เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ – ตอนที่ 137 ฆ่าลูกสุนัขก่อนแล้วค่อยฆ่าพ่อสุนัข

การฆ่าคน แต่ไหนแต่ไรเย่เทียนเฉินก็ไม่เคยฆ่าคนแบบหลบๆ ซ่อนๆ และไม่เคยปิดบัง นั่นไม่ใช่นิสัยของเย่เทียนเฉิน ในจุดนี้เขาเหมือนกับอู๋เสวี่ยที่เป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งของเมืองหลวง  ก่อนฆ่าคนจะต้องประกาศให้อีกฝ่ายรู้ ให้จัดเตรียมเรื่องราวหลังจากนี้ให้ดี จากนั้นค่อยฆ่า การกระทำเปิดเผยตรงไปตรงมาเป็นวิสัยของยอดฝีมือ

เย่เทียนเฉินยืนอยู่ใจกลางของบ้านตระกูลลั่ว มองไปยังคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามที่อยู่ไม่ไกลที่ยังคงมีแสงไฟสว่างอยู่ เขาย่อมรู้แน่นอนอยู่แล้วว่าลั่วซงเฉิง ลั่วกวงฮุยและลั่วฉี สามพ่อลูกอยู่ที่นั่น ตอนนี้เย่เทียนเฉินที่พลังพิเศษไปถึงขอบเขตจอมราชันเรียบร้อยแล้ว พลังพิเศษแห่งการรับรู้ ไม่ทราบว่าแข็งแกร่งมากกว่าเดิมกี่เท่า เขาไม่ได้พุ่งเข้าไปฆ่าสามพ่อลูกนี้โดยตรง เพราะในสายตาของเขา สุนัขถ่อยสามตัวนี้ ในเมื่อเป็นสุนัขก็ต้องโผล่ออกมารับความตายด้วยตัวเอง มีใครบ้างที่ฆ่าสุนัขตัวหนึ่งแล้วยังต้องเปลืองเท้าให้มากมายอีก?

เดิมทีสามพ่อลูกตระกูลลั่วนี้กำลังกินดื่มอยู่ในห้องโถงของคฤหาสน์ เมื่อได้ยินเสียงปืนก็ตกใจจนอดรนทนไม่ไหว คิดว่าทำไมถึงได้มีเสียงปืนกัน? หรือว่ามีคนกล้าบุกเข้ามาที่บ้านตระกูลลั่วของเขาด้วย?

ไหนเลยจะรู้ว่า ในตอนที่สามพ่อลูกกำลังวางแก้วเหล้าลงและออกไปดู ก็ได้ยินเสียงของเย่เทียนเฉิน ทันใดนั้นทั้งสามมีสีหน้าซีดเทาราวคนตาย มีท่าทางไม่อยากจะเชื่อโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะลั่วกวงฮุยที่เดิมทีใจกล้าเป็นอย่างมาก ตอนนี้เมื่อได้ยินเสียงของเย่เทียนเฉิน ตกใจจนก้นกระแทกลงบนโซฟา

“มะ มะ ไม่ดีแล้ว เย่เทียนเฉิน มะ มาแล้ว…” ลั่วกวงฮุยตกใจจนพูดติดอ่าง

“ไม่ เป็นไปไม่ได้ ไอ้ลูกเต่านั่นทำความผิดร้ายแรงขนาดนี้ แล้วจะยังกล้าปรากฏตัวได้ยังไง ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ?” ลั่วฉีเองก็พูดอย่างตกใจ

สีหน้าของลั่วซงเฉิงไม่น่าดูเป็นอย่างมาก ในใจของเขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี เป็นเย่เทียนเฉินมาจริงๆ เย่เทียนเฉินมาฆ่าพวกเขาสามพ่อลูกแล้ว นี่มันคือปีศาจ เป็นอะไรที่ไม่สามารถคาดเดาได้จากเหตุผลปกติ เป็นเทพแห่งความตายที่ไม่สามารถใช้กฎหมายและอำนาจไปบังคับควบคุมได้ เป็นคนที่ทำตามหลักการโดยไม่สนใจตัวคน

“พวกแกจะตกใจอะไรกัน เป็นไอ้เลวเย่เทียนเฉินนั้นไปไม่ได้หรอก ต่อให้เป็นมัน ฉันก็จะดูซิว่ามันจะทำอะไรได้ ฉันจะคอยดู ว่ามันจะกล้าฆ่าฉันจริงๆ หรือเปล่า!” เสียงของลั่วซงเฉิงไม่เบานัก

ความจริงแล้วในใจของลั่วซงเฉิงก็สั่นไหวเป็นอย่างมาก เขาในตอนนี้คิดไม่ตกว่า เย่เทียนเฉิน คนนี้เป็นเทพแห่งความตายหรือเป็นปีศาจกันแน่ เพิ่งจะก่อความผิดใหญ่หลวงไป แล้วยังเป็นตระกูลฉินซึ่งเป็นตระกูลชั้นหนึ่งของเมืองหลวง ไม่ยอมหลบอยู่ใต้หยางอี้ดีๆ ยังถึงกับกล้าปรากฏตัวออกมา แล้วยังกล้ามาก่อเรื่องที่ตระกูลลั่วของเขาอีก ไม่กลัวตายเลยหรือไง?

นอกจากนี้ในสายตาของลั่วซงเฉิง ต่อให้เย่เทียนเฉินมาแล้วเป็นอย่างไร หรือเขาจะยังกล้าฆ่าตนเองสามพ่อลูกจริงๆ? กล่าวตามจริง ลั่วซงเฉิงไม่เชื่อ เขาไม่เชื่อว่าเย่เทียนเฉินจะมีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวขนาดนี้ ต่อให้เป็นตอนที่เขาบุกตระกูลฉิน ก็กล้าฆ่าแค่ฉินเหิงและอัดฉินเทาหยวนอย่างแรงเท่านั้น ส่วนฉินอี้เขาไม่กล้าลงมือ คิดๆ ดูแล้วคนที่ซวยที่สุดก็คือฉินอี้ ถึงกับถูกเย่เทียนเฉินทำให้โกรธจนโรคหัวใจกำเริบตาย คราวซวยมาถึงตัวจริงๆ

“ลั่วซงเฉิง ลั่วกวงฮุย ลั่วฉี สุนัขสามตัวอย่างพวกแกยังไม่ออกมาอีก? ถ้ารอให้ฉันเข้าไป คงไม่ทำให้พวกแกตายสบายขนาดนั้นแล้ว!” เย่เทียนเฉินหาวครั้งหนึ่ง จุดบุหรี่ขึ้นสูบมวนหนึ่ง จากนั้นจึงตะโกนต่อไป

ทั่วทั้งบ้านตระกูลลั่ว ถูกเขตแดนปิดกั้นของเย่เทียนเฉินคลุมไว้หมดแล้ว ด้วยเหตุนี้กูตู๋อ๋างและชางหลางที่อยู่ด้านนอกจึงรู้สึกแปลกใจมาก เพราะหากพูดตามเหตุผลแล้ว เย่เทียนเฉินบุกเข้าไปในตระกูลลั่ว จะต้องมีเสียงต่อสู้ ต้องมีเสียงปืนถึงจะถูก ตอนนี้พวกเขาอยู่ด้านนอกราวๆ สิบนาทีแล้ว ถึงกับไม่ได้ยินเสียงจากด้านในของบ้านตระกูลลั่วแม้แต่น้อย นี่ทำให้รู้สึกสงสัยมากจริงๆ

“ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ชางหลางอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

“ฮ่าๆ ดูท่าเย่เทียนเฉินจะโง่จริงๆ ลูกน้องคนสนิทของลั่วซงเฉิงพวกนั้น ในมือของทุกคนล้วนมีอาวุธอยู่ เขาเข้าไปแบบนี้จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายไม่ต้องคิดหรอก เขาฆ่าหลานทั้งสองของตระกูลลั่ว ลั่วซงเฉิงจะปล่อยเขาไปหรือไง? เย่เทียนเฉินต้องตายแน่นอน!”กูตู๋อ๋างพูดพลางยิ้มเย็นชา

ชางหลางมองกูตู๋อ๋าง ไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่ยืนขึ้นมา วิ่งไปทางบ้านตระกูลรั่วอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้กังวลว่าเย่เทียนเฉินจะตาย เพราะความสามารถของคนๆ นี้กระทั่งเขาก็ยังมองไม่ออก สิ่งที่เขากังวลที่สุดก็คือเย่เทียนเฉินจะเปิดฉากฆ่าครั้งใหญ่จริงๆ จะฆ่าล้างตระกูลลั่ว เช่นนั้นก็จะครึกโครมขึ้นมาจริงๆแล้ว

เมื่อเห็นชางหลางวิ่งไปยังบ้านตระกูลลั่วด้วยความเร็ว กูตู๋อ๋างก็ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วรีบตามไป เขาอยากจะเอาชนะชางหลาง แล้วอยากจะสั่งสอนเย่เทียนเฉินสักหน่อย จะยอมล้าหลังได้อย่างไร

ในตอนนี้ ลั่วซงเฉิง ลั่วกวงฮุยและลั่วฉี สามพ่อลูกเดินออกมาจากห้องโถงของคฤหาสน์ มาถึงบริเวณส่วนกลางของบ้านตระกูลลั่ว เห็นเย่เทียนเฉินนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง สูบบุหรี่อย่างสบายใจ ฮัมเพลงเป็นระยะ สบายอกสบายใจเป็นอย่างมาก ไม่เหมือนกับว่าจะมาฆ่าคนเลยสักนิด รอบด้านเต็มไปด้วยทหารที่นอนร้องโอดโอยอยู่บนพื้น สามพ่อลูกมองจนปากอ้าตาค้าง

“เย่เทียนเฉิน แกก็มาก่อเรื่องที่ตระกูลลั่วของฉัน ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม?” ลั่วซงเฉิงมองเย่เทียนเฉิน พูดอย่างโหดเหี้ยม

“คนที่จะตายคือพวกแกไม่ใช่ฉัน!” เย่เทียนเฉินพูด มองไปยังลั่วซงเฉิงอย่างเย็นชา

“แก…แกไม่คิดว่าตัวเองจะโอหังเกินไปหน่อยเหรอ เรื่องตระกูลฉินยังไม่ทันแก้ไข ก็กล้ามาก่อนเรื่องที่ตระกูลลั่วของฉัน แกคิดว่าไม่มีใครก็ทำอะไรแกจริงๆ งั้นหรือ?”

“ความจริงฉันคิดว่าตัวเองไม่ได้โอหังเลยสักนิด กลับออกจากถ่อมตัวด้วยซ้ำ เพียงแค่มาฆ่าสุนัขสามตัวก็เท่านั้น จะต้องตะโกนแบบนี้เลยเหรอ? เห้อ ต้องโทษฉัน ดูท่าทางฉันจะเด็กเกินไป!” เย่เทียนเฉินส่ายหัวซึ่งทำท่าเสียใจจนน้ำตาไหลแล้วพูดออกมา

“แก แกว่าใครเป็นสุนัข แกพูดอีกทีซิ?” ลั่วกวงฮุยเดินไปเบื้องหน้าเย่เทียนเฉิน ใช้นิ้วชี้มือขวาชี้ไปที่เย่เทียนเฉินแล้วตะโกนออกมา

เย่เทียนเฉินมองลั่วกวงฮุยอย่างไม่พอใจ ค่อยๆ ยืนขึ้น บิดขี้เกียจครั้งหนึ่ง แล้วตบลงไปบนหน้าขอลั่วกวงฮุยจนตัวสะบัด เกือบจะล้มลงไปบนพื้นอยู่แล้ว

การกระทำนี้ทำให้ลั่วซงเฉิงและลั่วฉีไม่กล้าเชื่อ โดยเฉพาะลั่วซงเฉิง เขาอดรนทนไม่ไหวที่จะฉีกศพเย่เทียนเฉินออกเป็นหมื่นชิ้น จะอย่างไรตนเองก็เป็นผู้ที่อาวุโสกว่า เย่เทียนเฉินเป็นเด็กรุ่นหลัง มาตบหน้าลูกชายของตนต่อหน้าต่อตาตนเอง นี่ไม่ใช่ว่าเป็นการตบหน้าเขาต่อหน้าผู้คนหรือ? ยังเห็นตนอยู่ในสายตาบ้างหรือเปล่า?

อย่างไรก็ตาม ลั่วซงเฉิงกลับไม่รู้ว่า เย่เทียนเฉินไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาจริงๆ เพียงแต่เห็นเขาเป็นสุนัขตัวแก่หนึ่งที่นนิสัยถถ่อสถุลไร้ยางอายไม่ควรเคารพก็เท่านั้น

“แก…แกคิดจะก่อกบฏหรือไง?”

ลั่วซงเฉิงโกรธจนดวงตาทั้งสองแดงก่ำ หน้าผากปรากฏเส้นเลือดสีเขียว เขาในตอนนี้เพิ่งจะเข้าใจว่า ทำไมฉินอี้ถึงได้ถูกทำให้โมโหจนตาย เป็นเพราะเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เทียนเฉิน ต่อให้คุณวางมาดยิ่งใหญ่แค่ไหน ใช้อำนาจคุกคามแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ เขาไม่เห็นคุณอยู่ในสายตาเลย คิดอยากจะตีคุณก็ตี โดยไม่สนใจว่าคุณจะเป็นใคร แค่ไปหาเรื่องเขาเท่านั้น

กรอบ!

เมื่อเจอกับเสียงเห่าหอนของสุนัขแก่อย่างลั่วซงเฉิง เย่เทียนเฉินก็ไม่พูดอะไรมาก ตรงเข้าไปบีบคอลั่วฉีจนได้ยินเสียงดังกรอบขึ้นครั้งหนึ่ง ดวงตาทั้งสองของลั่วฉีเบิกกว้าง กระอักเลือดออกมา ทั้งร่างกายล้มลงไปชักกระตุกอยู่บนพื้น

“ แก…ไม่กลัวกฎหมายไม่กลัวสวรรค์จริงๆ…” ลั่วซงเฉิงเห็นลูกชายคนที่สองของตนถูกเย่เทียนเฉินฆ่าตายไปแบบนี้ ทำท่าทางเรากับจะพุ่งเข้าไปสู้กับเย่เทียนเฉินสุดชีวิต

“อย่าตะโกนสิ รออีกเดี๋ยวค่อยเก็บกวาดสุนัขชราอย่างแก” เย่เทียนเฉินไม่มองลั่วซงเฉิงเลยแม้แต่น้อย พูดไปพลางเดินเข้าไปหาลั่วกวงฮุย

เมื่อกล่าวจบ เย่เทียนเฉินก็เดินเข้าไปหาลั่วกวงฮุย ไม่สนใจสายตาที่ราวกับจะกินคนของลั่วซงเฉิงเลยสักนิด เดิมทีเขาก็มาเพื่อฆ่าสุนัขสามตัวนี้อยู่แล้ว ในเมื่อสุนัขสามตัวออกมาแล้วก็เริ่มฆ่าเลยเถอะ มีอะไรให้ต้องลังเลกัน? หากปล่อยสุนัขแบบนี้ไว้ก็จะไปทำร้ายคนอีกมากมาย

“แก แกคิดจะทำอะไร?” ลั่วงกวงฮุยถูกเย่เทียนเฉินทำให้ตกใจจนหน้าเขียว บนหน้าผากมีเหงื่อเย็นๆ ซึมออกมา เดินถอยหลังไปทีละก้าวทีละก้าว พูดออกมาอย่างติดๆ ขัดๆ

“ทำอะไร? ลูกชายของแกสองคนบอกว่าไม่มีไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ด ตะโกนบอกให้ฉันส่งไปให้ละมั้ง…” เย่เทียนเฉินพูดยิ้มๆ

“แก…”

“หยุดนะ!” ลั่วซงเฉิงรีบตะโกน ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เย่เทียนเฉินเป็นคนที่ขวางไม่ได้ ต่อให้เป็นเทพเซียนก็อับจนหนทางกับเขา

ตู้ม!

เพียงครั้งเดียว เย่เทียนเฉินเพียงใช้ขาถีบลั่วกวงฮุยจนกระเด็น กระดูกหน้าอกทั้งหมดหักอย่างรุนแรง กระทั่งหัวใจก็ถูกถีบจนแหลก ล้มลงบนผืน โอกาสที่จะกรีดร้องออกมาก็ไม่มี ดับลมหายใจไปแล้ว

“แก แก…” ลั่วซงเฉิงโกรธจนพูดอะไรไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว ฉากนี้กะทันหันเกินไป ลูกชายของตนทั้งสองตายไปต่อหน้าต่อตาเขาแบบนี้ ทำร้ายจิตใจของเขามากเกินไปจริงๆ

หลังจากที่เย่เทียนเฉินฆ่าลั่วฉีและลัวกวงฮุย ก็เดินไปยังลั่วซงเฉิง ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มไม่เป็นพิษเป็นภัย พูดขึ้นมาว่า

“รู้ไหมว่าทำไมถึงเหลือชีวิตสุนัขของแก? เพราะฉันต้องการให้แกได้เห็นว่าถ่าเลี้ยงลูกแบบไม่สั่งสอนจะมีผลอะไร ใช้อิทธิพลรังแกคนอื่น ใช้อำนาจบาตรใหญ่รังแกคนอ่อนแอจะต้องได้รับผลตอบแทน แกคิดว่าอำนาจของตระกูลลั่วยิ่งใหญ่มากเลยรังแกคนได้ตามใจงั้นหรือ? แกคิดว่าคนตระกูลลั่วของแกยิ่งใหญ่นักเลยไม่สนใจอะไรงั้นเหรอ? ฉันจะบอกแกให้ ความจริงแล้วกระทั่งมดบนพื้นแกก็ไม่ควรไปหาเรื่อง ซึ่งฉันก็คือมดตัวนั้นในสายตาของแก…”

“แก ฉะ ฉะ ฉันจะต้องฆ่าแกแน่ ไอ้เดรัจฉาน!” ลั่วซงเฉิงตระกูลเสียงดังราวกับฟ้า

“ฉันตายไม่ได้ คนที่จะตายคือแก คือสุนัขสามตัวของตระกูลลั่วอย่างพวกแก จะดูซิว่าลูกชายทั้งสองของแกก็ตายไปหมดแล้ว แกอยู่ต่อไปก็ไม่มีความหมายอะไร ลงไปอยู่เป็นเพื่อนพวกเขาเถอะ!”

“แก…”

ลั่วซงเฉิงพูดอะไรไม่ออก คอของเขาถูกเย่เทียนเฉินใช้กิ่งไม้เล็กๆ ค้ำเอาไว้ ขอเพียงเย่เทียนเฉินใช้แรงเบาๆ ลั่วซงเฉิงก็สิ้นชีพ

“หยุดมือ เย่เทียนเฉิน หยุดเดี๋ยวนี้!” ตอนนี้เองชางหลางพุ่งเข้ามา เห็นศพของลั่วกวงฮุยและลั่วฉี จึงสูดหายใจเย็นยะเยือกโดยพลัน มองไปยังเย่เทียนเฉินที่ต้องการฆ่าลั่วซงเฉิงจริงๆ จึงรีบตะโกนออกมาเสียงดัง

……….

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

นิยายแฟนตาซี แปลจีน เกิดใหม่ ต่อสู้ ผู้มีพลังพิเศษระดับพระเจ้ามาเกิดใหม่ในร่างของ ‘เย่เทียนเฉิน’ หน่วยรบพิเศษผู้ไม่เอาถ่าน ระหว่างกำลังปฏิบัติภารกิจคุ้มกันตัวผู้บัญชาการสาวหานเจี๋ยกลับประเทศ แม้การเกิดใหม่ครั้งนี้จะทำให้พลังระดับเทพเจ้าลดเหลือเพียงระดับราชัน แต่ขณะที่เผชิญหน้ากับกองกำลังผู้ก่อการร้ายข้ามชาติที่ได้รับมอบหมายให้มาสังหารคนทั้งคู่ เย่เทียนเฉินในร่างใหม่ได้ใช้ความสามารถจากการดูดซับพลังปราณ แสดงฝีมือการต่อสู้อันเป็นเลิศออกมา สร้างความประหลาดใจให้ทั้งศัตรูและมิตรสหายโดยทั่วกัน ประตูสู่การเป็นสุดยอดนักรบเปิดออกแล้ว! แต่เย่เทียนเฉินคนใหม่ยังต้องไล่สะสางปัญหาที่ร่างเดิมก่อเอาไว้เสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นการล้างแค้นญาติพี่น้องผู้ชั่วช้า รับมือกับคู่แข่งทางการเมืองของบิดา หรือกอบกู้ชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลจากความอัปยศในอดีต ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อจะได้อยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวอันอบอุ่นเสียที

Comment

Options

not work with dark mode
Reset