอีกทางด้านหนึ่งก็ได้โบกมือคราหนึ่ง ห้าคนหนึ่งคณะก็ได้มุ่งหน้าถอยไปยังบริเวณทางด้านข้างไป พยายามด้วยพลังทั้งหมดเพื่อที่จะมิให้คนพบเห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกิดขึ้น

 

“ตูม——”

 

ทว่าการทำเช่นนี้จำเป็นที่จะต้องมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก ขณะนี้ด้วยราชันปีศาจพลังเทวะขั้นที่ห้าทั้งสี่ตนนั้นก็ได้นำออกไป ผู้ใดก็มิได้มองไปที่เยี่ยจงแม้สักคราเดียวอีก และก็ได้เข้าไปยังภายในท่ามกลางอารามเซียนเป็นอันดับแรก และราชันปีศาจคนอื่นๆ ก็ได้ทะยานเข้าไปนับไม่ถ้วนยิ่งกว่าเดิม

 

“อารามเซียนปรากฏขึ้นแล้ว! ลุยเลย!”

 

บริเวณทางด้านหลัง ขณะนี้ก็ได้เกิดความเคลื่อนไหวนับไม่ถ้วนจากยอดฝีมือ ยอดฝีมือเหล่านี้ขณะนี้ก็ได้พุ่งฆ่าสังหารออกไปพร้อมกัน คาดว่าด้วยคำว่าอารามเซียนทั้งสองตัว ได้กลายเป็นพลังดึงดูดนับไม่ถ้วนขึ้นมาภายในจิตใจ

 

“อา——”

 

ทันใดนั้น ท่ามกลางอารามเซียนก็ได้มีเสียงกรีดร้องขึ้นมา จากนั้นก็ได้พบว่าราชันปีศาจพลังเทวะขั้นที่ห้าตนหนึ่งถูกโยนออกมาทันที เขากวาดขาวาดมือไปมาอยู่ท่ามกลางอากาศ แต่ว่าพริบตาที่ได้กระทบลงกับพื้นกระอักโลหิตออกมาคำโต สิ้นใจไปในทันที

 

“พื้นที่เก้าหยิน หากเข้าไปยังภายในอย่างสะเปะสะปะย่อมต้องพบกับเรื่องเช่นนี้อย่างแน่นอน ต่อให้เป็นชนชั้นมหาราชันเข้าไปก็มีแต่ต้องตาย อย่าว่าแต่เพียงแค่ราชันปีศาจพลังเทวะขั้นที่ห้าเลย ” จงหลี่หันหน้ากลับมามองคราหนึ่ง ศีรษะเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเยียบแล้วกล่าวออกมา

 

“ผู้ใดกัน! คาดไม่ถึงว่าจะกล้าที่จะลงมือต่อคนของหุบเขาหมื่นปีศาจข้า! ไม่ทราบว่าหุบเขาหมื่นปีศาจข้านั้นมีมหาราชันทั้งสองตนคอยดูอยู่ในสถานที่แห่งนี้หรือไงกัน!” ทางด้านหลังของราชันปีศาจต่างก็ได้ตะโกนออกมา ไม่ทราบว่าที่แท้เกิดเรื่องอันใดขึ้นมา เพียงแต่ทราบว่ามีราชันปีศาจพลังเทวะขั้นที่ห้าได้ถูกสังหารลง

 

“อา——”

 

แล้วก็ได้กรีดร้องออกมาเสียงหนึ่ง ทางด้านราชันปีศาจตนหนึ่งก็ได้ถูกโยนออกไปจากภายในใจกลางของอารามเซียนออกไป พริบตาที่ได้กระทบร่างลงบนพื้นก็ได้กลายเป็นเพียงศพไปในทันที ผู้ใดก็ไม่อาจที่จะทราบได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

ระหว่างที่ได้พบว่าราชันวานรพลังเทวะขั้นที่ห้าและราชันปีศาจที่สวมเอาไว้ด้วยชุดศึกห้าสีบนร่างก็ได้ฆ่าสังหารออกไปในเวลาเดียวกัน สีหน้าของทั้งสองคนนี้ต่างก็ปั้นยากขึ้นมายากถึงที่สุด ในขณะนี้ก็ได้คำรามออกมาเสียงดัง : “ไป! ออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็ว เป็นสุนัขน้อยเยี่ยจงใจที่จะดึงพวกเราเข้ามายังสถานที่แห่งนี้เอง เขาสมควรตาย!”

 

แต่ว่า ทั้งหมดนั้นก็ถือได้ว่าช้าจนเกินไปแล้ว ท่ามกลางอารามเซียนก็ได้เกิดควันดำลอยขึ้นมา ท่ามกลางควันดำราวกับมีเงาร่างสายนี้กำลังทะยานออกมาอย่างวุ่นวายก็มิปาน หลังจากนั้นก็ได้พบว่ามีราชันปีศาจแต่ละตนถูกโยนออกมา แล้วก็ได้กลายเป็นเพียงซากศพไปในทันที

 

เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาติดต่อกัน ราชาปีศาจแห่งหุบเขาหมื่นปีศาจเหล่านั้นที่ไล่ล่าเยี่ยจง ทว่าพริบตานั้นก็ได้ตายตกไปแล้วกว่าครึ่ง ท้ายที่สุดก็ได้แต่ทะยานถอยออกมาอย่างไม่เป็นท่าทั้งกลุ่ม สีหน้าของแต่ละคนต่างก็ปั้นยากขึ้นมาอย่างถึงขีดสุด

 

“เจ้าเด็กน้อยผู้นี้ แท้จริงแล้วช่างมีการลงมือที่อำมหิตยิ่งนัก ไม่แปลกใจเลยที่ครั้งก่อนถึงกับสามารถที่จะสังหารผู้คนไปมากมายได้ถึงเพียงนั้น!” ไต๋ซือหวู่โหวกวาดสายตามองไปที่เยี่ยจงคราหนึ่ง ทอประกายตาประหลาดอย่างยิ่ง “เสี่ยวเยี่ยจื่อ เจ้าไม่เลวเลย ช่างมีท่าทีในช่วงหนุ่มแน่นของอาจารย์ปู่อย่างข้าเป็นอย่างมาก หรือไม่ก็ไม่มากราบเข้าสู่สำนักของอาจารย์ปู่อย่างข้าเลยละ?”

 

เยี่ยจงปาดไปที่เหงื่อเย็นเยียบ กล่าว : “ไต๋ซือ ตอนนี้มิใช่เวลาที่จะมากล่าวถึงเรื่องเหล่านี้หรอกนะ? สิ่งของที่อยู่ภายในใจกลางพลังธาตุหยินนั้นที่แท้เป็นอะไรกัน?”

 

จากนั้นไต๋ซือหวู่โหวกวาดมองไปยังทางด้านนั้น ยกมุมปากขึ้นแล้วกล่าว : “เมื่อครู่จงหลี่เดรัจฉานน้อยกล่าวออกมาได้มิผิด นี้ก็คือสิ่งที่ไม่เหมือนกับที่อยู่ในตำนาน ที่แท้แล้วเป็นอันใดกัน ผู้ใดสามารถที่จะกล่าวได้อย่างกระจ่างได้บ้าง คงมีแต่ตอนนี้ที่มิใช่เวลาที่สมควรที่จะมากล่าววาจาไร้สาระที่สุดอย่างแท้จริง หากว่าสิ่งของนั้นฆ่าสังหารออกมาแล้วละก็ อาจารย์ปู่อย่างข้าก็ใช่ว่าจะสามารถที่จะต้านเอาไว้ได้อยู่หรอกนะ!”

 

สุสานโบราณมากมายแตกต่างกัน นี้เป็นสิ่งที่ผู้คนต่างก็ทราบกันดี เพียงแต่ว่า ความจริงแล้วก็ยังมีคนอยู่ไม่น้อยที่สามารถที่จะมองออกว่าท่ามกลางสุสานนั้นมีอย่างอย่างที่ไม่เหมือนกัน เพราะว่าสิ่งของเช่นนี้จำเป็นที่จะต้องมีคุณสมบัติที่จำเป็นอย่างยิ่ง สมมุติว่าเป็นพื้นที่ที่เป็นธาตุหยินเป็นต้น แต่ว่าน่าเสียดายอย่างยิ่ง สถานที่แห่งนี้ประจวบเหมาะที่จะมีคุณสมบัติเช่นนั้นพอดี

 

“อา——”

 

บริเวณทางด้านหลัง ก็ได้มีเสียงกรีดร้องดังติดต่อกันออกมา เงาร่างนั้นต่างก็ได้ลอยออกมาจากโดยรอบของอารามเซียนนั้น ประดุจว่าเงาร่างนั้นกำลังฆ่าสังหารออกมาอยู่ก็มิปาน วินาทีนั้นก็ได้พบว่าราชันปีศาจนั้นได้ตกเป็นรองไปแล้ว จากนั้นยอดฝีมือเหล่านั้นที่เดิมทีคิดที่จะฆ่าสังหารเข้าไปยังภายในอารามเซียน แต่ละคนต่างก็ยิ่งทวีอาการขนลุกชูชันขึ้นมา ถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว

 

“ได้มีคนตายไปกว่าร้อยคนแล้วนะ ถอยเร็ว!” มีคนส่งเสียงร้องดังขึ้นมาด้วยความตกใจ พยายามที่จะเลือกเส้นทางขึ้นมาไม่หยุด

 

“สุนัขน้อยเยี่ย หุบเขาหมื่นปีศาจข้าและเจ้าต่างก็ไม่อาจที่จะอยู่ร่วมกันได้แล้ว!” เสียงอันเจ็บปวดของราชันวารพลังเทวะขั้นที่ห้าก็ได้ดังขึ้นมา กระอักโลหิตออกมาหลายคำ ผู้ใดก็คิดไม่ถึงว่า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกมันหุบเขาหมื่นปีศาจยังถึงกับสามารถที่จะพลาดท่าครั้งใหญ่ได้ถึงเพียงนี้

 

บริเวณที่ห่างไกล เยี่ยจงประดุจมิได้ยินก็ก็มิปาน เพียงแต่กำลังขมวดคิ้วแล้วกล่าว : “หากว่านี้เป็นบริเวณที่มีธาตุเก้าหยินของสุสานหมื่นมังกรผลสุดท้ายยังไงก็คงต้องเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นแล้วละก็ เช่นนั้นสถานที่แห่งนี้ก็คงจะไม่ถูกเรียกว่าแดนสังหารไร้ปรานีหรอกนะ!”

 

หลังจากที่เงียบงัน คนอื่นๆ ก็ยิ่งกล่าวอันใดไม่ออก นี่มันเวลาอะไรกันแล้ว ยังมีกระจิตกระใจโต้เถียงกันเช่นนี้อีกงั้นหรือ

 

“เวลาจะไม่พออยู่แล้ว ภูมิประเทศนี้มีความพิเศษจนเกินไปแล้ว แม้ว่าในมือของพวกเราจะมีแผนที่หมื่นมังกร ถือได้ว่ามีโอกาสวาสนาเล็กน้อยอยู่ในมือ แต่ว่าก็อย่าได้ดูแคลนกลุ่มตาแก่ตายยากเหล่านั้นเด็ดขาด ท่ามกลางพวกเขาย่อมไม่มีคนใดที่ธรรมดาแม้แต่คนเดียว ” ไต๋ซือหวู่โหวยกมุมปากขึ้นมา กระตุ้นเยี่ยจงโดยเร็ว แต่ว่าขณะนี้เขากลับเกิดความกลัวไม่เสื่อมคลาย ไม่กล้าที่จะนำทางเองได้

 

เยี่ยจงพยักหน้าไปมา นำเอาแผนที่หมื่นมังกรมองอยู่ชั่วขณะ อีกทั้งยังไม่สนใจสิ่งที่เกิดความเปลี่ยนแปลงจากบริเวณทางด้านหลัง เพียงแต่เลือกเส้นทางออกมาสายหนึ่ง แล้วก็ได้ชักนำคนทั้งคณะทะยานผ่านไปโดยเร็ว

 

ยังดีที่สถานที่แห่งนี้แม้ว่าจะไม่ทราบว่ามีประวัติศาสตร์ผ่านมามากน้อยแค่ไหน แต่ว่าภูมิประเทศกลับมิได้มีความเปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างไร เยี่ยจงยังคงสามารถที่จะเดินทางไปตามเส้นทางภายในแผนที่หมื่นมังกรได้ ตลอดรายทางมานี้ก็มิได้พบกับอันตรายที่น่าตกใจอันใด และเพราะว่าราชาปีศาจแห่งหุบเขาหมื่นปีศาจและยอดฝีมือกลุ่มใหญ่ทางด้านหลังต่างก็ได้ถูกพลังของอารามเซียนจัดการขวางรั้งเอาไว้อยู่ ขณะนี้เยี่ยจงและคณะจึงปลอดภัยอย่างถึงที่สุด

 

ท่ามกลางสุสานหมื่นมังกรสายนี้กลับกลายเป็นประเดี๋ยวซ้ายทีประเดี๋ยวขวาที เส้นทางที่ได้ผ่านมามีอยู่มากมายที่ถือได้ว่าเป็นที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก สามารถที่จะพบเห็นกระดูกจากซากศพและหลุมศพโบรษณอยู่ตลอดรายทางของหุบเขาสายนี้ สถานที่เหล่านั้นต่างก็ได้ปกคลุมเอาไว้ด้วยพลังหยินเอาไว้ หากเป็นไปตามการคำนวณของจงหลี่ ต่อให้เป็นชนชั้นมหาราชันหากเข้ามาอย่างไม่ระวังต่างก็คงต้องตายลงไปเช่นกัน

 

ยังมีสถานที่อีกส่วน ที่สามารถที่จะพบเห็นได้ว่าเป็นสถานที่ตั้งของศพแห่งปีกหายนะเอาไว้ แต่ว่าเพราะว่ายังมิได้ถูกกลิ่นอายของโลหิตทำให้ตื่นขึ้น ต่างก็ยังคงอยู่ในสภาวะหลับใหลเอาไว้อยู่ ต่อให้เป็นไต๋ซือหวู่โหวที่เป็นถึงชนชั้นมหาราชัน ก็ยังต้องด่าทอออกมาไม่หยุด ไม่อาจที่จะไม่ระมัดระวังเดินผ่านไปได้ เพราะว่าศพแห่งปีกหายนะเหล่านี้ถ้าหากถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาแล้วละก็ เช่นนั้นผลลัพธ์ก็คงยากที่จะคาดคิดขึ้นมาได้แล้ว หากใช้เลือดเนื้อของยอดฝีมือที่เข้ามายังสถานที่แห่งนี้มากระตุ้น ก็ใช่ว่าจะสามารถที่จะออกมาจากเส้นทางสายโลหิตนี้ไปได้

 

หลังจากที่ได้เดินอยู่เช่นนี้ไปกว่าครึ่งวัน คนทั้งคณะในที่สุดก็ได้มาจนถึงใจกลางของสุสานหมื่นมังกร ที่เป็นจุดที่มีพลังธาตุหยางอยู่เพียงหนึ่งเดียว

 

สถานที่แห่งนี้มีลักษณะคล้ายกับใต้ดินขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ไม่อาจที่จะมองเห็นส่วนที่ลึกลงไป บริเวณทางด้านล่างก็ได้ปกคลุมหนาแน่นไปด้วยพลังธาตุหยินพวยพุ่งออกมาไม่หยุด ฉากนี้เป็นที่น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง จนทำให้ขนลุกชูชันขึ้นมา ไม่ทราบว่าสถานที่แห่งนี้สามารถที่จะทะลุไปจนถึงชั้นได้ดินด้วยได้หรือไม่

 

“แย่แล้ว มีคนมาแล้ว!” เยี่ยจงกำลังเตรียมพร้อมที่จะสำนวจสถานที่แห่งนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ไต๋ซือหวู่โหวทันใดนั้นก็ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไป โบกมือคราหนึ่ง นำพาทั้งคนถอยเข้าไปยังบริเวณจุดอับสายตา ทอสีหน้าปั้นยากมองไปยังบริเวณทางด้านหน้า

 

“กึง——”

 

ท่ามกลางอากาศ ทันใดนั้นก็ได้มีประกายแสงคมกล้าตัดผ่านเข้ามา จากนั้นก็ได้พบจากบริเวณทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน ในเวลาเดียวกันก็ได้มีเงาร่างหลายสายหายวับออกมา เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ก็ได้พบว่ามีเงาร่างสิบกว่าสายปรากฏขึ้นมาอยู่บริเวณฉากบนฟ้า

 

นี้ต่างก็เป็นชนชั้นมหาราชัน เพราะว่ามีแต่เพียงยอดฝีมือที่อยู่ในระดับเช่นนี้เท่านั้น จึงจะสามารถที่จะถูกกดดันด้วยพลังสภาวะเช่นนี้

 

เยี่ยจงก็ได้ทอดสายตามองเข้าไป จดจำออกเพียงแค่ว่ามีมหาราชันซือคงจา、มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อ、มหาราชันปีศาจทุนเทียนทั้งหลายเป็นต้น อีกทั้งชนชั้นมหาราชันคนอื่นๆ ตลอดทั่วทั้งร่างต่างก็ทอเป็นประกายแสงคมกล้าปกคลุมเอาไว้ ในเวลาเช่นนี้กลับไม่อาจที่จะพบเห็นได้อย่างชัดเจนได้

 

“ให้ตายเถอะ! ตาเฒ่าเหล่านี้มิใช่บอกว่าจะไม่เข้ามาหรือไงกัน คิดที่จะอยู่แต่เพียงด้านนอกเพื่อเฝ้าระวังมิใช่หรือไงกัน? เหตุใดถึงต่างก็ได้เข้ามาจนหมดแล้วได้กัน!” ไต๋ซือหวู่โหวส่งเสียงกรนด่าออกมาแผ่วเบา

 

จงหลี่และเยี่ยจงเป็นต้นต่างก็ไม่สนใจเขา เพียงแต่จ้องไปที่ทางด้านหน้าซ้ายทีขวาที

 

“ดูเหมือนว่าจากการคาดเดาของพวกเราจะไม่ผิดไป นอกจากในมือของพวกเราจะมีแผนที่หมื่นมังกรแล้ว แท้จริงแล้วยังมีอย่างน้อยก็แผนที่ที่สมบัติอีกอย่างน้อยหนึ่งชิ้น ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้เป็นชนชั้นมหาราชันก็ไม่อาจที่จะค้นหาสถานที่แห่งนี้พบตั้งแต่แรก!” เยี่ยจงครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

 

จงหลี่เยี่ยจงงงงันขึ้นมา หลังจากนั้นเขาก็ได้ส่งเสียงหัวเราะฮิฮะแล้วกล่าว : “นี้ก็พูดได้ยากแล้ว เรื่องนี้เป็นเหมือนกับถูกท่านบัญชาสวรรค์ขีดเขียนขึ้นมา ไม่แน่ว่าตาเฒ่าบัญชาสวรรค์เองก็คงจะต้องสอดมือเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน!”

 

“หากว่าตาแก่ตายยากผู้นั้นลงมือแล้วละก็ ต่อให้ไม่มีแผนที่หมื่นมังกร อย่างน้อยก็ยังพอที่จะสามารถค้นหาสิ่งที่เกี่ยวข้องขึ้นมาได้ ” ไต๋ซือหวู่โหวทอสีหน้าปั้นยากขึ้นมา

 

“ดูเหมือนว่า พวกเราจะช้าไปก้าวหนึ่งนะ มหาราชันทุกท่านต่างก็ได้หาพื้นที่สุสานเซียนที่แท้จริงพบกันแล้ว!” นางเซียนชิงหญิงถอนหายใจออกมา ทอสีหน้าแปลกใจ

 

“นี้กลับไม่จำเป็น ต่อให้ที่จะเสาะหาพื้นที่สุสานเซียนที่แท้จริงได้ พวกเขาก็ยังจำเป็นที่จะต้องเข้าไปจึงจะได้ ข้าก็ไม่เชื่อหรอกว่าพวกเขาทราบถึงเรื่องทั้งหมดเหล่านี้กันแล้ว ควรทราบว่า อาจารย์ปู่อย่างข้าวิเคราะห์สถานที่แห่งนี้อยู่นานหลายปี ยังวิเคราะห์ไม่ออกมาได้ไม่เป็นรูปไม่เป็นร่างเลย พวกเขา……” ไต๋ซือหวู่โหวกล่าววาจาไร้สาระออกมาไม่หยุด แต่ว่าเมื่อพูดมาถึงครึ่งเดียว ทันใดนั้นเขาก็ได้อ้าปากตาค้าง จ้องไปที่บริเวณทางด้านหน้าด้วยสีหน้าที่ยากจะเชื่อขึ้นมาได้

 

“ตูม——”

 

ท่ามกลางอากาศ ชนชั้นมหาราชันสิบกว่าตนราวกับกำลังส่งสัญญาณลับต่างๆ อยู่ก็มิปาน นึกไม่ถึงในขณะนี้จะลงมือออกมาในเวลาเดียวกัน วินาทีนั้น ก็ได้พบเห็นประกายแสงคมกล้าอันน่าหวาดกลัวพวยพุ่งออกมา พริบตานั้นก็ได้พุ่งกวาดสภาวะอากาศที่เป็นธาตุหยินไป ฉากนี้เป็นที่น่าตกใจอย่างยิ่ง จนทำให้ผู้คนขนลุกชูชันขึ้นมา

 

“กร๊อบ——”

 

ระหว่างความเคลื่อนไหวของพวกเขา ราวกับว่าได้มีเสียงของการแตกหักขึ้นมาดังสนั่นหวั่นไหว จากนั้นก็พบว่าท่ามกลางพื้นที่ใต้ดินขนาดใหญ่นั้น ได้มีขุนเขาเก่าแก่โบราณลูกหนึ่งคล้ายกับมังกรตัวหนึ่งผุดขึ้นมา ค่อยๆ ที่จะยกตัวสูงขึ้นมา ฉากนี้เป็นที่ตระการตาอย่างถึงที่สุด เกิดแรงดึงดูดจิตใจของผู้คนขึ้นมา

 

ขุนเขานี้ไม่ถือได้ว่าใหญ่โตอะไรมากมายนัก แต่ว่า บริเวณทางด้านล่างนี้เป็นเหมือนดั่งมีมังกรคนหนึ่งที่ได้ถูกสังหารไปอยู่ก็มิปาน ขณะนี้ยังคงมีหยาดโลหิตที่ไหลออกมาอยู่

 

“นี้ยังไม่ถือได้ว่าเป็นมังกรที่แท้จริงได้ เพียงแต่เป็นอสรพิษมังกรตนหนึ่งเท่านั้น แต่ว่าก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนตกใจได้แล้ว!” ไต๋ซือหวู่โหวก็ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไปอีก ทอสีหน้าไม่อาจที่จะอธิบายออกมาได้

 

“ด้วยพลังเช่นนี้ สมควรที่จะเป็นพื้นที่สุสานเซียนที่แท้จริงอย่างไม่ต้องสงสัยแล้ว!” จงหลี่ถอนหายใจออกมา แต่ว่าขณะนี้เขาก็ไม่กล้าที่จะแม้แต่จะคำนวนขึ้นมา เพราะว่าขณะนี้อย่างน้อยก็คงจะมีคนของท่านบัญชาสวรรค์ลงมือแล้ว เขาหากว่าคำนวนต่อไป ก็เหมือนกับว่ากำลังรำขวานต่อหน้ารูปปั้นหลูปันอย่างไม่ต้องสงสัย

 

“พวกเจ้าดูให้ดี บริเวณเทือกเขา!” เยี่ยจงกำลังขมวดคิ้วอยู่ จ้องเขม็งไปที่ขุนเขาที่ได้ปรากฏขึ้นมา ทอสีหน้าประหลาดใจอย่างมาก

 

แล้วก็ได้พบเห็น จากบริเวณทางด้านใต้เขา ก็ได้มีเส้นทางที่คล้ายกับมีพลังเทวะผุดขึ้นมาจากทางด้านของบริเวณเทือกเขา และในบริเวณเทือกเขา ก็ได้มีประตูศิลาบานใหญ่อยู่คู่หนึ่ง ด้านบนประตูศิลาได้มีการแกะสลักเอาไว้อย่างปรานีจนเกิดร่องรอยเป็นสาย ร่องรอยแต่ละสายนั้นประดุจดั่งมีชีวิตอยู่ก็มิปาน ขณะนี้ยังคงยังคงเคลื่อนไหวอยู่ รวมกันจนกลายเป็นอักขระที่ซับซ้อนนับไม่ถ้วน

 

“ของสิ่งนี้ ข้าราวกับเคยพบเห็นมาก่อน!” เยี่ยจงขมวดคิ้วขึ้นมา ทอสีหน้าแปลกใจขึ้นมา

 

“นี้สมควรที่จะเป็นอักขระแห่งรากฐานในตำนาน นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเคยพบมาก่อนงั้นหรือ?” ไต๋ซือหวู่โหวเองก็ได้ขมวดคิ้วขึ้นมาที่หว่างคิ้ว เพราะว่าสิ่งของเช่นนี้ แม้แต่เขาเองก็ยังไม่เคยพบเห็นมาก่อน ย่อมไม่อาจที่จะแยกแยะได้ เยี่ยจงเหตุใดถึงสามารถที่รู้จักได้กัน

 

“ราวกับว่าเป็นสิ่งของจำพวกที่ข้าเคยเห็นไม่นานก่อนหน้านี้ แต่ว่า……” เยี่ยจงกำลังขมวดคิ้วอยู่ เขาราวกับหลงลืมเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมากอันขึ้นขึ้นมาก็มิปาน

.

.

.

.

กลุ่ม / 100บาทครับ

กลุ่มละ 80ตอน
โปรโมชั่น กลุ่ม 6-13 ราคา 600
VIP5 https://goo.gl/ekcF7V
VIP6 https://goo.gl/4rqw89
VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA
VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x
VIP9 https://goo.gl/1jPZtn
VIP10 https://goo.gl/L8awva
VIP11 https://goo.gl/rojEiG
VIP12 https://bit.ly/2lRgnUn
VIP13 https://bit.ly/2mkmj8y
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
INBOX m.me/ZuiQiangWuShen
#####Fanpage#####
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset