เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 217 ลำดับผู้แข็งแกร่ง

[TL . รู้สึกว่าหลังจากมี ห้วงจิตสำนึก และ จิตสำนึกวิญญาน พลังวิญญานจะถูกเปลี่ยนเป็นจิตสำนึกนะครับ]

 

บทที่ 217 ลำดับผู้แข็งแกร่ง

 

ที่ศูนย์กลางของเกาะทะเลท้องฟ้าที่ตั้งโดดเดี่ยว มีเสียงคลื่นทะเลซัดดดูวุ่นวาย

น้ำทะเลสีฟ้าซัดระลอกคลื่นออกไปในขณะเดียวกันก็มีจุดแสงสีเงินส่องออกมา

” โฮ๊กกกกกกกกก ”

หลังจากเกิดเป็นน้ำวนขนาดใหญ่ , มอนสเตอร์ขนาดใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้นจากน้ำวน

เป็นสัตว์อสูรห้่าตัวที่บินออกออกมาจากทะเลและมุ่งไปยังเกราะใกล้เคียง เป็นนักรบตระกูลหยางที่ปรากฏตัวขึ้นและกำลังมุ่งไปยังเกาะ

ภายใต้ท้องฟ้าสีครามและเมฆสีขาว ฉื่อหยานมองไปรอบ ๆและแอบปล่อยจิตสำนึกของเขาออกไปเพื่อตรวจหาสิ่งผิดปกติบริเวณโดยรอบ

ไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตใดๆที่สัมพัสได้เลย ฉื่อหยาน ก็มั่นใจแล้วว่าที่นี่ปราศจากอันตราย

รูปแบบเคลื่อนย้ายของตระกูลหยางถูกซ่อนอยู่ที่นี่ มีเกาะหลายแห่งตั้งอยู่ภายใต้ทะเลและรูปแบบเคลื่อนย้ายก็อยู่ภายในเกาะใดเกาะหนึ่งใต้นั้น จะสามารถเห็นมันได้ก็ต่อเมื่อลงไปใต้ทะเลเท่านั้น

ยืนอยู่บนเกาะร้าง ฉื่อหยานถอนจิตสำนึกของเขากลับมส หลังจากที่มั่นใจว่าไม่มีอันตรายใดๆ เขายืนอยู่ข้างๆสัตว์อสูรภูติ

” เสี่ยวหยาน แล้วกลุ่มของเจ้าหละ ? เจ้าจะให้ขี่สัตว์อสูรไปพร้อมกับเราเลยหรือไม่ ? ” หยางมู่ขึ้นเสียงถาม

มีนักรบทั้งหมด 55 คนและ สัตว์อสูรอีก 5 ตัว พวกเขาทั้งหมดแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม หยางมู่และคนอื่นๆอีกประมาณสิบคนขี่อยู่บนหลังมังกรสองหัว .ตอนนี้บรรดานักรบทั้งหลายต่างก็ขึ้นขี่สัตว์อสูรแล้ว

นักรบสิบคนที่ต้องติดตามฉื่อหยานไป จ้องมองดูไปยังสัตว์อสูรภูติด้วยความกลัวและไม่กล้าเข้าใกล้

สัตว์อสูรภูติมีขนาดเมตรยาวสิบ และมันคงสบายอย่างมากหากนั่งบนมันได้ แต่สัตว์อสูรภูติดูไม่พอใจ และหลังของมันก็ถูกปกคลุมด้วยหนามเพื่อกันไม่ให้นักรบเหล่านั้นเข้าใกล้มัน

” ไม่เป็นไร ” ฉื่อหยานยิ้ม จับลงไปบนคอของสัตว์อสูรภูติ และค่อยๆสื่อสารกับสัตว์อสูรภูติ

เนื่องจากสัตว์อสูรภูติถูกฝึกให้เชื่องโดย ฉื่อหยานตอนอยู่ในหุบเขาบนเกาะอมตะ ตอนนี้มันถือว่าฉื่อหยาน เป็นคู่หูขอมัน ดังนั้น เมื่อฉื่อหยานส่งข้อความบอกสัตว์อสูรภูติ มันก็ปฏิตามเขาแต่โดยดี

หลังจากที่ได้รับข้อความ มันก็ไม่เต็มใจ แต่สัตว์อสูรภูติก็ถอนหนามแหลมบนหลังของมันเข้าไปในร่าง

” ไม่เป็นไรแล้ว ” ฉื่อหยาน มองไปที่เจียงหัวชวน และนักรบคนอื่นๆ ” พวกท่านทั้งหมดตอนนี้สามารถขี่มันได้แล้ว”

เจียงหัวชวน ต้องหายใจเข้าลึกๆ ในขณะที่สังเกตไปที่สัตว์อสูรภูติ เขาค่อยๆเข้าใกล้มัน หลังจากที่เขาพบว่าสัตว์อสูรภูติไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายเขา แล้วเขาก็ขึ้นไปยังหลังของสัตว์อสูรภูติ

” ไปกันเถอะ ! ” หยางมู่ ตะโกนใส่

มังกรสองหัวของเขาบินขึ้นไปในท้องฟ้าเหมือนสายลม

หยางเค่อและหยางซู่ก็ขี่มังกรสองหัวตามไปติดๆ ค้างคาวของหลี่ฟางเกอก็บินช้าลงเล็กน้อย

” โฮ๊กกก โฮีกกก ”

สัตว์อสูรภูติก็พุ่งออกไปเหมือนกับดาบที่พุ่งไปยังท้องฟ้าและบินแซงค้างคาว จากนั้นก็บินไปอยู่ข้างหน้ามังกรสองหัวของ หยางมู่ หยางเค่อ และหยางซู่

” สัตว์อสูรของเจ้านั้นไม่ยอมตกเป็นรองใครจริงๆ ดูเหมือนมันต้องการจะได้ที่หนึ่งไปเสียทุกอย่าง ” หยางมู่กล่าว ยกย่อง ” ว่ากันว่า สัตว์อสูรพวกนี้สามารถพัฒนาได้อย่างไม่สิ้นสุด นึกไม่ออกเลยว่ามันจะแข็งแกร่งขนาดไหนเมื่อมันมีระดับ แปด หรือ เก้า ”

” แล้วท่านทำเช่นไรถึงกำหราบสัตว์อสูรตัวนี้ได้กัน ? ” หลี่เฟิงเกอสงสัย ” หลังนี้ที่เจ้าสัตว์อสูรภูตินี้ถูกจับมายังเกาะอมตะ สัตว์อสูรมากมายบนเกาะต่างก็กลายเป็นหวาดกลัว และมันก็ได้กลืนกินสัตว์อสูรระดับสองและสามเป็นอาหารทุกวัน แต่มันกลับเชือฟังเจ้าที่มีระดับเพียงหายนะเนี่ยนะ ? ”

ฉื่อหยานยิ้มและตอบอย่างเรียบเฉย ” ข้าก็แค่โชคดี ”

” เช่นนั้นเจ้าก็คงโชคดีมากจริงๆ ” หลี่เฟิงเกอชื่นชม

” ระวังตัวด้วย น่านฟ้านี้เป็นของดินแดนเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์ . ต้องมีนักรบจากดินแดนดินแดนเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่เกาะระแวกนี้แน่ เราจะถูกสังเกตุเห็นได้โดยง่าย ถ้าเราบินในท้องฟ้า ” หยางซู่ขมวดคิ้ว ” เรานั้นไม่ค่อยถูกกับดินแดนเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์เท่าไหร่นัก . ตอนนี้ที่พวกเขาได้เริ่มลงมือแล้ว พวกเขาคงไม่ปล่อยเราไปแน่ พวกเขาจะโจมตีเราทันทีที่พวกเขาเห็นเรา ”

” อืม ” หยางมู่ก็พยักหน้า ” พานโจว จากดินแดนเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์นั้นอยู่ในนภาที่สามของระดับปฐพี อยู่ในอันดับที่ 5 ของรายชื่อลำดับผู้แข็งแกร่ง ซึ่งอ่อนแอกว่าข้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เราต้องระวังให้ดี ถ้าเราพบเขา ตอนนั้นข้าจะรับมือกับเขาเอง เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก เขาสามารถฝึกฝนวิชาได้ทุกประเภท .

ฉื่อหยานก็ตื่นตัว

ดูจากหยางมู่และกลุ่มของเขา เขาก็ได้รู้เกี่ยวกับลำดับรายชื่อผู้แข็งแกร่งมากขึ้น มีเพียงนักรบที่มีอายุต่ำกว่าสามสิบปีเท่านั้นที่จะสามารถมีรานชื่อยู่ในลำดับรายชื่อผู้แข็งแกร่งได้

มีเพียงสี่คนเท่านั้นในทะเลเคียร่าที่ติดอันดับ นั่นก็คือ หยางมู่ หยางโจว หยางเค่อ และเซี่ยกุ่ย ในขณะที่ตระกูลเซี่ยนั้นไม่มีใครติดอันดับอยู่เลย

หยางมู่ อยู่ในอันดับที่สี่ หยางโจวอยู่อันดับที่สิบสอง หยางเค่อสิบแปด ในขณะที่เซี่ยกุย จากดินแดนปีศาจมหัศจรรย์อยู่อันดับที่สิบ

ทั้งสิบแปดคนล้วนเป็นผู้ที่มีอายุน้อยกว่าสามสิบและยังมีพรสวรรค์และความโดนเด่นเป็นอย่างมาก พวกเขาถูกมองว่าจะต้องเป็นผู้น้ำของทะเลไม่มีสิ้นสุดในอนาคต

สมาชิกตระกูลหยางสามคนติดอยู่ในรายชื่อลำดับผู้แข็งแกร่ง นี่แสดงให้เห็นแล้วว่าตระกูลหยางมีศักยภาพเพียงใด

สัตว์อสูรภูติโผไปข้างหน้าไปยังเกาะน้ำเต้าซึ่งเป็นสถานที่ที่ประตูสวรรค์ตั้งอยู่ ข้างหลังก็มีมังกรสองหัวและค้างคาวโลหิตครามตามมา

” มีศัตรูอยู่ที่นี่ !”

 

ขณะที่พวกเขามุ่งไปยังเกาะที่ไม่รู้จัก ฉื่อหยานก็ตบเบาๆไปที่สัตว์อสูรภูติและให้มันชะลอตัวลง

” หืม ? ” หยางมู่ ก็ตกใจ ” เสี่ยวหยาน เราตรวจพบเจอศัตรูงั้นรึ ? ”

” ถูกต้อง ” ฉื่อหยานพยักหน้า ” พวกเขาอยู่บนเกาะ ข้างหน้าเรา พวกเขามีด้วยกันนับสิบคน และยังมีนักรบในระดับรู้แจ้งด้วย ”

” เสี่ยวหยาน เจ้าแน่ใจรึ ? ” หยางซู่ ก็แปลกใจ

” เราสามารถเชื่อเขาได้ ” หยางมู่ตอบและอธิบาย ” เมื่อตอนที่อยู่บนเกาะศิลาดำ เสี่ยวหยานสามารถรับรู้ได้ถึงพวกเผ่าอสูรด้วยสมบัติลับ ตอนนี้เขาก็คงสัมพัสถึงได้เช่นกัน ”

เขานั้นไม่รู้เลยว่าตอนนี้ฉื่อหยานได้สร้าง ห้วงจิตสำนึก และ จิตสำนึกวิญญานแล้ว และตอนนี้ประสามสัมพัสของฉื่อหยานก็เฉียบคมเป็นอย่างมาก

” เราจะหลีกเลี่ยงพวกเขาดีหรือไม่ ? ” หยางซู่ ขมวดคิ้ว ” มีนักรบระดับรู้แจ้งรวมอยู่ด้วย เราควรจะเข้าไปยังหุบเหวแห่งสนามรบเสียก่อน ที่พวกเขาจะตามมาได้ ”

” เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงพวกเขาได้แน่นอน . ” หยางมู่ ส่ายหัว ” เนื่องจากมีนักรบระดับรู้แจ้งอยู่ด้วย พวกเขาต้องหาเราพบด้วยห้วงจิตสำนึกแน่นอน อย่างมากก็เลี่ยงได้แค่วันเดียว จากนนั้นพวกเขาต้องรู้แน่นอน . ”

” ถูกต้อง เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงพวกเขาได้แล้ว เพราะตอนนี้ พวกเขาอยู่ที่นี่แล้ว ” ฉื่อหยานพยักหน้า

” เรานั้นไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร ” หยางมู่ครุ่นคิด ” ด้วยสัตว์อสูรระดับห้าและหก หากมีนักรบเพียงหนึ่งหรือสองคน เราก็คงไม่ต้องเป็นกังวล แต่มันก็คงยาก ถ้าพวกเขามีนักรบระดับรู้แจ้งมากกว่านั้น เสี่ยวหยาน , เจ้าตรวจสอบได้ไหมว่าพวกเขามีนักรบระดับรู้แจ้งทั้งหมดกี่คน ? ”

” สามคน ”

” สามคน ? เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร ” .

. . . . . . .

” วูป วูป วูป ”

ในขณะที่ลมกรรโชกอย่างรุนแรง เรือสามเหลี่ยมสีเงินก็บินอย่างรวดเร็วอยู่บนท้องฟ้า ปรากฏเป็นรูปร่างมนุษย์หลายคนอยู่บนเรือ

” เรือเขาเงิน ! ” หยางมู่แสยะยิ้ม ” พวกเขาต้องมาจากดินแดนเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์แน่นอน . เรือเขาเงินนั้นสามารถบินบนท้องฟ้าและแล่นในทะเลได้ บุคคลสำคัญเท่านั้น ที่จะสามารถครอบครองมันได้ ในดินแดนเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์ แม้กระทั่งนักรบระดับรู้แจ้ง ก็ไม่ได้รับอนุญาติให้ใช้เรือเขาเงิน นั่นต้องเป็นพานโจวแน่นอน”

” พี่หยางมู่ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ หึหึหึ. . . ” เสียงหัวเราะก็ดังมาจากเรือเขาเงิน เป็นหนุ่มหล่อที่ยืนอยู่ข้างหน้าพร้อมกับถือพัดในมือของเขา

ฉื่อหยานนั่งตัวตรงบนหลังสัตว์อสูรภูติ หลังจากจ้องมองไปในทิศทางนั้นสักพัก ใบหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นมืดมน

กู่เจียงเกอ จากตระกูลกู่ และ ซูหยางซิง จากแผ่นดินทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์ เองก็ยืนอยู่บนเรือนั้นเช่นกัน บนเกาะเหมินลั่ว นางนั้นเกือบจะฆ่าเขา แต่ตอนนี้พวกเขากลับมาพบกันที่นี่อีกครั้ง กู่เจียงเกอเองก็ยังคงมีชีวิตอยู่

” ฉื่อหยาน ! ” จากหลายสิบเมตรเสียงของกู่เจียงเกอก็ดังมาอย่างเย็นชา ” แกเองก็อยู่นี่สินะ ! ”

” ถูกต้อง ข้าอยู่ที่นี่ ” ฉื่อหยานมองกู่เจียงเกอ อย่างเย็นชา ” ข้าไม่อยากจะเชื่อจริงๆเลยว่าเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ดี ! เช่นนั้นข้าจะเป็นฆ่าเจ้าเอง ”

” เจ้าคือฉื่อหยานรึ ? หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว ตอนนี้ข้าต่างหากที่จะฆ่าเจ้า ” นอกจากกู่เจียงเกอแล้ว หญิงงามในชุดสีเขียวที่ดูหยิ่งพยองก็พูดขึ้น

” กู่หลินหลง อยู่ในนภาที่สองของระดับปฐพี อยู่ในลำดับที่ 8 ของรายชื่อผู้แข็งแกร่ง นางแข็งแกร่งกว่า กู่เจียงเกอ ” หลี่เฟิงเกอแนะนำอย่างเรียบเฉย

” ข้าไม่เชื่อหลอก.. ” ฉื่อหยานจ้องมองไปที่กู่หลินหลงอย่างเฉยชา ” สาวน้อย , ส่วนนั้นของเจ้ายังไม่เติบโตเลย ! หยุดคุยโวได้แล้ว ”

” เจ้า ! ลนหาที่ตาย ! ” กู่หลินหลงแสยะยิ้ม ด้วยความโกรธในแววตาของนาง ดาบยาวสีเงินก็บินออกมาจากแขนของนาง และพุ่งไปยังฉื่อหยานเหมือนกับสายฟ้าฟาด

ฉื่อหยานก็ขมวดคิ้วเขายังคงนั่งอยู่บนสัตว์อสูรภูติโดยไม่ลงมือทำอะไร

” ชีชีชี ”

สัตว์อสูรภูติพ้นลมหายใจออกมา และพลังปราณทมิฬสีเขียวที่เป็นเหมือนเมฆสีเขียวก็พุ่งไปที่ดาบสีเงิน เมื่อดาบพุ่งเข้าไปในเมฆสีเขียวมันก็หยุดนิ่งและไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิดเดียว

จากนั้นดาบวิญญานที่อยู่ภานในก็ถูกซัดกลับไปโดยพลังปราณทมิฬ

” พลังปราณทมิฬ ! ”

ผู้คนที่อยู่บนเรือเขาเงินก็กลายเป็นกังวล พวกเขาจ้องมองไปยังสัตว์อสูรภูติด้วยความหวาดกลัวและอุทานออกมา

” สัตว์อสูรจากดินแดนทมิฬ ” พานโจวถอนหายใจออกมาด้วย รอยยิ้มของเขา ” ตระกูลหยางนั้นติดต่อกับดินแดนทมิฬเมื่อไหร่กัน ? มิติเชื่อมต่อนั้นเชื่อมต่อเพียงแค่ด้านเดียว สัตว์อสูรและเผ่าทมิฬนั้นไม่สามารถผ่านมายังโลกของเราได้ แล้วเจ้าได้สัตว์อสูรตัวนี้มาได้ยังไงกันหรือ ? ”

” หยุดพล่ามเรื่องไร้สาระได้แล้ว ! ” หยางมู่ก็หมดความอดทน “พานโจว เจ้าจะสู้กับพวกเรางั้นรึ ? ”

––––––––––––––––––––––––

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 14 แล้ว มีถึงตอนที่ 584 แล้วจ้า ท่านใดสนใจเข้าร่วมกลุ่มอ่านเงือนไขได้ที่โพสปักหมุดของเพจเลยครับ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset