เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 563 การปรากฏของผู้สืบทอด

ตอนที่ 563 การปรากฏของผู้สืบทอด

 

“กร๊อบ——”

 

เยี่ยจงไม่สนใจความเคลื่อนไหวใดๆ ประดุจมิได้ยินเสียงที่ดังขึ้นมาก็มิปาน ฝ่าเท้าก็ได้เหยียบลงไปยังบริเวณใบหน้าของมหาราชันปีศาจทุนเทียน ขอเพียงใช้ออกมาด้วยพลังอีกเพียงเล็กน้อย ก็อาจจะสามารถที่จะถูกเขาเหยียบจนศีรษะแหลกเหลวได้ หากว่าถูกเยี่ยจงเหยียบลงไปเช่นนี้ได้จริงเช่นนี้ เช่นนั้นต่อให้เป็นชนชั้นมหาราชันเองก็ยังต้องตายตกลงไปเช่นเดียวกัน หากว่าวันนี้เยี่ยจงเหยียบจนมหาราชันปีศาจทุนเทียนตายไปเช่นนี้ เช่นนั้นเกรงว่าก็เหมือนกับเป็นการกระตุ้นดินแดนทั้งสี่ขึ้นมาแล้ว

 

“ฉึก——”

 

ในช่วงเวลาที่คับขัน ร่างกายของมหาราชันปีศาจทุนเทียนก็ได้ถูกฝังลึกลงไป ในเวลาเดียวกันก็ได้กระอักโลหิตออกมาคราหนึ่งอย่างรุนแรง แล้วก็ได้มีประกายแสงปกคลุมอยู่บริเวณร่างกาย เห็นได้ชัดว่า นี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ช่วยให้เขารอดพ้นจากการสังหารนี้ได้ ในขณะนี้ไม่อาจที่จะไม่ใช้ออกมาด้วยสิ่งที่เอาไว้ปกป้องชีวิตออกมาได้

 

ฝ่าเท้าของเยี่ยจงพริบตาที่ได้ทอดลง ก็ได้มีเสียงดังกร๊อบดังขึ้นมาพร้อมกับประกายแสงที่ได้ทอออกมา วินาทีนั้นก็ได้ยินเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ทั่วทั้งแท่นปราณต่างก็สั่นไหวขึ้นมา สามารถที่จะทราบได้ว่า เยี่ยจงขณะนี้ได้ลงมือออกมาด้วยพลังทั้งหมดแล้ว อีกทั้งยังไม่มีการยั้งมือไว้ไมตรีเลยแม้แต่น้อย

 

พริบตาที่ประกายแสงแตกระเบิดขึ้นมา แต่ว่าพลังของเท้าข้างนี้เยี่ยจงกลับถูกต้านทานพลังเอาไว้ จนพลังสูญไปกว่าครึ่ง ทว่าก็ยังคงเหยียบลงไปได้

 

“ครืน——”

 

เท้าข่างนี้เมื่อได้เหยียบลงไปด้านบนของใบหน้าของมหาราชันปีศาจทุนเทียน บริเวณศีรษะก็ได้ปรากฏรูปรอยเท้าขนาดใหญ่ขึ้นมาก็มิปาน ก็ได้ถูกกดทับลงไปอย่างรุนแรงอยู่บริเวณทางด้านบนของเนินสุสานจมลึกลงไป จนเกิดเสียงดังสนั่นขึ้นมา ในเวลาเดียวกันรอยประทับของฝ่าเท้าสีแดงสดก็ได้ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของมหาราชันปีศาจทุนเทียนในตอนนี้ จนเห็นได้อย่างชัดเจนอย่างไร้ที่เปรียบ

 

“เจ้าเดรัจฉานน้อย ! ”

 

เวลานี้ มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อในที่สุดก็ได้ฆ่าสังหารมาถึง ขวาขยับมือขวาขึ้นมา กรงเล็บที่ปกคลุมไปด้วยเส้นขนสีทองก็ได้มีพลังอักขระนับไม่ถ้วนพวยพุ่งออกมา คิดที่จะสังหารเยี่ยจงลงในที่แห่งนี้

 

“เปรี้ยง——”

 

เยี่ยจงเองก็ได้ขยับมือขวาคราหนึ่ง บริเวณใจกลางฝ่ามือก็ได้ปรากฏอักขระจูเชวียนขึ้นมา ระหว่างนั้นเขาก็ได้ประทับฝ่ามือฟาดออกไป จนรอยประทับปรากฏภาพของจูเชวียนที่ขุ่นมัวขึ้นมาบนฝ่ามือ ฝ่ามือที่ดูไปแล้วแสนจะธรรมดา ก็ได้รวมเอาไว้ด้วยพลังทำลายไท่กูจูเชวียนลอยเย้ยสวรรค์เก้าชั้นออกมา มุ่งหน้าพุ่งออกไปบริเวณทางด้านหน้า

 

พลังการโจมตีทั้งสองสายก็ได้ปะทะเข้าด้วยกัน เยี่ยจงพลังกายาทองไม่สูญสลายความสำเร็จเล็กของเยี่ยจง เรียกได้ว่ามีกายเนื้อที่ไร้ผู้ต้าน มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อแม้ว่าพลังลมปราณทั่วทั้งร่างกายจะถูกจำกัดเอาไว้ แต่ว่าการโจมตีก็ยังคงถือได้ว่ารุนแรงอยู่ เพียงแค่ทันทีที่ได้ปะทะเข้าด้วยกัน ร่างกายของทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้สั่นไหวขึ้นมา มุ่งหน้าถอยออกไปบริเวณทางด้านหลังหลายก้าว

 

เมื่อกระบวนท่าได้ถูกเยี่ยจงต้านทานเอาไว้ แต่ว่าสีหน้าของเขากลับมิได้มีความเปลี่ยนแปลงที่มากมายจนเกินไปนัก เพียงแต่ก้าวออกไปอีกหนึ่งก้าวอีกครั้ง เท้านี้ก็ได้มุ่งหน้าเหยียบเข้าไปบริเวณหัวใจของมหาราชันปีศาจทุนเทียน เห็นได้ชัด ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ตัดเส้นชีวิตของมหาราชันปีศาจทุนเทียนให้ดับลง อีกทั้งยังไม่คิดที่จะให้เขาหลงเหลือแม้แต่ร่างกายอีกด้วย

 

ด้านบนของพื้นดิน มหาราชันปีศาจทุนเทียนก็ยิ่งโกรธเกรี้ยวขึ้นมายิ่งกว่าเดิม อยู่ในสภาพที่จนตรอกอย่างถึงที่สุด พริบตานั้นก็ได้ดิ้นไปมาอย่างวุ่นวายอยู่บนพื้น เพื่อที่จะหลบเลี่ยงออกไปจากฝ่าเท้าที่ทอดลงมาอย่างน่าหวาดกลัวนี้ของเยี่ยจง

 

“กร๊อบ——”

 

ทันทีที่เท้าได้ทอดลง แท่นปราณก็ได้มีรอยร้าวขึ้นมา หากมิใช่สถานที่แห่งนี้มีพลังแรงกดดันวิถีเซียนปกคลุมเอาไว้อยู่ เกรงว่าภายใต้การลงเท้านี้ของเยี่ยจงที่เปรียบดั่งพลังของมังกรเหยียบลงมา แท่นปราณแห่งนี้ก็คงจะต้องแตกแหลกลาญไปตั้งแต่แรกแล้ว

 

“เปรี้ยง——”

 

เยี่ยจงมิได้หยุดลง แล้วก็ได้เหยียบลงไปอีกเท้าภายในพริบตาติดต่อกัน ในครั้งนี้มหาราชันปีศาจทุนเทียนเรียกได้ว่าไม่อาจที่จะหลบได้พ้นอีกต่อไป ส่งเสียงกรีดร้องออกมา ทั้งสองเท้าก็ได้ถูกเยี่ยจงเหยียบจนแหลกลาญไป เนื้อโลหิตและกระดูกก็ได้หลุดออกมาไม่หยุดจนดูรูปร่างเดิมไม่ออก กลายเป็นเพียงเศษซากของเลือดเนื้อสายหนึ่ง

 

“เจ้ากล้า——”

 

มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อเดือดดาลขึ้นมา ภายใต้สถานการณ์ระหว่างที่ตนเองได้ลงมือ นึกไม่ถึงว่าเยี่ยจงยังถึงกับมีความกล้าได้ถึงเพียงนี้ เรียกได้ว่าแทบจะไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย ในขณะนั้นเอง มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อก็เป็นคนแรกที่เข้าใจขึ้นมาได้ ตนเองที่เอาแต่มองว่าเป็นเพียงแค่ชนชั้นรุ่นหลังเท่านั้นมาโดยตลอด แต่กลับมีการเติบใหญ่ได้มากมายจนยากที่จะคาดคิดได้ถึงเพียงนี้ได้

 

“กร๊อบ——”

 

มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อเองก็ได้ฟาดฝ่ามือออกไปอีกฝ่ามือ ต้านทานเส้นทางของเยี่ยจงเอาไว้ ทว่าเยี่ยจงก็ได้ปะทุอักขระบนฝ่ามือขึ้นมา เข้าต้านทานการโจมตีของมหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อเอาไว้แทบจะในทันที ไม่มีความคิดหรือสภาวะที่จะถอยไปเลยแม้แต่น้อย

 

“ซวบ——”

 

ปีศาจมหาราชันตนหนึ่งที่ยืนอยู่บริเวณทางด้านหลังของมหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อมาโดยตลอด ขณะนี้ในที่สุดก็ได้ลงมือออกมา เขากวาดมือออกไปคราหนึ่ง จนก่อเกิดเป็นประกายแสงพลิกผันเจ็ดสีหมุนวนเข้าไปยังทางด้านของมหาราชันปีศาจทุนเทียนที่อยู่บนพื้น ในเวลาเดียวกันเขาเองก็ได้ขยับร่างกายเข้ามาใกล้ คิดที่จะสังหารเยี่ยจงลง

 

เขาในขณะนี้ในที่สุดก็ได้เปิดเผยตัวตนออกมา มีรูปร่างประดุจเผ่ามนุษย์ตามปกติก็มิปาน แต่ว่าบริเวณทางด้านหลังกลับมีปีกสีทองคู่หนึ่งงอกเงยออกมา จนเป็นที่แสบสายตาอย่างยิ่ง

 

“เป็นเจ้า มหาราชันเผ่าปีก ! ยอดมาก ! ” เยี่ยจงพริบตานั้นก็จดจำสถานะของคนผู้นี้ออก คนผู้นี้ประจวบเป็นหนึ่งในชนชั้นมหาราชันสี่ตนที่ได้ล้อมตีลัทธิแห่งดวงดาวเมื่อคราก่อน เปรียบได้ดั่งมหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อก็มิปาน ที่มีความแค้นลึกล้ำระหว่างเยี่ยจง ที่เหมือนกับสามสายธารสี่มหาสมุทรที่ไม่อาจที่ไหลบรรจบกันได้ ยากที่จะชำระได้

 

มหาราชันเผ่าปีกมิได้วาจาไร้สาระแต่อย่างไร เขาเพียงแต่จับต้องมองไปทางด้านของเยี่ยจงอย่างเย็นชา ก้าวออกไปทางด้านหน้าทีละก้าว ปีกคู่สีทองบริเวณทางด้านหลังก็ได้โบกสะบัดไปมา ประดุจเขาเป็นเหมือนเทพสงครามลงมาจุติก็มิปาน เขาก็ได้ก้าวเข้ามาทางด้านหน้าเรื่อยๆ เช่นนี้ จากนั้นก็ได้คว้าจับออกไปทางด้านหน้า หมายที่จะผสานการโจมตีกับมหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อ เพื่อที่จะจัดการฆ่าสังหารเยี่ยจงให้ตายลงไปในสถานที่แห่งนี้

 

“ชิ——”

 

ไต๋ซือหวู่โหวที่อยู่บริเวณทางด้านหลังไม่ลงมือมาโดยตลอดในที่สุดหัวเราะเสียงเย็นชา ก้าวเดินออกมา พุงของเขาก็ได้สั่นไหวไปมา พลิกมือขวาฟาดออกไป ฝ่ามือก็ได้ผสานเข้าไปพร้อมกัน ต้านทานการโจมตีอันน่าแตกตื่นของมหาราชันเผ่าปีกเอาไว้

 

“เปรี้ยง——”

 

การโจมตีของทั้งสองฝ่ายเมื่อได้เข้าปะทะกัน วินาทีนั้น ก็ได้มีพลังลมปราณเล็กน้อยก่อตัวปรากฏขึ้นมา จากนั้นพริบตานั้นก็ได้ถูกสลายพลังสภาวะลงไปจนหมดสิ้น เห็นได้ชัดอย่างยิ่ง ภายในชั่วพริบตานั้นที่ได้เข้าปะทะเข้าด้วยกัน ทั้งสองฝ่ายต่างก็มิได้ลงมือไว้ไมตรีเลยแม้แต่เพียงนิดเดียว เพียงแต่คิดที่จะลงมือฆ่าสังหารอีกฝ่ายไปในทันที

 

บริเวณรอบด้าน คนมากมายต่างก็ตกอยู่ในอาการแตกตื่นขึ้นมา คิดไม่ถึงภายในเยี่ยจงและคณะ นึกไม่ถึงว่าจะยังมีบุคคลเฉกเช่นนี้อยู่อีก ถึงกับสามารถที่จะต้านทานมหาราชันเผ่าปีกเอาไว้ได้

 

“เป็นเจ้า……ชนชั้นมหาราชันเผ่ามนุษย์ หวู่โหว ” มหาราชันเผ่าปีกก็ได้เผยสีหน้าไม่อยากที่จะเชื่อออกมาบนสีหน้า “เจ้ามิใช่ว่ามิได้เข้ามายังสถานที่แห่งนี้งั้นหรือ……”

 

“เจ้ามนุษย์นกผู้นี้ยังเข้ามาได้ อาจารย์ปู่อย่างข้าเพราะเหตุใดถึงไม่สามารถที่จะเข้ามาได้กัน ? ” เรื่องเมื่อดำเนินมาจนถึงขั้นนี้ ไต๋ซือหวู่โหวเองก็ไม่คิดที่จะปกปิดอีกต่อไป เพียงแต่ถอนเอาอาภรณ์ยุทธ์ก่อฟ้าห้าธาตุออกไป หัวเราะหึหึอย่างเย็นชาไปยังทางด้านของมหาราชันเผ่าปีก

 

ทั้งสองฝ่ายต่างก็จ้องไปที่อีกฝ่าย มหาราชันเผ่าปีกหลังจากนั้นก็ได้ลังเลอยู่สักพัก แต่กลับมิได้ลงมือต่อไปแต่อย่างไร เห็นได้ชัด เขาเกิดความหวาดกลัวต่อไต๋ซือหวู่โหวเป็นอย่างยิ่ง ไม่คิดที่จะลงมือต่อสู้กับเขาในขณะนี้ และทางด้านไต๋ซือหวู่โหวยังคงเพียงยืนกอดอกด้วยมือทั้งสองข้างอยู่ เพียงแต่หัวเราะหึหึอย่างเย็นชาออกมาไม่หยุด แต่ว่าเขาก็มิได้มีความคิดที่จะถอยออกไปเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่จับจ้องไปยังท่ามกลางสนาม

 

ระดับราชันที่ในรอบหกสิบปี ขึ้นมาเป็นหนึ่งในใต้หล้าภายในทั่วทั้งฟ้าดินสี่ดินแดน สิ่งเหล่านี้ต่างก็ได้ถูกปกคลุมเอาไว้อยู่บนตัวของไต๋ซือหวู่โหว จนทำให้ชนชั้นมหาราชันเหล่านั้นต่างก็ไม่กล้าที่จะลงมือโดยสุ่มสี่สุ่มห้า เห็นได้ชัดว่า ชนชั้นมหาราชันผู้นี้ตามปกติที่ดูเหมือนจะพึ่งพาอันใดมิได้ กลับเป็นที่น่าเกรงขามอย่างยิ่งต่อชนชั้นมหาราชันตนอื่นๆ

 

ในเวลาเดียวกันนี้เอง เยี่ยจงก็ได้เข้าปะทะกับมหาราชันปีศาจลิ่วเอ่ออีกครั้ง ทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้ถอยออกไปในเวลาเดียวกัน ทว่ามหาราชันปีศาจทุนเทียนขณะนี้เรียกได้ว่าได้ถูกช่วยเหลือกลับไปได้แล้ว หลังจากเยี่ยจงขมวดคิ้วไปมา ก็มิได้ลงมือต่อไปอีก เห็นได้ชัด ขณะนี้เขาก็ได้พลาดโอกาสในการฆ่าสังหารมหาราชันปีศาจทุนเทียนไปแล้ว หากจะเอาแต่ดิ้นรนต่อไปก็ไม่ได้มีประโยชน์แต่อย่างไร

 

เยี่ยจงและคณะและมหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อถูกขัดขวางมาตลอดเส้นทาง ในสถานที่แห่งนี้ มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อที่คอยสาดส่องเยี่ยจงมาโดยตลอด จนเขาใช้ออกมาด้วยพลังฝีมือที่ไร้ผู้ต้านออกมา ทำให้เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาอย่างยิ่ง จนไม่อาจที่จะลงมือต่อไปได้

 

มหาราชันปีศาจทุนเทียนขณะนี้ที่ยังคงแผ่ร่างอยู่ด้านบนของพื้นก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำโต สตรีศักดิ์สิทธิ์หมื่นปีศาจก็ได้พยุงให้ลุกขึ้นมาอย่างระมัดระวัง มือทั้งสองข้างของเขาก็ได้ถูกเยี่ยจงทำลายลงไปแล้ว ขาทั้งสองข้างก็ได้ถูกบดขยี้ไปอีก ในเวลาเดียวกันบนใบหน้ายังบวมดุจหัวสุกรอีก อีกทั้งยังหลงเหลือร่องรอยประทับของฝ่าเท้าสีแดงสดเอาไว้อยู่อีก นอกเสียจากมิได้ถูกเยี่ยจงฟาดจนตายไปแล้ว เขาก็เรียกได้ว่าอยู่ในสภาพที่อเนจอนาถเสียยิ่งกว่าอเนจอนาถอีก

 

เกี่ยวกับชื่อเสียงของชนชั้นมหาราชันผู้หนึ่ง เรื่องเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าอับอายกว่าถูกสังหารเขาไปเสียยิ่งกว่า ขณะนี้เขาก็ได้จ้องมองไปที่เยี่ยจง ภายในดวงตาก็ได้มีความอาฆาตอย่างถึงที่สุด เกลียดชังจนไม่อาจที่จะกล้ำกลืนมีชีวิตต่อไปได้

 

“เพียงแค่ชนชั้นรุ่นหลังขอบเขตราชันพลังเทวะขั้นที่หนึ่งยังเทียบไม่ได้ เจ้าก็ไม่มีหน้าที่จะอยู่ต่อไปแล้วกระมั่ง ? ” เยี่ยจงจ้องไปที่มหาราชันปีศาจทุนเทียน หัวเราะเสียงเย็นชา ไม่เห็นแก่หน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย

 

หลังจากที่เงียบงัน ชนชั้นมหาราชันตนอื่นๆ ต่างก็ทอสีหน้าเป็นประกายขึ้นมา ทว่าก็ได้ไม่มีผู้ใดกล่าวอันใดมากมายหรือว่าคิดที่จะทำอันใดขึ้นมาอีก เพราะว่าเยี่ยจงและคณะเองก็ได้เปิดเผยพลังฝีมือของพวกเขาออกมากันแล้ว ขณะนี้แม้ว่าจะมีเพียงเยี่ยจงและไต๋ซือหวู่โหวที่ลงมือ แต่ว่าก็เพียงพอที่จะควบคุมสถานการณ์เอาไว้ทั้งหมดได้แล้ว

 

“ทุกท่าน สามารถที่จะเปิดโลงศพขึ้นมาได้แล้ว ในเมื่อเป็นผู้ที่มีความสามารถในการเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ได้ ก็ย่อมต้องมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องกระทำเรื่องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นเช่นนี้อีกต่อไปแล้ว ” เวลานี้ มหาราชันเผ่ามนุษย์ทั้งสามตนในเวลาเดียวกันก็ได้ลุกขึ้นยืน องค์ราชาแห่งรัฐสือก็ได้หันกลับไปมองทางด้านหลังคราหนึ่ง ยิ้มน้อยๆ แล้วเอ่ยปากกล่าวขึ้นมา

 

นี้เป็นเหมือนกับว่าบริเวณทั่วทั้งพื้นที่รอบสนาม คนมากมายท่ามกลางสนามหลังจากที่เงียบงันต่างก็มิได้เอ่ยปากขึ้นมา แต่ว่าเห็นได้ชัดอย่างยิ่ง ในขณะนั้นเอง โลงศพหยกเองเมื่อสามารถที่จะเปิดขึ้นมาได้แล้ว ก็แน่นอนว่าย่อมไม่มีคนใดคิดที่จะลงมือเรื่องสิ้นคิดอีกต่อไป

 

ทว่า เยี่ยจงและไต๋ซือหวู่โหวสบตากันคราหนึ่ง ทั้งสองคนก็ได้มุ่งหน้าออกไปด้านหน้าเพื่อที่จะเข้าไปใกล้หลายก้าวในเวลาเดียวกัน ในเมื่อคิดที่จะเปิดโลงศพขึ้นมา เช่นนั้นไม่ว่าภายในนั้นจะมีการคงอยู่ของวาสนาเช่นไร ก็ย่อมไม่อาจที่จะผิดพลาดไปได้อย่างแน่นอน

 

“ทั้งสามท่าน ลงมือเถอะ เป็นไปตามการนัดแนะเอาไว้ พวกเจ้าสามารถที่จะนำเอาศพจักรพรรดิแห่งจักรพรรดิฟ้าชิงกลับไป ส่วนสิ่งของที่เหลือ ก็ขอให้ทั้งสามท่านอย่าได้มาวุ่นวายอีก ! ” ชนชั้นมหาราชันตนหนึ่งทอสีหน้าเมินเฉยเอ่ยปากขึ้นมา

 

มหาราชันเผ่ามนุษย์ทั้งสามตนสบตากัน ต่างก็พยักหน้าตอบรับออกมา มิได้กล่าวอันใดออกมา พวกเขาทั้งสามในเวลาเดียวกันก็ได้สวดขึ้นมาอยู่ภายในฝีปาก จากนั้นก็ได้ยื่นฝ่ามือปกคลุมอยู่ทางด้านบนของโลงศพหยก วินาทีนั้น ก็ได้พบว่าโลงศพหยกได้เกิดความเคลื่อนไหวเบาๆ ขึ้นมา วัตถุที่ปกคลุมโลงศพเอาไว้ก็ได้เกิดการสั่นไหวขึ้นมาไม่หยุด แล้วก็ได้ค่อยๆ ที่จะถูกเปิดขึ้นมาอย่างช้าๆ

 

“ตูม——”

 

พลังกระจ่างสุกใสที่เข้มข้นอย่างถึงที่สุดกลุ่มหนึ่งเองก็ได้ค่อยๆ ที่จะพุ่งออกมาในขณะที่ถูกเปิดขึ้นมา ประดุจดั่งลูกศรพุ่งออกมาจากอากาศก็มิปาน

 

ในขณะนั้นเอง มหาราชันเผ่ามนุษย์ทั้งสามตนก็ได้ถอยไปทางด้านหลังในเวลาเดียวกัน ทอสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น

 

นี้เป็นถึงหลุมศพของจักรพรรดิฟ้าตะวันออกจักรพรรดิฟ้าชิงในตำนาน ผู้ใดก็ไม่อาจที่จะแน่ใจได้ว่าเขานั้นสมควรที่จะเหลือทิ้งเอาไว้ด้วยการลงมือในภายหลังได้หรือไม่ นั้นก็เพราะว่าในขณะนั้นเอง ต่อให้เป็นสภาวะจิตใจของชนชั้นมหาราชันเองต่างก็ยังไม่อาจที่จะควบคุมได้ ทอสีหน้าจริงจังจ้องมองไปยังฉากเบื้องหน้านี้

 

ไม่นานนัก เมื่อพลังบริสุทธิ์ได้เลือนหายไปแล้ว ตลอดทั่วทั้งฝาปิดโลงศพของโลงศพหยกก็ได้ถูกยกออกไป ถูกวางเอาไว้อยู่บริเวณทางด้านบนพื้นดิน ในขณะนั้นเอง คนมากมายก็ได้มุ่งหน้าขึ้นมาบริเวณทางด้านหน้าพร้อมกัน ทอสีหน้ายินดีขึ้นมาอย่างถึงที่สุด

 

แต่ว่า พริบตาที่ได้เข้าไปใกล้แล้วนั้นเอง ผู้คนทั้งหมดต่างก็ตะลึงลานขึ้นมา เพราะว่าตลอดทั่วทั้งใจกลางโลงศพหยกนั้นกลับกลายเป็นเพียงความว่างเปล่า ไม่มีการคงอยู่ของสิ่งใด กลับยิ่งไม่มีศพจักรพรรดิแห่งจักรพรรดิฟ้าชิง อีกทั้งยังไม่มีการคงอยู่ของสิ่งของประดับร่วมสุสานแม้แต่อย่างเดียว ประดุจว่าเป็นแต่เพียงความว่างเปล่าเท่านั้นก็มิปาน

 

“เป็นไปได้อย่างไร ? ศพจักรพรรดิของจักรพรรดิฟ้าชิงเล่า ! ? ”

 

“ไม่ต้องกล่าวถึงศพจักรพรรดิ เมื่อครู่ความรู้สึกที่สัมผัสได้ถึงการคงอยู่จากควันแห่งพลังเซียนคืออะไรกัน ! ? ”

 

“นี้ที่แท้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน ! ? ”

 

ชนชั้นมหาราชันมากมายราวกับบ้าคลั่งขึ้นมา หากว่าทางด้านในนี้ไม่มีอันใดแล้วละก็ เช่นนั้นตลอดรายทางมานี้ที่ผ่านมาอย่างยากลำบากนี้ที่แท้ถือเป็นอะไรกัน

 

“เป็นไปได้ว่าจะเป็นสมบัติแห่งแดนซีฮวงโลงศพเก้าฟ้าในตำนานจริง กล่าวกันว่าโลงศพเก้าฟ้ามักจะทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า นี้มิใช่ครั้งแรกที่ได้มีการพบเจอกับโลงศพ อีกทั้งยังมีการหยิบยืมพลังปราณที่แท้จริงเช่นนี้อย่างน้อยก็ย่อมเพียงพอที่จะสามารถที่จะเสาะหาสุสานที่แท้จริงได้ ” มีคนได้คาดเดาขึ้นมา แต่ว่าการคาดเดาเช่นนี้กลับยิ่งทำให้ผู้คนมีสีหน้าปั้นยากขึ้นมาอย่างถึงที่สุด

 

“ไม่ถูกต้อง พวกเจ้าดู ที่แห่งนี้ราวกับยังหลงเหลือสิ่งของเอาไว้บางอย่างอยู่ ! ” ไม่นานนัก ก็ได้มีชนชั้นมหาราชันในตอนนี้พบว่าเมื่อได้ยกเอาโลงศพขึ้นมา ราวกับหลงเหลือร่องรอยเอาไว้ส่วนหนึ่ง ในนั้นราวกับแฝงเอาไว้ด้วยความหมายที่สูงสุดบางอย่างเอาไว้

 

“สิ่งที่สืบทอดของจักรพรรดิฟ้าตะวันออก ! ? ”

 

ในขณะนั้นเอง แม้แต่ชนชั้นมหาราชันต่างก็บ้าคลั่งขึ้นมาแล้ว ต่อให้ไม่พบเจอกับศพจักรพรรดิ แต่พบกับสิ่งที่สืบทอดของจักรพรรดิฟ้า ก็ถือได้ว่าเป็นวาสนาอันยิ่งใหญ่แล้ว

.

.

.

.

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset