เทพอสูรสยบโลกา – ตอนที่ 371-372

ตอนที่ 371 เหล่าผู้นำ(ตอนจบ)

 

ดูแล้วหากมีผู้ยกมือเพียงเท่านี้ พวกเขาต้องพ่ายแพ้การโหวตเป็นแน่ และในที่สุดช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแห่งการเลือกข้างก็มาถึง

 

ชิ้งง~

 

เทียนหนิงเจี้ยนส่งสายตาทิ่มแทงไปมองไปยังหลิวเจี่ยผู้นำทีมก่อสร้างที่นั่งนิ่งมิได้ยกมือตามขึ้นมา

 

มันคล้ายกับว่าแสร้งตัวมิรู้เรื่องราวนั่งจิบสุราอย่างสำราญ หลิวเจี่ยและเทียนหนิงเจี้ยนทั้งสองต้องทำงานร่วมกันอยู่แทบตลอดเวลาในทุกๆวัน

 

พวกมันทั้งสองจึงสนิทสนมกันไปโดยปริยาย หลังจากเสร็จสิ้นงานในแต่ละวันพวกมันทั้งคู่มักตั้งวงดื่มกินกันอยู่เสมอเพื่อผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานหนัก

 

“…” หลิวเจี่ยถูกจ้องเช่นนั้นมันถึงกับขนลุกเลยทีเดียว พร้อมกับแขนขวาที่ค่อยๆยกสูงขึ้นช้าๆเก้ๆกังๆ

 

เดิมทีมันเองก็มิได้อยากให้เหล่าพลทหารภายในเมืองออกไปสู้รบภายนอกอยู่แล้ว

 

ทว่ามันก็มิกล้ายกมือออกความเห็นเพราะมันคล้ายกับว่าแสดงความหวาดกลัวของตนออกมาให้ผู้อื่นได้ประจักษ์นั่นเอง

 

เมื่อถูกจ้องจากเทียนหนิงเจี้ยนในที่สุดทำให้มันมิคิดมากอีกต่อไปยกมือขึ้นแสดงความต้องการทันที

 

“…” หลินหยางส่ายหัว

 

หากเป็นแบบนี้การโหวตคะแนนเสียงคงมิมีความสำคัญเป็นแน่หากผู้โหวตมิได้ตัดสินใจด้วยตนเอง

 

“ใครที่เห็นด้วยกับการบุกโจมตีถ้ำค้างคาวยกมือขึ้น” เขากล่าวต่อทันที

 

พรึ่บบ~

 

ดังเดิมล้วนแต่เป็นผู้คนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้ว

 

มีห้าคนที่ยกมือขึ้นมาอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องคิดพวกเขาทั้งห้าคือ หลิวไห่ จิ่นเหอ เจียวซิ่น เจียวฮั่นและผู้นำการฝึกสอนซิ่นก้งนั่นเอง

 

พวกเขาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นชายฉกรรจ์ผู้เสาะแสวงหาพลัง อำนาจ แม้ซิ่นก้งจะมิได้สังกัดทีมต่อสู้ใดๆแต่เขาเองก็ต้องการให้เมืองแห่งนี้มีความสามารถสูงขึ้นเช่นกัน

 

“ผลโหวตคือห้าต่อสี่ สรุปแล้วพวกเราจะบุกถ้ำค้างคาวปีกเหล็กกันอีกครั้ง โดยจะเริ่มในวันพรุ้งนี้” หลินหยางกล่าวปิดงานทันที

 

เขาเองก็โล่งใจลงเล็กน้อยหลังที่ผลออกมาเป็นเช่นนี้

 

สิ่งที่ได้มาจากการปลิดชีวิตมอนสเตอร์ทั้งหลายนั้นมิใช่เพียงระดับอย่างเดียว มันมีทั้งเหรียญเงินและทักษะที่มีประโยชน์เพิ่มความแข็งแกร่งให้กองทัพไปอีกขั้น

 

แต่บทเรียนที่พบเจอมาเมื่อวานนี้หนักหนาอยู่ไม่น้อย โชคชะตาที่คอยกลั้นแกล้งเล่นตลกทำให้พวกเขาเกือบพลาดท่าเสียทีไปแล้ว ทำให้เขายังคงสองจิตสองใจมิสามารถเลือกได้

 

“ขั้นต่อไปคือแผนที่จะใช้ในการบุกถ้ำค้างคาวครั้งนี้” หลินหยางต่อยอดประเด็นเดิมทันที

 

ทั้งสิบคนระดมแสดงความคิดเห็นเพื่อคิดแผนการรบกันอย่างดุเดือด

 

พวกเขาทำแม้กระทั้งเอาเศษไม้มาวางเรียงกันเพื่อแทนตัวมนุษย์

 

ไม้ที่ชิ้นเล็กหน่อยก็คือค้างคาวปีกเหล็กนั่นเอง

 

หากไม่ทราบมาก่อนว่าพวกเขากำลังปรึกษาหารือคิดแบบแผน คงจะเข้าใจผิดคิดว่าพวกเขาเล่นแบบเด็กๆกันอยู่เป็นแน่

 

หลังจากพูดคุยกันต่อซักพักหลินหยางก็แยกตัวกลับไปพักผ่อนโดยมีเหมยเหมยตามไปด้วยดังเดิม คนที่เหลือยังคงนั่งจับเข่าคุยกันเรื่องสัพเพเหระต่อไปอย่างสนุกปาก

 

 

ตอนที่ 372 อาหาร

 

ตอนเช้า

 

ก๊อก ก๊อกก~

 

“หืม” หลินหยางงัวเงียตื่นด้วยดวงตาสลึมสลือยังมิตื่นเต็มที่ขณะกำลังนอนหลับลึกฝันหวานอยู่นั้นกลับถูกปลุกด้วยเสียงรบกวน

 

เขาลุกขึ้นจากที่นอนแสนอบอุ่นไปเปิดประตูทันที

 

พบเจอเข้ากับหนึ่งในเวรยามที่ทำหน้าที่เฝ้ากะในยามกลางคืน

 

มองไปบรรยากาศภายนอกนั้นตอนนี้ท้องฟ้ายังมิมีแสงอาทิตย์สอดส่องมาเลยแม้เพียงนิด มันยังเป็นช่วงเช้ามืด

 

“มีอะไรหรอ” หลินหยางกล่าวถาม

 

“ค-ครับ ฉางเปามาขอพบครับ” ยามคนนั้นกล่าว เมื่อครู่มันเหลือบมองเหมยเหมยสาวน้อยที่ยังคงนอนขดตัวหลับอยู่ภายใน

 

“โอเค” หลินหยางไปล้างหน้าล้างตาทันที

 

ณ ประตูเมือง

 

หลังจากชำระล้างร่างกายเสร็จหลินหยางเดินมายังประตูเมืองเพื่อพบเจอกับแขกผู้มาเยือนแต่เช้าตรู่ฉางเปา

 

มองไปรอบๆตอนนี้ไม่ต่างจากเมืองร้างเพราะยังไม่พบเจอผู้คนเลยแม้แต่คนเดียว มีเพียงเหล่าเวรยามที่ประจำการบนกำแพงเมืองที่ยังคงตื่นอยู่ คนที่เหลือนั้นล้วนนอนหลับพักผ่อน

 

“อรุณสวัสดิ์ครับพี่หยาง” ฉางเปาเปิดปากทักทายทันทีหลังจากเห็นหลินหยาง มันยืนยิ้มแป้นจนปากฉีกเกือบถึงหู

 

“มาแต่เช้ามีอะไรหรอ?” หลินหยางกล่าวถามด้วยความสงสัย

 

เพราะการที่มันมารบกวนการนอนหลับของเขาแต่เช้าเช่นนี้สมควรมีเรื่องด่วนเหตุการณ์ร้ายแรง

 

แต่เมื่อดูจากใบหน้ายิ้มแย้มแก้มปริของมันคงมิมีเรื่องอันใดให้ต้องกังวล มองไปยังคนด้านหลังมันพวกเขาก็มีใบหน้ามิแตกต่างจากมันเท่าใด มันพาคนมาด้วยกว่าสิบคนเลยทีเดียว

 

กะต๊าก~

 

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงบางอย่างร้องดังขึ้น มันมาจากทางด้านหลังฉางเปา

 

“!?” หลังจากได้ยินเสียงนั้นความง่วงถูกปัดเป่าเป็นปลิดทิ้ง หลินหยางตื่นเต็มที่ทันทีเพราะมันคือเสียงที่คุ้นเคยยิ่งนักสำหรับโลกเดิมของตน

 

“ผมยึดแหล่งอาหารได้แล้วครับ” ฉางเปากล่าวอย่างรวดเร็วพร้อมกับแหวกทางเปิดให้หลินหยางชมสิ่งที่คนทั้งสิบล้อมเอาไว้

 

มิผิดมันคือไก่นั่นเองแต่ทว่ามันมิใช่ไก่ธรรมดามันมันมีขนาดตัวใหญ่กว่าไก่ที่เขารู้จักกว่าสองถึงสามเท่า

 

ด้วยขนาดของมันนี้ทำให้หมาแมวที่โตเต็มวัยพบเจอเข้าคงต้องเผ่นเป็นป่าราบเป็นแน่

 

ชายคนหนึ่งจับคอไก่ยักษ์ตัวนั้นยกสูงขึ้นเพื่อโชว์ให้แก่หลินหยางดูผลงานของพวกมัน ใบหน้ามันยิ้มรื่นมิหุบราวคล้ายกับแสดงตัวรับความดีความชอบ

 

“นี่มัน..สุดยอด” หลินหยางอดมิได้ที่จะอุทานออกมา

 

โลกเดิมนั้นเขาทำได้เพียงทานไข่ของมันเท่านั้นเนื่องจากต้องเก็บหอมรอบริบเงินเอาไว้เป็นค่ารักษาพยาบาลของยายตนและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นภายในครอบครัวที่มีเขาเป็นเสาหลัก

 

บางครั้งก็ซื้อมาเพียงซี่โครงที่ไร้เนื้อ นำมาต้มทำน้ำซุปบ้างเป็นครั้งคราว

 

แต่ตอนนี้ตรงหน้าเขาเป็นไก่ตัวเป็นๆที่ยังมีเนื้อหนังติดครบทุกชิ้นส่วน แถมขนาดตัวของมันยังใหญ่โตกว่าไก่ที่เขารู้จักราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตคนละสายพันธ์

 

เขาแทบทนรอที่จะลิ้มชิมรสชาติของพวกมันมิไหว

 

กระต๊ากก~

 

ไก่ยักษ์ตัวอวบอ้วนส่งเสียงร้องพยายามออกแรงดิ้นสะบัดตัวหมายจะหลุดจากมือที่พันธนาการร่างกายของตน ช่างน่าเสียดายที่มันเป็นแค่การดิ้นรนที่ไร้ประโยชน์

 

“พวกนายไปได้มาจากไหน” หลินหยางกล่าวถามอย่างตื่นเต้น

 

มองไปยังเกวียนด้านหลังมีไก่ตัวยักษ์ถูกมัดจนกลมวางอยู่กว่ายี่สิบตัว พวกมันยังมีชีวิตแหกปากร้องขันประสานเสียงดังเลยทีเดียว

เทพอสูรสยบโลกา

เทพอสูรสยบโลกา

Score 7.1
Status: Ongoing Released: N/A Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เทพอสูรสยบโลกาประเทศจีน ปี ค.ศ. 2025 จู่ๆ เกิดแผ่นดินไหวขึ้นทั่วโลก และ มี”ประตู” ประหลาดเกิดขึ้นทั่วทุกเมืองใหญ่ทั่วโลก พร้อมกับเสียงปริศนา “มนุษย์เอ๋ย พวกเจ้าอยากเปลี่ยนแปลงโชคชะตาหรือไม่ อำนาจ เงินทอง วาสนา ความมั่งคั่ง หากอยากเปลี่ยนแปลง เชิญเข้ามาที่ประตูนี้ จักต้อนรับพวกเจ้า” เรื่องราวแห่งตำนานกำลังจะเริ่มขึ้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset