เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ – ตอนที่ 92 หน่วยสืบราชการลับพลังพิเศษแห่งประเทศM

เย่เทียนเฉินไล่ตามโกสต์และชาโดว์ไป ไม่ใช่ว่าเขามีความสามารถไม่พอที่จะฆ่าทั้งสอง แต่เป็นการการหว่านแหดักปลา เขาวางแผนจะถอนรากถอนโคนกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิต เพื่อล้างแค้นให้กับสหายศึกของตนที่ตายไปในป่าหมอกดำ นี่เป็นคำสาบานที่เย่เทียนเฉินให้ไว้ในใจต่อเหล่าสหายศึกที่ตายไป

ส่วนเรื่องรัฐบาลประเทศM เย่เทียนเฉินคิดไว้แล้วว่า พอถึงเวลาจะต้องไปสร้างความครึกโครมเสียหน่อย เพื่อให้พวกจักรวรรดินิยมได้รู้ไว้สักหน่อยว่า โลกแห่งนี้ยังไม่ถึงคราวที่พวกเขาจะยิ่งใหญ่แต่เพียงผู้เดียว

ในตอนที่เย่เทียนเฉินใช้พลังพิเศษแห่งการรับรู้ล็อคเป้าลมปราณของโกสต์และชาโดว์แล้วตามออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลหลิ่วเงียบๆ นั้น ที่ตึกโมเดิร์นในวอชิงตัน ชั้นบนสุดของตึกที่สุดถึงสามสิบสามชั้น ชายคนหนึ่งสวมเสื้อหนังกางหนังและรองเท้าบูทหนังสีดำทั้งหมด ใบหน้าปรากฏกลิ่นอายชั่วร้ายสายหนึ่ง หากมีคนเห็นเขาจะต้องสั่นสะท้านเป็นแน่ เพราะชายคนนี้กำลังลอยอยู่ในอากาศ กำลังอ้าปากกว้าง เบื้องหน้าของเขามีเหล้าอยู่ขวดหนึ่ง กำลังไหลออกปากขวด ค่อยๆ เข้าไปในปากของชายผู้นั้น เป็นฉากที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก

ชายคนนี้กฌคือซิลลี่(Silly) รองหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับพลังพิเศษ และอาจกล่าวได้ว่าเป็นหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับพลังพิเศษ เนื่องจากโทมัสที่เป็นหัวหน้าหน่วยสิบราชการลับพลังพิเศษ เป็นเพียงคนที่ถูกรัฐบาลประเทศMแต่งตั้ง แต่ก็ไม่เคยเข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้นกระทั่งซิลลี่ที่เป็นรองหัวหน้าก็ยังไม่เคยเห็นหน้าโทมัส ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนหนุ่มหรือคนแก่ หรือว่ามีหน้าตาอย่างไร

เสียงฟิ้วดังขึ้นสองครั้ง เงาคนสองคนปรากฏขึ้นข้างหลังซิลลี่ ต่างก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ง มีท่าทีเคารพอย่างสูงสุด หนึ่งคนในนั้นกล่าวรายงานว่า “รองหัวหน้า ผู้มีพลังล่องหนที่เราส่งไปถูกแล้วตายแลว”

“อะไรนะ? ผู้มีพลังล่องหนที่เราส่งไปแม้ขอบเขตพลังจะไม่แข็งแกร่ง แต่ก็เป็นพลังสายพิเศษประเภทหนึ่ง ต่อให้เป็นฉัน ตอนที่เขาล่องหนก็ยากที่จะเจอ ทำไมถึงถูกฆ่าได้?” ซิลลี่ขมวดคิ้ว กล่าวถามอย่างไม่เชื่อ

“เป็นเช่นนี้จริงๆครับ พวกเราเพิ่งจะได้ข่าว ครั้งนี้พวกชาวตะวันออกมียอดฝีมือมาด้วยคนหนึ่ง” อีกคนหนึ่งเปิดปากพูด

“ตะวันออกมันจะไปมียอดฝีมืออะไรกัน? ต่อให้มีผู้แข็งแกร่งพรรควรยุทธโบราณ แต่ก็ไม่ใช่คู่มือของผู้มีพลังพิเศษอย่างพวกเรา ไอ้หมอนั่นมันชื่ออะไร?”

ใบหน้าของซิลลี่มืดครึ้ม เขาคิดไม่ถึงเลยว่าตะวันออกจะถึงกับมียอดฝีมือเช่นนี้ปรากฏตัวออกมา ครั้งนี้ทางฝั่งรัฐบาลประเทศM แม้จะไม่ได้มีคำสั่งลงมาโดยตรง แต่ก็ให้พวกเขาหน่วยสืบราชการลับพลังพิเศษทำการเตรียมพร้อมที่จะลงมือให้ดี ตอนนั้นซิลลี่ก็ไม่ได้เก็บมาส่ใจ เพียงแต่ส่งผู้มีพลังล่องหนคนหนึ่งในองค์กรไปยังคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว ถ้าเป็นไปได้ก็ให้ฆ่าหลิ่วหรูเหมยก็เท่านั้น เพราะซิลลี่รู้ว่าครั้งนี้รัฐบาลประเทศMได้ว่าจ้างกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิต ถ้าหากพวกเขาลงมือ ก็จะดูเป็นการลดระดับตัวเองเกินไป

ต้องทราบว่า หน่วยสืบราชการลับพลังพิเศษเป็นกำลังสำคัญที่แข็งแกร่งที่สุดของประเทศM ภารกิจที่สำเร็จไปมากมายต่างก็อาศัยความสามารถของหน่วยสืบราชการลับพลังพิเศษ พวกเขาคนละระดับกับองค์กรทหารรับจ้างทั่วๆ ไปโดยสิ้นเชิง

ผู้มีพลังล่องหนที่ตนเองส่งไปถูกฆ่า นี่เป็นสิ่งที่ซิลลี่คิดไม่ถึงจริงๆ ดังนั้นจะมากจะน้อยเขาก็ยังรู้สึกหวั่นเกรง

“ปีศาจตะวันออก” ผู้มีพลังพิเศษที่กล่าวขึ้นก่อนมีเสียงสั่นเล็กน้อย

“ปีศาจตะวันออก?” ซิลลี่ขมวดคิ้วถาม

“ครับ เวลานั้นผู้มีพลังล่องหนที่พวกเราส่งไป ตอนที่กำลังจะตายตะโกนเรียกอีกฝ่ายด้วยชื่อนี้”

“เฮอะ ฉันไม่สนว่ามันจะเป็นปีศาจตะวันออก หรือจะเป็นตัวอะไร พวกเราหน่วยสืบราชการลับพลังพิเศษไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน ตอนนี้ก็ไม่อนุญาตให้แพ้ ต่อจากนี้ก็ไม่อนุญาต ดังนั้นฉันขอสั่งพวกแก จงฆ่าชาวตะวันออกที่มาทำการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ให้หมดทุกคน” ซิลลี่เปิดปากกล่าวอย่างโหดเหี้ยม

“ครับ!”

ผู้มีพลังพิเศษทั้งสองที่มารายงานในขณะที่ตอบรับก็ค่อยๆ สลายไป นี่สะท้อนให้เห็นถึงพลังพิเศษของพวกเขา ส่วนซิลลี่ที่ลอยอยู่ในอากาศ หลังจากที่ลูกน้องทั้งสองของตนสลายตัวไปแล้ว ในดวงตาของเขาก็ปรากฏแสงสีแดงเลือดออกมา พลันจ้องมองไปยังขวดเหล้าตรงหน้า เกิดเสียงโครมขึ้นเบาๆ ทันใดนั้นชวดเหล้าก็ระเบิดออกกลายเป็นผุยผง

ตอนนี้เองก็มีผู้มีพลังพิเศษอีกคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ทั้งตัวถูกผ้าคลุมสีดำปกคลุมอยู่ มีเพียงดวงตาอันเยือกเย็นทั้งสองข้างที่โผล่ออกมาให้เห็น เขาปรากฏเบื้องหน้าของซิลลี่โดยตรง พยักหน้าเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “เมื่อสักครู่นี้เลขาฯท่านประธานาธิบดีโทรมา บอกให้พวกเราลงมือปฎิบัติการ และไปเข้าร่วมการแลกเปลี่ยนด้วยตัวเอง คำสั่งมีเพียงอย่างเดียว ฆ่าชาวตะวันออกที่มาทำการแลกเปลี่ยนให้หมด ทำให้สำเร็จและไม่เหลือร่องรอย”

“รู้แล้ว!” ซิลลี่เปิดปากกล่าวเรียบๆ

ซิลลี่ได้รับทั้งรายงานและคำสั่ง ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยไฟแห่งความโกรธ สิ่งนี้สำหรับหน่วยสืบราชการลับพลังพิเศษแล้วนับว่าเป็นความอัปยศอย่างหนึ่ง และสำหรับเขาที่เป็นรองหัวหน้า นี่ก็นับเป็นการโจมตีอย่างหนึ่ง เดิมทีทำหน้าที่นี้มาหลายปี เขามีแนวโน้มว่าจะได้กลายเป็นหัวหน้าทีละนิด ส่วนหัวหน้าโทมัสที่แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยโผล่หัวออกมานั้น คนระดับสูงของรัฐบาลประเทศM ยิ่งไม่พอในเขามากขึ้นทุกวัน

แต่การเสียชีวิตของผู้มีพลังล่องหนในครั้งนี้มาจากการจ่อสู้กับปีศาจตะวันออก ทำให้ซิลลี่โกรธเป็นอย่างมาก เขาตัดสินใจแล้วว่าจะลงมือฆ่าคนคนนั้นด้วยตัวเองเพื่อระงับความโกรธเกลียดในหัว เขาที่ไม่ได้ลงมือมาเกือบสิบปี รู้สึกคิดถึงวันคืนแห่งการฆ่าเมื่อแรกเริ่มเสียจริง

ณ เวลานี้ ศีรษะของโกสต์และชาโดว์เต็มไปด้วยเหงื่อเย็นๆ ขณะเดียวกันก็แสดงถึงความโกรธอย่างหาที่เปรียบมิได้ ทั้งสองนั่งอยู่บนรถโดยมีโกสต์เป็นคนขับ ส่วนชาโดว์นั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ ขับฝ่าไฟแดงอย่างบ้าคลั่งมาตลอดทางโดยไม่สนใจเรื่องอื่นใดแล้ว รู้เพียงว่าต้องหนีเอาตัวรอด

สิ่งที่ทำให้โกสต์และชาโดว์คิดไม่ถึงก็คือ เย่เทียนเฉินกำลังนอนหลับอย่างสบายอกสบายใจอยู่ยนหลังคารถของพวกเขาอย่างเงียบงัน ควบคุมพวกเขาอยู่ในกำมือโดยสิ้นเชิง รอเพียงให้ถึงรังของกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิตค่อยฆ่าพวกเขาทั้งหมด

“พี่ใหญ่ ทำไมไม่ให้ผมฆ่าชายตะวันออกคนนั้น ล้างแค้นให้น้องสาม” ชาโดว์กล่าวอย่างโกรธแค้น

“แกแน่ใจนะว่าแกเป็นคู่มือของมันได้?” โกสต์เปิดปากกล่าวอย่างเย็นชา

ชาโดว์ชะงัก เมื่อย้อนคิดไปถึงฉากที่น้องสามถูกฆ่าก็สั่นสะท้านไปทั่วทั้งสมอง ถูกต้องมิอาจปฏิเสธได้ หากเป็นเขาที่พุ่งเข้าไปก็จะต้องมีจุดจบเช่นเดียวกับน้องสาม ถูกเย่เทียนเฉินฆ่า จะอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าคนจีนที่เป็นไอ้เอเชียขี้โรคในสายตาของชาวต่างชาติมานับร้อยปีจะมียอดฝีมือเช่นนี้ปรากฏตัวออกมา

“ต่อให้ผมคนเดียวฆ่าไอ้ชายตะวันออกจอมโฉดนั่นไม่ได้ แต่ถ้าผมกับพี่ร่วมมือกัน จะไม่มีทางกำจัดมันได้เลยเหรอ? ทำไมพวกเราต้องหนีด้วย?” ชาโดว์ยังคงกล่าวอย่างไม่พอใจ

“ฉันจะขอบอกนายให้ชัดเจนไปเลย ต่อให้ฉันกับนายร่วมมือกัน ก็ไม่ใช่คู่มือของชายชาวตะวันออกคนนั้น มีแต่ตะจบแบบน้องสาม” โกสต์กล่าว

“นี่…จะเป็นไปได้ไง พวกเราสิบปีศาจเป็นกำลังสำคัญของกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิต แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยพ่ายแพ้ คราวนี้ถึงกับมาแพ้ด้วยน้ำมือของชายชาวตะวันออกคนหนึ่ง แล้วก็…แล้วทหารทั้งหมดก็ย่อยยับโดยสิ้นเชิง…” ชาโดว์กล่าวอย่างไม่ยินยอม

โกสต์มองชาโดว์ครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไร ในใจของเขาเองก็เกลียดชังและไม่ยินยอม แต่จะทำอะไรได้อีกล่ะ? พวกเขาสิบปีศาจ มีฐานะเป็นหัวใจหลักของกลุ่มทการรับจ้างมารโลหิต กล่าวได้ว่าค้ำยันทั้งกลุ่ม กระทั่งไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งหัวหน้าแมคเคียร์ก็ได้ เขามีฐานะเป็นหัวหน้าสิบปีศาจ มีหน้ามีตาแค่ไหนกัน?

ครั้งนี้ เดิมทีนึกว่าแมคเคียร์ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ก่อนจะมาโกสต์ยังได้โต้เถียงกับแมคเคียร์เพราะคิดว่าคนคนนี้ให้ตนไปจัดการด้วยตนเอง จะระวังระวังเกินเหตุไปแล้ว เดิมทีคิดว่าเพียงแค่ฆ่าชาวตะวันออกไม่กี่คนเท่านั้น เป็นแค่เรื่องง่ายๆ เมื่อก่อนตอนที่เขาลงมือก็ฆ่าชาวตะวันออกไปไม่น้อย ชาวตะวันออกเหล่านั้นมีทั้งทหารหน่วยรบพิเศษมีทั้งสายลับ ล้วนแต่เป็นพวกไม่เอาไหน นี่ทำให้สมาชิกของสิบปีศาจดูแคลนชาวตะวันออกมากขึ้นทุกคน เอเชียขี้โรคสี่คำนี้ ยังคงไม่อาจลบออกไปจาเราชาวจีนได้

แต่หลังจากที่แซนเบเกอร์นำสิบปีศาจไปถึงคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว บุกฝ่าประตูเข้าไปอย่างรุนแรง และโกสต์ ชาโดว์ และบลัด สามพี่น้องได้พบกับหลิวอวี่ เจียงเหมิงและเฟยอวิ๋น ทำให้รู้สึกว่าชาวตะวันออกที่มาครั้งนี้มียอดฝีมืออยู่จริงๆ นอกจากนี้หลังจากที่เย่เทียนเฉินลงมือ สามพี่น้องก็อดที่จะสั่นสะท้านไม่ได้ สุดท้ายบลัดถูกฆ่า โกสต์พาชาโดว์หนีโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขารู้ว่าหากปะทะกับชายวัยรุ่รชาวตะวันออกคนนี้ จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

“ชายชาวตะวันออกคนนี้ ดูเหมือนง่าย แต่จริงๆ กลับลึกล้ำเกินหยั่ง หากพวกเราพุ่งเข้าไป ก็เอาชีวิตไปทิ้งเสียเปล่าๆ สู้หลังจากนี้ พวกเราหาโอกาสแก้แค้นให้น้องสามจะดีกว่า!” โกสต์กล่าวเสียงเรียบ

ไม่รู้จะกล่าวว่าโกสต์พูดจามีเหตุผลดี หรือจะกล่าว่าเลือดเย็นไรเความรู้สึกดี น้องชายแท้ๆ ของตนเองถูกฆ่า หัวขาดออกจากตัว ยังสามารถนิ่งเฉยเช่นนี้ได้ ดูท่าแล้วคนของประเทศM บางทีก็ไร้มนุษยธรรมเช่นนั้น

เย่เทียนเฉินนอนหลับอยู่บนหลังคารถ ฟังบทสนทนาของโกสต์และชาโดว์ด้วยรอยยิ้ม เจ้าสองคนนี้เห็นชัดๆ ว่าหนีเพราะรักตัวกลัวตาย ยังมาทำเป็นพูดจาเคร่งครัดอีก แสร้งทำเป็นเสียอกเสียใจกับการตายของน้องสาม ช่างปลอมเปลือกเสียจริง

ในขณะเดียวกันเมื่อได้เห็นฝีมือของโกสต์และชาโดว์ ก็ยิ่งทำให้เย่เทียนเฉินตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะต้องถอนรากถอนโคนกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิต ความสามารถของโกสต์และชาโดว์ ทหารหน่วยรบพิเศษและสายลับธรรมดาๆ ไม่อาจรับมือได้ หากไม่ฆ่าสองคนนี้ ภายภาคหน้าจะต้องคุกคามไปถึงพี่น้องชาวจีนแน่นอน

โกสต์ขับรถอย่างบ้าคลั่งราวๆ หนึ่งชั่วโมง รถก็หยุดลงที่ถนนอาชญากรรมในวอชิงตัน ที่เรียกว่าถนนอาชญากรรมก็เพราะที่นี่ทั้งปล้นฆ่าข่มขืน อาชญากรรมทุกอย่างล้วนเกิดทั้งหมด แต่ตำรวจของรัฐบาลประเทศMไม่กล้าสอดมือเข้ามาจัดการ เพราะที่นี่มีกลุ่มทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งอยู่ และยังมีแก๊งมาเฟียอันดับหนึ่งแห่งวอชิงตันอยู่อีกด้วย จึงทำได้เพียงปล่อยให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น

เมื่อนำรถจอดไว้ด้านหน้าตึกที่มีไฟสลัวๆ โกสต์และชาโดว์ก็รีบลงจากรถ นี่เป็นรังของกลุ่มทหารรับจ้างมารโลหิต แมคเคียร์ยังคงรอรายงานสถาการณ์จากพวกเขาอยู่ที่ชั้นบนสุดของตึก ไม่รู้ว่าหากข่าวที่ทหารทั้งหมดของสิบปีศาจตายไปหมดสิ้นถูกรายงานไปยังแมคเคียร์ เขาจะมีปฏิกริยาอย่างไร

เย่เทียนเฉินลงจากรถ มองตึกที่มีไฟสลัวตึกนี้ครู่หนึ่ง หน้าประตูมีชายผิวดำตัวใหญ่สองคนยืนอยู่ เย่เทียนเฉินมองครู่หนึ่ง เขาราวกับได้ยินลมหายใจแห่งความตาย หยิบบุหรี่มวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วจุบขึ้นสูบ สองมือล้วงกระป๋า เดินไปยังตึกแห่งนั้นโดยไม่หลบซ่อน…

……………………………………………………………

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

นิยายแฟนตาซี แปลจีน เกิดใหม่ ต่อสู้ ผู้มีพลังพิเศษระดับพระเจ้ามาเกิดใหม่ในร่างของ ‘เย่เทียนเฉิน’ หน่วยรบพิเศษผู้ไม่เอาถ่าน ระหว่างกำลังปฏิบัติภารกิจคุ้มกันตัวผู้บัญชาการสาวหานเจี๋ยกลับประเทศ แม้การเกิดใหม่ครั้งนี้จะทำให้พลังระดับเทพเจ้าลดเหลือเพียงระดับราชัน แต่ขณะที่เผชิญหน้ากับกองกำลังผู้ก่อการร้ายข้ามชาติที่ได้รับมอบหมายให้มาสังหารคนทั้งคู่ เย่เทียนเฉินในร่างใหม่ได้ใช้ความสามารถจากการดูดซับพลังปราณ แสดงฝีมือการต่อสู้อันเป็นเลิศออกมา สร้างความประหลาดใจให้ทั้งศัตรูและมิตรสหายโดยทั่วกัน ประตูสู่การเป็นสุดยอดนักรบเปิดออกแล้ว! แต่เย่เทียนเฉินคนใหม่ยังต้องไล่สะสางปัญหาที่ร่างเดิมก่อเอาไว้เสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นการล้างแค้นญาติพี่น้องผู้ชั่วช้า รับมือกับคู่แข่งทางการเมืองของบิดา หรือกอบกู้ชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลจากความอัปยศในอดีต ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อจะได้อยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวอันอบอุ่นเสียที

Comment

Options

not work with dark mode
Reset