เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 389 ข้ารู้จักพวกเขา

บทที่ 389 ข้ารู้จักพวกเขา

 

ฉื่อหยาน ก็ยืนอยู่ที่หน้าต่างปราสาทกับสองพี่น้องมองออกไปทางภูเขาทั้งสี่ที่มีรูปสัญลักษณ์ เขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนถึงการระเบิดของภูเขาทั้งสี่และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างน่ากลัว

คลื่นเสียงคำรามสัตว์อสูรดังมาจากภูเขา ดูเหมือนกับจะมีสัตว์อสูรน้ำไม่ถ้วนอยู่ไม่ไกลจากภูเขาทั้งสี่วิ่งเข้ามาในเมืองโบราณและบดขยี้นักรบทั้งหมด

เมื่อเสียงคำรามสัตว์อสูรดังขึ้น สายฟ้าก็ค่อยๆกระพริบจากภูเขามังกรสีฟ้าในทิศตะวันออก และค่อยๆลอยออกไปช้าๆ ส่วนภูเขาที่มีสัญลักณ์พยัคฆ์ขาวทางทิศตะวันตกก็เกิดพายุทอร์นาโดรุนแรงขึ้นมันปั่นและทำลายทุกอย่างตามทางที่มันเคลื่อนผ่าน พายุทอร์นาโดขนาดใหญ่ก็ดึงก้อนหินลาวาขึ้นสู่ท้องฟ้า ทีละก้อนอย่างน่ากลัว

จากภูเขาที่มีสีแดงชาดจากทางทิศใต้กลุ่มของเปลวไฟก็เริ่มเดือดดาล ย้อมท้องฟ้าให้เป็นสีแดงเข้มราวกับท้องฟ้าถูกเผาพลาญด้วยเปลวไฟ

ที่ภูเขาทิศเหนือที่เป็นรูปเต่าเำก็ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งที่หนามากและมีเกล็ดหิมะโปร่ยปรายตลอดเวลา เพียงลมหายใจเดียว ภูเขาเต่าเำก็ถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาว

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในภูเขาทั้งสี่ลูก ราวกับผลกระทบนี้เป็นเกิดจากรูปแบบโบราณ สายฟ้าฟาด , พายุทอร์นาโด , เปลวไฟ , และหิมะยังคงแผ่กระจายไปสู่เมืองโบราณ ใกล้ๆเข้าไปเรื่อยๆ

สี่ภูเขาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้สัตว์อสูรที่ซ่อนอยู่บ้าคลั่ง

ท่ามกลางเสียงเหล่านั้น ร้อยสัตว์อสูรระดับหกและเจ็ดก็กระจัดกระจายออกมาจากภูเขา ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความป่าเถื่อนพวกมันก็มุ่งเข้าสู่เมืองโบราณด้วยความบ้าคลั่ง

จระเข้ยักษ์สามหัว , หมาป่าปีศาจสีเงิน งูมังกรเขาเดียว ที่หาพบได้ยาก ตอนนี้ก็โผล่มาทีละตัว กลุ่มของสัตว์อสูรที่ดุร้ายก็พุ่งพล่านออกมาเหมือนกับน้ำท่วมที่ซัดเข้าเมืองโบราณ

เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับภูเขาทั้งสี่ นักรบมากมายภายในป้อมปราการหินโบราณก็จริงจัง และทันทีที่ก็เดินออกจากปราสาท สวมใส่ใบหน้าวิตกกังวลขณะมองดูสัตว์อสูนที่บึกโจมตีมาอย่างอุกอาจ พวกเขาทั้งหมดอยู่ในสถาวะตื่นตัวสูงสุด

” ระวังด้วย ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนแปลกในดินแดนเล่นลับแห่งนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว ” อายหยาขมวดคิ้วแน่น ” สัตว์อสูรเหล่านี้มีมากกว่านักรบ ถ้าเราไม่ระมัดระวัง สัตว์เหล่านั้นจะปิดล้อมเราทันที และมันจะยากสำหรับเราที่จะหลบหนี “.

ไชอี้ ลั่วหลี่ และ ลั่วหลั่นจ้องมองสัตว์อสูรที่บุกเข้ามาด้วยใบหน้าจริงจังในขณะที่เรียกสมบัติลับออกมาจากแหวนของตนเตรียมที่จะจัดการกับพวกมัน

นักรบกลุ่มอื่นๆยังซ่อนอยู่ข้างในปราสาท ยืนมองสัตว์อสูรที่บุกเข้ามาทั้งบนท้องฟ้าและพื้นดิน ทุกคนต่างก็มีสีหน้่ตรีงเครียด

สัตว์เหล่านี้ดูเหมือนจะรู้สถานการณ์ของเมืองโบราณ ทันทีที่พวกมันวิ่งเข้าไปในเมืองโบราณพวกมันก็กระจายกันออกไปทันทีและปิดล้อมปราสาที่มีนักรบอยู่

ปราสาทหินนั้นมีหน้าต่างอยู่มากมาย แต่ก็ไม่สามารถหยุดพวกสัตว์อสูรที่บินได้ บรรดาสัตว์อสูรใช้พลังที่แข็งแกร่งของพวกมันบดขยี้หน้าต่างและเจาะเข้ามาในปราสาทเพื่อหานักรบ สัตว์อสูรเหล่านี้เคียดแค้นต่อการบุกลุกของมนุษย์เป็นอย่างมาก หน้าที่ของพวกมันดูเหมือนจะเป็นการฆ่านักรบมนุษย์ทั้งหมด

สิบ เหยี่ยวเกล็ดเขียวระดับหก และสามงูมังกรเขาเดียวก็เจาะผ่านทางหน้าต่างสู่ปราสาทหินของฉื่อหยาน กลุ่มเหยี่ยวเกล็ดเขียว มีความสามารถในการบินและมีจะงอยปากที่แหลมคม ผิวหนาและกรงเล็บที่คมเหมือนดาบเปล่งประกายเย็นชา

เหยี่ยวเกล็ดเขียวเหล่านี้มีเกล็ดที่เป็นเหมือนเกราะทั่วร่างกายของมัน เกล็ดสีเขียวเหล่านี้อาวุธทั่วไปไม่สามารถทำอไรได้ และดังนั้น พวกมันจึงยากที่จะจัดการ

งูมังกรเขาเดียวระดับเจ็ดเองก็น่ากลัวเป็นอย่างมาก เขาของงูมังกรเขาเดียวทุกตัวนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจเทียบเท่ากับอาวุธเทพที่ถูกหลอมมานับร้อยครั้ง น้ำลายของงูมังกรเขาเดียวนั้นเป็นพิษที่รุนแรงและมันก็สามารถใช้พลังของน้ำแข็งได้ เมื่องูมังกรเขาเดียวเขาใกล้กับมนุษย์ น้ำลายของมันและพลังน้ำแข็งของมันก็ปลดปล่อยออกมา แม้แต่ม่านพลังที่นักรบระดับนภาสร้างขึ้นก็ไม่สามารถป้องกันน้ำลายพิษนี้ได้ ซึ่งมันสามารถละลายการป้องกันได้มากมาย พลังของน้ำแข็งเองก็สามารถลดพลังป้องกันของม่านพลังได้เป็นอย่างดี

เมื่อการป้องกันประทะเข้ากับกลิ่นอายเหล่านี้หละก็ มันก็จะหายไปในพริบตา , จากนั้นงูมังกรเขาเดียวก็จะพุ่งเข้ามาฉีกกระฉากนักรบ

 

หากไม่ใช่นักรบคนนั้นได้ผ่านการหลอมร่างกายมา งูมังกรเขาเดียวก็จะโจมตัพวกเขาและเจาะผ่านร่างของพวกเขา

สิบเหยี่ยวเกล็ดเขียวและสามงูมังกรเขาเดียวกระจายกันออกไปและมุ่งไปล้อมรอบกลุ่มของฉื่อหยานอย่างรวดเร็ว พวกมันใช้เวลาเพียงสั้นๆในการห้ากลุ่มของฉื่อหยานทั้งห้า และทันทีเมื่อพวกมันพบ พวกมันก็มุ่งไปยังจุดนั้น

” สามงูมังกรเขาเดียว และ สิบเหยี่ยวเกล็ดเขียว ! “อายหยาไม่สามารถช่วยไดที่จะร้องออกมาเสียงดังในขณะที่ใบหน้าของนางเปลี่ยนไปอย่างมาก ” ไม่ดีแล้ว เมื่อสัตว์อสูรเหล่านี้จะมาด้วยกัน ข้าเกรงว่าพวกเราจะไม่สามารถเอาชนะพวกมันได้ พวกเราทุกคนต้องใช้พลังของพวกเราทั้งหมดเพื่อฆ่าสัตว์อสูรเหล่านี้ เพียงเวลาสั้นๆพลังของเราจะต้องหมดลงแน่ เมื่อสัตว์อสูรเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้น พวกเรามีโอกาสน้อยมากที่จะรอดอย่างมีชีวิต สายฟ้าฟาด , เปลวไฟ , พายุทอร์นาโด , และน้ำแข็งจะค่อยๆเคลื่อนเข้าสู่เมืองโบราณ ถ้าเราไม่จัดการกับสัตว์อสูรทั้งหมดได้ในเวลาอันนั้น มันคงจะยากที่พวกเราจะออกไปจากภูเขาทั้งสี่และเมืองโบราณ ” ใบหน้าของไชอี้ก็แข็งตึง . เงาสามร่าก็แวบขึ้นในปราสาทหินซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตรด้านซ้าย พวกเขามองไปรอบๆอย่างกังวล และมุ่งไปยังกลุ่มของฉื่อหยาน

พวกเขาเป็นชายสองหญิงหนึ่ง ชายสองคนนี่เป็นนักรบอายุประมาณเจ็ดสิบปีและสวมใส่เสื้อลายดอกไม้ ใบหน้าของเขาตอนนี้ดูแปลกๆเหมือนสัตว์อสูรกำลังไล่ตามพวกเขา

ผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าของชายสองคน นางสวมใส่กระโปรงสีเหลืองอ่อนยาวพร้อมกับฟันขาวและดวงตาที่สดใส นางงดงามเป็นอย่างมาก

พวกเขาทั้งสาม ดูเหมือนจะตระหนักได้ว่าสัตว์ที่มุ่งเข้าไปในปราสาทหินนั้นแข็งแกร่งเกินไปและก็รู้ด้วยว่า ถ้สพวกเขาอยู่ที่นั่นจะต้องถูกฆ่าแน่ ดังนั้น พวกเขาจึงวิ่งออกมาจากปราสาทหิน เพื่อหาใครบางคนที่พวกเขาจะร่วมมือจัดการกับกองทัพสัตว์อสูรเหล่านี้

ด้านหลังพวกเขาทั้งสาม สัตว์อสูรนับสิบก็วิ่งออกจากปราสาทหิน แยกเขี้ยวเล็บ ส่งเสียงคำรามและจ้องมาที่พวกเขา

” ท่านปู่ เร็วเข้า ! ” หญิงสาวพูดเร่งออกมา ร่างกายของนางก็เปลี่ยนไป และแยกออกเป็นร่างห้าร่างและแยกย้ายกันหนีไปทุกทิศทาง

ร่างที่แท้จริงของนาง และลอยอยู่ในอากาศ กลิ่นอายพลังที่แข็งแกร่งไหลออกมาจากร่างของนาง แล้นางก็รีบมุ่งไปที่ฉื่อหยาน

เห็นทั้งสามคนวิ่งมา ใบหน้าของลั่วหลี่ และอายหยาทันทีก็เปลี่ยนไปในเวลาเดียวกัน พวกเขาไม่สามารถช่วย ที่จะก่นด่าออกมา

พวกเขาทั้งสามนั้นไม่สามารถรับมือกับสัตว์อสูรได้และยังนำสัตว์อสูรมายังกลุ่มของฉื่อหยานเพื่อยืมพลังของพวกเขากำจัดสัตว์อสูรเหล่านั้น

มันเป็นเรื่องยากแต่เดิมอยู่แล้วที่กลุ่มของฉื่อหยานจะจัดการกับ งูมังกรเขาเดียวสามตัวและเหยี่ยวเกล็ดเขียวทั้งสิบตัว . ถ้าพวกเขาต้องรับมือกับสัตว์อสูรที่กลุ่มของคนทั้งสามลากมาอีก พวกเขาจะต้องเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก และบางทีอาจจะถูกฆ่าตาย

ลั่งหลี่และไชอี้ ก็สบตากัน ; ประกายแสงเย็นชาก็ไหลออกมาจากดวงตาของพวกเขา พวกเขาพร้อมที่จะซัดการโจมตีที่รุนแรงไปยังหญิงสาวเหล่านั้น

ผู้หญิงคนนี้มีระดับการบ่มเพาะในระดับปฐพี แม้ว่านางจะดูลึกลับ ตราบใดที่ลั่วหลี่และไชอี้ซัดการโจมตีด้วยพลังเต็มไปที่ หญิงสาวคนนี้ก็คงไม่สามารถรับมือได้และถูกฆ่าตาย

ฉื่อหยานหันหลังกลับมาที่ลั่วหลี่ และไชอี้ ปล่อยพลังของเขาสร้างเป็นหลุมแรงโน้มถ่วง ทันทีเมื่่อได้ยินเสียงหญิงสาวคนนั้น

หลังจากเสร็จสร้างหลุมแรงโน้มถ่วง , ฉื่อหยานก็ หันมามองไชอี้ และ ลั่วหลี่ ที่พร้อมะฆ่าหญิงสาวคนนั้น

” หยุด ! ” ฉื่อหยานมองหญิงสาวคนนั้นอย่างรวดเร็ว และสีหน้าก็เปลี่ยนทันที . เขารีบตะโกนบอกให้ไชอี้และลั่วหลี่หยุด

ทั้งคู่ต้องตะลึงคลื่นพลังในมือของพวกเขายังคงส่องแสงสดใส พวกเขายังคงควบแน่นพลังของพวกเขาพร้อมที่จะโยนพวกมันออกไป หากพวกเขาซัดออกไปหญิงสาวคนนั้นจะต้องไม่รอดแน่นอน

ฉื่อหยานตะโกนเสียงดัง ทำให้ไชอี้และลั่วหลี่ หยุดชะงัก พวกเขาทั้งสองแสดงความงงงวยบนใบหน้าของพวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงบอกให้หยุดในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้

” อ๊ะ ! “

หญิงสาวอุทานออกมา ตาของนางกระพริบด้วยประกายแสงแปลกๆ นางมองฉื่อหยานและหันกลับไปพูดกับใครบางคนจากนั้นก็ชี้ไปยังฉื่อแหยาน และกล่าวว่า” เจ้า เจ้าคือ . . . . . . . ? “

” ซั่วฉือ ไม่ได้เจอกันนานนะ ” ฉื่อหยานเผยรอยยิ้มบางๆ ” เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร ? “

” เจ้าคือฉื่อหยาน รึ? เจ้าคือฉื่อหยานจริงๆรึ ? ” ซั่วฉือรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากและนางก็ไม่อยากจะเชื่อ ” เจ้าไม่ได้กลับไปยังทะเลไม่มีสิ้นสุดรึ ? ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่ ? สองชายสูงอายุด้านหลังซั่วฉือเป็นปู่ซั่วของตระกูลซั่วและชิเสียวจากหุบเขาหมอก

เห็นซั่วฉือตะโกนออกมาเช่นนั้น ชายทั้งสองก็ประหลาดใจและหันไปมองฉื่อหยาน และแสดงสีหน้าแปลกใจ .

” มาที่นี่ก่อน แล้วเราค่อยคุยกันทีหลัง” ฉื่อหยานตะโกน พยักหน้าไป ทางไชอี้ ลั่วหลี่ กล่าวว่า “ข้ารู้จักพวกเขา ให้พวกเขาเข้ามา “

ไชอี้ และลั่วหลี่ ใบหน้าก็ดูลังเล แต่พวกเขาก็ยังทำตามที่ฉื่อหยานสั่งโดยไม่ขัดขืน พวกเขาขมวดคิ้วขณะก้าวออกไป เปิดทางไปซั่วฉือเข้ามา

ฉื่อหยานกระตุ้นจิตสำนึกเล็กน้อย หลุมแรงโร้มถ่วงที่ใช้เวลาสร้างมาเป็นเวลานานก็ พลันบินไปด้านหลังซั่วชูและชิเสี่ยว ที่มีจระเข้ยักษ์สามหัวห้าตัวไล่อยู่ ซึ่งพวกทันตามซั่วชูและชิเสี่ยวเข้ามาใกล้เป็นอย่างมาก แต่จู่ๆก็ถูกดูดเข้าในหลุมแรงโน้มถ่วงที่มีเส้นไหมสีทอง . เส้นไหมสีทองเหล่านี้คมเป็นอย่างมาก และทันทีที่จระเข้ยักษ์สามหัวถูกดูดเข้าไป พวกมันก็ถูกตัดและบดขยี้เป็นผุยผง

” ผลึกอสูร !

ชิเสี่ยวและ ซั่วชูที่มีทั้งประหลาดใจและความร่าเริงก็ตะโกรอกมา พวกเขามองไปที่ผลึกอสูรด้วยความโลถ

ทั้งสามคนสมควรผ่านความยากลำบากในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬมาแน่นอน เมื่อห้าผลึกอสูรปรากฏขึ้นชิเสี่ยวและซั่วชูเห็นได้ชัดว่าไม่สามารถสงบความต้องการของตนได้

” อย่าพึ่งยุ่งกับผลึกอสูรเหล่านี้ มาที่นี่ก่อนเป็นอันดับแรก” ฉื่อหยานตะโกนออกมาเสียงดัง

ซั่วชูและชิเสียวก็ตกใจเล็กน้อย . พวกเขามีปฏิกิริยาและพุ่งผ่านไปทีนทร

” ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร ? ” ฉื่อหยานตะโกน

” มันเป็นเพราะแผนที่บนเกราะกระดองเต่าของฉือเอ๋อ . เราเดินตามเส้นทางบนแผนที่นั้นจากสมาคมการค้า ระหว่างทาง เราสูญเสียคนไปมาก หลังจากที่เข้ามาในสถานที่แห่งนี้ มีเพียงพวกเราสามคนเท่านั้นทีรอด ใบหน้าของชิเสี่ยวก็เศร้า เขาตะโกนและร่วมกับซั่วชูบุกฝ่าเข้ามารวมกับกลุ่มของฉื่อหยาน

” ฉื่อหยาน , เจ้ามาที่นี่ได้ไง โอ้ , ระดับการบ่มเพาะของเจ้าอยู่ในนภาที่สามระดับรู้แจ้งเช่นเดียวกับข้าแล้วรึ ? ” หัวหน้าตระกูลซั่วชู ก็กรีดร้องออกมา ขณะที่ดวงตาของเขาเรืองแสงปรากฏร่องรอยความไม่อยากเชื่อ .

ชิเสี่ยวและซั่วฉือเองก็ตะตกลึง

__________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 28 แล้ว มีถึงตอนที่ 1301 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset