เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 272 ข้าจะยกให้ท่านเป็นนายเหนือหัวของข้า

บทที่ 272 ข้าจะยกให้ท่านเป็นนายเหนือหัวของข้า!

 

เสียงกรีดร้องเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานเสียดแทงเข้าไปในหู เสียงของมันดังยิ่งกว่าเสียงภูเขาเสียงอสูรถล่ม มันดังอยู่ข้างในหัวของตั่วหลงด้วยความกลัวสุดขีด

ดวงตาตั่วหลงก็ค่อยๆสูญเสียสัญญาณชีพลง ลึกเข้าไปในสมองปรากฏใบหน้าบัณฑิตสีขึ้น มันชัดเจนแล้วว่า วิญญาณของประมุขของตระกูลปีกสีเทา ได้ถูกเผาทำลายไปแล้วและเขาได้สูญเสียชีวิตของเขาในเวลาเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ

ทั้งตี่ฉานและยู่โหลวต่างก็ตกตะลึง เมื่อเห็นตั่วหลงถึงแก่ความตาย

อย่างไรก็ตาม เสียงกรีดร้องเสียดหูของเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานทำให้พวกเขาทั้งสองมีความหวัง พวกเขามองไปที่ฉื่อหยาน และคิดว่าฉื่อหยานคือวีรบุรุษของพวกเขา มากขึ้น

เป็นไปตามที่โชคชะตากำหนด ! ?

ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะคิดเช่นนั้น ด้วยความคิดที่ว่าจะต้องนับเจ้าสารเลวน้อยเป็นเจ้าน้อยของพวกเขาพวกเขาสองคนไม่รู้ว่า ควรจะร้องไห้ หรือ ยิ้มดี

อย่างไรก็ตาม , พวกเขาก็ไม่สามารถยิ้มได้

ตี่ฉานรู้ว่าถ้าฉื่อหยานไม่ได้มาที่นี่ ที่ภูเขาเสียงอสูร ดินแดนแห่งนี้ก็คงไม่เริ่มล่มสลายเร็วเช่นนี้ คงจะไม่เกิดหายนะในช่วงเวลาสั้นๆเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงไม่อาจหนีพ้นจากห่วงโซ่โชคชะตาของพวกเขาได้และต้องอยู่ดินแดนแห่งนี้ตลอดไปแน่นอน

นอกจากนี้ พวกเขาทั้งสองยังมีระดับการบ่มเพาะในระดับพระเจ้า ถ้าพวกเขามีเวลามากขึ้นพวกเขาก็อาจจะก้าวเข้าสู่ระดับพระเจ้าแท้จริงได้

ถ้าพวกเขาอยู่ในดินแดนเลวร้ายเช่นนี้ต่อ เมื่อพวกเขาไปถึงระดับพระเจ้าแท้จริง สิ่งที่รอคอยพวกเขาอยู่ก็คงหนีไม่พ้การลงโทษของพระเจ้าจากฟากฟ้าเหนือยอดเขาเสียงอสูร

อีกสามผู้นำรวมทั้งคาป้า อีเทียนโหมว และ หหยาเมิงก็หนีไปอย่างไร้ร่องรอยทันทีที่พวกเขาเห็นว่าเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานแปลกไป

ภูเขาถล่มลงมาอย่างต่อเนื่อง เสียงฟ้าร้องทำให้พื้นโลกสั่น .

คนเหล่านั้นที่อยู่ภายในภูเขารู้ดีกว่าใครๆ ว่า พื้นที่แห่งนี้กำลังจะกลายเป็นล่มสลาย ซึ่งมันอาจจะเกิดขึ้นในวินาทีต่อมา

” จัดการมัน ! ” ฉื่อหยานตะโกนเสียงเย็นชาออกมาในขณะที่ยื่นนิ้วของเขาที่สวยแหวนสายโลหิตออกไปยังตั่วหลงที่อยู่ไกลออกไป

แหวนสายโลหิตส่องแสงสีชมพูออกมา เส้นแสงชีชมพูจำนวนมากเป็นเหมือนกับคลื่นที่รุนแรงซัดไปที่ตั่วหลงและปกคลุมร่างของเขาอย่างรวดเร็วในพริบตา

” ไม่ ! ” ใบหน้าบัณฑิต ที่ซ่อนอยู่ภายในตั่วหลงก็ร้องออกมาและถูกดึงออกมาจากร่างของตั่วหลง

หลังจากที่มันได้ถูกดึงออกจากตั่วหลง มันก็ลอยไปที่ฉื่อหยาน

ตี่ฉานและยู่โหลวได้เป็นอย่างมาก สีหน้าเปลี่ยนไป พวกเขา instinctively ย้ายไปข้างหลัง พวกเขาเลยรู้สึกตื่นเต้น หลังจากอึ้งไปสักครู่ เขารีบหยุดลดลง ไม่มีวิธีอื่นที่จะถอย

เพียงอยู่ภายในรัศมีสีฟ้า จะช่วยให้พวกเขาหลีกเลี่ยงวิญญาณโจมตี ไม่ว่าที่ไหนที่พวกเขาหนีไป ถ้าพวกเขาได้รับนอกรัศมีของการป้องกันสีฟ้า มันเป็นไปไม่ได้เพื่อป้องกันไม่ให้วิญญาณของพวกเขาจากการถูกเผา

ตี่ฉานและยู่โหลวก็มีปฏิกิริยาทันที พวกเขาหยุดการกระทำต่างๆ

” ไม่ ! ! ! ! ! ไม่ !” เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานกรีดร้องออกมาในขณะที่มันพยามดิ้นรนอย่างต่อเนื่องดิ้นรนเพื่อหนีจากแหวนสายโลหิต

อย่างไรก็ตาม แม้จะพยายามแค่ไหน มันก็กลายเป็นอ่อนแอและไม่มีพลังพอ ที่ต่อต้านแสงสีชมพูที่ดึงมันอยู่

จ้องมองอย่างตั้งใจไปที่ฉื่อหยาน , ตี่ฉาน และ ยู่โหลว ก็ตกตะลึง เปลวไฟนภาที่ถูกผนึกอยู่ภายในภูเขาเสียงอสูรมานาน กลับไม่มีพลังในการต่อต้านใดๆและถูกดึงเข้าไปในแหวน

ฉื่อหยานยื่นนิ้วออกมาออกมาจากม่านแสงสีฟ้าและชี้ไปยังที่เปลวไฟจากระยะไกล

ในที่สุด , เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานก็กลายเป็นแสงสีเงินประกายไหลและหายตัวไปในแหวนสายโลหิตบนนิ้วของฉื่อหยาน

กลิ่นอายพลังหยินระหว่างท้องฟ้าและพื้นดินก็เกิดความปั่นป่วนขึ้นและไม่สามารถรวมตัวกันได้อีกต่อไป

” ตูม ตูม ตูม “

ภูเขาเสียงอสูรเหมือนกับได้สูญเสียแกนหลักที่สำคัญชองมันไป มันยุบด้วยความเร็วที่มากกว่าก่อนหลายเท่า

ตี่ฉาน และยู่โหลวยังอยู่ในความตื่นตระหนก พวกเขามองฉื่อหยานด้วยสายตาไม่น่าเชื่อ มันยากที่จะเชื่อในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น

หลังจากเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน ถูกดึงดูดเข้าไปในแหวนสายโลหิต ฉื่อหยานก็ไม่ได้แม้แต่จะปล่อยจิตสำนึกวิญญาณของเขาเพื่อตรวจสอบด้านในของแหวน แต่ทันทีที่เขาก็เข้าไปที่แท่นหินขนาดใหญ่และหยิบกระสวยแยกนภาเข้่ามาในแหวนสายโลหิตทันที

” ไปกันเถอะ ” ฉื่อหยาน มองไปที่ ตี่ฉาน และ ยู่โหลวและพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ ” เรารอดแล้ว “

” หวือหวือหวือ ” .

ท้องฟ้าเจิดจ้าแผ่เป็นรัศมีที่กระจายไหลพล่านด้วยฤทธิ์อำนาจ

 

ฟ้าร้อง และ สายฟ้าฟาด บันไดหินพลันปรากฏขึ้นทีละขั้นโดยไม่รู้มาจากที่ใด , มันเชื่อมโยงขึ้นไปบนแท่นหินขนาดใหญ่ที่อยู่บนท้องฟ้า บันไดหินบรรจบเข้ากับแสงบนท้องฟ้า มันเป็นเหมือนกับบันไดที่เชื่อมต่อกับสวรรค์

” บันไดสวรรค์ปรากฏ . . . . . . . ตามคำพูดของบรรพบุรุษ ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย ไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นจริง . . . . . . . ” ตี่ฉาน ยกหัวขึ้นท้องฟ้า บ่นพึมพำกับตัวเองด้วยความประหลาดใจ ใบหน้าของเขาดูเหมือนนึกไปถึงช่วงหนึ่งในความทรงจำเก่าๆ

ยู่โหลวยังประหลาดใจ ดวงตาที่สวยงามของนางสว่าง หลังจากนั้น นางก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา จนท้องเจ็บ นางไม่เก็บกิริยาที่แสนบอบบางของนางแบบปกติอีกต่อไป

ฉื่อหยานมองคนทั้งคู่ด้วยความสงสัย เขาสงสัยว่าอะไรที่กันทำให้เขาสองคนไปเกิดบ้าในช่วงเวลาเช่นนี้

” เป็นเจ้าจริงๆ ! ” ยูหัวเราะจนน้ำตาเกือบจะไหลออกมา . นางกุมท้องของนางและชี้ไปที่ฉื่อหยานในขณะที่หันไปพูดกับตี่ฉานโดยไม่หยุดหัวเราะ ” เจ้ามีอะไรจะพูดหรือไม่ ? “

ตี่ฉานร่างกายที่แข็งแกร่งก็ตกใจ สีหน้าของเขา กลายเป็นซับซ้อน

หลังจากคิดสักพัก โดยไม่สนใจเศษหินของภูเขาเสียงอสูรที่กำลังถล่มลงมา ตี่ฉานก็คุกเข่าลงต่อหน้า ฉื่อหยาน เขาโค้งคำนับและกล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำ ” ข้า ตี่ฉาน ! ประมุขของตระกูลปีกดำ จากนี้ไป ข้าสาบานว่าจะถือว่าเจ้าเป็นนายเหนือหัวของข้า และมันจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจนวันตาย “

” ข้า ยู่โหลว จักพรรดิ์นีตระกูลปีกขาว ข้าสาบานว่าจะถือว่าเจ้าเป็นนายเหนือหัวของข้า จและมันจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจนวันตาย ” ยู่โหลวยิ้มเบาๆ ด้วยความนับถือ น่งคุกเข่าด้วยสีหน้าจริงจังและพูดสาบานออกมา

ฉื่อหยาน ก็ตกใจจนดวงตาและปากของเขาเปิดกว้าง

” ตูม ตูม ตูม “

ภูเขาเสียงอสูรกำลังจะยุบตัวลงอย่างสมบูรณ์ ภูเขาดูราวกับว่ามันถูกตัดและบดโดยค้อนและดาบ ทำให้ก้อนหินยักษ์มากมายถล่มลงมา

ไม่เพียงแค่นั้นสายฟ้าพิสุทธิเองก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่นแปลง จากท้องฟ้าที่มืดมิด ก็ค่อย ๆปรากฏสีฟ้าสดใสรอบๆ

” นี่ นี่มัน ?”

ฉื่อหยาน ก็มองไปยังจุดนั้น เขาไม่ได้รู้ว่าสิ่งที่ ตี่ฉาน และ ยู่โหลวต้องการจะทำคืออะไร หรือว่าที่พวกเขาจะจริงหรือไม่ ในเวลานี้ เขารู้สึกสับสน เขาไม่ไม่รุ้และไม่สามารถพุดอะไรได้

พวกเขาสองคนไม่ได้รอฉื่อหยานแสดงออกอะไร หลังจากที่คุกเข่าลง ตี่ฉาน และ ยู่โหลวก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน ยกศีรษะมองบันไดสวรรค์ที่มุ่งตรงไปสู่ท้องฟ้า ยู่โหลวกล่าวด้วยรอยยิ้ม ” นายท่าน นั่นบันไดสวรรค์ ในที่สุดเราก็สามารถออกจากสถานที่เลร้ายแห่งนี้ได้ ” .

นายท่าน . . . . . . .

ฉื่อหยานคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับเรื่องนี้พร้อมกับขมวกคิ้ว

” ท่านเอาจริงรึ ? “

” จากนี้ไป เจ้าคือนายท่านของตระกูลเราทั้งสอง ดังนั้น แม้ว่าจะไม่มีตั่วหลง ข้าก็จะทำให้พวกเขาปฏิบัติกับท่านเฉกเช่นคำแนะนำของบรรพบุรุษ ” ตี่ฉาน แววตาก็ส่องประกายแปลกประหลาด ” นายท่าน ตอนนี้ท่านมีเปลวไฟนภาอยู่ด้วยกันสามชนิด ตัวตนของท่านคือความหวาดกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตระกูลเสียงอสูร แต่ว่า ด้วย ยู่โหลว และข้านั้น ข้าคิดว่าตระกูลเสียงอสูรคงไม่กล้าทำอะไร “

” นี่ . . . “

” นายท่าน ที่ว่าท่านมายังที่นี่คงจะเป็นประสงค์ของพระเจ้า เราแค่ทำตามชะตากำที่ถูกหนดไว้โดยพระเจ้า . ” ยู่โหลวเผยรอยยิ้ม มองฉื่อหยาน ” ข้าอธิบายให้นายท่านฟัง เพราะท่านได้ช่วยสองเผ่าของเราออกไปจากแผ่นดินนี้เลวร้ายแห่งนี้ และยังท่านยังมีสายเลือดของพระเจ้าราชันย์อมตะ ท่านจึงมีสิทธิ์ที่จะเป็นนายเหนือหัวของเราทั้งสองตระกูล เราทำตามคำแนะนำของบรรพบุรุษ “

” สถานที่แห่งนี้กำลังจะล่มสลาย นายท่าน ขอให้ท่านขึ้นบันไดสวรรค์ไปก่อนเลย ” ตี่ฉานค่อย ๆตะโกน

ฉื่อหยาน ก็ยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการนั้นคืออะไร แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงความชั่วร้ายของพวกเขาอยู่แล้ว ทันทีที่เขาก็ก้าวขึ้นไปยืนอยู่บนสวรรค์บันไดหลังจากลังเลเล็กน้อย

ตี่ฉานและยู่โหลวเองก็เหยียบบันไดหลังจากที่ฉื่อหยานยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว พวกเขายืนต่ำกว่า 2 ขั้น

ภูเขาเสียงอสูรแตกสลายไปเป็นอย่างมาก ด้วยเสียงระเบิดที่สะท้อนไปทั่วภูเขา ทำให้ภูเขาที่อยุ่มานานนับหลายปี กำลังถล่มที่ละเล็กน้อย จากสวรรค์บันไดที่พวกเขายืนอยู่บน ภูเขากำลังถูกทำลายและกระจัดกระจายไปทั่ว

ขณะที่ฉื่อหยาน กำลังยืนอยู่บนบันไดสวรรค์ เขาก็ตระหนักได้ว่าแม้ภูเขาเสียงอสูรจะพังทลายเป็นชิ้นๆ มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อเขาเลย

แน่นอน , การล่มสลายของภูเขาเสียงอสูรดูเหมือนจะรุนแรง แต่ก็ไม่เห็นเลยว่าจะมีหินสักก่อนที่จสัมผัสกับบันไดสวรรค์ บริเวณโดยรอบบันไดปลอดภัยจากทั้งเศษซากหินที่ตกลงมาทั้งหมด

 

แม้จะมีข้อเท็จจริงที่ว่ามันผิดปกติ แต่ด้วยธรรมชาติของมัน มันกลับทำให้ฉื่อหยานรู้สึกว่า นี่คือสภาพที่แท้จริงของมัน

ไม่นานหลังจากเกิดระเบิดขึ้น , ภูเขาเสียงอสูรก็เหมือนไม่มีอยู่จริง

ภูเขาขนาดใหญ่ถล่มในช่วงระยะเวลาที่สั้นเป็นอย่างมาก หินยักษ์แตกกระจายไปทั่วทุกที่ ภายใต้ท้องฟ้าสีฟ้า , สถานที่ที่สัตว์อสูรเสียงเคยอยู่กลายเป็นบันไดที่มุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า พร้อมกับมีคนทั้งสามยืนอยู่บนนั้น

นอกภูเขาเสียงอสูรนักรบระดับสูงได้หลบหนีห่างไกลออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงการถล่มของภูเขาซึ่งมันเป็นอันตรายต่อพวกเขา

หลังจากการการล่มสลายที่รุนแรง ตอนนี้พวกเขา จู่ ๆก็เห็นบันไดสวรรค์ที่มุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับคนทั้งสามคนที่ยืนอยู่

สามผู้นำของเผ่าเสียงอสูร อีเทียนโหมว คาป้า และ หยาเมิงก็ตกใจพร้อมกับดวงตาของพวกเขาที่แสดงออกว่าไม่อยากจะเชื่อ ดวงตาของพวกเขาจ้องมองไปยังคนทั้งสามที่อยู่บนบันได

ตี่ฉานขมวดคิ้วในขณะที่ หลี่ตามองไปที่ทั้งสามคน จากระยะไกลแล้วตะโกนว่า ” อีเทียนโหมว คาป้า หยาเมิง มาที่นี่ ข้ามีบางอย่างจะบอกพวกเจ้า . “

ทั้งสามคนก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออกชั่วขณะ ก่อนที่จะมุ่งไปหาตี่ฉาน

หลายสิบล้านคนของทั้งสองเผ่าพันธุ์ก็ ยกหัวขึ้นสู่ท้องฟ้า มองดูไปที่บันไดสวรรค์ ด้วยความสงสัยว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น

สามผู้นำแห่งเผ่าเสียงอสูรก็มาอยู่ข้างๆตี่ฉานในพริบตา พวกเขาทั้งหมดพูดพร้อมกัน ” เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน . . . . . . . “

” มันถูกกำหราบแล้ว . ” ตี่ฉาน ยกมือของเขาขึ้น วาดเป็นวงกลมมหัศจรรย์และปรากฏเป็นม่านขึ้นรอบๆเพื่อ ไม่ให้เสียงใดเล็ดลอดออกไป

สีหน้าของทั้งสามผู้นำก็เปลี่ยนแปลงไปแย่างมาก

” ข้าขอแนะนำให้พวกเจ้ารู้อีกครั้ง ” ยู่โหลวใบหน้าก็กลายเป็นจริงจัง นางชี้ไปที่ฉื่อหยาน และกล่าวว่า ” นี่คือนายท่านของเรา ท่านเป็นผู้ครอบครองเปลวไฟนภาทั้งสาม อีกทั้งยังเป็นผู้สืบทอดสายเลือดอมตะจากพระเจ้าราชันย์อมตะ ข้าคิดว่าพวกเจ้าคงรู้เกี่ยวกับคำพูดของบรรพบุรุษอยู่แล้ว เจ้าทั้งสามที่เป็นผู้นำของเผ่าเสียงอสูรคงรู้สินะ ว่สควรปฏิบัติตนเช่นใดเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ?

” อะไรนะ ? ” หยาเมิงตะโกนด้วยความกลัว

” ที่ข้าพูดไม่ชัดเจนงั้นรึ ? ” ยู่โหลวขมวดคิ้วเข้าหากันและพูดด้วยเสียงเย็นชา ” เขาสามารถนำเผ่าพันธุ์ทั้งสองของเราออกจาสกที่แห่งนี้ได้ ประกอบกับที่มีสายเลือดพระเจ้าราชันย์อมตะ เราจะต้องยกให้เขาเป็นนายเหนือหัวของเรา เจ้าทั้ง 3 คน คิดจะไม่ทำตามคำแนะนำบอกบรรพุรุษงั้นรึ ? พวกเจ้าเข้าใจหรือไม่นั่นหมายความว่าเช่นใด ?

หน้าของ อีเทียนโหมว ก็สั่นสะท้าน เขาช่วยไม่ได้ที่จะถามออกไป ” แล้วตั่วหลงอยู่ที่ใดกัน ? “

” เขาตายแล้ว ” ตี่ฉาน ก็มองไปที่ผู้นำทั้งสามอย่างเย็นชา ” เขาถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน โดยเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน ซึ่งตอนนี้มันอยู่ในการครอบครองของนายท่านเรา หึ ! แม้ว่าตอนนี้ท่านจะใช้เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานไม่ได้ แต่เพียงเปลวไฟนภาอีกสองก็เพียงะิที่จะทำลายเผ่าเสียงอสูรของพวกเจ้าทั้งหมดแล้ว ”

อีเทียนโหมวสีผิวก็เปลี่ยนไปอย่างมาก จู่ๆ เขาก็มองไปที่ฉื่อหยานด้วยความเคารพ หลังจากลังเลอยู่สักพัก เขาก็กล่าวว่า ” ข้าเป็นหนึ่งในผู้นำของตระกูลเสียงอสูร อีเทียนโหมว ข้าสาบานว่าจะยกให้ท่านเป็นนายท่านของข้า “

คาป้า และหยาเมิง รูม่านตาก็หดลง พวกเขาถอนหายใจออกมาและก้มหัวให้อย่างเสียใจต่อหน้าฉื่อหยาน ” เราสัญญาว่าจะยกให้ท่านเป็นนายเหนือหัวของเรา “

––––––––––––––––––––––––

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 20 แล้ว มีถึงตอนที่ 920 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset