เทพอสูรสยบโลกา – ตอนที่ 55-56

ตอนที่ 55 สิ่งที่ไม่ควรมีอยู่

 

“เมื่อเย็นวานพวกเราเจอต้นไม้เก่าแก่ยืนต้นตายต้นนึงที่โคนต้นของมันมีโพลงไม้ขนาดกว้างราวหนึ่งเมตร ด้วยความสงสัยหลังเฝ้าสังเกตุการณ์ก็พบว่ามันมีกระรอกออกมาจากโพรงนั้นด้วยล่ะ ทว่า…มันมียักษ์ตนนึงเฝ้าอยู่ตัวมันสูงใหญ่กว่าสี่เมตรเสียอีกมันคอยจับกระรอกที่ออกมาจากโพรงกิน พวกเราจึงเฝ้าดูมาตั้งแต่เมื่อคืนจนเช้ายักษ์ตนนั้นมันไม่ยอมไปไหนเลยมันเฝ้าอยู่หน้าโพรงตลอดและคอยจับกินกระรอกที่วิ่งออกมาคล้ายกับกบยักษ์ที่เฝ้าแหล่งน้ำ ข้าคิดว่าโพรงไม้นั้นคงเป็นเช่นเดียวกับคลองน้ำที่เรามี อาหารที่ไม่มีวันสิ้นสุด!!” ลี่จูกล่าวอย่างตื่นเต้น

 

“มันอยู่ทางนั้นห่างจากเมืองของท่านประมาณสิบกิโลเมตร” ลี่จูกล่าวต่อโดยที่ไม่ต้องให้หลินหยางที่ตอนนี้กำลังมีประกายในดวงตาวิบวับยิงคำถาม

 

‘หืม? ทางนั้นเราก็เคยส่งทีมสำรวจไปมาแล้วนี่นา’ หลินหยางคิดเขาส่งทีมสำรวจออกไปทางที่ลี่จูชี้เป้าแล้วแต่พวกเขามิได้พบอะไรมีเพียงเมืองเท่านั้น พวกเขาออกไปไกลถึงห้าสิบกิโลจึงกลับมาตามคำสั่งของหลินหยาง

 

“ไปดูกันเถอะ” หลินหยางกล่าวกับลี่จู

 

ระหว่างทางหลินหยางมากับลี่จูพร้อมกับทีมระยะใกล้และเหล่าเอลฟ์ไม่มาก พวกเขาแค่ต้องการมาดูลาดราวเท่านั้น หลินหยางได้พกแผนที่ ที่เทียนหนิงเจี้ยนทำขึ้นมาด้วยรายละเอียดของแผนที่กับทางที่เขาเดินผ่านเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยนหากมีสถานที่เช่นลี่จูบอกกล่าวพวกเขาไม่น่าจะมองพลาดไปได้

 

ณ ต้นไม้แห่งหนึ่งกลางทุ่งหญ้าเขียวขจี กิ่งก้านของมันไร้ใบผลิลำต้นดำเป็นตอตะโกมันยืนต้นตายอย่างที่ลี่จูเล่า มีโพรงขนาดพอที่คนจะมุดเข้าไปได้ ด้านข้างของลำต้นมีสิ่งมีชีวิตตนนึงผิวหนังมีสีเขียวตัวมันใหญ่กว่าสี่เมตรสูงเกือบเท่าต้นไม้ยืนอยู่ในมือขวาของมันถือดาบหินยักษ์ที่คงจะมีเพียงแต่มันที่ใช้ได้ หากเป็นมนุษย์คงต้องใช้สามคนเพื่อแบกดาบเล่มนั้น

 

หลินหยางและพวกซุ่มมองมันอยู่ห่างๆ

 

‘หากมันเป็นจุดสนใจเช่นนี้ ทีมสำรวจก็น่าจะมองเห็นได้ง่ายๆเลยนี่’ หลินหยางคิดเพราะลำต้นสีดำของมันที่ตั้งอยู่ใบพื้นที่โปร่งแม้จะมองจากระยะไกลก็ยังเห็นได้ชัดแถมยังมียักษ์สีเขียวตัวอ้วนที่ใหญ่ยิ่งกว่าต้นไม้นั่นอีก

 

ทีมสำรวจของเขาก็นับว่าฝีมือมิได้ต่ำทราม เรียกได้ว่าพวกเขาแข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆในเมืองเพราะพวกเขาร่วมรบกับหลินหยางทุกศึก ไม่มีทางที่พวกเขาจะไม่สังเกตุเห็น

 

แถมยังมีหลักฐานที่ชัดเจนอย่างแผนที่ในมือของเขาเพราะจากบริเวณรอบๆนั้นเป็นดังภาพที่เขียนอยู่ในแผนที่มิผิดเพี้ยนซึ่งรับประกันได้ว่าพวกเขาเคยผ่านทางนี้มาแล้ว ซึ่งก็เหลือเพียงเหตุผลเดียว

 

นั่นแสดงว่าต้นไม้ที่ตายแล้วต้นนี้มิเคยอยู่ ณ ที่ตรงนี้!!

 

หลังจากเฝ้ามองมันอยู่ราวหนึ่งชั่วโมงก็มีกระรอกฝูงนึงมีมากกว่าสามสิบตัวพวกมันตัวอวบอ้วนน้ำหนักคงไม่ต่ำกว่า 10 กิโลพวกมันตัวใหญ่ยิ่งกว่าสุนัขเสียอีก กระรอกทั้งฝูงวิ่งกรูกันออกมาจากโพรงไม้ต้นนั้น เจ้ายักษ์ที่ยืนคอยอยู่เงื้อดาบหินใหญ่ยักษ์ภายในมือทุบลงเป็นแนวขวางเกิดแรงสั่นสะเทือนเบาๆถึงจุดที่หลินหยางอยู่เลยทีเดียว การทุบของมันทำให้กระรอกฝูงนั้นตายเกือบหมดมีเพียงบางตัวที่หลุดรอดและวิ่งหนีออกไปไกลห่าง

 

เจ้ายักษ์ตนนั้นก็มิได้ตามไป มันยกดาบกลับพลางหยิบซากกระรอกที่ตายภายใต้น้ำมือของมันขึ้นมากินทีละตัวอย่างเอร็ดอร่อย

 

หลินหยางยังมิได้ทำอะไรเขายังคงเฝ้ามองต่อไปสำรวจรายละเอียดรอบๆ

 

เจ้ายักษ์เมื่อกินกระรอกเสร็จมันก็นั่งพิงข้างต้นไม้ เมื่อเวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงเจ้ายักษ์ตนนั้นก็ลุกขึ้นและจ้องไปที่โพรงไม้ราวกับว่ารอบางอย่าง ไม่นานนักเขาก็ทราบสาเหตุที่ยักษ์ตนนั้นรอคอยเพราะมีกระรอกฝูงใหม่กว่าสามสิบตัววิ่งกรูกันออกมาเช่นเดิม

 

‘นี้มันเป็นอย่างที่ลี่จูพูดจริงๆแหล่งอาหารที่ไม่มีวันหมด!!’ หลินหยางยิ้มแก้มปริ

 

ตอนที่ 56 กองกำลังอื่น

 

เขาใช้ทักษะตาเหยี่ยวตรวจสอบเจ้ายักษ์ตนนั้น

 

ออร์ค ระดับ 20

พลังโจมตี 30

ป้องกัน 18

ความเร็ว 5

คำอธิบาย : ???

คำเตือน : ???

‘เนื่องจากระดับของเป้าหมายสูงกว่าท่านจึงไม่สามารถตรวจสอบได้’

 

‘ระดับยี่สิบ’ หลินหยางขมวดคิ้วเจ้าตัวนี้มันเป็นมอนสเตอร์ระดับสูงที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา แถมค่าสถานะของมันก็สูงยิ่ง พลังโจมตีของมันที่มากถึงสามสิบหากโดนดาบมันทุบ คงไม่ต่างจากฝูงกระรอกที่มันทุบจนแบน เนื่องจากมันมีระดับสูงกว่าเขา เขาจึงไม่สามารถดูคำอธิบายและคำเตือนได้ซึ่งก็นับว่าอันตรายทีเดียวเพราะเขาจะต้องสู้โดยที่มีข้อมูลเบื้องต้น

 

เขายังลืมตอนที่ถูกโจมตีทางวิญญาณจากราชสีห์ตาเดียวมิได้เป็นเพราะเขาไม่สนใจคำเตือนจึงเกือบทำให้ทั้งทีมเกิดการสูญเสีย โชคดีที่มีเพียงแต่คนบาดเจ็บ มิมีผู้เสียชีวิตไม่งั้นเขาคงจะโทษตัวเองเป็นแน่

 

“กลับกันก่อนพวกเราต้องนำคนมาเพิ่มและเตรียมพร้อมให้มากกว่านี้” หลินหยางกล่าวก่อนจะนำกลับเมือง

 

ถึงแม้อยู่ไปพวกเขาก็ฆ่าเจ้าออร์คนั่นไม่ได้อยู่ดี เขาที่มีสถานะความเร็วถึง 1.9 หากเป็นการทุบที่ออร์คตนนั้นใช้เขาคิดว่ายังพอหลบได้ แต่หากจะให้เขาฆ่ามันหลินหยางมิมั่นใจเนื่องจากพลังป้องกันของมันที่สูงเกินไปและตัวของมันก็สูงกว่าสี่เมตร ตัวเขายังสูงไม่ถึงพุงของมันเสียด้วยซ้ำ หากต้องการฆ่ามันเขาต้องวางแผนอย่างรัดกุม

 

เมืองหลินหยาง

 

“พวกเราจะโจมตีออร์คตนนั้นพรุ้งนี้ ลี่จูคุณกลับไปและนำคนมาให้มากที่สุดเน้นเฉพาะคนที่เพิ่มสถานะไปที่พลังโจมตีส่วนใหญ่” หลินหยางกล่าวกับลี่จู

 

“ได้เลยท่านหลินหยาง พรุ้งนี้เจอกันใหม่” ลี่จูตอบกลับและเดินทางกลับหมู่บ้านของตน

 

“ทีมก่อสร้างเตรียมรถยิงธนูให้พร้อมใช้หอกเหล็กเป็นลูกศร” หลินหยางกล่าว

 

“ครับ” ทีมก่อสร้างตอบกลับอย่างพร้อมเพรียงพวกเขาจะได้เวลาโชว์ฝีมือแล้ว เมื่อคราที่ราชสีห์ตาเดียวจู่โจมพวกเขาคือทีมที่สังหารไปได้จำนวนนึง ตอนนี้ระดับของพวกเขามีถึงระดับสองทุกคนยกเว้นหลิวเจี่ยที่มีระดับ 3 พวกเขาเพิ่มสถานะทั้งหมดไปที่พลังเพราะพวกเขาต้องใช้พละกำลังในแต่ละวันอย่างมหาศาล สร้างบ้าน ต่อเติมกำแพง ตัดไม้ ฝึกใช้รถยิงธนู พวกเขาต้องทำสิ่งเหล่านี้ทุกวัน แม้พวกเขาจะกลัวที่จะเป็นแนวหน้าในการต่อสู้แต่หากให้จู่โจมระไกลโดยรถยิงธนูจากสถานที่ที่ปลอดภัยเช่นนั้นพวกเขาก็สู้มิถอย

 

“วันนี้ดื่มกินและพักผ่อนกันให้เต็มคราบ พรุ้งนี้เรามีศึกต้องสู้” หลินหยางตะโกนพร้อมกับร่วมวงดื่มสุรากันเต็มที่จนมีอาการมึนเมาเล็กน้อยไม่นานนักมันก็หวนนึกถึงแหล่งอาหารแห่งใหม่ด้วยใบหน้าเหม่อลอยยิ้มกริ่ม หากสามารถพิชิตมันได้พวกเขาจะมีกระรอกตัวอ้วนกว่าสามสิบตัวให้เก็บเกี่ยวและยังสามารถจับพวกมันได้ทุกๆหนึ่งชั่วโมงด้วย นับว่ามากกว่าปลาในคลองน้ำเสียอีก พวกเขามิต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไปแถมยังเหลืออาหารไว้กักตุนไว้สำหรับสถานะการณ์ฉุกเฉินอีกมาก

 

เมื่อกินดื่มจนอิ่มเอมหลินหยางก็เข้านอนแต่หัวค่ำเพราะพรุ้งนี้ต้องใช้พลังอีกมากเขาจึงรีบพักผ่อน

 

ตอนเช้า

 

ตอนนี้หลินหยางกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับเดินทางทั้งอาวุธและอาหาร เขานำคนไปทั้งหมดกว่าเกือบเจ็ดสิบคน

 

มีทีมระยะใกล้ ทีมก่อสร้างและทีมจู่โจมที่มีสมาชิกเป็นมนุษย์หมาป่าทั้งหมด

 

เมื่อลี่จูนำกองกำลังของเขากว่าสี่สิบคนมาถึงพวกเขาก็ออกเดินทางทันที โดยกองกำลังของลี่จูมีคนของหมู่บ้านเขายี่สิบคนและมาจากหมุ่บ้านเอลฟ์รุ่นใหม่ที่พึ่งมาถึงอีกยี่สิบคน นับว่าตอนนี้หลินหยางนำกำลังร่วมร้อยคนเพื่อไปสังหารออร์คเพียงตัวเดียว

 

การเดินทางเป็นไปอย่างครึกครื้นโดยมีผู้คนพูดคุยกันตลอดทาง มองแล้วเหมือนพวกเขาเดินทางไปปิคนิคเสียมากกว่า

 

เมื่อมาถึงสถานที่ที่มีต้นไม้สีดำก็ยังมองเห็นออร์คตัวใหญ่อยู่เช่นเดิม

 

แต่มีสิ่งที่เขาไม่เคยคิดก็คือบริเวณรอบๆมีคนกว่าร้อยคนซุ่มอยู่

 

หลินหยางขมวดคิ้ว

 

เพราะคนพวกนั้นมีเป้าหมายเดียวกับเขา นั่นคือเหล่ากระรอกน้อยที่อยู่ภายในโพรงไม้!!

เทพอสูรสยบโลกา

เทพอสูรสยบโลกา

Score 7.1
Status: Ongoing Released: N/A Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เทพอสูรสยบโลกาประเทศจีน ปี ค.ศ. 2025 จู่ๆ เกิดแผ่นดินไหวขึ้นทั่วโลก และ มี”ประตู” ประหลาดเกิดขึ้นทั่วทุกเมืองใหญ่ทั่วโลก พร้อมกับเสียงปริศนา “มนุษย์เอ๋ย พวกเจ้าอยากเปลี่ยนแปลงโชคชะตาหรือไม่ อำนาจ เงินทอง วาสนา ความมั่งคั่ง หากอยากเปลี่ยนแปลง เชิญเข้ามาที่ประตูนี้ จักต้อนรับพวกเจ้า” เรื่องราวแห่งตำนานกำลังจะเริ่มขึ้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset