เทพอสูรสยบโลกา – ตอนที่ 383-384

ตอนที่ 383 ปราการมนุษย์

หลินหยางถือจับหอกในมือของตนวางพาดอยู่บนโล่เหล็กชั้นที่สองปิดช่องว่างด้านบนที่เหลือมิถึงครึ่งเมตรจนมิดชิดเต็มไปด้วยปลายหอกแหลม ตอนนี้เขาเหลือทางเลือกให้ค้างคาวปีกเหล็กเพียงน้อยนิด

หนึ่งคือโจมตีเข้าใส่โล่เหล็กที่มีความแข็งแรงทนทานสามารถต้านรับการโจมตีของมันได้อย่างสบายหรือให้โชคชะตาเป็นผู้ตัดสินใช้กำลังบุกฝ่าหนามแหลมจากปลายหอกเข้ามาหลังแนวป้องกัน

จากจำนวนร้อยตัวบางทีอาจจะหลุดมารอดมาได้ซักห้าถึงสิบตัว ส่วนที่เหลือนั้นต้องตกตายลงถูกเสียบร่างด้วยหอกเหล็กแหลมนี้อย่างแน่นอน

เนื่องจากรังค้างคาวแห่งนี้มีทางเข้าออกเพียงเส้นทางเดียว ค้างคาวภายในเมื่อถูกบุกโจมตีแน่นอนย่อมไม่สามารถถอยหนีเอาชีวิตรอดไปได้

ทางเลือกเดียวของพวกมันคือต้องต่อสู้แลกชีวิตกับผู้บุกรุก หากมันชนะก็จะสามารถรักษาชีวิตและเผ่าพันธุ์ของตนเองเอาไว้ได้ตราบนานเท่านาน แต่เมื่อแพ้สิ่งที่รออยู่มีเพียงอย่างเดียวนั่นคือความตายนั่นเอง

ค้างคาวปีกเหล็กกระพือปีกที่ห่อหุ้มร่างกายตนกระโจนออกจากเพดานถ้ำโบยบินอยู่บนอากาศ พวกมันยังคงสับสนงงงวยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ทั้งยังพึ่งตื่นจากการหลับไหลยังสลึมสลือมิส่างเท่าที่ควร

ค้างคาวส่วนใหญ่เพียงกรีดร้องส่งเสียงและบินอยู่กับที่มิได้บุกเข้าโจมตีใส่ผู้บุกรุกแต่อย่างใด

ฉึกก~

เมื่อเดินเข้าใกล้ฝูงค้างคาวหลินหยางออกแรงแทงหอกในมือออกไปในระยะสั้นแทงเข้าใส่ร่างกายของค้างคาวปีกเหล็กตัวหนึ่งที่ยังคงแหกปากร้องมิได้รู้ตัวเลยว่าตนเองตกเป็นเป้าหมายของหอกเล่มยาว

หลินหยางกระชากหอกกลับเข้ารูปขบวนเดิมอย่างรวดเร็ว

หอกที่ยื่นแทงออกมากว่าสิบเล่มก็ทำเฉกเช่นเดียวกันกับเขา พวกเขาจัดการปลิดชีวิตค้างคาวที่บินคว้างอยู่ด้านบนมิปล่อยให้โอกาศเช่นนี้เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์

ค้างคาวปีกเหล็กบางตัวโบยบินรักษาระยะห่างจากศัตรูของตนมิยอมเข้าใกล้ มันพยายามเสาะหาช่องว่างเพื่อฝ่าเข้ามาในแนวป้องกันหวังจะโจมตีเข้าใส่ร่างกายของผู้บุกรุก

แกร๊ง~

มีเสียงเหล็กกระทบกันดังขึ้นมา มันมาจากการที่ค้างคาวปีกเหล็กใช้ปีกของตนฟาดฟันเข้าใส่โล่โลหะ

หลังจากที่ตกเป็นเหยื่อให้ผู้บุกรุกเข่นฆ่าอย่างง่ายดายมาไม่นานตอนนี้ค้างคาวบางส่วนเริ่มเป็นฝ่ายโจมตีโต้กลับบ้างแล้ว

แต่ทว่ากว่าพวกมันจะตั้งหลักได้ พวกพ้องของมันได้ตกตายไปร่วมร้อยชีวิตแล้ว

ซึ่งนับว่าเสียหายไปไม่น้อยนั่นเพราะว่าในจำนวนพวกมันนี้ไม่มีค้างคาวปีกเหล็กระดับหกที่มีสติปัญญาสูงของบงการ

พวกที่นอนห้อยหัวอยู่ส่วนหน้าสุดของถ้ำนี้ล้วนแล้วแต่เป็นค้างคาวระดับสี่ทั้งสิ้น จึงมิแปลกใจที่พวกมันตายลงโดยมิได้ตอบโต้

ขบวนทัพเดินหน้าบดขยี้อย่างไม่ลดละ

ค้างคาวปีกเหล็กภายในถ้ำเริ่มกรูกันออกมาเพิ่มสมทบกับพักพวกของตนหลังจากได้ยินเสียงร้องเรียก

ทว่าเมื่อมาถึงพบเจอกับป้อมปราการมนุษย์ที่ตั้งขบวนป้องกันบุกคืบหน้าเข้าใส่เช่นนี้ทำให้มันมิสามารถบุกฝ่าเข้าไปได้ ทำได้เพียงบินเข้าสู่ความตาย

ตอนที่ 384 ถอนกำลัง

แคว๊กก~

จู่ๆก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา

ส่งผลให้ค้างคาวระดับสี่ทั้งหลายหยุดโจมตีเข้าใส่แนวป้องกันมิให้ส่งตนเขาหาคมหอก เสียงนี้มาจากค้างคาวปีกเหล็กระดับหกผู้มีสติปัญญาสามารถคิดอ่านได้นั่นเอง

มันร้องยาวอยู่นานจนกลบเสียงอื่นๆไปหมด ค้างคาวระดับต่ำหลังจากได้รับคำสั่งพวกมันเกาะกลุ่มกันเป็นฝูงคล้ายก้อนเมฆสีดำ มิได้รุกคืบหน้าเข้าโจมตีใส่ขบวนทัพอีกต่อไป

มองไปยังแนวป้องกันพบซากศพค้างคาวนอนแน่นิ่งนับร้อยชีวิตเกลื่อนกลาดไปทั่ว นั่นคือจำนวนที่พวกเขาสามารถฆ่าพวกมันได้อย่างง่ายดายโดยมิต้องเสียสิ้นเปลืองแรงเลยแม้เพียงนิด

ตึง~

โล่เหล็กทรงกลมทั้งหกบานยกขึ้นสูงขยับก้าวคืบไปข้างหน้าหนึ่งช่วงตัวและปักลึกลงบนพื้นถ้ำอย่างรุนแรง แถวด้านหลังเองก็มิปล่อยให้ขบวนทัพมีช่องว่างพวกเขาก้าวเท้าเดินตามอย่างกระชั้นชิด

พวกเขาเคลื่อนขบวนทัพรุกเข้าใส่ค้างคาวทั้งฝูงอย่างมิหวั่นเกรง แม้จะมีค้างคาวปีกเหล็กระดับหกมาสมทบก็มิทำให้ทิศทางของการต่อสู้เปลี่ยนแปรไปแต่อย่างใด ยังคงเป็นฝั่งผู้บุกรุกได้เปรียบดังเคย

ค้างคาวปีกเหล็กนับร้อยรักษาระยะห่างจากผู้บุกรุก มิได้ทำสิ่งใดนอกจากบินอยู่บนอากาศ

แคว๊ก~

ทันใดนั้นก็มีเสียงค้างคาวระดับหกร้องยาวมาจากส่วนลึกภายในถ้ำเสียงของมันกระทบผนังถ้ำก้องสะท้อนไปมา

แคว๊กก~

เพียงอึดใจเดียวค้างคาวปีกเหล็กระดับหกที่ปะปนอยู่ในฝูงค้างคาวเบื้องหน้าผู้บุกรุกประสานเสียงร้องก้องระงม ไม่ต่างจากคำบัญชา

ฝูงค้างคาวปีกเหล็กทั้งหมดทยอยเกาะกลุ่มกันล่าถอยลอยหายไปในความมืด บัดนี้มิเหลือค้างคาวปีกเหล็กตัวใดอยู่ใกล้ในระยะสายตาอีกต่อไป พวกมันหายเข้ากลีบเมฆไปเสียจนหมด

‘!?’ หลินหยางตกใจเล็กกับการถอยหนีของค้างคาวเหล่านี้ มิทราบพวกมันจะมาไม้ไหนไม่นานก็ปัดเป่าความคิดไร้สาระทิ้งเสีย

“เดินหน้า!” หลินหยางออกคำสั่งพลางแสยะยิ้ม

นี่นับเป็นเรื่องดีสร้างประโยชน์ให้แก่พวกเขา

มิต้องรอให้ยื้อกำลังเป็นฝ่ายดันมันให้ไปแออัด กลับกันมันเป็นฝ่ายถอยไปรวมกันเสียเองมิต้องเสียเวลาอีกต่อไป

พวกเขาจะได้เก็บตุนแรงไว้ใช้ในการต่อสู้ยามที่ศัตรูเกาะกลุ่มรวมกัน

มิรอช้า ขบวนทัพเดินหน้าอย่างใจเย็นมิเร่งรีบ

คอยเก็บกวาดซากค้างคาวบนพื้นถ้ำส่งร่างของมันออกไปภายนอกถ้ำเป็นทอดๆ

พร้อมกับเดินหน้าตามกันไปเป็นระเบียบมิแตกแถว ยิ่งเข้ามาลึกเท่าใดความกว้างของผนังทั้งสองด้านค่อยๆขยายขึ้นตามลำดับ

ตอนนี้พวกเขาสมควรอยู่ระหว่างกลางของถ้ำค้างคาวแห่งนี้แล้ว แต่ก็ยังมิพบเห็นค้างคาวปีกเหล็กตัวใดเลยแม้แต่น้อย

หลินหยางหน้านิ่วคิ้วขมวด

เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาอดกังวลใจมิได้ เกรงว่าค้างคาวปีกเหล็กไม่น้อยที่ต้องตกตายไปลงจากการต่อสู้กับผู้บุกรุกกลุ่มอื่นที่มิใช่ตน

คราแรกที่พวกเขาบุกเข้ามาดันฝูงค้างคาวจนมันแออัดเพียงครึ่งถ้ำ แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่จุดเดียวกันกับครานั้นทว่ายังมิพบแม้เพียงเงาของมัน

นั้นแสดงว่าจำนวนของพวกมันนั้นลดหายไปมากเลยทีเดียว นับแต่วันแรกจวบจนบัดนี้ค้างคาวปีกเหล็กน่าจะตกตายไปไม่ต่ำกว่าสองพันตัวเป็นแน่