เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 418 แมลงอสูรกินซากศพ

บทที่ 418 แมลงอสูรกินซากศพ

 

“เราต้องลงมือโดยเร็วที่สุด , ” นักรบระดับนภากวาดมองนักรบระดับรู้แจ้งที่ยืนอยู่บนก้อนน้ำแข็ง

ในบึง ฟองเลือดก็ออกมาตลอดเวลา เมื่อฟองเลือดสีแดงแตก เกิดเป็นหมอกเลือดกระจายออกมา ลอยอยู่เหนือหนองน้ำ

” ไม่มีสหายของพวกท่านตรงนั้นใช่หรือไม่ ?” ฉื่อหยานยังลอบอยู่บนภูเขาน้ำแข็งเย็นเขามองอย่างเย็นชาและถามออกมา

” ใช่ ” นักรบอ้วนคนนั้นก็ยิ้ม และกล่าวอย่างไร้หัวใจ .” มีสองสามคนที่มาจากหุบเขาปีศาจของเรา แต่ที่ข้าทำมันก็เพื่อประโยชน์ของทุกคน เมื่อพวกเขาสูญเสียจิตใจของพวกเขา พวกเขาจะบ้าคลั่งและโจมตีทุกคน นั้นไม่ใช่เรื่องดีเลย “

ในขณะที่พูด เขาชี้ไปที่นักรบระดับรู้แจ้งสองคนที่สวมเสื้อผ้าสีน้ำเงินเข้มที่ดูคล้ายกันกับชุดของเขา

” น้องชาย อย่าได้มีความเมตตาของพวกเขาเลย ตอนนี้เจ้าสามารถช่วยพวกเขาได้ แต่เมื่อพวกเขาสูญเสียจิตใจของพวกเขาในภายหลัง เจ้าจะเป็นคนที่ได้รับความทุกข์ มันจะดีกว่าถ้าเราลงมือเด็ดขาด ตัดโอกาสไม่ให้พวกเขาได้ทำเรื่องเลวร้าย . ” นักรบระดับนภาอีกคนก็เสนอ

จ้าวเฟิง หลี่เยว่ และคนอื่นๆก็พยักหน้ารอฉื่อหยานฆ่าพี่น้องลั่วหลี่ เยว่จางเฟิง และ นักรบระดับรู้แจ้งอื่นๆ

หน้าชิเสี่ยวก็กลายเป็นเย็น

ตอนนี้ จู่ๆ เขาก็รู้สึกยินดีที่เขาไม่ได้ให้ซั่วชูและซั่วฉือลงมาที่นี้ ถ้าพวกเขาอยู่ที่นี่ พวกเขาจะต้องสถานการณ์เดียวกันกับนักรบระดับรู้แจ้งคนอื่น

ไม่อาจรู้ได้ว่าการที่นักรบเหล่านี้แสดงออกอย่างไม่แยแสเป็นตัวตนของพวกเขาหรือไม่ นักรบจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์พวกเขามักจะไม่คิดถึงคนอื่นและสนใจแต่ตัวเอง ในหัวใจของพวกเขา ตราบใดที่มีสิ่งคุกคามพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นใคา พวกเขาจะฆ่าพวกนั้นให้เร็วที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในภายหลัง

ไชอี้ดวงตาที่งดงามก็หรี่ลง นางไม่ได้พูดอะไร ด้วยสัญชาจญานนางก็ มองฉื่อหยาน , รอการตัดสินใจของเขา

” ถ้าเจ้าต้องการที่จะทำมัน เจ้าก็ทำกับคนของเจ้า สำหรับคนของเรา เราไม่ต้องให้เจ้าช่วย เรามีวิธีของเราเอง ” ฉื่อหยานขมวดคิ้ว มองลั่วหลัน หลั่วหลี่ และกลุ่มของเยว่จางเฟิง เขาลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะมองผ่านนักรบระดับนภารอบๆอย่างเย็นชา

” เจ้าช่างมีหัวใจที่เหมือนผู้หญิงนัก ” นักรบอ้วนเตี้ยถอนหายใจ และพูดอย่างดูถูก ” การกระทำของเจ้าไม่ได้ดีสำหรับพวกเขา หากเจ้าทำเช่นนั้น พวกเขาอาจจะแย่ยิ่งกว่าตาย บางทีแม้แต่ศพของพวกเขาก็คงไม่อยู่ในสภาพเดิม “

” เราจะแก้ปัญหาของเราเอง มันไม่เกี่ยวกับเจ้า ” ฉื่อหยาน ยืนอยู่บนก้อนน้ำแข็ง เขายกมือซ้ายขึ้น . เปลวไฟก็พุ่งออกมาจากปลายนิ้วของเขา ดาบไฟเจาะเข้าไปในภูเขาน้ำแข็งและแยกออกเป็นสองส่วน

สองพี่น้องลั่วหลันและลั่วหลี่ และกลุ่มของเยว่จางเฟิงก็ยืนอยู่อีกซีกของภูเขาน้ำแข็ง และนักรบคนอื่นๆก็อยุ่อีกซีกหนึ่ง

ฉื่อหยานก็โคจรพลังปราณลึกลับของเขา อีกฝากหนึ่งของภูเขาน้ำแข็งที่มี ลั่วหลัน ลั่วหลี่ และกลุ่มของเยว่จางเฟิงอยู่ และ ก็ค่อยๆเคลื่อนออกจากอีกฝากหนึ่งทีมีนักรบคนอื่นๆอยู่

” เจ้าสามารถทำอะไรก็ตามที่เจ้าต้องการกับพวกเขา แต่ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าสอดมือมายุ่งกับคนของข้า ” ฉื่อหยาน พูดอย่างเย็นชาและมองไปรอบๆ ค่อยๆเคลื่อนย้ายอีกส่วนของภูเขาน้ำแข็งไปยังมุมของบึง

” หึ ! เจ้าเป็นเพียงนักรบในนภาแรกระดับนภา แต่กลับหยิ่งพยองนัก ” นักรบอ้วนเตี้ยแสยะยิ้มและจ้องมองจ้าวเฟิง ” คนจากนิกายประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ที่มาที่นี่ต่างก็มีจุดประสงค์เดียวกัน ก็คือจิตวิญญานพระเจ้าบริสุทธิ์ . ด้วยวัตถุประสงค์นี้ การเสียสละบางคนนั้นเป็นเรื่องที่แน่นอน เจ้าคือผู้นำ แต่ไม่สามารถควบคุมมันได้ ?

” เจ้าบัดซบ ! หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว เราจะทำอย่างที่เราต้องการ อย่ายื่นจมูกของเจ้าเข้ามายุ่งเรื่องของเรา “จ้าวเฟิงพูดด้วยความเดือดดาน

แม้ความจริงแล้วจ้าวเฟิงจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของฉื่อหยาน แต่เมื่อฉื่อหยานก็ตัดสินใจ เขาก็ไม่ได้ต่อต้านและเลือกมายืนข้างเขาแทน

ในสายตาของจ้าวเฟิง ฉื่อหยานในอนาคตจะต้องเป็นบุคคลที่โดดเด่นที่สุดในนิกายเทพ นอกจากนี้ เมื่อฉื่อหยานมีระดับการบ่มเพาะเพียงนภาที่สามระดับรู้แจ้ง เขาก็สามารถที่จะฆ่านักรบนภาที่สามระดับนภาได้ ดังนั้น จ้าวเฟิงจึงเคารพเขามาก และไม่ทำเหมือนเขาเป็นนักรบธรรมดา

” ตามใจเจ้า ” นักรบยิ้มจนเห็นฟันและบินไปยังน้ำแข็งอีกส่วนหนึ่ง เขาพูดกับนักรบที่อยู่รอบๆ . ” การตัดสินใจของข้า พวกเจ้าเห็นด้วยใช่หรือไม่ ใช่ไหม ?

นักรบเหล่านั้นก็พยักหน้า

นักรบที่มีลำตัวสั้นและล่ำสันก็มองจ้าวเฟิงด้วยใบหน้าเย็นชา” ถ้าเป็นเช่นนั้น , ถ้าข้าลงมือ มันก็ไม่ใช่เรื่องของเจ้าใช่หรือไม่ ? “

” ตามใจเจ้า ” จ้าวเฟิงมองฉื่อหยาน และพยักหน้า เมื่อเห็นฉื่อหยานไม่มีปฏิกิริใดๆ

บูม บูม

 

กลุ่มก้อนแสงมากมายก็กระเด็นออกมาจากนักรบกลุ่มนั้น ลำแสงเหล่านั้นโหดเหี้ยวและรุนแรง มันพุ่งเข้าไปในกลุ่มของนักรบระดับรู้แจ้งที่ยืนอยู่บนน้ำแข็ง

เมื่อการโจมตีที่โหดเหี้ยมเหล่านั้นกระทบเข้ากับเหล่านักรบระดับรู้แจ้ง สายตาของพวกเขาก็กลายเป็นมุนงง ในขณะที่ ร่างกายของพวกเขาถูกฉีกขาดออกจากกัน และถูกทำลายจากภายใน แม้แต่วิญญานก็ถูกทำลาย

เพียงชั่วพริบตา ร่างของนักรบในระดับรู้แจ้งหกคนก็ถูกแยกออก

กลิ่นอายศพของพวกเขาอย่างรวดเร็วก็ลอยมาทาง ฉื่อหยาน

จากยี่สิบเมตร ฉื่อหยานจุดชีพจรก็กลายเป็นปั่นป่วนอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ ให้เกิดเป็นเหมือนหลุมน้ำวนดูดเข้าไปในร่างกายของเขา

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ดูดซับกลิ่นอายพลังของนักรบที่ตกตายอย่างสมบูรณ์

720 จุดชีพจรของเขาไม่มีอาการปวดใดๆ ภายในเส้นส้ายกลิ่นอายที่ดูดเข้ามาอย่างรวดเร็วก็หดลงและเปลี่ยนเป็นแรงสั่สนสะเทือนที่ส่งต่ออามรมณ์ความรู้สึกของคน

หลังจากเข้าสู่ระดับนภาจิตวิญญาณต่อสู้ลึกลับของเขาก็สามารถรองรับกลิ่นอายพลังได้มากกว่าเดิม ดูเหมือนมันเองก็ได้เข้าสู่ระดับใหม่เช่นกัน

กลิ่นอายพลังของนักรบระดับรู้แจ้งหกคน ภายในจุดชีพจรของเขานั้นไม่ได้มีมากมายนัก เมื่อจุดชีพจร เขาเปลี่ยนแปลงและกลั่นตัว จิตใจของเขาก็ยังอยู่ โดยไม่มีสัญญาณที่อาจทำให้บ้าคลั่งเลย

ความจุของมันมีระดับสูงขึ้นตามระดับการบ่มเพาะอีกทั้งความเร็วในการกลั่นยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย

บุคคลจากระยะไกลก็ตระหนักถึงเส้นสายกลิ่นอายพลัง เขามองลั่งลี่ที่ตอนนี้กำลังบ้าคลั่ง ฉื่อหยานลังเลสักพักก่อนก็ที่จะกระตุ้นพลังของเปลวเหมันเยือกแข็ง

อากาศที่หนาวเย็นก็ไหลพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา เหมือนกับงู เจาะเข้าไปในร่างของ สองพี่น้องลั่วหลัน ลั่วหลี่ หลินจือ หลินเสี่ยว หลินเมิง

ภายใต้อากาศหนาวเย็นที่แทรกเข้าไป ร่างกายของพวกเขาก็แข็ง หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็เหมือนกับรูปปั้นน้ำแข็ง

เมีพียงเยว่จางเฟิงที่ปลอดภัยภายใต้อากาศหนาวเย็นที่แทรกเข้าไป เปลวไฟแก่นแท้นรกในร่างกายของเขาปลดปล่อยเปลวไฟออกมาเพื่อลบล้างพลังความเย็นของเปลวเหมันเยือกแข็งที่เข้าไปในร่างกายของเขา

หลังจากอากาศหนาวเย็นได้ได้ทะลุร่างของเยว่จางเฟิงดวงตาของเขาก็กลายเป็นความชั่วร้ายและร่างกายของเขาก็ระเบิดกลิ่นอายที่ชั่วร้ายออกมา

หมอกเลือดสีแดงก็ยังวนเวียนอยู่รอบๆโดยไม่ต้องกระจายไปไหน พวกมันก็ล้อมท่านจางฟางราวกับว่าพวกมันมีชีวิต

ตึกตัก ! ตึกตัก !

การสั่นสะเทือนยังคงดังก้องจากหนองน้ำ เยว่จางเฟิงค่อยๆสูญเสียจิตใจของเขา ท่ามกลางหมอกสีแดงเลือดเขาก็หอนออกมา ความชั่วร้ายบางอย่างได้กัดกินหัวใจของเขา ทำให้เขาไม่สามารถที่จะควบคุมจิตใจของเขาได้

ในขณะเดียวกัน แสงสั่นสะเทือนก็กระจายมาจากบึง ในศูนย์ของแรงสั่นสะเทือน ต้นไม้ยักษ์ค่อยๆตาย และลอยมาจากก้นบึง ราวกับมีนถุกควบควมด้วยแรงยางอย่างให้ติดอยู่ในหนองน้ำ

ต้นไม้ยักษ์นี้ไม่มีใบ , และไม่รู้แห้งเหี่ยวมาเป็นเวลาเท่าใดแล้ว แต่มันเหลือเชื่อมากที่ปรากฏขึ้นมาในป่า ต้นไม้ขนาดยักษ์นี้ถูกปกคลุมด้วยด้วยแมลงสีเขียวเข้มขนาดเท่าหัวแม่มือ ซึ่งดูเหมือนพวกมันจะกินซากสัตว์อสูรที่ตายแล้ว พวกเขาทั้งหมดมีเปลืองที่เหมือนคริสตัลหนา

แมลงสีเขียวเข้มนับไม่ถ้วนค่อยๆ คลานบนต้นไม้ยักษ์ มากขึ้นและแมลงอก็อกมาจากภายในต้นไม้แล้วกระจายไปทั่วบคง

แมลงอสูรกินซากศพ ! ” เป็นจ้าวเฟิงที่สีหน้าเปลี่ยนไปตะโกนออกมา

ทันทีที่นักรบคนอื่นๆในป่าได้ยินเสียงตะโกนของเขา ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก ราวกับว่าพวกเขากำลังพบกับโรคระบาด พวกเขาทันทีก็ใช้สมบัติลับและวิชาป้องกันออกมา ปกป้องร่างกายของพวกเขาอย่างระมัดระวัง พวกเขาหวาดกลังที่จะถูกต้องแมลงเหล่านั้น

แมลงเหล่านี้ก่อนคลานออกมาบนต้นไม้ยักษ์อย่างรวดเร็วและครอบคลุมทั้งต้นในเพียงเวลาสั้น ๆ , เกิดเป็นเสียงหึง หึง แมลงเปลือกแข็งหลายร้อยก็คืบคลานออกมาจากเปลือกของพวกมีน พวกเขาบินจากต้นไม้และปกคลุมเหนือหนองน้ำ

” ฉื่อหยาน , ระวัง แมลงอสูรนี้กินสมองของมนุษย์ มันอันตรายเป็นอย่างมาก ! เมื่อมันเข้าสู่สมองของเจ้า มันกินแม้แต่ของเหลวจากไขสันหลัง และแม้แต่ศพของเจ้าก็จะถูกกิน . ” ใบหน้าของไชอี้ก็เย็นชา ในขณะที่ดวงตาคู่สวยของนาง ส่องประกายด้วยความกลัว นางค่อยๆเข้ามาใกล้ ฉื่อหยาน

ต้นไม้โบราณค่อยๆขึ้นมาจากหนองน้ำ เมื่อต้นไม้ยักษ์ปกคลุมบึงทั้งรากของมันก็ยืดออกมาข้างๆ ภายในเรื่องแสงสีขุ่น , และบัลลังก์ดอกบัวคริสตัลก็ค่อยๆโผล่ออกมา .

ไม่มีใครยืนอยู่บนบัลลังก์ดอกบัวคริสตัลนี้ แต่มันกลับระเบิดกลิ่นอายที่ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนออกมา

 

กลิ่นอายธรรมชาติก็กระจายออกจากบัลลังก์ดอกบัวคริสตัลทำให้ใบหน้าของนักรบในป่าเปลี่ยนไป หลังจากสูดลมหายใจนำกลิ่นอายธรรมชาตินี้เข้าไป พวกเขาก็รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข

เมื่อกลิ่นอายธรรมชาติที่หนาแนนไหลออกมา หมอกเลือดสีแเงที่โฉบอยู่รอบๆ พลันก็พุ่งไปรวมตรงบัลลังก์ดอกบัวคริสตัล ในระหว่างที่มันกำลังลอยไป บัลลังก์ดอกบัวคริสตัลก็ส่องแสงสีขาวออกมาและหายไป วัตถุที่เป็นรูปหัวใจก็โผล่ออกมาจากศูนย์กลาง ปล่อยของเหลวสีนวลที่ทำให้วิญญานของผู้คนสั่นสะเทือนออกมา

ของเหลวที่ไหลทะลักออกมาและเกิดเป็นเสียงที่หนักแน่น กระแสพลังหลายสายก็พุ่งออกมาจากมัน ซึ่งดูราวกับว่าทำให้ผู้คนวิญญานหลุดออกจากร่างได้

” วารีชีวิตแรกเริ่ม ! ” จ้าวเฟิงทันทีดวงต่ก็กลายเป็นสีแดง เขาถอนหายใจ และแสดงความโลภออกมา .

__________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 29 แล้ว มีถึงตอนที่ 1348 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset