เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 122 ดินแดนหยินหยางมหัศจรรย์

[TL. อธิบายเรื่องระดับพลังใหม่จ้า จะใช้ตามนี้ตั้งแต่นี้ไป

1.เริ่มต้น

2.ก่อตั้ง

3.มนุษย์

4.หายนะ

5.ปฐพี

6.รู้แจ้ง

7.นภา

8.พระเจ้า

9.พระเจ้าแท้จริง

10.ราชันย์พระเจ้า

……….. เนื่องจากอิ้งมันเปลี่นนคนแปล3-4 รอบแล้ว แต่ละคนก็แปลไม่เหมือนกัน ผมจึงขอใช้ตามที่ผมเข้าใจเพื่อที่จะได้ไม่สับสน ส่วนเรื่อง ดินแดนสี่อสูร นั้นจะมีราชาปีอสูรอยู่สองตน ผมขอเปลี่ยนราชาอสูรของตระกูลหยางเป็นราชาชูร่นะครับ เพราะเด๋วมันทับกับราชาอสูรในดินแดนสี่อสูร ราชาอสูรในดินแดนสี่อสูรมีสองคน และแต่ละคนจะมี ปรมจารย์ปีศาจรับใช้คนละ 2ตน ซึ่งในตอนแรกผมบอกว่าปู่ของพี่หยานได้ฆ่าราชาอสูรไปนั้น ผมแปลผิดซึ่งมาถึงตอนนี้มันไม่ใช่ ผมเองก็งงเช่นกัน เอาเป็นว่าตอนนี้ เปลี่ยนเป็น ฆ่า ปรมจารย์อสูณละกัน]

 

บทที่ 122 ดินแดนหยินหยางมหัศจรรย์

 

บนเกาะร้างในทะเลไม่มีสิ้นสุด

มีฉื่อหยานและเซี่ยซินหยานกำลังนั่งกินปลาย่างกันอย่างสบายอารมณ์

โดยเฉพาะเซี่ยซินหยาน มีใบหน้าอบอุ่นทันทีเมื่อปลาย่างนั้นได้ตกถึงท้องของนาง

หลังจากฉื่อหยานได้กินในส่วยของเขาไปแล้ว เขาก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และก็เอาขวดเล็กๆออกมาจากกระเป๋าของเขา เขาไปที่ริมทะเล และเทผงสีเทาจากขวดลงไปในทะเล เขาผสมผงนั้นกับน้ำทะเล และใช้มันล้างใบหน้าของเขา

หลังจากนั้น ฉื่อหยานก็กลับมาข้างเซี่ยซินหยาน .

ตอนนั้นเองดวงตาของนางเบิกกว้าง นางสูดลมหายใจเข้าและพูดออกมาอย่างไม่แยแส ” เจ้านี่ช่างกระล่อนหลอกลวงนั้น นี่เป็นใบหน้าที่แท้จริงของเจ้าสินะ ? ”

เมื่อกลับไปที่ตระกูลฉื่อ เพื่อปกปิดตัวตนของเขาเขาจึงต้องปลอมแปลงรูปลักษ์เพื่อปกปิดรูปร่างที่แท้จริงที่ว่าเขาคือติงหยานไว้

แต่ตอนนี้ เขาอยู่ในทะเลกว้างใหญ่ ตระกูลโม่และตระกูลเป่ยหมิงเองก็ไม่ใช่สิ่งที่เขากังวลอีก เขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะปกปิดลักษณะที่แท้จริงของเขา ดังนั้น , เขาจึงลบใบหน้าปลอมออก

ลักษณะจริงและลักษณะปลอมนั้นดูแต่งต่างกันมาก ร่างจริงของเขานั้นขาวขึ้นเล็กน้อย และคิ้วของเขาคมเข้มสีดำเหมือนดาบที่แหลมคม ซึ่งอยู่ระหว่างหน้าผากของเขา ใบหน้าของเขากลายกระจ่างใสและดูอ่อนเยาว์มากขึ้น แต่ก็เต็มไปด้วยความเย็นชาและอันตราย เขาดูมีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก ดูทะเยอทะยานและหล่อเหลา

ฉื่อหยานนั้นไม่ถือว่าหน้าตาหล่อเหลามากนัก แต่เขานั้นเป็นคนที่มีเสน่ห์พิเศษ ซึ่งดูเหมือนคน เข้มแข็งและตรงไปตรงมา แต่ก็แฝงไปด้วยความดุร้าย

เซี่ยซินหยาน ชายตามองเขาอีกสองสามครั้ง แล้วจึงพูดว่า ” รูปลักณ์ตอนนี้ดูเหมาะกับเจ้าดีนะ ดูหยิ่งยโสและน่ารักเกียจดี “

ฉื่อหยาน ตะลึง และเขาก็ถามว่า ” นี่เจ้าชมหรือด่าข้ากันแน่เนี่ย ? “

” เจ้าคิดว่าไงหละ ? “

ฉื่อหยานส่ายหน้า เขาไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับนางในเรื่องนี้นัก การแสดงออกของเขาค่อยๆดูมืดมนลง และจู่ๆ เขาก็ถามว่า ” ราชาปีศาจ โปวชุน คือใครกัน ? “

เมื่อใดก็ตามที่เขาคิดถึงเรื่องที่น่ากลัวนั่น จิตใจของฉื่อหยานก็สั่นสะท้าน มันสามารถฉีกผ่านพื้นที่ และนำตัวราชาชูร่าเสี่ยวฮานยี่ผู้อยู่ในะระดับนภาไปได้ แปลว่า สิ่งนั้นจะต้องแข็งแกร่งเป็นอย่างมากแน่นอน ด้วยยอดฝีมือเช่นนี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจเขาเป็นอย่างมาก

” โปวชุน เป็นหนึ่งในราชาปีศาจ ทั้งสองในดินแดนสี่อสูร ”

เมื่อฉื่อหยานพูดถึงยอดฝีมือที่น่ากลัวนี้ สีหน้าของเซี่ยซินหยาน ก็ดูมืดมนลง ” ในดินแดนสี่อสูรมีราชาปีศาจอยู่สองตน ซึ่งอีกตนนั้นชื่อ จี่หยาน พวกมันทั้งสองนั้นใกล้เคียงกับความเป็นอมตะ พลังปีศาจของพวกมันสามารถหยั่งรู้ได้ และไม่มีสิ้นสุด กล่าวกันว่าพวกมันทั้งสองกำลังก้าวเข้าสู่ระดับพระเจ้าแท้จริง “

” ปีศาจก็สามารถบ่มเพาะได้งั้นรึ ? อีกทั้งระดับพลังยังคล้ายคลึงกับเราอีก ” ฉื่อหยาน ก็แปลกใจ

” แน่นอน ” เซี่ยซินหยาน พยักหน้า และได้อธิบายต่อว่า ” ไม่เพียง แต่ปีศาจเท่านั้น แม้แต่ผู้ที่อาศัยอยู่ในความมืดอย่างในดินแดนใต้พิภพเจ็ดชั้นก็บ่มเพาะได้เช่นกัน ! แต่ ไม่ว่าจะเป็นปีศาจหรือผู้ที่อาศัยอยู่ในความมืด พลังที่พวกเขาใช้บ่มเพาะนั้นล้วนแตกต่างจากเรา ปีศาจที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของปีศาจจะต้องดูดซับพลังปีศาจตามธรรมชาติ ส่วน ผู้ที่อาศัยอยู่ในความมืดในดินแดนใต้พิภพเจ็ดชั้น , จะดูดซับพลังความมืดตามธรรมชาติ พลังปีศาจและพลังความมืดนั้นเป็นเหมือนจิตวิญญาณตามธรรมชาติเมื่ออยู่ที่นี่ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนที่ดูดซับพลังเหล่านี้เช่นกันนอกจากปีศาจและผู้ที่อาศัยอยู่ในความมืด มีคนต่างดินแดนมากมายที่อาศัยอยู่ในทะเลไม่มีสิ้นสุดแห่งนี้ พวกเขาต่างก็ฝึกฝนและบ่มเพาะพลังที่แตกต่างออกไปจากเรา แต่ไม่ว่าจะเป็น พลังความมืด พลังปีศาจ หรือพลังจิตวิญญาน พวกมันต่างก็มีพลังทางธรรมชาติที่แตกต่างกันออกไป การบ่มเพาะของนักรบ ส่วนใหญ่ต่างก็มีพลังจิตวิญญานแตกต่างกันออกไป . . . . . . . “

เซี่ยซินหยาน อธิบายเรื่องเกี่ยวกับทะเลไม่มีสิ้นสุดให้ฉื่อหยานฟังวช้าๆ นางพูดถึงปีศาจ และผู้ที่อาศัยอยู่ในความมืด และความแตกต่างระหว่างดินแดนพระเจ้าและแผ่นดินรุ่งเรือง

” ราชาปีศาจโปวชุน . . . . . . . ” ฉื่อหยานขมวดคิ้ว ” ทำไมเขาถึงโจมตีลุงเสี่ยวกันหละ ? “

” ในวันนั้น หัวหน้าของตระกูลหยาง หยางชิงตี้ ได้นำนักรบจากตระกูลหยางบุกเข้าไปในดินแดนสี่อสูรและ พวกเขาก็ได้ปรมจารย์ปีศาจไป ข้าคิดว่าท่านเสี่ยวได้บอกเจ้าเกี่บวกับเรื่องนี้แล้วเสียอีก ? “

” ใช่ ” .

” ปรมจารย์ปีศาจที่ตายไปนั้นเองก็อยู่ภายใต้อำนาจของโปวชุน ! ในดินแดนสี่อสูร มีปรมจารย์ปีศาจอยู่ด้วยกันสี่ตน สองตนติดตามจี่หยาน , และอีกสองตนเป็นผู้ติดตามของราชาปีศาจโปวชุน หยางชิงตี้นั้นได้ฆ่าหนึ่งในปรมจารย์ปีศาจของโปวชุนไป ดังนั้นแน่นอนว่า โปวชุนจะต้องเอาคืนตระกูลหยาง “

” โปวชุนเองก็ใกล้เข้าสู่ระดับพระเจ้าแท้จริงแล้วทำไมมันไม่มันถึงไม่โจมตีตระกูลหยางหละ . . . . . . . ทำไมถึงจับตัวลุงเสี่ยวไปแทน ? ” ฉื่อหยานนั้นงุนงงเป็นมาก

 

” ใครว่าโปวชุนจะไม่โจมตีหละ ? ” เซี่ยซินหยาน ถลึงตามองฉื่อหยาน แล้วพูดอย่างเย็นชา ” โครงกระดูกมือยักษ์สีขาวเป็นเพียงหนึ่งในสามของร่างจำแลงโปวชุนเท่านั้น แม้ว่ากระดูกนั้นจะเป็นโปวชุน แต่มันก็ไม่ใช่ตัวตนของเขา โปวชุนนั้นเก็บร่างกายจริงของมันไว้ในถ้ำพันปิศาจตลอดเวลา เขาไม่ออกมาง่ายๆแน่นอน ถ้านั้นเป็นร่างจริงของโปวชุนที่มาโจมตีเราหละก็ เจ้าคิดว่า เจ้ากับข้าจะหนีรอดได้งั้นรึ ? “

” อะไรนะ ? ” ฉื่อหยานตกใจ ” เจ้ากำลังจะบอกว่ามือกระดูกยักษ์นั้นเป็นเพียงร่างแลงเท่านั้นรึ . . . . . . . นั้นเป็นเพียงแค่แขนข้างเดียวเท่านั้นนะ ?

” ใช่แล้ว “

หัวใจของฉื่อหยาน ก็หวั่นไหว

นั้นเป็นเพียงมือข้างหนึ่งของร่างโครงกระดูกเท่านั้น ยังสามารถทำให้ทะเลไม่มีสิ้นสุดปั่นป่วนได้ อีกทั้งมันยังสามารถตัดผ่านพื้นที่ และจับเสี่ยวฮานนยีไปได้อีก แล้วราชาปีศาจโปวชุนตัวจริงหละ จะทรงพลังขนาดไหน ?

เซี่ยซินหยาน มองไปก็รู้ว่าเขาตกใจเพียงใด นางไม่ได้รีบร้อนที่จะพูดอะไร นางเพียงแค่มองเขาเท่านั้น

หลังจากที่เวลาผ่านไปสักพัก ดวงต่ของฉื่อหยานก็กลับมามั่นคง และเขาก็พูดออกมา , ” นี่สินะคือความหวาดกลัว…. คอยดู สักวันข้าจะต้องจัดการปับโปวชุนให้ได้ “

เซี่ยซินหยาน ตะลึง และดวงตาที่สวยงามของนางเต็มไปด้วยอารมณ์แปลกประหลาด ” เจ้าอยู่เพียงนภาแรกในระดับหายนะ เจ้ากล้าพูดอวดอ้างว่าจะจัดการกับโปวชุนงั้นรึ ? ต่อให้ผ่านไป 100 ปี เจ้าไม่ยังไม่อาจเทียบได้กับหนึ่งในร่างจำแลงของโปวชุนด้วยซ้ำ คนตระกูลหยางนี่ช่างหยิงพยองจริงๆ ไม่รู้ค่าของตัวเองเสียเลย “

ฉื่อหยานยิ้ม ” ข้ายังเยาว์อยู่ ข้ายังมีเวลาอีกมากมายที่จะพัฒนาตัวเอง สักวันนึง ข้าอาจจะเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงดังทั่วทุกดินแดน และ สามารถตัดแยกพื้นที่ได้ด้วยมือเปล่า ก็ได้ “

เซี่ยซินหยาน ก็เงียบลง แต่สักพัก นางก็พยักหน้าเบา ๆ นางไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ภายในจิตใจของนาง ก็มองฉื่อหยานเปลี่ยนไป

หากเป็นนักรบธรรมดา หลังจากเห็นพลังของราชาปีศาจโปวชุน พวกมันจะต้องเป็นแผลเป็นในจิตใจแน่นอน อย่าว่าแต่จะสู้กับราชาปีศาจโปวชุนเลย บางทีแผลเป็นในจิตใจเหล่านั้นอาจจะทำให้การบ่มเพาะของพวกเขาหยุดลงก็ได้ และจะไม่สามารถทำอะไรได้จนกว่าแผลเป็นในใจเหล่านั้นจะหายไป

แต่ฉื่อหยานนั้น จิตใจแข็งแกร่งยิ่งนัก ไม่เพียง แต่เขาจะไม่กลัว แต่เขายังมีความคิดที่ยิ่งใหญ่ว่า เมื่อเติบโตขึ้นวันหนึ่งเขาจะต้องจัดการกับโปวชุนให้ได้ ด้วยนิสัยเช่นนี้ ตราบใดที่เขามีโชึและความสามารถเพียงพอสักวันเขาจะต้องอยู่บนจุดสูงสุดของโลกใบนี้แน่นอน

” ลุงเสี่ยวจะเป็นอะไรหรือไม่ ?? ” ฉื่อหยานก็ถอนหายใจออกมา และพูดอย่างเศร้าสร้อย ” ลุงเสี่ยวได้ช่วยเหลือข้ามากมายในสมาคมการค้า ข้าไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา นี้มันแย่มาก ข้านั้นยังไม่แข็งแกร่งพอ มิเช่นนั้นข้าจะฆ่าพวกปีศาจในดินแดนสี่อสูรทั้งหมดและพาลุงเสี่ยวกลับมาจากเงื้อมมือของโปวชุนสะ “

” ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน ” เซี่ยซินหยาน ส่ายหน้า ” ข้าเกรงว่าแม้แต่ร่างจำแลงของโปวชุนท่านเสี่ยวเองก็ไม่สามารถรับมือได้ หวังว่าสวรรค์จะช่วยให้คนดีเช่นท่านเสี่ยวรอดจากภัยพิบัติครั้งนี้นะ”

สีหน้าของฉื่อหยานเต็มไปด้วยความผิดหวัง เขาส่ายหัวและถอนหายใจ แล้วกล่าวว่า ” ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับลุงเสี่ยวหละก็ วันหนึ่ง ข้าจะต้องแก้แค้นให้เขาแน่อน และข้าก็จะฆ่าราชาปีศาจโปวชุนสะ “

สีหน้าของเซี่ยซินหยานก็เปลี่ยนไป นางยิ่งตะลึงมากขึ้นด้วยความทะเยอทะยานของฉื่อหยาน ในทะเลที่กว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด มีนักรบที่แข็งแกร่งอยู่มากและเต็มไปด้วยนักรบที่ทรงพลังมากมาย แต่ไม่มีผู้ใดสามารถกล้าพูดได้ว่า สักวันเขาจะฆ่าโปวชุน

ผู้ชายคนนี้เป็นเพียงนักรบในระดะหายนะเท่านั้นและเพิ่งจะก้าวเข้าสู่จุดเริ่มต้นของศิลปะการต่อสู้ ขณะที่เจอพลังชั่วร้ายมหาศาลของโปวชุนไปเช่นกัน เขากลับยังกล้าพูดจาออกมาอย่างทะเยอะทะยานเหมือนคนบ้า

ฉื่อหยานไม่อธิบายใดๆ เขาไม่อยากจะพูดอะไรให้เหมือนว่าตนนั้นอวดดีอีก

อย่างไม่มีเหตุผล เขานั้นแน่ใจว่า ด้วยจิตวิญญานลึกลับที่อยู่ในร่างเขา เขาจะต้องมีศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดแน่นอน !

ตราบใดที่เขายังสังหารอยู่ เขาก็สามารถดูดซับพลังได้ตลอดเวลา และจากนั้นเขาก็จะเปลี่ยนแปลงไปและพลังปราณลึกลับของเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้น

เขาเพียงแค่ฆ่าสังหารคนอีกหลายพันเท่านั้น นั่นก็สามารถเทียบได้กับการฝึกฝนอย่างหนักหน่วงของคนธรรมดานับสิบปี ด้วยจิตวิญญานต่อสู้ลึกลับมหัศจรรย์ที่อยู่ในร่างเขา วันหนึ่ง เขาจะต้องสามารถเผชิญหน้ากับจอมปีศาจโปวชุน ได้แน่นอน เขานั้นไม่คิดจะบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้

ผ่านมาอีกสองวัน ฉื่อหยาน และ เซี่ยซินหยาน ทั้งสองยังคงอยู่บนเกาะร้าง พวกเขารอดมาได้เพราะกินเนื้อสัตว์ เนื้อปลา และดื่มเลือดจากปลา

 

ในทะเลไม่มีที่สิ้นสุดแถวนี้ ไม่มีสัตว์อสูรที่บินได้ หรือมีเรือยักษ์ ผ่านมาเลย มันอาจดีกว่าหากอยู่ที่เกราะแห่งนี้แทนที่จะสุ่มสี่สุ่มห้าออกจากเกราะไป

เซี่ยซินหยาน เองก็เห็นด้วยเช่นกัน ผ่านมาสองวันแล้ว นอกจากการกินอาหารร่วมกันแล้ว ทั้งคู่ต่างก็ฝึกบ่มเพาะอย่างไม่รบกวนกัน

แล้วอีกวันก็ผ่านพ้นไป

เขานั่งบนทราย ฉื่อหยานขยายพลังจิตวิญญานออกไป และจู่ๆ เขาก็รู้สึกถึงวัตถุในระยะไกล ทันที สีหน้าของเขาก็เบิกบาน เขารีบลุกขึ้นยืนและตะโกนบอกเซี่ยซินหยาน ” มีเรือกำลังมา ! “

เซี่ยซินหยาน มาจากอีกทางของเกาะ และมาตรงฉื่อหยาน สายตาของนางมองออกไปทางทิศตะวันออก

และในเวล 15 นาที ก็มีเรือเหล็กใหญ่ค่อยๆปรากฏออกมา ธงเรือเหล็กลอยตามลมในมหาสมุทรมันดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก

” เห้ยยยยยยยยยยยยย ! เห้ยยยยยยยยยยยยย “

ฉื่อหยานร้องเสียงดัง เสียงร้องของเขาทะลุผ่านท้องฟ้า เหมือนเสียงคำรามของหมาป่า

เซี่ยซินหยาน ขมวดคิ้วเข้าหากันและครอบคลุมหูนางพร้อมกับด่าเขาในใจของนาง นางถลึงตาใส่เขาอย่างขมขื่น

เรือเหล็กใหญ่ ดูเหมือนจะได้ยินเสียงเรียก และมันก็ค่อยๆเริ่มเดินเรือมาที่พวกเขา

ฉื่อหยาน แกว่งแขนของเขาและยังคงร้องออกมา

” เฮ้ ! ” อยู่ๆเขาก็อุทานออกมาอย่างรื่นร่มและเขาก็หัวเราะ “ฮ่า ฮ่า ซินหยานดูสิเรื่อนี่น่าสนใจจริงๆ “

บนเรือเหล็กยักษ์แขวนธงอยู่มากมาย เป็นภาพที่ดูกระตุ้นอารมณ์ทางเพษปักในแต่ละของธง มีรูปหนึ่งเป็นหญิงชายในท่ารถเข็น [TL. อยากรู้ท่ารถเข็นเป็นยังไงไปหาในกูเกิ้ลคำนี้ wheelbarrow position images ละไปกดดูที่หมวดรูปภาพ] , และยังคงมีท่าอื่น ๆในแต่ละรูปอีกมากมาย ดังนั้น ภายใต้ลมแรงมหาสมุทรพัดรูปภาพเหล่านั้นจึงโบกพัดอย่างเร่าร้อน ชายและหญิงในรูปเหล่านั้นดูเหมือนจริงและเล้าอารมณ์เป็นอย่างมาก ดูราวกับว่าพวกเขามีชีวิตจริงๆ และแสดงให้เห็นถึงความแข็งแรง .

เซี่ยซินหยาน หน้าแดง นางนึกถึงอะไรบางอย่าง และอุทาน ” นั่นมันเรือจาก ดินแดนหยินหยางมหัศจรรย์

แล้วเซี่ยซินหยาน อย่างรวดเร็วก็แตะแหวนหยกสีเขียวบนนิ้วของนาง และหยิบผงยาชุดหนึ่งออกมา และนางก็รีบละเลงลงบนใบหน้าของนาง

ไม่กี่นาทีต่อมา เซี่ยซินหยาน ใบหน้าก็เปลี่ยนไป

ลักษณะสวยงามอันน่าทึ่งของนางก็หายไปอย่างสิ้นเชิง แทนที่ด้วยใบหน้าที่หมองค้ำและเต็มไปด้วยสิวสีเหลือง ทำให้นางดูเป็นหญิงที่น่ารังเกียจ

” เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้าหนะ ? ” ฉื่อหยาน ก็พูดไม่ออก

” ผู้คนจากดินแดนหยินหยางมหัศจรรย์ นั้นมักจะทำตามความต้องการของตน พวกเขาเป็นหนึ่งในกองกำลังที่ไม่เหมือนใครในดินแดนไม่มีสิ้นสุด สาวกของดินแดนหยินหยางมหัศจรรย์ บ่มเพาะด้วยการมีเพศสัมพัมธุ์กัน ผู้ชายจะมองหาผู้หญิงที่โดดเด่นและหญิงคนนั้นก็จะตกเป็นเป้าหมายของสาวกในดินแดนหยินหยางมหัศจรรย์ ขณะนี้ พลังของข้ายังไม่หายดี ดังนั้นถ้าหากข้าเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของข้าหละก็ ข้าเกรงว่าข้าคงจะจบสิ้นหนะสิ……” หลังจากเสร็จสิ้นการปลอมตัวของนาง เซี่ยซินหยาน ในที่สุดผ่อนคลายเล็กน้อยและพูดออกมาเรียเฉย

” อ๊ะ ! ” ฉื่อหยาน อุทานออกมา แล้วขมวดคิ้วจากนั้นก็พูดว่า ” งั้นคนอย่างข้าที่มีหน้าตาหล่อเหลาคงจะไม่ ‘ ทรมาน ‘ สินะ “

” อืมม . . . . . มีบ้างที่บุรุษบางคนในดินแดนหยินหยางมหัศจรรย์จะเป็นพวกรักร่วมเพศเช่นกัน” เซี่ยซินหยาน พูดออกมาอย่างเรียบเฉยและ แอบรู้สึกรื่นรมย์

” รักร่วมเพศรึ ! ” และใบหน้าของฉื่อหยานก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว .

 

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset