เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ – ตอนที่ 323 ไอ้แก่ซาโต้แข็งแกร่งมาก

จางหลาน ชางหลาง และหลัวเหว่ยเคอ ทั้งสามต่างขัดขวางราชานักฆ่าอีกสามคนที่เหลือซึ่งเป็นหนึ่งในศิษย์สำนักโฮคุชินอิตโตริวเอาไว้ กำลังทำการต่อสู้ถึงขั้นเป็นตายครั้งใหญ่ ไม่กล่าวไม่ได้ว่าสามคนนี้แข็งแกร่งมาก จางหลาน ชางหลาง และหลัวเหว่ยเคอไม่สามารถชนะได้ในเวลาสั้นๆ ทั้งยังมีอันตรายที่อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ ทำได้เพียงต่อสู้อย่างเต็มกำลังหาโอกาสฆ่าคู่ต่อสู้ของตน

ในสำนักโฮคุชินอิตโตริวมีคนสี่คนที่ฝีมือแข็งแกร่งที่สุด สามารถเรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่เป็นตัวแทนความสามารถของสำนักโฮคุชินอิตโตริวในอนาคต ดังนั้นพวกเขาจึงถูกเรียกว่า “สี่ราชานักฆ่า” การที่สามารถได้รับฉายาเช่นนี้ไม่ต้องพูดจาให้มากความก็มากเพียงพอที่จะพิสูจน์ความสามารถของคนทั้งสี่แล้ว ความแข็งแกร่งของเซนโทอินเย่ เทียนเฉิน ชางหลาง และหลัวเหว่ยเคอเห็นมาเองกับตา หลีหวังที่เป็นขุนพลระดับทัพฟ้าชั้นกลางมีความสามารถระดับนักรบอาวุโส ก็ทำได้แค่เพียงตายทั้งสองฝ่ายเท่านั้นทำให้เขาไม่อาจไม่นับถือ

ที่ทำให้เย่เทียนเฉิน ชางหลางและหลัวเหว่ยเคอทั้งสามรู้สึกสั่นสะท้านก็คือ หากจะกล่าวว่าพวกเขาสามารถสู้กับราชานักฆ่าทั้งสี่ได้หรือกระทั่งเอาชนะพวกเขาได้ก็ไม่อะไรนัก เพียงแต่จางหลานถึงกับสามารถรับมือกับราชานักฆ่าคนหนึ่งได้ ถึงแม้จะไม่อาจฆ่าศัตรูของตนได้ในเวลาสั้นๆ แต่ก็ไม่ตกเป็นรอง

เนื่องจากต่อให้จางหลานจะแข็งแกร่งมากขนาดไหนสุดท้ายก็ยังเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องหน้าตาสวยงาม แต่ยังสวมชุดประแปลกมาถึงป่าหมอกดำอีกด้วย ไม่ใช่ว่าจะถูกผู้หญิง แต่ความเป็นจริงความสามารถของผู้หญิงในทุกด้านล้วนด้อยกว่าผู้ชายเล็กน้อย พลังความสามารถในการต่อสู้ที่จางหลานแสดงออกมาไม่ด้อยไปกว่าชางหลางและหลัวเหว่ยเคอเลย ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่กล้าเชื่อจริงๆ ในขณะเดียวกันก็คิดว่าผู้หญิงสวยคนนี้ใครกล้าแต่งงานด้วยจะต้องทะเลาะกันทุกสองสามวัน ถ้าไม่ถูกเธออัดจนตาเขียวก็แปลกแล้ว นอกจากจะเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งกว่าเธอในตอนนี้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ชางหลางแล้วหลัวเหว่ยเคอคิดถึงเย่เทียนเฉินพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

เย่เทียนเฉินไปถึงใจกลางหุบเขาหมอกถ้ามีรแล้วเต็มทั้งหมดถูกเคล็ดวิชาสายสายฟ้าเผาจนสิ้นในกระบวนท่าเดียว ในขณะเดียวกันก็ก็บีบบังคับให้ซาโต้ออกมาเพียง แต่เย่เทียนเฉินยังไม่ได้ลงมือทันทีเพราะในมือของซาโต้มีหานเจี๋ยเป็นตัวประกัน

“เจ้าหนุ่ม ฉันอยากรู้ชื่อแกจริงๆ!” ซาโต้มองเย่เทียนเฉินแล้วพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย ถึงแม้ในใจของเขาจะตกตะลึงเป็นอย่างมากและรู้ว่าชายวัยรุ่นชาวจีนที่อยู่เบื้องหน้าเขาคนนี้มีความสามารถไม่อ่อนแอเลย กระทั่งมากพอที่จะสู้กับเขาได้ด้วยซ้ำ แต่กลับยังมั่นใจในตัวเองยิ่งนัก ความมั่นใจของเขาไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผล ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสของสำนักโฮคุชินอิตโตริวและเป็นยอดฝีมือที่แท้จริงซึ่งอยู่ในสิบอันดับแรกของสำนักโฮคุชินอิตโตริวได้ ไม่ได้ลงมือมา 20 ปีแล้ว ครั้งนี้เขามาด้วยตัวเองก็เพื่อขัดขวางกองกำลงช่วยเหลือของประเทศจีน และได้รับข้อมูลที่ประเทศชิบะต้องการ

“ปล่อยสาวงามก่อนเถอะ แบบนี้พวกเราจะได้คุยกันอย่างสุภาพบุรุษ!” เย่เทียนเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม

ซาโต้ชะงักไปเล็กน้อย มุมปากเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา จากนั้นถึงกับปล่อยหานเจี๋ยไปจริงๆ มองหานเจี๋ยวิ่งไปข้างกายเย่เทียนเฉิน ดูเหมือนจะไม่กลัวว่าเย่เทียนเฉินและหานเจี๋ยจะหนีไปด้วยกันอย่างไรอย่างนั้น เย่เทียนเฉินก็มองซาโต้ด้วยสีหน้าหนักแน่น เขาสัมผัสได้ว่าผู้เฒ่าคนนี้แข็งแกร่งมาก เมื่อลงมือไม่รู้ว่าจะมีพลังอย่างไร มิฉะนั้นเขาคงไม่ปล่อยหานเจี๋ยออกมาง่ายๆ แบบนี้

พูดไปแล้วนั่นเป็นเพราะในสายตาของซาโต้ ต่อให้เขาจะปล่อยหานเจี๋ยไป ไม่ใช้คิดว่าหานเจี๋ยเป็นตัวประกัน หากต้องการฆ่าพวกเย่เทียนเฉินก็เป็นเรื่องง่ายดุจพลิกฝ่ามือ เขาไม่ได้เชื่อมั่นในตัวเองอย่างตาบอด แต่เขามีความสามารถแบบนี้จริงๆ

“เทียนเฉิน รีบไปรีบไป!” หานเจี๋ยวิ่งเหยาะมาข้างกายเย่เทียนเฉิน ดึงแขนเย่เทียนเฉินแล้วพูดขึ้นด้วยความหวาดกลัว

“พวกเราไปไม่ได้หรอก ถ้าไม่ฆ่าตาแก่นี่ใครก็ไปไม่ได้” เย่เทียนเฉินจ้องดวงตาของซาโต้แล้วพูดขึ้น

หานเจี๋ยชะงักไป ดวงหน้าอันงดงามซีดขาวเล็กน้อย ชะงักไปทั้งร่าง ความจริงเธอไม่กล้าจินตนาการความแข็งแกร่งของซาโต้เลยและไม่เต็มใจจะย้อนนึกกลับไปด้วย เพียงแต่สิ่งเหล่านี้ยังคงปรากฏอยู่ในสมองของเธอ เธอจำได้อย่างชัดเจน ในตอนที่เธอและทหารหน่วยรบพิเศษชั้นยอดทั้ง 20 คนมาถึงป่าหมอกดำ ความแปลกประหลาดที่ปรากฏในชั่วขณะนั้นทำให้ทุกคนตกลงสู่จินตภาพอันแข็งแกร่ง ไม่มีทางควบคุมตัวเองได้จนทำให้ทุกคนถูกจับโดยไม่มีโอกาสตอบโต้เลยแม้แต่น้อย

ช่วงหลายวันมานี้ในหุบเขาหมอกทมิฬมีปีศาจเหล่านี้พยายามทำให้หานเจี๋นและทหารหน่วยรบพิเศษชั้นยอดอีก 20 คนพูดความลับทางการทหารของประเทศจีนออกมาให้ได้ และต้องการรู้ถึงการวางกองกำลังของชายแดนป่าหมอกดำด้วย เพียงแต่สิ่งที่ทำให้ซาโต้คิดไม่ถึงก็คือชาวจีนทุกคนที่ถูกเขาจับมาจะปิดปากแน่นไม่พูดออกมาแม้แต่ครึ่งคำ ต่อให้ถูกตัดมือตัดขาทั้งสองจนทรมานหาใดเปรียบ หรือมองสหายร่วมรบของตนถูกดาบฟันจนหัวขาดก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับความหวาดกลัวต่อความตายอันโหดเหี้ยมถึงขั้นสุดต่างร่างกายสั่นเทาด้วยความตกใจ แต่พวกเขาก็ไม่พูดออกมาแม้แต่ครึ่งคำ นี้เป็นพวกกระดูกเล็กของกองทัพจีน

“แต่ว่าชายชราคนนี้…” หานเจี๋นตกใจจนได้สติกลับมาจึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น

“ฉันรู้ว่าเขาแข็งแกร่งมากและรู้ด้วยว่าเขาคนเดียวก็ตัดหัวสหายร่วมรบที่เหลืออีกสิบคนของพวกเราไปแล้ว ดังนั้นไม่ต้องสนใจอะไรมาก ฉันเองก็จะตัดหัวเขาเหมือนกัน ถึงจะเป็นการแก้แค้นให้พี่น้องสหายร่วมรบของพวกเราได้ มิฉะนั้นฉันเย่เทียนเฉินคงมาเสียเที่ยวแล้ว!” เย่เทียนเฉินพูดขัดคำพูดของหานเจี๋ยจับจ้องอยู่ที่ซาโต้โดยตลอดแล้วพูดขึ้น

“เทียนเฉิน…” หานเจี๋ยยังคิดจะพูดโมน้าวเธอ ไม่อยากให้เย่เทียนเฉินมีอันตรายอะไร

“เธอถอยไปเถอะ ไปหาพวกชางหลาง ฉันฆ่าตาแกนี่แล้วจะไป!” เย่เทียนเฉินพูดอย่างเย็นชา

“แต่…”

“ไป…”

เย่เทียนเฉินพูดเสียงต่ำ หานเจี๋ยชะงักไปครู่หนึ่ง น้ำตาไหลออกมาจากหางตา ไม่ใช่เพราะเย่เทียนเฉินตะโกนใส่เธอแต่เป็นเพราะเธอรู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่เย่เทียนเฉินมีต่อตน ผู้ชายคนนี้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่อ่อนแอเหมือนเมื่อก่อน เป็นผู้ชายที่ทรงอำนาจอย่างมาก ในตอนที่เขาแข็งแกร่งยังคงเป็นห่วงหานเจี๋ยมากขึ้น จะไม่ให้ซาบซึ้งได้อย่างไร?

ความจริงเธอเองก็เข้าใจดี การที่เย่เทียนเฉินตั้งมั่นว่าจะฆ่าซาโต้นั้น ประการแรกเพราะต้องการแก้แค้นให้สหายร่วมรบแห่งกลุ่มทหารหน่วยรบพิเศษที่ตายไป ประการที่สองเป็นเพราะต้องกำกำจัดอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการในการหนีของพวกเขา ซาโต้แข็งแกร่งมากแข็งแกร่งจนถึงขั้นวิปลาส ถ้าหากไม่ฆ่าเขาพวกเขาทุกคนก็หนีไม่ได้

หานเจี๋ยน้ำตาใหลไปตามแก้ม มองไปยังเย่เทียนเฉินแล้วหันหน้าวิ่งหนีไปเบื้องหน้าโดยไม่หันกลับมามองอีก เธอรู้ว่าในใจของเย่เทียนเฉินได้ทำการตัดสินใจไปแล้ว ไม่สามารโน้มน้าวใจได้อีก ถ้าเธอยังอยู่ที่นี่คงจะทำให้เย่เทียนเฉินต้องแบ่งความสนใจมาและยังอาจจะถูกซาโต้จับตนไปข่มขู่เย่เทียนเฉินอีกด้วย ตอนนี้สิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้ก็คืออธิฐานให้กับผู้ชายที่ดีกับเธอคนนี้ให้สามารถฆ่าซาโต้ได้อย่างปลอดภัย

“เย่เทียนเฉิน ฉันเคยได้ยินชื่อแกมาก่อน ดูท่าแกจะแข็งแกร่งจริงๆ ยังหนุ่มขนาดนี้ถึงกับมีความสามารถแบบนี้แล้ว ถ้าหากแกมาทำงานให้สำนักโฮคุชินอิตโตริวของพวกเราไม่เพียงแต่ฉันจะไว้ชีวิตแก แต่ยังรับประกันด้วยว่าแกจะไม่ขาเงินไม่ขาดผู้หญิงไปชั่วชีวิต เป็นยังไง?” ในใจของซาโต้รู้สึกแปลกใจแต่กลับยังคงพูดด้วยรอยยิ้มเรียบเฉย

“พูดแบบนี้จะต้องเป็นไอ้ลูกเต่าคาเอดะอิจิโร่แน่ ที่รายงานสถานการณ์ให้พวกแก แกคิดว่าฉันจะตอบรับเงื่อนไขแกรึไง?” เย่เทียนเฉินยักไหล่แล้วพูดขึ้น

เป็นเช่นนั้นจริงๆ เย่เทียนเฉินเดาได้ถูกต้อง ที่ซาโต้รู้จักเขาเป็นเพราะคาเอดะอิจิโร่รายงานไปยังเบื้องบน คาเอดะอิจิโร่ก็เป็นยอดฝีมือของสำนักโฮคุชินอิตโตริวเช่นกัน ตำแหน่งไม่ต่ำเลยแต่กลับเทียบไม่ได้กับซาโต้ หลังจากที่สู้กับเย่เทียนเฉินแล้วคาเอดะอิจิโร่ก็รายงานเรื่องเราไปที่เบื้องบน ในเอกสารรายงานของเขามีชื่อเช่นนี้ปรากฏอยู่ นับว่าเป็นการประเมินค่าต่อเย่เทียนเฉินแล้ว

พบชายวัยรุ่นชาวจีนคนหนึ่งที่มีความสามารถแข็งแกร่งมากชื่อว่าเย่เทียนเฉิน ความสามารถลึกล้ำไม่อาจหยั่ งผมไม่สามารถเอาชนะเขาได้ นอกจากผมแล้วคนอื่นล้วนถูกเขาฆ่าตายทั้งหมด!

เป็นเพราะประโยคนี้ ซาโต้จึงจำชื่อของเย่เทียนเฉินได้ เขาเองก็อยากจะเห็นชายวัยรุ่นชาวจีนที่ชื่อเย่เทียนเฉินคนนี้เสียหน่อย ตกลงจะแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่ ถึงแม้ว่าคาเอดะอิจิโร่จะมีฝีมือไม่สูงถึงขั้นซาโต้แต่ก็ไม่ใช่คนที่มีความสามารถอ่อนแอ การเคลื่อนไหวครั้งนั้นของเขาเป็นเพราะสำนักโฮคุชินอิตโตริวได้รับการเชิญจากรัฐบาลชิบะให้ทำการเคลื่อนไหวเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ของประเทศจีนอีกครั้ง เนื่องด้วยว่าหลังจากผ่านมาหลายปีสำนักโฮคุชินอิตโตริวได้โจมตีประเทศจีนอีกครั้งแล้ว เพียงแต่กลับต้องจ่ายค่าตอบแทนเป็นความพ่ายแพ้อย่างน่าอนาจแบบนั้น นอกจากคาเอดะอิจิโร่แล้วยอดฝีมือแห่งสำนักโฮคุชินอิตโตริวคนอื่นๆ ล้วนตายทั้งหมด ด้วยเหตุนี้คาเอดะอิจิโร่ก็ได้รับโทษอันรุนแรงแรงว่าชั่วชีวิตนี้ยากที่จะออกนอกประเทศชิบะแล้ว

ซาโต้คิดไม่ถึงว่าบนเอกสารรายงานสถานการณ์ของคาเอดะอิจิโร่จะพูดไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย ประเทศจีนมีชายวัยรุ่นที่มีฝีมือแข็งแกร่งอย่างมากคนหนึ่ง ลึกล้ำไม่อาจหยั่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังอายุน้อยมาก ด้วยอายุเท่านี้ก็มีความสามารถแบบนี้แล้ว หากพัฒนาต่อไปเกรงว่าจะเป็นการคุกคามที่ยิ่งใหญ่ของสำนักโฮคุชินอิตโตริว ตอนนี้เองซาโต้เกิดความคิดที่จะฆ่าแล้ว เขาไม่เสียดายที่จะต้องจ่ายค่าตอบแทนทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อฆ่าชายวัยรุ่นชาวจีนเบื้องหน้าที่มีความสามารถไร้ขีดจำกัดผู้นี้ ไม่สามารถปล่อยให้กลายเป็นอุปสรรคภายหน้าของคนประเทศชิบะของตนต่อไปได้

“ไม่ว่าเรื่องอะไรก็หารือกันได้ทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้นฉันเชื่อว่าถ้าแกเข้าร่วมกับพวกเราจะไม่เสียใจแน่นอน!” ซาโต้พูดชักจูงต่อไป จะอย่างไรด้วยความสามารถเช่นนี้ของเย่เทียนเฉินเขาก็อยากจะได้มาจริงๆ สามารถใช้ประโยชน์จะดีที่สุด

“น่าเสียดายฉันไม่ใช่พวกขายชาติ แล้วฉันเองก็ขายชาติไม่ลงด้วย…”

ฟิ้ว!

คำพูดของเย่เทียนเฉินยังไม่ทันพูดจบในตำแหน่งเดิมของเขาก็เหลือเพียงภาพติดตา อยู่ในสภาวะที่ระดับความเร็วพุ่งทะยานถึงขีดสุด เพียงพริบตาก็ไปถึงเบื้องหน้าของซาโต้ ไม่มีกระบวนท่ามากมายอะไร ใช้หมัดต่อยเข้าไปที่ศีรษะของเขา ชราคนนี้แข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งจนถึงขั้นที่เย่เทียนเฉินไม่รู้ว่าเขาร้ายกาจขนาดไหนกันแน่ ดังนั้นเมื่อลงมือจึงต้องลงมือเต็มกำลัง

ตู้ม!

เสียงหนึ่งดังสนั่น หมัดขวาของเย่เทียนเฉินถูกซาโต้หยุดเอาไว้ ซาโต้ไม่ได้ตอบโต้ ทำเพียงจับมัดของเย่เทียนเฉินไว้แบบนี้ก็สามารถหยุดหมัดที่มีอำนาจทำลายล้างรุนแรงของเย่เทียนเฉินได้แล้ว ส่วนซาโต้ก็ไม่ได้ถอยหลังไปแม้แต่ก้าวเดียว มุมปากประดับไปด้วยรอยยิ้มพูดอย่างเสียใจว่า “พลังแข็งแกร่ง ความเร็วยอดเยี่ยม แต่ถ้าต้องการจะทำให้ฉันบาดเจ็บก็ยากมาก!”

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

Status: Ongoing
นิยายแฟนตาซี แปลจีน เกิดใหม่ ต่อสู้ ผู้มีพลังพิเศษระดับพระเจ้ามาเกิดใหม่ในร่างของ ‘เย่เทียนเฉิน’ หน่วยรบพิเศษผู้ไม่เอาถ่าน ระหว่างกำลังปฏิบัติภารกิจคุ้มกันตัวผู้บัญชาการสาวหานเจี๋ยกลับประเทศ แม้การเกิดใหม่ครั้งนี้จะทำให้พลังระดับเทพเจ้าลดเหลือเพียงระดับราชัน แต่ขณะที่เผชิญหน้ากับกองกำลังผู้ก่อการร้ายข้ามชาติที่ได้รับมอบหมายให้มาสังหารคนทั้งคู่ เย่เทียนเฉินในร่างใหม่ได้ใช้ความสามารถจากการดูดซับพลังปราณ แสดงฝีมือการต่อสู้อันเป็นเลิศออกมา สร้างความประหลาดใจให้ทั้งศัตรูและมิตรสหายโดยทั่วกัน ประตูสู่การเป็นสุดยอดนักรบเปิดออกแล้ว! แต่เย่เทียนเฉินคนใหม่ยังต้องไล่สะสางปัญหาที่ร่างเดิมก่อเอาไว้เสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นการล้างแค้นญาติพี่น้องผู้ชั่วช้า รับมือกับคู่แข่งทางการเมืองของบิดา หรือกอบกู้ชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลจากความอัปยศในอดีต ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อจะได้อยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวอันอบอุ่นเสียที

Comment

Options

not work with dark mode
Reset