เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 567 การเปิดของสุสาน

ตอนที่ 567 การเปิดของสุสาน

 

ทะเลอัสนีไหลอย่างช้าๆ ประดุจดั่งภาพทิวทัศน์ที่ไม่อาจที่จะเห็นดวงตะวันก็มิปาน สามารถที่จะคิดได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือในระดับใดก็ตามหากว่าตกเข้าไปอยู่ภายใต้ของทัณฑ์อสนีบาตเช่นนี้ อย่างน้อยต่างก็คงต้องตายตกไปในทันทีอย่างแน่นอน ไม่อาจที่จะมีสิ่งใดฟื้นฟูกลับคืนมาได้อีก

 

หลังจากนั้นสักพัก ทัณฑ์อสนีบาตที่ได้ปรากฏขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยนั้นก็ได้ค่อยๆ ที่จะเลือนรางหายไป จากนั้นขุมกำลังแต่ละฝ่ายที่กำลังคุมเชิงอยู่ท่ามกลางสนาม แต่ละคนต่างก็ทอสีหน้าที่ยากจะอธิบายออกมาได้

 

เห็นได้ชัด คนเหล่านี้ต่างฝ่ายต่างก็ได้ครอบครองชิ้นส่วนที่อยู่บนโลงศพไป ต่างก็ได้ครอบครองประโยชน์เอาไว้ได้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ต่อให้ภายในนั้นจะมีร่องรอยของสิ่งบันทึกอยู่มากมายที่ต่างก็ถือได้ว่าเป็นความลับอันยิ่งใหญ่ แต่ว่าก็ยังถือได้ว่าเป็นถึงสิ่งที่หลงเหลือเอาไว้จากจักรพรรดิฟ้าชิง ต่อให้สามารถที่จะทำความเข้าใจเพียงแค่เศษเสี้ยวเดียวเพื่อใช้ฝึกปรือ เกี่ยวกับชนชั้นมหาราชันเหล่านี้ ก็เหมือนกับการเข้าไปสู่อีกเส้นทางสายใหม่ได้เลยก็ว่าได้ หากมิใช่ขณะนี้ยังพอที่จะมีสิ่งอื่นอีกแล้วละก็ ชนชั้นมหาราชันที่ได้ครอบครองประโยชน์เหล่านี้ เกรงว่าต่างก็คงจะหวนกลับไปเพื่อที่จะเก็บตัวไปในทันที

 

“ทุกท่าน เมื่อครู่ข้าราวกับมองเห็น สมบัติจักรพรรดิที่ไม่มีผู้ใดหาญกล้าพอที่จะแตะต้อง ได้ตกไปยังในมือของชนชั้นรุ่นหลังเยี่ยจงผู้นั้นแล้ว” มหาราชันปีศาจทุนเทียนที่ในขณะนี้อยู่ในสภาพที่พิกลพิการไปแล้วก็ได้ละสายตากลับมามองภายในพริบตา จนเขามาจนถึงบนร่างของเยี่ยจง กล่าวขึ้นมาอย่างเย็นเยียบ

 

“เจ้านกที่น่าตาย เจ้ามีหลักฐานอย่างงั้นหรือ ? ไม่มีหลักฐานก็อย่าได้กล่าววาจาวุ่นวายไป เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะฟาดเจ้าให้ตายคาที่เอง ? ” เยี่ยจงกำลังขมวดคิ้วอยู่ เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นเยียบ

 

“เจ้า……” มหาราชันปีศาจทุนเทียนถลึงตาออกมาโดยอาการที่โกรธจัด เขาที่เป็นถึงปีศาจมหาราชัน แต่ว่ากลับต้องมาถูกเยี่ยจงดูถูกดูแคลนจนถึงเพียงนี้ อีกทั้งยังมิใช่เพียงแค่ครั้งสองครั้ง ทำให้เขาไม่อาจที่จะข่มความต้องการที่จะกัดเยี่ยจงให้ตายได้

 

“ทุกท่านหยุดทะเลาะกันสักครู่เถอะ บางที โลงศพเก้าฟ้าถ้าต้องการที่จะปรากฏขึ้นมาภายในดินแดน ! ” ชนชั้นมหาราชันของหุบเขากระบี่แดนตงฮวงทันใดนั้นเอ่ยปากขึ้นมา เขาในขณะนี้ก็ได้จ้องไปที่หลุมฝังศพในบริเวณที่ห่างไกล ทอสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา

 

หลังจากที่เงียบงัน ผู้คนทั้งหมดต่างก็ต่างก็เกิดความคิดขึ้นมา ทอดสายตากวาดมองเข้าไปอย่างรวดเร็ว

 

ขณะนี้ หลุมศพที่ดูไปแล้วเก่าแก่โบราณที่ได้มอดไหม้ทำลายไปกว่าครึ่งแล้วนั้น ก็ได้ปรากฏร่องรอยขึ้นมาสายหนึ่ง และเดิมทีจุดที่มีจิตมารปรากฏขึ้นมาตรงส่วนของปลายยอด ขณะนี้ก็ได้หายสาบสูญจนไม่อาจที่จะพบได้อีกแล้ว อีกทั้งหอกกระดูกที่ได้เสียบแทงเขาอยู่เดิมทีอยู่นั้น ขณะนี้ก็ได้กลายเป็นเพียงเศษซากนับไม่ถ้วนไปแล้ว

 

แต่ว่าทั้งหมดนั้นยังมิใช่จุดสิ้นสุด ท่ามกลางร่องรอยของสุสาน ขณะนี้ก็ได้มีสภาวะอันวุ่นวายปะทุขึ้นมาเป็นสาย ประดุจดั่งพลังแห่งเซียนก็มิปาน ลอยวนเวียนออกมาไม่หยุด

 

“เป็นอาจจะไปได้ว่า ตำแหน่งใจกลางของสุสานโลงศพเก้าฟ้านี้งั้นหรือ ? ”

 

จิตใจของผู้คนทั้งหมดต่างก็ถูกชักจูงไป พวกเขาลำบากลำบนมาจนถึงสถานที่แห่งนี้ กลับต้องมาพบเจอกับชิ้นส่วนของโลงศพเพียงแค่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้นเองอย่างงั้นหรือ นี้ได้ทำให้ผู้คนเกิดต่างก็เกิดความอัดอั้นอย่างถึงที่สุด และสภาวะจิตใจในขณะนี้ก็เห็นได้ชัดว่าจะยังต้องมีสิ่งของอะไรปรากฏขึ้นมาอย่างแน่นอน จนทำให้พวกเขาเกิดความคาดหวังขึ้นมาอย่างเต็มเปี่ยม

 

ไม่นานนัก ท่ามกลางสุสานแห่งนี้ ก็ได้มีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นมาเป็นฉากฉาก ประดุจดั่งว่ามีบางสิ่งที่มีขนาดใหญ่กระโดดออกมาจากบริเวณศูนย์กลางอยู่ก็มิปาน จังหวะของเสียงเช่นนี้ถือได้ว่ารวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง ประดุจจิตใจของแต่ละคนต่างก็ได้ถูกลั่นเสียงกล้องอยู่ก็มิปาน

 

สีหน้าของชนชั้นมหาราชันภายในสนามต่างก็ขยับขึ้นเล็กน้อย เผยออกมาให้เห็นถึงสีหน้าที่กำลังครุ่นคิดอยู่ เพราะว่าฉากนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายจนเกินไปแล้ว ภายในท่ามกลางสุสานแห่งนี้ เห็นได้ชัดว่าย่อมต้องมีสิ่งของบางอย่างปรากฏขึ้นมา แต่ว่าเมื่อดูจากการรูปแบบในการสร้างขึ้นมาเช่นนี้ เป็นไปได้ว่าจะต้องมีการปรากฏขึ้นมาของสิ่งมีชีวิตให้ได้อย่างงั้นหรือ ?

 

“เป็นไปได้ว่า จักรพรรดิฟ้าชิงยังมิได้ตายไป โลงศพหยกเมื่อครู่นี้ทว่าก็เป็นเพียงแค่ของปลอมเท่านั้น เพื่อที่จะทำให้คิดว่าเขานั้นได้ตายตกไปแล้ว แต่ว่าความจริงแล้วเพียงแต่หลับใหลอยู่ภายในใจกลางของหลุมศพไปแล้วอย่างงั้นหรือ ? อย่างน้อยโลงศพเก้าฟ้าสมบัติชิ้นนั้นแห่งแดนซีฮวงถึง จะยังคงอยู่ภายในสุสานงั้นหรือ ? ” มหาราชันเหยียนเองก็ได้เริ่มที่ครุ่นคิดคาดเดาบางอย่างขึ้นมาแล้วเอ่ยปากขึ้นมา ทว่า การคาดเดาของเขานี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นสิ่งที่บ้าคลั่งเป็นอย่างมาก

 

“เป็นไปได้อย่างไร ? จักรพรรดิฟ้าชิงได้อยู่บนโลกนี้มานับแต่โบราณกาลจวบจนวันนี้ก็กินเวลาไปแล้วกว่าสิบหมื่นปีขึ้นไปแล้ว ต่อให้เป็นในตำนานของจักรพรรดิฟ้า อย่างน้อยก็คงต้องตายตกกันไปแล้วละ ไม่มีคนที่จะสามารถที่จะมีอายุที่ยั่งยืนเช่นนั้นได้หรอก ! หากว่าสามารถมีอายุยืนนับหมื่นปี จักรพรรดิฟ้าเหล่านี้ใยยังจำเป็นที่จะต้องเสาะหาเส้นทางแห่งเซียนอีกกัน ? ” มหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อส่ายหน้าไปมา หัวเราะอย่างเย็นเยียบพร้อมทั้งเอ่ยปากขึ้นมา เห็นได้ชัดเขาแน่นอนว่าไม่อาจที่จะเชื่อความข้อนี้ได้เลย

 

“พวกเจ้ากำลังหวาดกลัวกันอยู่ หากว่าจักรพรรดิฟ้าแห่งเผ่ามนุษย์ข้าตนหนึ่งฟื้นคืนชีพขึ้นมา เผ่าพันธุ์อื่นนับหมื่นอย่างพวกเจ้า ก็ยังจำเป็นที่จะต้องสยบให้แก่เผ่ามนุษย์เรามิใช่หรือ ? ” ราชาสือทันใดนั้นยิ้มน้อยๆ เอ่ยปากขึ้นมา ราวกับคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ก็มิปาน

 

“จักรพรรดิฟ้าตนหนึ่ง ยังถึงกับสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงสภาวะของตลอดทั่วทั้งฟ้าดินได้ ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่มนุษย์ศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่อาจที่จะแน่ชัดได้ ยังต้องนึกถึงจักรพรรดิฟ้าตนหนึ่งอีกงั้นหรือ นี้ก็เป็นได้เพียงแค่ความนึกคิดเท่านั้น” มหาราชันเผ่าปีกกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่ว่าภายในน้ำเสียงนั้นกลับแฝงเอาไว้ความตื่นตระหนกไม่เสื่อมคลายอยู่หลายส่วน

 

ขณะนี้ ท่ามกลางสุสานที่ได้ถูกทำลายลงไปแล้วนั้น ก็ได้แฝงเอาไว้ด้วยเสียงที่ลี้ลับขึ้นมาอย่างใหญ่หลวง จนท้ายที่สุด ประดุจดั่งมีคนกำลังจะเปิดศึกขึ้นมาอยู่ก็มิปาน พลังฝีมือเหล่านี้ถึงแม้ว่าจะพบว่าอ่อนโทรมกว่าตนเองแต่ก็ยังพอที่จะทำให้เกิดอาการตื่นเต้นภายในจิตใจขึ้นมาได้

 

“แย่แล้ว อย่าได้ไปฟังเสียงเหล่านั้น มิเช่นนั้นแล้วละก็ พวกเจ้าก็จะต้องตาย ! ” ไต๋ซือหวู่โหวพริบตานั้นก็ได้ตะโกนออกมาเสียงหนึ่ง จนทำให้จงหลี่และพวกต่างก็กระอักโลหิตออกมาคำโต แต่ว่าพวกเขากลับยังคงทอสีหน้าแห่งความยินดีขึ้นมาอยู่ เพราะว่าหากมิใช่ไต๋ซือหวู่โหวลงมือออกมาในช่วงเวลาที่คับขันแล้วละก็ พวกเขาทั้งหมดในครั้งนี้ก็คงจะต้องไปพบกับยมบาลแล้ว

 

ทว่าเยี่ยจงเพียงแค่ขมวดคิ้วไปมา เขานั้นได้มีพลังกายาทองไม่สูญสลายความสำเร็จเล็ก กายเนื้อจึงอยู่เหนือกว่าผู้คนโดยทั่วไป เสียงเหล่านี้ย่อมไม่อาจที่จะสร้างผลกระทบต่อเขาได้เลยแม้แต่น้อย

 

ความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ได้ทำให้ชนชั้นมหาราชันมากมายต่างก็เผยสีหน้าความกังวลขึ้นมา เพราะว่าตลอดรายทางมานี้ เรื่องที่พบเจอมามากมาย ทำให้ผู้คนยากที่จะคาดคิดสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ได้

 

“ตูม——”

 

ทันใดนั้น ภายในหลุมศพก็ได้เกิดการระเบิดขึ้นมา เดิมที่ตัวของหลุมศพนั้นมีความหนาแน่นอย่างไร้ที่เปรียบก็ได้เกิดการสั่นไหวขึ้นมาในขณะนี้ แล้วก็ได้ร่วงหล่นลงกับพื้นไป

 

และในขณะนั้นเอง ผู้คนทั้งหมดต่างก็รู้สึกขนลุกชูชัน เพราะว่า บริเวณที่อยู่ภายในหลุมศพนี้ สามารถที่จะพบเห็นคราบเลือดในบริเวณต่างๆ ได้ อีกทั้งเลือดเหล่ายังมีสีดำมืด ดูไปแล้วชั่วร้ายจนเป็นที่น่าตกใจ จนทำให้ผู้คนไม่อาจที่จะไม่ก่อมรสุมการต่อสู้ภายในจิตใจขึ้นมาได้ เพราะว่า คราบเลือดเหล่านี้สดใหม่เป็นอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่าพึ่งจะมีการเข้าไปยังภายในได้ไม่นานนัก

 

“คงจะมิใช่เป็นภายในท่ามกลางสุสานชั้นที่หนึ่งและชั้นที่สองนั้น ที่เกิดการตายตกของยอดฝีมือจำนวนมากมาย โลหิตทั้งหมดทั้งมวลต่างก็ได้มารวมตัวกันในที่แห่งนี้กันหรอกนะ ? ” จงหลี่แสยะมุมปากขึ้นมา ทันใดนั้นเอ่ยปากขึ้นมา

 

คำพูดนี้แม้ว่าจะมิใช่คำพูดที่จงใจกล่าวออกมา คนมากมายต่างก็รู้สึกได้ว่าเป็นไปได้ยาก แต่ว่าพริบตาที่ได้ยินคำพูดนี้ ผู้คนไม่น้อยต่างก็รู้สึกขนลุกชูชันขึ้นไปตามๆ กัน เพราะว่านี้หากว่าเป็นเรื่องจริงแล้วละก็ ก็ถือได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมายจนเกินไปแล้ว เหตุใดถึงได้เกิดเรื่องอย่างฉากนี้ขึ้นมาได้กัน

 

“ภายในหลุมศพนี้ ราวกับยังมีตำหนักศิลาอยู่อีกหลังหนึ่ง เป็นไปได้ว่านี้จึงถือได้ว่าเป็นพื้นที่ที่เป็นสุสานแห่งจักรพรรดิฟ้าชิงที่แท้จริงอย่างงั้นหรือ ? หรือไม่ก็ พื้นที่นี้ก็เป็นสุสานเซียนที่แท้จริง ที่ในสมัยก่อนแม้แต่จักรพรรดิฟ้าชิงเองก็ยังไม่อาจที่จะหาได้พบ ? ” ผู้คนมากมายต่างก็เกิดอาการจตกใจขึ้นมาไม่หยุดนิ่ง เพราะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมานี้ถือได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมายของผู้คนทั้งหมดมากจนเกินไปแล้ว ทำให้ผู้คนมีความรู้สึกสงสัยขึ้นมาชนิดหนึ่ง

 

ยอดฝีมือมากมายก็ได้จ้องไปที่ตำหนักศิลานั้นที่ได้ปะทุออกมาให้เห็นในขณะนี้ในเวลาเดียวกัน ต่างก็รู้สึกหนาวสั่นเข้าไปจนถึงกระดูก

 

ตำหนักศิลาหลังนี้เล็กเป็นอย่างมาก ทว่ามีความสูงเพียงแค่ไม่กี่เมตรเท่านั้น ประดุจได้ใช้ปราณบริสุทธิ์ในการก่อสร้างตัวตำหนักขึ้นมาก็มิปาน เรียกได้ว่าเป็นที่แปลกตาเป็นอย่างมาก ด้วยสิ่งปลูกสร้างที่ละเอียดลออต่างก็ได้เกิดขึ้นมาในตอนนี้ หากมิใช่ออกมาให้เห็นในสถานที่แห่งนี้แล้วละก็ คนมากมายอย่างน้อยต่างก็คงจะคิดว่าเป็นประติมากรรมที่วิจิตรงดงามชิ้นหนึ่งเท่านั้น

 

แต่ว่าในเมื่อออกมาจากสถานที่แห่งนี้ในตอนนี้ สามารถที่กล่าวได้ว่าทุกผู้คนต่างก็ทราบวัตถุชิ้นนี้ย่อมไม่ธรรมดา เพียงแต่ยากที่กล่าวออกมาได้ชัดเจน ที่ภายในนั้นที่แท้มีวาสนาแห่งสวรรค์ หรือว่าเป็นความประหลาดจากสวรรค์กันแน่

 

“กึง——”

 

ชนชั้นมหาราชันของหุบเขากระบี่แดนตงฮวงในขณะที่ขมวดคิ้วขึ้นมา จากนั้นทันใดนั้นเขาก็ได้ลงมือปานอสนีบาตก็มิปาน คมกระบี่สายหนึ่งก็ได้ถูกกวาดออกไป วินาทีนั้น ก็ได้พบว่าตำหนักศิลานั้นได้แตกกระจายออกไป จนกลายเป็นประกายแสงสีทองที่เผาไหม้สายหนึ่งลุกโชนขึ้นมา และในวินาทีนั้นเอง ผู้คนทั้งหมดต่างก็ต่างก็เกิดความอัดอั้นจุอยู่ในอก มีอยู่มากมายที่ได้ตะโกนร้องออกมาเสียงดัง ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

 

เยี่ยจงที่ได้ใช้ออกมาด้วยกระบี่แสงจันทร์นับตั้งแต่ ก็ได้คุ้มครองกลุ่มผู้คนที่อยู่ทางด้านหลัง แล้วก็ได้พยายามที่จะถอยมุ่งหน้าไปยังบริเวณทางด้านหลังอย่างไม่คิดชีวิต เพราะว่าในพริบตาแรกเขาก็จดจำขึ้นมาได้ เพลิงสีทองที่ลุกไหม้ขึ้นมานี้ แท้จริงแล้วก็คือเพลิงกาฬลำดับที่เก้าที่เขาได้พบเจอเมื่อคราวก่อนที่แดนเสี่ยวหนาน เพลิงกาฬเช่นนี้ ไม่แน่ว่าแม้แต่มนุษย์ศักดิ์สิทธิ์เองก็ยังอาจที่จะต้องมอดไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านไปได้ในทันที ในด้านของชนชั้นมหาราชัน ต่อให้มากี่คนก็คงจะต้องตายไปเท่านั้นเช่นกัน

 

“สวรรค์ ! นี้มันเป็นบรรยากาศอะไรกัน ชนชั้นมหาราชันที่อยู่ทางด้านบนในที่ห่างไกลออกไป เป็นไปได้ว่านี้จะเป็นสภาวะในตำนานของมนุษย์ศักดิ์สิทธิ์อย่างงั้นหรือ ? ”

 

“ให้ตายเถอะ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นมังกรอสรพิษถึงสองตัว เมื่อครู่ข้าก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้องแล้ว ! ให้ตายเถอะ ! ”

 

“หนี ! ”

 

ในขณะนั้นเอง รวมทั้งชนชั้นมหาราชันก็ด้วย ผู้คนทั้งหมดต่างก็ไม่มีความคิดที่จะเข้าไปอีกแม้แต่น้อย เพียงแต่เกิดความหวาดหวั่นขึ้นมาอย่างไร้ที่เปรียบในขณะที่กำลังถอยออกไป

 

เพราะว่า ท่ามกลางในระยะร้อยกว่าเมตรของอารามศิลา ขณะนี้ก็ได้มีเงาร่างของมังกรอสรพิษสองตัวปรากฏขึ้นมา แม้ว่าในเวลาที่พึ่งจะปรากฏตัวขึ้นมา พวกมันทว่าจะมีความยาวเพียงแค่เมตรเดียว อีกทั้งเลือดเนื้อยังเหี่ยวเฉาอย่างถึงที่สุด แต่ว่าขณะนี้เหมือนดั่งกำลังดูดซับพลังปราณฟ้าดินประดุจสายน้ำเข้าไป กายเนื้อของพวกมันก็ได้อยู่ในสภาวะที่ถูกฟื้นฟูขึ้นมาในระดับความเร็วที่ยากจะคาดคิดขึ้นมาได้ชนิดหนึ่ง พริบตานั้นก็ได้ยาวขึ้นมาอีกหลายสิบเมตร

 

อีกทั้ง พลังแรงกดดันความน่าหวาดกลัวในระดับที่ยากที่จะคาดคิดชนิดหนึ่งก็ได้แผ่กระจายออกมา และเมื่อครู่คนมากมายต่างก็ได้ชักเอาอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุออกมาเช่นเดียวกัน จนทำให้ยอดฝีมือทั้งหมดทั่วทั้งสนามเข้าใจขึ้นมาได้ในทันที มังกรอสรพิษทั้งสองตัวนี้สมควรที่จะต้องมีพลังในการต่อสู้ในระดับมนุษย์ศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นตัวใดต่างก็สามารถที่จะสังหารชนชั้นมหาราชันทั้งหมดท่ามกลางสนามลงได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้น ขณะนี้นึกไม่ถึงว่ายังถึงกับมีถึงสองตัวอย่างงั้นหรือ ?

 

อีกทั้ง มังกรอสรพิษทั้งสองตัวนี้ไม่ทราบว่าถูกผนึกเอาไว้อยู่ในสถานที่แห่งนี้มานานกี่ปี นึกไม่ถึงยังถึงกับมีพลังชีวิตเช่นนี้อยู่อีก นั้นเป็นเหมือนกับเสียงที่เต้นดังออกมาจากภายในจิตใจ เห็นได้ชัดว่าได้มาจากตัวของพวกมัน นี้ได้ทำให้ผู้คนต่างก็เกิดอาการขนลุกหนาวสั่นไปจนถึงกระดูก หากว่ายังไม่ถอยไปอีกแล้วละก็ ภายในพริบตาที่มังกรอสรพิษทั้งสองตัวนี้ฟื้นฟูจนสมบูรณ์ขึ้นมา เกรงว่าอาจจะสามารถที่จะสังหารผู้คนทั้งหมดท่ามกลางสนามก็เป็นได้

 

เยี่ยจงและคณะเรียกได้ว่าถอยออกไปได้เร็วที่สุด เพราะว่าเยี่ยจงเข้าใจได้เป็นอย่างดี เพลิงกาฬสีทองเมื่อครู่ชนิดนั้นมีความร้ายกาจถึงเพียงใด ขณะนี้พวกเขาก็ได้พยายามที่จะกลับไปยังเส้นทางเดิม อีกทั้งไม่ทราบว่าตั้งแต่เวลาใด พลังแรงกดดันวิถีเซียนอันน่าหวาดกลัวนั้นได้เลือนรางหายไปแล้ว จนทำให้พวกเขาสามารถที่จะใช้กำลังทั้งหมดถอยออกไปได้

 

ในขณะนั้นเอง ชนชั้นมหาราชันอื่นๆ เองก็พบว่าเป็นเช่นนั้น แต่ว่าต่อให้เป็นดั่งมหาราชันปีศาจทุนเทียนที่คิดจะกลืนกินการคงอยู่ของเยี่ยจงลงไปให้ได้นั้นเอง ก็มิได้ไปหาเรื่องกับเยี่ยจงอีกในเวลาเช่นนี้ เพราะว่าเขาเองก็เข้าใจได้เป็นอย่างดี หากว่ามังกรอสรพิษทั้งสองตัวที่มีพลังในระดับมนุษย์ศักดิ์สิทธิ์ฟื้นคืนพลังกลับมาจนสมบูรณ์ได้แล้วละก็ เช่นนั้นผู้คนทั้งหมดที่เข้ามายังสถานที่แห่งนี้ ต่างก็คงจะไม่มีชีวิตรอดออกไปได้แม้แต่เพียงคนเดียว นี้ได้ทำให้ผู้คนต่างก็หนาวสั่นเข้าไปจนถึงกระดูกดำ ยิ่งไม่กล้าที่จะแม้แต่จะหยุดเท้าลงด้วยซ้ำ

 

“ข้าว่า พวกเจ้าเมื่อครู่เห็นชัดเจนแล้วมิใช่หรือ ภายในพริบตาที่ตำหนักศิลาปรากฏขึ้นมา มังกรอสรพิษทั้งสองตัวอยู่ในสภาพจำศีลอยู่ พวกเขาราวกับเป็นผู้คุ้มกันความลี้ลับที่อยู่ภายในโลงศพหยกนี้ ของสิ่งนั้นคงจะมิใช่โลงศพเก้าฟ้าที่แท้จริงหรอกกระมั่ง ? ” จงหลี่ทางหนึ่งก็ได้ใช้ออกมาด้วยถ้วยทุนเทียนเพื่อคุ้มกันร่างเอาไว้ ทางหนึ่งก็ครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้หลายแบบเอ่ยปากขึ้นมา

 

“เจ้าหนูเหม็นเน่า นี้เป็นเวลาอะไรกันแล้ว ยังจะคิดถึงสิ่งของนั้นอีก ไม่เกรงกลัวมังกรอสรพิษทั้งสองตัวที่จะเข้ามันงับพวกเราสักคำหรือยังไงกัน ? ” ไต๋ซือหวู่โหวอดที่จะไม่ด่าทอออกมา ต่อให้เป็นพลังฝีมืออย่างเขา เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมังกรอสรพิษทั้งสองตัว ก็มีแต่ต้องถอยเพียงถ่ายเดียวเท่านั้น

 

“ทางนั้นย่อมต้องมีความเกี่ยวข้องกับโลงศพหยกอย่างแน่นอน ยากที่จะคาดเดาได้ว่าแท้จริงแล้วภายในนั้นแท้จริงแล้วได้ผนึกสิ่งใดเอาไว้อยู่กันแน่ หรือว่าจะเป็นศพเซียนจริง ? ความข้อนี้เกรงว่าจักรพรรดิฟ้าชิงเมื่อสมัยก่อนก็ยังไม่อาจที่จะพบได้” ชิงหญิงที่ไม่ค่อยจะเอ่ยปากขึ้นมา ก็ได้ครุ่นคิดอย่างหนักแน่น

 

คนทั้งหลายต่างก็กล่าวอะไรไม่ออก ทราบว่าโลงศพหยกนั้นมีที่มาที่ไปที่ไม่ธรรมดา อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับตำหนักสวรรค์เก้าชั้นและโลงศพเก้าฟ้าที่ได้พบเห็นก่อนหน้าอย่างแน่นอน แต่ว่าในช่วงที่สำคัญเช่นนี้ ยังจะมีผู้ใดกันที่หาญกล้าที่จะหันกลับไปช่วงชิงอีกกัน ? หรือว่า จะกลับไปเพื่อที่จะทำความเข้าใจกันแน่ ?

.

.

.

#####################################

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น กลุ่ม 7-14 ราคา 600
VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA
VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x
VIP9 https://goo.gl/1jPZtn
VIP10 https://goo.gl/L8awva
VIP11 https://goo.gl/rojEiG
VIP12 https://bit.ly/375DtZJ
VIP13 https://bit.ly/2mkmj8y
VIP14 https://bit.ly/2YHVTfY
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ
www.facebook.com/ZuiQiangWuShen

#####################################

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset