เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ – ตอนที่ 308 เรือนร่างอันมีเสน่ห์ของสาวสวยผมทอง

เย่เทียนเฉินนอนบนโซฟา ต่อให้อลิซและฉีหรูเสวี่ยทั้งสองจะทะเลาะกันและสงบลงบ้างแล้ว แต่จนกระทั่งตอนนี้ ผู้หญิงทั้งสองได้เข้าไปอาบน้ำและออกมาแล้ว แต่ยังทะเลาะกันอยู่ เกือบจะลงไม้ลงมือกันทีเดียว ซึ่งหากทะเลาะก็ไม่แน่ว่าอลิซสามารถเอาชนะฉีหรูเสวี่ยได้ ทำไมน่ะเหรอ? เพราะเธอมีฐานะเป็นหัวหน้าหน่วยข่าวกรองพิเศษแห่งประเทศ M ภารกิจที่ต้องมายังประเทศจีนในครั้งนี้ก็คือการฆ่าเย่เทียนเฉิน ถ้าหากเผยฝีมืออันสูงส่งออกมาตอนนี้ เช่นนั้นจะต้องถูกเย่เทียนเฉินจับได้แน่นอน ดังนั้นอลิซในตอนนี้จึงเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่ดูเหมือนกับหลงรักเย่เทียนเฉินจริงๆ ในตอนที่ทะเลาะกับฉีหรูเสวี่ยก็ไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว

กลางดึก เย่เทียนเฉินนอนอยู่บนโซฟาด้านนอกโดยไม่ได้หลับอย่างสบายใจเลย ภายในห้องเงียบลงเล็กน้อย ดูเหมือนพวกผู้หญิงจะหลับฝันหวานไปนานแล้วละมั้ง

ในบ้านมีผู้หญิงเพิ่มขึ้นมาคนหนึ่ง ดูเหมือนจะมีความชีวิตชีวาเพิ่มขึ้นมาก กระทั่งสามารถสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นชื่นใจสายหนึ่ง เย่เทียนเฉินพบว่าความจริงการมีผู้หญิงอยู่เป็นเพื่อนก็เป็นช่วงเวลาที่ไม่เลวเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีอลิซเข้ามาอยู่ด้วย จะมากจะน้อยก็ทำให้สนุกขึ้น ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ช่วงนี้ดูเหมือนตนจะเหงาและเปล่าเปลี่ยวจริงๆ ถ้าหากเป็นตนเองตอนที่อยู่ในดาวสิ้นโลก จะเลือกอยู่อย่างโดดเดี่ยวหงอยเหงาหรือ? คงจะเป็นไปไม่ได้แน่!

มีเสียงประตูห้องถูกเปิดออกดังขึ้น แม้เสียงเบามากแต่เย่เทียนเฉินยังได้ยินอย่างชัดเจน เขาลืมตาขึ้น พบเงาร่างงดงามกำลังเดินเข้ามาใกล้โซฟาเสียงเบา จมูกของเย่เทียนเฉินได้กลิ่นหอมจากบนล่างของเธอ เขารู้สึกได้ว่านั่นคืออลิซ เขาไม่รู้ว่าอลิซต้องการจะทำอะไร? ต้องการไปห้องน้ำหรือ? เย่เทียนเฉินยังไม่ทันคิดได้กระจ่างชัด ร่างกายของอลิซก็มานอนกอดอยู่ข้างเขาแล้ว โซฟาแคบมาก ร่างกายของเย่เทียนเฉินอยู่ด้านใน มีที่ว่างเล็กน้อย เขาจึงยื่นมือออกไปกอดเอวนิ่มของเธอ

“นาย…นายยังไม่หลับเหรอ?”

ริมฝีปากนิ่มของอลิซพ่นลมหายใจออกมา ใบหน้าของเธอเห่อร้อนเล็กน้อย ปรกติจะพูดจาใจกล้า แต่จะอย่างไรเธอก็ยังไม่มีประสบการณ์ระหว่างชายหญิงมาก่อน ต่อให้คืนนี้คิดจะยั่วยวนเย่เทียนเฉินก็ยังคงเขินอายมาก เธอคิดว่าหากจะฆ่าเย่เทียนเฉินโดยไม่ให้เขาตั้งตัว จะต้องได้รับความเชื่อใจจากเขาอย่างสมบูรณ์ วิธีที่ดีที่สุดก็คือทำให้ทั้งสองคนพัฒนาความสัมพันธ์ไปเป็นแฟน แบบเป็นไปตามสัญชาตญาณอะไรประมาณนั้น ดังนั้นอลิซจึงไม่เสียดายที่จะยั่วยวนเย่เทียนเฉินเพื่อแย่งชิงโอกาสเข้าไกล

เย่เทียนเฉินไม่ใช่คนที่ชอบอดกลั้นหรือบีบบังคับ ในเมื่อมีสาวงามมาส่งถึงประตู อีกทั้งยังดึกดื่นขนาดนี้แล้ว จะไม่เสพสุขสักหน่อยได้อย่างไรกันล่ะ เขาสัมผัสได้ถึงความร้อนบนใบหน้าของอลิซจึงพูดขึ้นเสียงเบาด้วยรอยยิ้มว่า “เมื่อกี้งีบไปแล้ว แต่ตอนนี้นอนไม่หลับ…”

“ฉันเองก็นอนไม่หลับ ฉัน…ฉันอยากนอนกอดนาย…” อลิซพูดเสียงเบาเหมือนมด!

ในใจของเย่เทียนเฉินอบอุ่น กอดเอวของเธอแน่น ริมฝีปากคลอเคลียอยู่บนใบหน้าของเธอ ความเงียบคือการพูดที่ดีที่สุด อลิซส่งเสียงครางออกมา ร่างกายของเธอแนบไปกับร่างกายของเขาตามแรงดึง แนบชิดยิ่งนัก ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะซุกร่างกายของตนเข้าไปในอ้อมกอดของเขา ใบหน้าสัมผัสแก้มของเขา ตอนนี้ร่างกายของเธออ่อนระทวยนม นุ่มนิ่มราวกับไม่มีกระดูก

ในใจของเย่เทียนเฉินตอนนี้ซับซ้อนเป็นอย่างมาก เขาสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในจุดสำคัญบนร่างกายของตัวเอง คนในอ้อมกอดของเขาทำให้เกิดความยั่วยวนอันรุนแรงต่อเขา กลิ่นหอมที่โชยเข้ามา เอวอ่อนบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าอกอันตั้งตระหง่านที่แนบติดเข้ามา ขาของเธอแนบอยู่บนขาของตนแน่น ส่วนเอวของเย่เทียนเฉินกดเข้าไปในโซฟา น่าเสียดายที่ในโซฟาไม่มีที่ให้เขาหลบแล้ว มันแคบเกินไป เขาต้องการจะระงับความตื่นตัวด้านล่าง เนื่องจากเขารู้ดีว่าอลิซมานอนกอดเขาเพราะต้องการความรู้สึกปลอดภัย เขาไม่อาจทำหยาบคายกับเธอได้ เย่เทียนเฉินควบคุมตัวเองอย่างยากลำบาก แต่อลิซยังแนบตัวเข้ามาอย่างไม่คิดป้องกัน เธอไม่ชอบให้ช่วงเอวมีช่องว่าง เธอต้องการกอดกับชายคนนี้อย่างแนบแน่น

เมื่อเป็นแบบนี้ทำให้เย่เทียนเฉินสัมผัสได้ถึงเอวเล็กๆ อันอ่อนนิ่มของเธออย่างชัดเจน ความรู้สึกอันรุนแรงทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะร่างกายแข็งเกร็ง มือที่กอดอยู่บนเอวนุ่มของเธอออกแรงดึงเข้ามา เขาควบคุมตนเองไม่ได้แล้ว

ร่างกายของอลิซสั่นเล็กน้อย การเคลื่อนไหวโดยไม่รู้ตัวของเธอไปกระทบถูกของที่ตื่นตัวเข้า เธอสัมผัสได้ว่าของสิ่งนั้นแข็งขืนขึ้นมา

มือใหญ่ของเย่เทียนเฉินที่อยู่บนเอวของเธอออกแรงมากขึ้น จุดต้องห้ามถูกรุกล้ำเข้ามาโดยไม่ไว้ไมตรีเลยแม้แต่น้อย อลิซที่แต่ไหนแต่ไรไม่เคยถูกผู้ชายคนไหนสัมผัสมาก่อนพลันรู้สึกอย่างรุนแรง แต่ความรู้สึกเป็นสุขและความรู้สึกหวาดกลัวในใจที่ถูกของเย่เทียนเฉินแตะต้องทำให้อลิซรู้สึกสับสน เธอรู้สึกได้ว่ามีเพียงกระโปรงบางๆขอเธอที่กั้นเย่เทียนเฉินเอาไว้ เขากำลังขยับเบาๆ สัมผัสจุดต้องห้ามของตนที่ละน้อย เธออยากจะหลบจากการเสียดสีที่น่าอับอายนี้ แต่เหมือนกับร่างกายไร้เรี่ยวแรง เธอรู้สึกว่าร่างกายของตนอ่อนระทวยทั้งยังร้อนระอุ การกอดรัดบริเวณใต้ร่างของเย่เทียนเฉินทำให้เธอมีปฏิกิริยา

ความรู้สึกเป็นสุขที่บรรยายไม่ถูก มันสบายมาก เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดนัก เมื่อได้รับความรู้สึกแปลกประหลาดที่ยั่วยวนเช่นนี้ เอวของอลิซก็อ่อนระทวย สงบเสงี่ยมและค่อยๆ เคลื่อนไหวให้ความร่วมมือ

ร่างกายของเธออ่อนระทวยขึ้นเรื่อยๆ ร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ บรรยากาศเริ่มร้อนแรง เอวอ่อนของอลิซไม่ได้หลบสัมผัสอันลุกล้ำของเย่เทียนเฉิน แต่ให้ความร่วมมืออย่างเขินอาย ไฟราคะของเย่เทียนเฉินกำลังลุกโชนและกำลังพุ่งทะยาน มือใหญ่ของเขาลูบความนุ่มลื่นบนร่างกายของอลิซ ลูบไล้ไปตามเอวของเธอ ต้องการใช้มือรับรู้ถึงความเต่งตึงบริเวณหน้าอกของเธอ ริมฝีปากของเขากำลังควานหา เขาต้องการลิ้มลองความหอมกรุ่นของเธอ

ริมฝีปากสัมผัสลงบนจุดอ่อนนุ่ม รู้สึกหวานละมุนและเปียกชื้น ชักจูงให้เขาเข้าไปสัมผัส ริมฝีปากนุ่มลิ้นอ่อนของเขาสอดเข้าไปในฟันสวยราวกับหยกของเธอ ลำคอของอลิซส่งเสียงครวญครางออกมา ปากหอมนุ่มของเธอเผยอขึ้น ลิ้นนุ่มของเย่เทียนเฉินตวัดเข้าไป  เข้าไปสัมผัสกับดอกไม้อันอ่อนนุ่มนั้น

ปลายลิ้นสัมผัสถูกความนุ่มลื่น ดอกไม้หนุ่มลื่นที่หลบไม่พ้นถูกเกี่ยวกระหวัด ลิ้นทั้งสอง พัวพันกันอย่างยากจะแยก อลิซเงยหน้ารับจูบร้อนของเขาอย่างเขินอาย ลิ้นเล็กร่วมมือกับการพัวพันของเขา ปล่อยให้เขาดูดกลืนความหอมของตนอย่างกำเริบเสิบสาน เธออนุญาตให้เขาละโมบ เธอยอมให้เขาเก็บเกี่ยวอย่างไม่เกรงใจ ลิ้นและริมฝีปากถูกเขากลืนกินไปทั้งหมด มือของเย่เทียนเฉินลูบคลำอยู่บนบุปผาศักดิ์สิทธิ์ของเธอ เธอก็ไม่ได้ต่อต้าน เพียงแค่สั่นระริกด้วยความเขินอาย แอ่นตัวเล็กน้อยรับการลุกล้ำจากเขา

ภายในห้องโถงรับแขกอันมืดมิด บนโซฟาเล็กแคบ ทั้งสองร่างจมลงสู่การสัมผัาอันเก้งก้าง พัวพันนัวเนียกัน เต็มไปด้วยความมอมเมา เย่เทียนเฉินลิ้มรสหยกเหลวหอมกรุ่นในริมฝีปากนุ่มของอลิซอย่างโลภโมโทสัน ใช้มือลูปคลำความเต็มตึงของเธอ การกอดรัดด้านร่างยิ่งรุนแรงมากขึ้น เสียงครางยิ่งหนักและกระชั้นถี่มากขึ้น บริเวณคอของอลิซส่งเสียงครวญครางที่น่าหลงใหลออกมา เรียกร้องให้เย่เทียนเฉินเดือดพล่าน มืออีกข้างหนึ่งลื่นไหลลงไปยังขาเรียบเนียนเรียวยาวของอลิซที่กำลังสั่นเล็กน้อย เธอบิดร่างกายไปมาใกล้จะสูญเสียสติ เธอรู้สึกได้ถึงมือของเย่เทียนเฉินที่สัมผัสถูกกางเกงในตัวเล็กของตน เธอยกสะโพกของตนขึ้นอย่างเชื่อฟังและเขินอาย

มีน้อยคนที่จะสามารถหยุดยั้งความคิดที่ต้องการทำให้ถึงที่สุดภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เย่เทียนเฉินเป็นผู้ชายปกติคนหนึ่ง ไม่ได้อยู่เหนือกิเลสและความปรารถนา ดังนั้นเขาเองก็ใกล้จะควบคุมสติไม่ได้ แต่ในตอนที่แรงขับเคลื่อนกำลังจะไปถึงจุดสำคัญที่สุด ในสมองของเย่เทียนเฉินก็ปรากฏภาพขึ้นมา เพื่อนพ้องที่ตายไปอย่างอนาถในดาวสิ้นโลก พวกเขากำลังรอให้ตนไปแก้แค้น พวกเขาตายตาไม่หลับ ทำให้เย่เทียนเฉินค่อยๆ สงบลง เขาไม่ได้เคลื่อนไหวต่อไปและไม่ได้ถอดกางเกงในตัวเล็กของอลิซออก ทำแค่กอดเธออย่างบริสุทธิ์

ที่หูของเธอมีเสียงเบาๆ เอ่ยขึ้นมาว่า “ พวกเรานอนกันเถอะ!”

การต้องหยุดการเคลื่อนไหวลงกระทันหันทำให้อลิซรู้สึกไม่คุ้นชินขึ้นมา ถึงแม้จะคาดหวังต่อแรงกระตุ้นที่ร่ำลือแต่กลับไม่ถึงขั้นที่จะลงมือก่อน จึงค่อยๆพูดออกมาเสียงเบา “ฝันดี!”

หลังจากที่หยุดตัวเองได้แล้วความง่วงก็โจมตีเข้ามา ทั้งสองนอนกอดกันจนเข้าสู่ฝัน

ตื่นขึ้นมาในวันต่อไป เย่เทียนเฉินลืมตาขึ้น อลิซจากไปนานแล้ว เธอกลับไปยังห้องนอนของตนเงียบๆ ทุกสิ่งทุกอย่างนี้มีเพียงพวกเขาสองคนที่รู้ ถ้าหากพวกเขาไม่พูดขึ้นมาก็จะไม่มีคนที่สามรู้อีก

“เทียนเฉิน ตื่นแล้วหรอ ตอนเช้าอยากกินอะไร ฉันจะทำให้เธอกินเอง ดีไหม?” ไม่รู้ว่าฉีหรูเสวี่ยเข้าไปในห้องครัวตั้งแต่เมื่อไร จนกระทั่งเธอเดินออกมาในมือก็ถือมีดเล่มหนึ่งมาด้วย ยิ้มพูดกับเย่เทียนเฉิน

เย่เทียนเฉินตกตะลึง ในตอนนี้ฉีหรูเสวี่ยถือมีดเดินออกมา ถึงแม้จะยิ้มหวานมองมาที่ตน แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับอลิซเมื่อคืน ปฏิกริยาอันรุนแรงที่เป็นเรื่องปกติในยามเช้าของผู้ชายของเย่เทียนเฉินก็พลันอ่อนลง ถ้าถูกฉีหรูเสวี่ยรู้เข้า เกรงว่าของสิ่งนี้จะรักษาไว้ไม่ได้จริงๆ แล้ว คงมีอันตรายที่จะถูกตัดไปแน่นอน

“เอ่อ…อะ อะไรก็ได้ กินอะไรก็ได้ทั้งนั้น เธอทำอาหารได้ไม่เลวเลย!” อาจเป็นเพราะเย่เทียนเฉินหวาดกลัวอยู่ในใจจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มชมฉีหรูเสวี่ยออกไป

“จริงเหรอ งั้นฉันทำบะหมี่ผัดซอสก็แล้วกัน นายชอบกินที่สุดแล้ว ฉันเรียนกับคุณน้านานมากเลย!” ฉีหรูเสวี่ยมีความสุขมาก นานขนาดไหนแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เย่เทียนเฉินชมเธอ

“ดี มะ ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา!” เย่เทียนเฉินหัวเราะแล้วพูดขึ้น

“ชิ บะหมี่ผัดซอสมีอะไรน่ากินกัน เทียนเฉิน เช้านี้ฉันตั้งใจทำสปาเก็ตตี้ให้เธอ รับประกันได้เลยว่าอร่อยกว่าบะหมี่ผัดซอสเป็นสิบเท่า!”

ตอนนี้เองอลิซก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้ สวมชุดนอนเซ็กซี่ทั้งร่างเดินลงมาจากชั้นบนและยังจงใจยืดอกอันอุดมสมบูรณ์ของตนอีกด้วย ดูเหมือนจะต้องการส่งสัญญาณให้เย่เทียนเฉินอีกครั้ง ทำให้เย่เทียนเฉินรู้สึกมีเหงื่อเย็นๆ ไหลซึมออกมา ในใจก็คิดว่า ทำไมเมื่อคืนตัวเองถึงไม่รู้จักอดทนไปนัวเนียกับอลิซได้ ถึงแม้เมื่อคืนจะไม่ได้ทำอะไร แต่ก็อธิบายไม่ได้ ท่าทางความรู้สึกท่อนล่างของผู้ชายจะควบคุมได้ยาก ดูเหมือนจะไม่สามารถทำได้เลย

“พวกเราเป็นคนจีน อาหารเช้าไม่กินของนอก สปาเก็ตตี้อะไรกัน ไม่อร่อยแล้วก็ไม่อยากกิน!” ฉีหรูเสวี่ยจ้องไปยังอลิซอยากดุดันแล้วพูดขึ้น

“จะกินไม่กินก็เป็นเรื่องของเทียนเฉิน ฉันอยากจะทำสปาเก็ตตี้ ฉันเชื่อว่าเทียนเฉินก็จะกินเหมือนกัน!” อลิซพูดจบก็เดินไปในห้องครัวด้วยตัวเอง

“เธอหยุดเดี๋ยวนี้นะ บะหมี่ผัดซอสของฉันกำลังทำอยู่ ยังไม่ถึงตาเธอ!” ฉีหรูเสวี่ยรีบตามเข้าไป

“ฉันมีวิธีการของฉัน ไม่ต้องให้เธอมาสนใจหรอก พวกเราต่างคนต่างทำ!” อลิซพูดออกมาอย่างไม่พอใจ

ผู้หญิงทั้งสองทะเลาะกันตั้งแต่เช้า เย่เทียนเฉินทำได้เพียงทอดถอนใจออกมา ล้มตัวลงบนโซฟาแล้วนอนต่ออีกหน่อย…

…………..

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

Status: Ongoing
นิยายแฟนตาซี แปลจีน เกิดใหม่ ต่อสู้ ผู้มีพลังพิเศษระดับพระเจ้ามาเกิดใหม่ในร่างของ ‘เย่เทียนเฉิน’ หน่วยรบพิเศษผู้ไม่เอาถ่าน ระหว่างกำลังปฏิบัติภารกิจคุ้มกันตัวผู้บัญชาการสาวหานเจี๋ยกลับประเทศ แม้การเกิดใหม่ครั้งนี้จะทำให้พลังระดับเทพเจ้าลดเหลือเพียงระดับราชัน แต่ขณะที่เผชิญหน้ากับกองกำลังผู้ก่อการร้ายข้ามชาติที่ได้รับมอบหมายให้มาสังหารคนทั้งคู่ เย่เทียนเฉินในร่างใหม่ได้ใช้ความสามารถจากการดูดซับพลังปราณ แสดงฝีมือการต่อสู้อันเป็นเลิศออกมา สร้างความประหลาดใจให้ทั้งศัตรูและมิตรสหายโดยทั่วกัน ประตูสู่การเป็นสุดยอดนักรบเปิดออกแล้ว! แต่เย่เทียนเฉินคนใหม่ยังต้องไล่สะสางปัญหาที่ร่างเดิมก่อเอาไว้เสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นการล้างแค้นญาติพี่น้องผู้ชั่วช้า รับมือกับคู่แข่งทางการเมืองของบิดา หรือกอบกู้ชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลจากความอัปยศในอดีต ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อจะได้อยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวอันอบอุ่นเสียที

Comment

Options

not work with dark mode
Reset