เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ – ตอนที่ 325 เกือบจะถูกตัดหัวแล้ว

ภูเขาศพทะเลเลือด การตายอย่างน่าอนาจของเหล่าสหายพวกพ้องและผู้หญิงที่รักที่สุด พวกเขาต่างเสียใจแลหวาดกลัวถึงขนาดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างเห็นอยู่ในดวงตา กลับได้พบเจออีกครั้ง ความเจ็บปวดในส่วนลึกของจิตใจที่ไม่อาจทำลายได้ไปตลอดกาลทำให้ดวงตาทั้งสองของเย่เทียนเฉินเกือบจะหลั่งน้ำตาเป็นสายเลือด

เย่เทียนเฉินจะต้องกลับไปยังดาวสิ้นโลกแน่นอน ที่นั่นมีความทรงจำของเขา มีเรื่องที่เขาต้องทำ หากไม่สามารถแก้แค้นให้เหล่าพวกพ้องของตนได้ เย่เทียนเฉินคงไม่อาจสงบใจไปชั่วชีวิต นั่นเป็นสิ่งที่ไม่อาจปล่อยว่างต่อให้ชีวิตบนโลกนี้จะงดงามเพียงใดเขาก็ไม่สามารถเบิกบานใจจริงๆ ได้

ไม่เสียทีที่ซาโเป็นบุคคลระดับสูงของสำนักโฮคุชินอิตโตริว เป็นยอดฝีมือที่อยู่ในสิบอันดับแรก เมื่อลงมือก็ใช้วิชาลวงตาที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักโฮคุชินอิตโตริวที่เรียกว่า “ย้อนภาพจำ” ซึ่งสามารถทำให้ความเจ็บปวดในส่วนลึกของจิตใจเกิดขึ้นอีกครั้งทำให้ไม่อาจดึงตนเองออกมาได้

ส่วนลึกในใจของทุกคนจะต้องมีความเจ็บปวดที่ไม่ยินยอมจะย้อนนึก ทุกคนมักจะเลือกเก็บเอาไว้อยู่เนิ่นนาน เมื่อย้อนคิดไปถึงความเจ็บปวดเหล่านี้ก็จะทำให้นิสัยเปลี่ยนไปอย่างมาก กระทั่งแทบจะจิตใจแหลกสลาย คนที่อยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ไม่อาจป้องกันการโจมตีได้

พอเริ่มลงมือซาโต้ก็ใช้เคล็ดวิชาลวงตาที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักโฮคุชินอิตโตริว เห็นได้ชัดว่าเขามองเย่เทียนเฉินเป็นศัตรูที่มีระดับเดียวกัน ในตอนที่เห็นเย่เทียนเฉินล้มลงกับพื้นโดยร่างกายที่บาดเจ็บมีเลือดไหลออกมา บนใบหน้าของซาโต้จึงเผยรอยยิ้มได้ใจขึ้น ในขณะเดียวกันก็คิดว่าตนประเมินฝีมือของเย่เทียนเฉินสูงเกินไป

เพียงแต่ตอนที่ซาโต้เตรียมจะใช้ดาบจบชีวิตของเย่เทียนเฉินนั้น ลูกธนูสามลูกที่แฝงไปด้วยพลังสายฟ้าอันแข็งแกร่งก็พุ่งโจมตีไปยังซาโต้จากสามทิศทาง พลังอำนาจแข็งแกร่งหาใดเปรียบ ในช่วงเวลาสำคัญซาโต้ทำเพียงใช้อาวุธของตนขวางลูกธนูสายฟ้าเอาไว้ได้สองดอกสวนดอกที่สามแทงทะลุไหล่ของเขาไป

“ดูท่าแกรู้นานแล้วว่านี่คือวิชาลวงตาแต่ทำไมถึงทำได้สมจริงถึงขนาดนั้น?” ซาโต้มองไปยังเย่เทียนเฉินแล้วถามอย่างสงสัย

เย่เทียนเฉินสามารถหลุดพ้นจากเคล็ดวิชาลวงตาของตนได้ ซาโต้ยังไม่ได้แปลกใจนักเนื่องจากเขารู้ว่าชายวัยรุ่นชาวจีนที่อยู่เบื้องหน้าแข็งแกร่งมาก ไม่อาจดูเบาเขาได้โดยเด็ดขาด เพียงแต่สิ่งที่ทำให้ซาโต้คิดไม่ถึงก็คือเย่เทียนเฉินจะแสดงออกมาได้สมจริงขนาดนั้น กระทั่งตนยังถูกหลอก

“แกผิดแล้ว ตอนแรกฉันถูกวิชาลวงตาของแกเข้าจริงๆ แต่สิ่งที่ฉันอยากจะบอกแกก็คือ ความเจ็บปวดแบบนั้นฉันจะไม่หลีกเลี่ยง ฉันจะเผชิญหน้าและทำลายมันอย่างกล้าหาญ!” เย่เทียนเฉินมองไปยังซาโต้แล้วพูดขึ้นอย่างหนักแน่น

ความจริงในตอนแรกเย่เทียนเฉินถูกเคล็ดวิชาลวงตาของซาโต้เข้าจริงๆ เขาตกอยู่ในระดับที่ไม่สามารถดึงตัวเองออกมาได้จนเกือบจะพังทลายไปอยู่แล้ว เนื่องจากความเจ็บปวดที่สูญเสียมิตรสหายไปนั้น ความรู้สึกที่เด็กกำพร้าคนหนึ่งไม่ง่ายเลยกว่าจะมีคนใกล้ชิดแต่กลับต้องมาอยู่ลำพังอีกครั้งเช่นนั้น ทำให้เขารับไม่ได้จริงๆ

แต่ในช่วงเวลาสำคัญ ในส่วนลึกของจิตใจเย่เทียนเฉินได้สติกลับมา เป็นความรู้สึกที่สงบและบริสุทธิ์ทำให้เขาไม่เคลื่อนไหวบุ่มบ่ามแบบนั้นอีกต่อไป อ่อนโยนราวสายน้ำ ดูเหมือนเขาจะเห็นเงาของจางรั่วถง ร่างกายขาวนวลไร้ที่ติเช่นนั้นทำให้เขาไม่อาจคิดอกุศลและหยาบคายได้เลย

และเป็นตอนนี้เองที่เย่เทียนเฉินได้สติกลับมา ดูเหมือนจะไม่เจ็บปวดขนาดนั้นแล้วและเข้าใจว่า หากคนคนหนึ่งไม่สามารถเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดของตนอย่างกล้าหาญได้ก็จะทำได้เพียงจมอยู่ในความเจ็บปวดไปชั่วชีวิต ไม่สามารถเติบโตได้ ไม่อาจมีความสุขได้

ในช่วงเวลาสำคัญเย่เทียนเฉินพุ่งขึ้นไปยังท้องฟ้าเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดที่ควรจะอยู่ในวิชาลวงตา ในตอนที่ปะทะกันจนเกิดประกายไฟนั้นเขาก็ใช้เวิชาสลับร่างซึ่งเป็นวิชาสายดินสลับกับตน ปิดบังซาโต้

เมื่อต้องประเชิญหน้ากับดาบทหารสไตล์ชิบะที่ปรากฏออกมารอบด้าน ปลายดาบอันแหลมคมชี้มาที่ตน เย่เทียนเฉินยังคงพูดด้วยรอยยิ้มบางเบา ในตอนนี้เขาสามารถรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งบริเวณอากาศเบื้องหน้าตน พลังการต่อสู้พุ่งทะยานถึงขีดสุด กระทั่งเข้าสู่ขอบเขตจักรพรรดิแล้ว อย่างน้อยก็สามารถใช้พลังในขอบเขตจักรพรรดิได้ในช่วงเวลาสั้นๆ

ฟิ้ว!

ซาโต้จ้องมองอยู่เช่นนั้น ดาบทหารสไตล์ชิบะจำนวนนับร้อยต่างพุ่งเข้าไป หวังตามฆ่าเทียนเฉิน เสียงปลายแหลมทิ่มแทงอากาศดังขึ้น กระทั่งอากาศก็ยังถูกฉีกขาดในพริบตา นี่ไม่ใช่วิชาลวงตาโดยเด็ดขาด แต่เป็นวิชาควบคุมสสารที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

ตอนนี้เองเย่เทียนเฉินและซาโต้ แข็งแกร่งต่างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ดูเหมือนจะใช้ความสามารถในขอบเขตสูงสุดของตน ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าลำพองใจ โดยเฉพาะซาโต้ที่ถูกเย่เทียนเฉินโจมตีจนบาดเจ็บเพราะความลำพองใจของตน นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องความเลวทรามต่ำช้าอะไร เป็นเพียงประสบการณ์การต่อสู้ซึ่งเรียกได้ว่าเขาซาโต้ต่อสู้มาชั่วชีวิต วันนี้ถูกอินทรีย์หนุ่มอย่างเย่เทียนเฉินจิกตาเข้าแล้ว

“โล่ทองคำ”

เสียงหนึ่งดังสนั่นบนร่างซ้ายขวาของเย่เทียนเฉินปรากฏโล่ทองคำขึ้นคุ้มครองเอาไว้แน่นหนา ดาบทหารสไตล์ชิบะเหล่านั้นฟาดฟันลงมาจากด้านบนด้วยความเร็วอย่างหาใดเปรียบ และไม่ทำให้เกิดการสั่นสะท้านเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่เกิดเสียงปะทะกันของโลหะเกิดขึ้นจนกระทั่งดาบสไตล์ชิบะแต่ละเล่มแหลกสลายไปด้วยการปะทะกัน โล่ทองคำของเย่เทียนเฉินคุ้มครองทั่วทั้งร่างไม่ปรากฏร่องรอยใดใด

ซาโต้ขมวดคิ้ว เขารู้ว่าตนประเมินเย่เทียนเฉินต่ำไป ชายวัยรุ่นชาวจีนคนนี้แข็งแกร่งจนถึงขั้นเหนือจินตนาการเขาไปแล้ว ลึกล้ำไม่อาจหยั่ง ดังนั้นเขาในตอนนี้จึงไม่กล้าลำพองใจแม้แต่ครึ่งส่วน เมื่อลงมือก็ออกแรงเต็มที่ มือซ้ายกุมบาดแผลบริเวณไหล่เอาไว้ มือขวาจับดาบทหารที่เป็นอาวุธของตนแน่น กระโดดขึ้นผมเข้าไปยังเย่เทียนเฉินที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยโล่ทองคำซึ่งยืนอยู่บนก้อนหินใหญ่

ตู้ม!

ดาบถูกฟันลงมา ดาบนี้ของซาโตฟันลงบนโล่ทองคำอย่างรุนแรง ทำให้โล่ทองคำยุบลงไป ส่วนก้อนหินใหญ่ที่เย่เทียนเฉินยืนอยู่ก็แหลกสลายไปในพริบตา เห็นได้ชัดว่าพลังของดาบนี้มากมายเพียงใด

อย่างไรก็ตามยังไม่จบ ซาโต้โกรธเขาแล้ว เขามีเจตนาสังหารแล้ว เย่เทียนเฉินแข็งแกร่งเกินไป ต่อให้เขาดิ้นรนสุดชีวิตอยู่ที่นี่ก็จะไม่ปล่อยให้อุปสรรคขวากหนามในภายภาคหน้าของสำนักโฮคุชินอิตโตริวหลงเหลืออยู่ ดังนั้นเขาจึงฟันต่อไปอีกสามครั้งด้วยอำนาจอันแข็งแกร่งหาได้เปรียบ

ตู้มๆๆ!

โล่ทองคำแตกสลายไปแล้ว นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่โล่ทองคำของเย่เทียนเฉินถูกโจมตีจนแตกเป็นผุยผง ส่วนเขาที่อยู่ด้านในก็ได้รับแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเกือบจะทำให้เกิดการกระอักเลือดออกมา

ฟิ้ว!

เย่เทียนเฉินพุ่งออกไป มองไปยังซาโต้ด้วยสายตาราวกับเทพแห่งความตาย นี่เป็นการต่อสู้ที่ทั้งสองฝ่ายต่างไม่กล้าลำพองใจ หากใครลำพองใจคนผู้นั้นก็จะแพ้และสิ้นชีพ

ง้าวเทียนฟางในมือขวาแปรสภาพเป็นสสารที่แท้จริงไปแล้ว ความสามารถในการใช้พลังพิเศษในส่วนนี้ของเย่เทียนเฉินแข็งแกร่งมากจนสามารถเปลี่ยนจินตภาพให้กลายเป็นสสารได้ ยิ่งไปกว่านั้นการจะใช้ได้อย่างแข็งแกร่งที่สุดก็ไม่ง่ายเหมือนการพูดแบบนั้นเลย

ตู้ม!

ง้าวเทียนฟางในมือขวาของเย่เทียนเฉินทิมแทงตรงไปยังซาโต้ เล็งไปที่ศีรษะของซาโต้ ซาโต้ไม่กล้ามองข้าม ความสามารถในการต่อสู้ที่เย่เทียนเฉินแสดงออกมาจนถึงตอนนี้ทำให้เขาแปลกใจมากแล้ว ดังนั้นจึงฟันดาบออกไปยังเด็ดเดี่ยว

ตู้ม!

ทั่วทั้งหุบเขาหมอกทมิฬสามสะเทือน เย่เทียนเฉินและซาโต้นับว่าสู้กันอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรก ทำให้ระยะภายในขอบเขต หนึ่งพันเมตรไม่มีสรรพสิ่งปรากฏอยู่อีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นก้อนหินหรือต้นไม้ใบหญ้าต่างกลายเป็นผุยผงไปหมดแล้ว การสั่นสะเทือนของพลังช่างแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

เย่เทียนเฉินตกลงมายืนกับพื้น จ้องไปที่ซาโต้ เขารู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของชายชราคนนี้ ตอนนี้นับว่าตนเป็นอยู่ในขอบเขตสูงสุดของพลังพิเศษระดับจอมราชันแล้วและยังสามารถใช้พลังในขอบเขตจักรพรรดิออกมาไดจางๆ นี่แตกต่างไปจากเดิมมาก การโจมตีไปเช่นนี้ยังไม่สามารถทำให้ซาโต้บาดเจ็บสาหัสได้ ทำให้เขาต้องทอดถอนใจให้กับความสามารถของชายชราคนนี้จริงๆ

“แข็งแกร่ง ฉันชอบคนแข็งแกร่ง ยี่สิบปีแล้ว สู้ให้ฉันมีความสุขซักหน่อยสิ!”

ซาโต้ราวกับบ้าคลั่งแล้วก็มิปาน ดาบทหารสไตล์ชิบะในมือขวาทิ่มแทงเข้าไปที่พื้น เสื้อผ้าท่อนบนสั่นสะเทือนจนฉีกเป็นชิ้นๆ ปรากฏกล้ามเนื้อแข็งแกร่ง บริเวณหน้าอกข้างซ้ายที่ถูกโจมตียังคงมีเลือดไหลไม่หยุด เพียงแต่ชายชราคนนี้ไม่เผยร่องรอยของความชราในกล้ามเนื้อออกมาแม้แต่น้อย กลับดูแข็งแกร่งเป็นอย่างมากทำให้ผู้คนรู้สึกเหลือเชื่อ

“ความรู้สึกของวัยหนุ่มนี่มันดีจริงๆ ผลของยาตัวใหม่ไม่เลวเลย!” ซาโต้มองไปยังกล้ามเนื้อที่แขนทั้งสองของตนอย่างพึงพอใจแล้วพูดขึ้น

คนชิบะบ้าคลั่งครั้งจนถึงขั้นวิปลาสเช่นกัน มีการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับยาต่างๆ มาโดยตลอดและต้องการใช้ยาเหล่านี้พัฒนาศักยภาพในการต่อสู้ของผู้คน ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนที่ร่างกายเหี่ยวเฉาใกล้ตายกลับมามีพลังการต่อสู้และร่างกายเหมือนวัยรุ่นอีกครั้ง สิ่งเหล่านี้ดูแล้วดีต่อมนุษย์มากแต่ความจริงคนส่วนใหญ่หากใช้ไปมากๆ เยอะจะทำให้ตายอย่างชับพลัน ตายอย่างอนาถตาไม่หลับ

“แกคิดว่าทำแบบนี้แล้วเป็นคู่ต่อสู้ของฉันได้รึไง? ฝันไปเถอะ…”

ซาโบ้าคลั่งไปแล้วโดยสิ้นเชิง มือขวากุมอยู่บริเวณบาดแผลที่หน้าอกซ้ายของตนจนมือขวาถูกอาบยอมไปด้วยเลือด จากนั้นจึงนำมาวางที่ปาก ลิ้มรสเลือดของ

“ไปตายซะ!”

ตู้ม!

ซาโต้ตวัดดาบออกไปทั้งสองมือ บรรยากาศอันแข็งแกร่งเช่นนั้นหมุนวนอยู่ทั่วทั้งหุบเขาหมอกทมิฬ การสั่นสะเทือนของพลังแข็งแกร่งมาก พุ่งตรงไปยังเย่เทียนเฉิน

เย่เทียนเฉินตกตะลึง อดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปสองก้าว สีหน้าเคร่งขรึมอย่างหาใดเปรียบ ชายชราซาโต้คนนี้บ้าไปแล้วหรือ คิดจะฆ่าตนให้ได้โดยไม่สนใจที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่

ไม่อาจถอยได้ เย่เทียนเฉินทำได้เพียงกำง้าวเทียนฟางแน่น กระตุ้นพลังพิเศษขอบเขตจักรพรรดิออกมาแล้วรับมือเต็มกำลัง

จนกระทั่งแสงสีเงินสองสว่าง กำแพงหินทั้งสองด้านที่เย่เทียนเฉินและซาโต้สู้กันตังทลายลงมาทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นซาโต้ยังฟันดาบออกมาอย่างบ้าคลั่งจนทิ้งร่องรอยยาวราวสิบจั้งเอาไว้ที่กำแพงด้านหลังเย่เทียนเฉิน หน้าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

“แกจะต้องตายแน่ ฉันจะให้แกได้รู้ว่าสำนักโฮคุชินอิตโตริวของฉันเอาชนะพรรควรยุทธโบราณของประเทศจีนได้!” มุมปากของซาโต้ปรากฏรอยยิ้มออกมา

เย่เทียนเฉินยืนห่างซาโต้ไปสิบเมตร ง้าวเทียนฟางบนมือขวาของเขาหายไปแล้วในตอนที่ขวางดาบอันบ้าคลั่งของซาโต้เอาไว้ มันก็ได้กลายเป็นประกายฝนไปแล้ว บริเวณหน้าอกและท้องของเขาก็ปรากฏรอยเลือด ลำไส้สีขาวปรากฏลางๆ เขาเกือบจะถูกซาโต้ฟันท้องตายไปแล้วดาบนี้ของซาโตมีพลังอำนาจในการทำลายล้างสูงมาก

“ไอ้แก่ แกลงมือเต็มที่แล้วเหรอ? ตอนนี้ควรจะถึงตาฉันแล้วละมั้ง?” ในสายตาของเย่เทียนเฉินปรากฏไอสังหารที่หาได้ยากยิ่งครั้งนี้เขาแข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ต้องการที่จะใช้เคล็ดวิชาสังหารที่รุนแรงที่สุดของตนออกมา

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

Status: Ongoing
นิยายแฟนตาซี แปลจีน เกิดใหม่ ต่อสู้ ผู้มีพลังพิเศษระดับพระเจ้ามาเกิดใหม่ในร่างของ ‘เย่เทียนเฉิน’ หน่วยรบพิเศษผู้ไม่เอาถ่าน ระหว่างกำลังปฏิบัติภารกิจคุ้มกันตัวผู้บัญชาการสาวหานเจี๋ยกลับประเทศ แม้การเกิดใหม่ครั้งนี้จะทำให้พลังระดับเทพเจ้าลดเหลือเพียงระดับราชัน แต่ขณะที่เผชิญหน้ากับกองกำลังผู้ก่อการร้ายข้ามชาติที่ได้รับมอบหมายให้มาสังหารคนทั้งคู่ เย่เทียนเฉินในร่างใหม่ได้ใช้ความสามารถจากการดูดซับพลังปราณ แสดงฝีมือการต่อสู้อันเป็นเลิศออกมา สร้างความประหลาดใจให้ทั้งศัตรูและมิตรสหายโดยทั่วกัน ประตูสู่การเป็นสุดยอดนักรบเปิดออกแล้ว! แต่เย่เทียนเฉินคนใหม่ยังต้องไล่สะสางปัญหาที่ร่างเดิมก่อเอาไว้เสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นการล้างแค้นญาติพี่น้องผู้ชั่วช้า รับมือกับคู่แข่งทางการเมืองของบิดา หรือกอบกู้ชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลจากความอัปยศในอดีต ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อจะได้อยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวอันอบอุ่นเสียที

Comment

Options

not work with dark mode
Reset