เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 107 ผู้ช่วยเหลือที่แข็งแกร่ง

บทที่ 107 ผู้ช่วยเหลือที่แข็งแกร่ง

 

ทางทิศตะวันออกของบึงมรณะ ร่างบางกำลังบินอยู่ในท้องฟ้าในขณะที่กำลังแบกร่างของคนๆหนึ่ง

ชายร่างยักษ์สองคนที่สูงตระหง่านก็วิ่งตามมาด้วยความเร็วสูง เหมือนหมีสี ทุกครั้งที่พวกเขากระโดดขึ้น พวกเขาก็พุ่งผ่านอากาศไปได้หลายสิบเมตร

รอบๆของบึง มีคนประหลาดที่ปกคลุมด้วยเกล็ดโดยที่ร่างครึ่งนึงจมอยู่ในโคลน เขากำลังเคลื่อนไหวผ่านบึงเหมือนไส้เดือนยักษ์ ดวงตาของมันดุร้าย และส่องประกายเย็นชาออกมา เขาเอาแต่มองท้องฟ้าที่อยู่เหนือบึงเพื่อมองไปยังร่างบางที่กำลังลอยอยู่ในอากาศ

ไกลออกไปก็มีเสียงคำรามที่บ้าคลั่ง มันตะโกนอย่างโมโหมาตลอดทาง พร้อมกับมีพลังจิตวิญญานของมันแผ่ออกมาแต่ไกล

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทางทิศตะวันออกของบึงมณะทำให้นักรบที่เข้ามาในพื้นที่นี้ส่วนมากต่าง กลัวและสับสน นักรบที่กำลังไล่ล่าสัตว์อสูรทั้งหมดต่างก็หยุดมองท้องฟ้าด้วยความตกใจบนใบหน้าของพวกเขา โดยไม่มีใครรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น

พวกเขาได้ยินเพียงเสียงของคนเรียกสัตว์อสูรที่มากมายออกมาจากบึงพวกมันทั้งหมดกระโดดออกมาทีละตัวและมุ่งหน้าไปทางตะวันออก

ในขณะนี้ พื้นที่ตะวันออกของบึงมรณะตกอยู่ในความยุ่งเหยิง ทุกคนต่างก็ระมัดระวังเป็นอย่างมาก

ในเวลาเดียวกัน

ชิ เสี่ยว ซั่วฉื่อ และ หวู่หยุนเหลียนก็ได้ออกไปจากหุบเขาพลังหยินแล้วและกำลังเดินอยู่ในพื้นที่พลังหยินท่ามกลางแสงแดดที่สาดส่อง

พื้นที่พลังหยินทั้งหมดต่างก็ไม่เหลือร่องรอยของพลังปราณหยินที่ครอบคลุมธรรมชาติมาตลอดทั้งปี

ภายใต้ดวงอาทิตย์ที่ว่องสว่าง , พืชที่เติบโตในพื้นที่พลังหยินต่างก็เหี่ยวเฉาและตายลงไป

ที่นี่กลายเป็นว่างเปล่าแม้แต่เหล่าสัตว์อสูรที่เคยอยู่ในพื้นที่พลังหยินแห่งนี้ต่างก็หายไป มันอาจจะตายหรือหลบหนีก็เป็นได้

พื้นที่พลังหยินตอนนี้กลายเป็นเหมือนพื้นที่มรณะ โดยไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตหลงเหลือยู่เลย ไม่มีแม้กระทั่งใบไม้จากต้นไม้หรือพืชแม้แต่ใบเดียว

” อาจารย์ ฉื่อหยานจะปลอดภัยมั้ย ? ” ซั่วฉื่อถามออกไปด้วยความกังวล

” ไม่รู้สิ ” ชิเสี่ยวส่ายหน้า เขาถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา เขาเองก็รู้สึกผิดในใจเหมือนกัน

เขารู้ว่าครั้งนี้ฉื่อหยานนั้นตกอยู่ในสถานการณ์ที่้เลวร้ายเป็นอย่างมาก แม้ว่าบึงมรณะแห่งนี้จะกว้างใหญ่ แต่ทั้งเป่ยหมิงชางและซัวฉีนั้นอยู่ในระดับนภา ไม่เพียงแต่พวกเขาจะสามารถบินไปในอากาศได้แล้ว พวกเขายังมีพลังจิตวิญญานที่สามารถกระจายทั่วค้นหาไปทั่วพื้นที่ขนาดใหญ่ได้

นอกเวียจากจะเป็นนักรบที่อยู่ในระดับเดียว มิเช่นนั้นก็เป็นการยากที่จะหลบหนีจากพวกเขาได้

ที่ตระกูลฉื่อ ชิ เสี่ยว ได้สัญญากับฉื่อเจี้ยนไว้ว่า เขาจะปกป้องฉื่อหยานให้ดีที่สุด

แต่ตอนนี้ฉื่อหยานกำลังเจอกับสถานการณ์ที่เลวร้าย แต่เขากลับทำได้แค่ยืนดู นี้ทำให้ชิเสียวรู้สึกผิดอยู่ในจิตใจของเขา เมื่อใดก็ตามที่ซั่วฉื่อถามว่า ฉื่อหยานจะปลอดภัยหรือไม่ ชิเสี่ยวจะรู้สึกอัปยศอดสูและใบหน้าก็กลายเป็นสีแดงเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีอะไรเลยที่เขาสามารถทำได้

” หญิงสาวสองคนนั้น ทำไมพวกนางถึงตามเรามา ? ” หวู่หยุนเหลียนขมวดคิ้วของนาง และมองกลับไปอย่างเรียบเฉย และบอกก็พูดขึ้น ” ข้าคิดว่าพวกนางมากับตระกูลเป่ยหมิงเสียอีก”

” อย่าไปสนใจพวกนางเลย . ” ชิเสี่ยวมองข้างไปข้างหลัง และกล่าวอย่างไม่แยแส

มู่หยู่เตี๋ย และ ตี่ย่าหลาน ทั้งคู่ดูอ้างว้างเป็นอย่างมาก มีประกายมืดหมองบนใบหน้าของพวกนางเป็นพวกนางที่ค่อยๆก้าวตามพลังกลุ่มของชิเสียวไป

ถึงแม้ว่าซูซี่เฮอ จะไม่ได้บอกไว้ชัดเจนถึงตัวตนของมัน แต่สองสาวก็เดาไว้แล้วว่ามันต้องเป็นจักพรรดิ์แห่งโลกมืดแน่นอน ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่เมื่อมันจัดการกับฉื่อหยานเสร็จเมื่อใด มันจะต้องมานำตัวมู่หยู่เตี๋ยไปแน่

เหตุผลที่มันไม่ได้สนใจมู่หยู่เตี๋ยตอนนี้ก็เพราะมันรู้ว่านางไม่มีทางรอดจากมันแน่นอน

ทั้งมู่หยู่เตี๋ย และ ตี่ย่าหลาน รู้เรื่องที่จะเกิดขึ้นดีในจิตใจลึกๆของพวกนาง

เรื่องที่เกิดขึ้นในพื้นที่แปลกประหลาดแห่งนั้น ฉื่อหยานทำร้ายจิตใจพวกนางเป็นอย่างมาก ตอนนี้เมื่อพวกนางคิดถึงอนาคตพวกนางก็รู้สึกทุกข์เป็นอย่างมาก สองสาวรู้สึกอ้างว้าง และไม่รู้ว่าจะไปที่แห่งใดดี

” เสี่ยวเตี๋ย ติงหยานจะปลอดภัยหรือไม่ ? ” ตี่ย่าหลาน ลดศีรษะของนางลงอย่างแผ่วเบาและถอนใจออกมา

หน้ามู่หยู่เตี๋ยก็กลายเป็นเย็นชาและนางก็แสยะยิ้ม ” เขาต้องตายแน่นอน เป่ยหมิงชางลงมือด้วยตัวเองและต่อเขาเขาสามารถบินได้เขาก็ไม่รอดอยู่ดี ไม่เพียง แต่เขาจะตาย เหล่าตระกูลฉื่อก็จะจบสิ้นไปพร้อมกับเขาด้วย เป่ยหมิงชางนั้นโกรธเป็นอย่างมากและไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้แน่นอน “

” ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ข้ารู้สึกว่าเขาจะไม่เป็นอะไร เขามักจะทำให้เราแปลกใจได้ตลอด ” ตี่ย่าหลาน พึมพำภายใต้ลมหายใจของนาง และค่อย ๆสั่นศีรษะ

” แปลกใจ ? ” การแสดงออก มู่หยู่เตี๋ยกลายเป็นเย็นชา ” ครั้งนี้จะไม่มีเรื่องให้เราแปลกใจแน่นอน “

” เฮ้ ! “

ณ เวลานั้นเอง ชิเสี่ยวก็เงยหน้าขึ้นมองไปบนฟ้า จู่ๆ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปและเขาร้องอุทานเสียงดัง ” ค้างคาวโลหิตคราม “

” ค้างคาวโลหิตคราม ? ” ซั่วฉื่อรู้สึกแปลกใจอีกครั้ง และยังมองขึ้นไปบนฟ้า ” นั่นเป็นค้างคาวที่ตัวใหญ่จริงๆ อาจารย์ , มันคืออะไรกัน ? เจ้าค้างคาวโลหิตครามนั่นน่ากลัวหรือไม่ ? “

 

” ค้างคาวโลหิตครามเป็นสัตว์อสูรที่สามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง ร่างของมันแข็งเหมือนเหล็ก มันแข็งแรงเป็นอย่างมาก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันชอบที่จะกินเนื้อของนักรบ เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นสัตว์อสูร ระดับ 3 ที่โหดร้ายมาก ค้างคาวโลหิตครามนั้นแข็งแรงเป็นอย่างมาก ค้างคาวโลหิตครามที่อยู่บนท้องฟ้าตอนนี้เป็นสัตว์อสูรระดับ 3 และตอนนี้ พวกมันก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันห้าสิบตัว นี่ไม่ใช่เรื่องปกติแน่ ” หวู่หยุนเหลียนเงยหน้ามองท้องฟ้า และพึมพำ

” มีคนขี่ค้างคาวโลหิตครามอยู่และพวกเขาก็ดูแข็งแกร่งมากอีกด้วย ต่ำสุดพวกเขาอยู่ในระดับหายนะ พวกเขาส่วนใหญ่ต่างก็อยู่ในระดับ ปฐพี และ นภา ! ” ชิ เสี่ยว สูดหายใจเข้าลึกๆ สีหน้าของเขาเปลี่นเป็นจริงจังกว่าที่เคย ” ความสามารถของผู้นำพวกมันยากจะหยั่งถึงเกินไป แม้แต่ข้าก็ไม่สามารถรู้ถึงพลังที่แท้จริงของเขาได้ ในพื้นที่ที่เราอยู่ตอนนี้ ข้าคิดว่าไม่มีน่ามีขุมกำลังใดส่งยอดฝีมือเช่นนี้มาได้ แม้แต่จักวรรดิ์อัคคีหรือจักวรรดิ์พรพระเจ้าก็ไม่สามารถหายอดฝีมือเช่นนี้ได้แน่นอน “

หลังจากได้ยินดังนั้น การแสดงออกของ หวู่หยุนเหลียนก็เปลี่ยนไป

” เดี๋ยว พวกเขากำลังมาทางนี้ ! ” หัวใจของชิเสี่ยวตกไปที่ตาตุ่ม , และเขาก็กล่าวว่ารีบร้อน ” เสี่ยวฉื่อ มายืนข้างๆข้า และอย่าทำอะไร ! “

มู่หยู่เตี๋ย และ ตี่ย่าหลาน ก็สังเกตเห็นสถานการณ์ที่ผิดปกติในท้องฟ้า หญิงสาวทั้งสองมองไกลออกไปเจ็ดถึงแปดเมตร เห็นร่างของค้างคาวโลหิตคราม ที่มีดวงตาแวววาวพร้อมกับประกายแสงที่รุนแรงและโหดร้าย พวกมันค่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อง สองสาวตกใจและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ด้วยค้างคาวโลหิตครามที่นำหน้ามา เป็นราชาอสูรเสี่ยวฮานยี่ที่นังอยู่บนหลังของมันและจ้องมองลงมาอย่างดูถูกและพูดด้วยเสียงแหบแห้ง ” เจ้ารู้หรือไม่คนไหนคือฉื่อหยาน ? “

” ฉื่อหยาน ! “

” ฉื่อหยาน ! “

” ฉื่อหยาน ! “

ชิ เสี่ยว ซั่วฉื่อและมู่หยู่เตี๋ยก็อุทานออกมาพร้อมกัน ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความกลัว ไม่รู้ว่าทำไม คนเหล่านี้ถึงต้องการที่จะหาตัวฉื่อหยาน

” หึ ฉื่อหยานนั้นไปล่วงเกินไว้กลายคนจริงๆ ” มู่หยู่เตี๋ยวสูดลมหายใจเข้าและสันนิษฐานว่าเสี่ยว ฮาน ยี่ และกลุ่มของเขาต่างก็มาเพราะเป็นศัตรูของฉื่อหยาน

ชิ เสี่ยว สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาไม่ตอบทันที แต่เขาป้องมือเข้าด้วยกัน และกล่าวว่า ” ข้าขอถามท่านได้หรือไม่ ท่านถามหาฉื่อหยานด้วยเหตุใดหรือพี่ชาย ? “

ชิเสี่ยวมองไปที่เสี่ยวฮันยี เขาไม่สามารถสัมพัสได้ถึงพลังของเสี่ยวฮานยี่เลย นอกจากนี้เมื่อเขามองไปที่ผู้คุ้มกันอสูรจาดตระกูลหยางที่นั่งอยู่บนค้างคาวโลหิตครามเขาก็สัมพัมได้ว่าพวกเขาต่างก็อยู่ในระดับ ปฐพี และ รู้แจ้ง

นั่นทำให้เขายิ่งตกตะลึง เขาจึงไม่กล้ามองข้ามเรื่องนี้ไป เขาเก็บเสียงของเขาและพูดอย่างเคารพ

” พี่ชาย”

ซั่วฉื่อ , หวู่หยุนเหลียน ตี่ย่าหลาน และหมู่ยูตาย ทุกคนต่างก็ตกตะลึง พวกนางกลายเป็นใจลอยเล็กน้อย

ชิเสี่ยวนั้นเป็นนับรบหลักที่อยู่ในระดับนภาของหุบเขาเมฆา เขาเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดในจักวรรดิ์พรพระเจ้า , จักวรรดิ์อัคคี และสมาคมการค้า เขาเป็นเช่นนี้มาร้อยปี และยังเป็นอาจารย์ที่รู้จักกันดีและเป็นอาวุโสของทั้งสามแคว้น แต่ในวันนี้ เขากลับอ้อมน้อมถ่อมตนกับชายคนนี้

ทุกคนต่างอึ้งตะลึง

” ฉื่อหยานเป็นหลานแท้ๆของหยางชิงตี้ ผู้เป็นหัวหน้าของตระกูลหยางของเราในทะเลไม่มีที่สิ้นสุด เหตุผลที่เรา มาครั้งนี้เพื่อนำเขากลับไปสู่ทะเลไม่มีที่สิ้นสุด เจ้ารู้หรือมั้ยว่าเขาอยู่ไหน ? ” เสี่ยวฮานยี่เห็นท่าทีของชิเสี่ยวไม่ได้เลวร้าย ดังนั้น เขาจึงค่อยๆคลายสีหน้าของเขาลงและไม่เปิดปลดปล่อยจิตสังหารออกมา .

ทะเลที่ไม่สิ้นสุด ตระกูลหยาง ? หลานชายแท้ของหัวหน้าตระกูล

เสี่ยว ฮาน ยี่ ด้วยคำพูดของเขาทำให้ทุกคนตกตะลึง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มู่หยู่เตี๋ย และ ตี่ย่าหลาน , การแสดงออกบนใบหน้าของพวกนางแปลกไปกว่าที่เคย พวกนางไม่เคยคิดเลยว่าฉื่อหยานจะมีตัวตนเช่นนี้อยู่

” ท่านสมควนเป็นยอดฝีมือในทะเลไม่มีสิ้นสุด . ” ชิเสี่ยวพยักหน้า เขาเงยหน้าขึ้นมองเสี่ยว ฮาน ยี่ สักครู่ พบว่าเขากำลังดูร้อนใจ ชิ เสี่ยว จึงกล่าวว่า ” ฉื่อหยานได้รับสมบัติจากประตูสวรรค์ และหายตัวไปจากข้างในประตู ตอนนี้เขาน่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่งในบริเวณด้านนอกของบึงมรณะ ปัจจุบันนักรบในระดับนภาหลายคนกำลังตามล่าเขาอยู่ ถ้าท่านต้องการที่จะหาเขา งั้นก็เร็วเข้าเถิด หากสายไปแล้ว คุณชายของท่านอาจจะประสบกับเรื่องเลวร้าย “

” บังอาจ ! “

ทันใดนั้น กลิ่นอายกระหายเลือดที่แข็งแกร่งก็ไหลออกมาจากร่างกายของ เสี่ยวฮานยี่ กลิ่นคาวเลือดนี้ครอบคลุมไปทั่วทุกระยะทางเหมือนหลังคาที่ครอบคลุมพวกเขาจากท้องฟ้า ทำให้ทุกคนรู้สึกเวียนหัว และหายใจไม่ออก ด้วยแรงกดดันที่รุนแรง

” ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับฉื่อหยานหละก็ ทุกแคว้นทุกเมืองที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบ ! ” เสี่ยวฮานยี่พูดเพียงประโยคเดียว แล้วเขาก็ตบค้างคาวโลหิตคราม และกล่าวพร้อมกับจากไป ” กระจายกำลังออกค้นหาให้ทั่วบึงมรณะทั้ง ถ้าใครเจอเขาให้ส่งข้อความมาหาข้าทันที “

กลุ่มของผู้คุ้มกันอสูรจากตระกูลหยางก็ขึ้นค้างคาวโลหิตคราม และทันทีพวกเขาทั้งหมดก็หายไป

” อาจารย์ คนๆนี้แข็งแกร่งมากรึ ? ” ซั่วฉื่อพูดอย่างสงสัย

 

” ข้าเกรงว่า ต่อให้มีเป่ยหมิงชางด้วยกันสามคนก็ไม่อาจรับมือกับเขาได้ ” สีหน้าของชิเสี่ยวกลายเป็นหวาดกลัว และเขาก็พูดไปที่ มู่หยู่เตี๋ย และ ตี่ย่าหลาน อย่างต่อเนื่องว่า ” ตระกูลเป่ยหมิงจะต้องล่มสลายแน่นอน คนบนค้างคาวโลหิตครามเพียงคนเดียวก็สามารถกวาดล้างตระกูลใหญ่ทั้งห้าในสมาคมการค้าได้แล้ว คราวนี้ตระกูลเป่ยหมิงจบสิ้นแน่ๆ ! “

มู่หยู่เตี๋ย ใบหน้าก็ซีด ร่างของนางล้มลง และก้นก็กระแทกพื้น

” เสี่ยวเตี๋ย ! ” ตี่ย่าหลาน อุทานว่า ” เจ้าเป็นอะไร ? “

การแสดงออก มู่หยู่เตี๋ยกลายเป็นแข็งตึงไม่สามารถรู้เลยว่านางเป็นอะไรประกายบางอย่างแว่บผ่านดวงตาของนาง นางดูเหมือนนางกำลังหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน เหมือนกับกำลังเป็นบ้าไป

หลังจากที่ผ่านมาสักพักการแสดงออกมู่หยู่เตี๋ยค่อยๆหยุดลง นางตัดสินใจแน่วแน่ จู่ๆนางก็ลุกขึ้น ” ไปหาฉื่อหยานกันเถอะ ! “

” ทำไมเราถึงต้องหาเขาด้วย “

” ข้าจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็นผู้หญิงของเขา ! ไม่ว่าเขาจะให้ข้าทำสิ่งใด ข้าก็จะทำมันทั้งหมด “

” อ๊ะ ! ” ตี่ย่าหลาน อุทาน พร้อมกับเอามือของนางที่ปกคลุมไปที่ปากของนาง ด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับย

. . . . .

เซี่ยซินหยาน กำลังแบกฉื่อหยานอยู่ และพวกเขาก็ยังคงลอยผ่านอากาศ , อย่างบ้าคลั่งไปทางทิษตะวันออกของบึง

ทันใดนั้น ในความมืดที่ไร้ร่องรอยรูปแบบบางอย่างค่อยๆปรากฏขึ้นใต้ก้อนเมฆ

มวลพลังความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุดเป็นระลอกคลื่นกระจายออกมา มันห่อไปที่ร่างของเซี่ยซินหยาน ทำให้นางที่กำลอยอย่างรวดเร็วหยุดชะงัก

” หยุดเดี๋ยวนี้ ! ” ในความมืดที่มืดมิด มีเสียงเย็นชาดังออกมา ” ข้าคือนายหญิงแห่งโลกมิด ข้าไม่อยากเป็นศัตรูกับเจ้าที่มาจากทะเลไม่มีสิ้นสุด ถ้าเจ้าส่งเด็กนั่นมา เจ้าก็ไปได้”

เซี่ยซินหยาน ลอยอยู่ในกลางอากาศ อารมณ์ของนางเย็นลงเล็กน้อย นางพูดออกไปอย่างไม่แยแส ” ข้าขอแนะนำให้เจ้าหยุดการกระทำของเจ้าสะ , คนของข้าจะมาถึงอีกไม่ช้า ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นนักรบในระดับนภา แต่เจ้าอ่อนแอเกินไปที่จะยุ่งเกี่ยวกับเรา ในทะเลกว้างใหญ่ คนอย่างเจ้าก็เป็นได้แค่หัวหน้าของนักรบเลวเท่านั้น ถ้าเจ้ายังต้องการที่จะรักษาศักดิ์ศรีของเจ้าในสถานที่แห่งนี้จงหยุดการกระทำของเจ้าสะ “

ไม่เพียง แต่เซี่ยซินหยานจะไม่กลัว นางยังพูดขู่กลับมา

” ข้าต้องกำจัดมันให้ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าต้องการเจ้าเด็กนั่น ” ในความืดสีดำ ก็มีเสียงพูดต่อ ” อย่าได้บังคับข้า เพื่อที่จะได้รับในสิ่งที่ข้าต้องการ ข้าสามารถละทิ้งโลกมืดได้ ตราบเท่าที่ข้าสามารถก้าวเข้าสู่ระดับพระเจ้าได้ในอนาคต ข้าก็จะสามารถล้างแค้นให้โลกมืดได้ทุกเมื่อ แม้แต่ในทะเลไม่มีที่สิ้นสุดก็ตาม ! “

ใบหน้าของเซียซินหยานเปลี่ยน จู่ๆ นางตระหนักว่าคำพูดของนางไม่อาจโน้มน้าวใจอีกฝ่ายได้

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset