เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 430 ฉีกหน้ากาก

บทที่ 430 ฉีกหน้ากาก

 

“เจ้าเด็กน้อยเจ้าไม่รู้อะไร! ” คนๆนี้ไม่ได้จ้องมาอย่างขัดใจ เขาจ้องฉื่อหยาน และกล่าวว่า ” การที่เจ้าได้เห็นหญิงพรมจาศักดิ์สิทธิ์ของเรานั้นนับว่าเป็นโชคดีที่สุดแล้ว หึ เด็กน้อย แล้วทำไมเจ้าถึงมาที่เกาะเมฆหมึกดำของเรากัน ? “

” ไม่มีอะไร ” ฉื่อหยานขมวดคิ้วแล้วตอบ

ด้วยการบ่มเพาะระดับนภา ตราบใดที่ฉื่อหยาน ปกปิดตัวเอง ก็ไม่มีใครรู้ถึงระดับการบ่มเพาะที่แท้จริงของเขาได้ ตัวอย่าง ตอนนี้ เขากำลังปิดซ่อนความแข็งแกร่งของเขาไว้จากนักรบอื่น ๆ พวกเขาไม่สามารถ เห็นการบ่มเพาะที่แท้จริงของเขาได้ ตอนนี้พวกเขาเห็นฉื่อหยานเป็นนักรบระดับมนุษย์และนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะเหยียดหยาว

” ข้าหญิงพรมจาศักดิ์สิทธิ์อยู่นี่ ! หลิวเทา , ระวัง อย้าให้หญิงพรมจาศักดิ์สิทธิ์เช่นข้ารู้ว่าเจ้าขี้เกียจเชียว”

จู่ๆก็มีเสียงตะโกนเสียงดังขึ้นมาจากระยะไกล นักรบร่างหนา , สีหน้าโหดเหี้ยมก็จ้องมาที่นักรบที่คุยกับ ฉื่อหยาน หลิวเทารำพึงและปิดปากเขาทันที เขาตัวสั่นด้วยความกลัวเล็กน้อย มองห่างออกไป

ฉื่อหยานมองทิศทางไปยังทิศทางที่มีภูเขาเล็กๆ ไม่ไกลจากเขา ที่ด้านล่างของภูเขา มีแถวของกระเบื้องสีแดงมุงหลังคาบ้าน โดดเด่น มีคนค่อยๆเดินออกมาจากบ้านสามชั้น .

นั่นคือซูหยานซิง

ชุดสีเงิน สะอาด เรียบร้อย ทำให้ร่างกายของนางดูงดงามมากขึ้น ใบหน้าธรรมดา ดวงตาส่องประกายสดใสชัดเจน สัมพัสได้ถึงความสูงศักดิ์ที่ไม่มีใครกล้าดูถูกเหยียดหยาม

ในดินแดนทะเลสาบเทวาศักดิ์สิทธิ์ซูหยานซิงตำแหน่งที่สูงส่ง สำหรับนักรบทั่วไปของสวรรค์ดินแดนทะเลสาบเทวาศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาทำได้เพียงจ้องมองนางจากระยะไกลเท่านั้น ไม่มีใครกล้าแสดงออกถึงความรู้สึกที่มีต่อนาง ได้แต่เก็บไว้ในจิตใจของพวกเขา

บนถนนหลายแห่ง นักรบจากดินแดนทะเลสาบเทวาศักดิ์สิทธิ์ก็จ้องนางที่สง่าผ่าเผยเมื่อนางเดินผ่านพวกเขา ไปคนเหล่านั้นทันทีก็จะจ้องไปที่บั้นท้ายของนาง

ซูหยานซิงเดินตรงมา ในขณะที่ดวงตาที่สวยงามของนางส่องประกาย นางมุ่งหน้ามาตรงฉ่ือหยาน ” . คนแปลกหน้ามาที่เกาะรุ ?” นางมองฉื่อหยาน แต่คำถามแน่นอนว่าถามหลิวเทา

หลิวเทางอตัวเล็กน้อยด้วยความเคารพ . “เขาบอกว่าเขามาจาก ทะเลตูต้าและพึ่งมาจากทะเลเหิงลั่ว เขาบอกว่าเขามาที่ทะเลทมิฬเพื่อหาทรัพยาบ่มเพาะบางอย่าง เขาระมัดระวังระหว่างการเดิรทาง จึงไม่ได้เผชิญหน้ากับเหล่าคนเผ่า”

ซูหยานซิงดวงตาก็จ้องฉืิ่อหยานตั้งแต่หัวจระเท้า แล้วกล่าวว่า ” ตามข้ามา ข้ามีบางอย่างจะถามเจ้า” น้ำเสียงของนางฟังดูเหมือนเชิงบังคับ

ฉื่อหยานกระแอมเสียงเย็นชาเยาะเย้ยจากในใจในขณะที่ยังคงรักษาความบนสงบหน้าและกล่าวว่า ” ตกลง “

” เจ้าบ้าทำตัวดีๆหละ เจ้าต้องตอบทุกคำถามเมื่อท่านหญิงพรมจาศักดิ์สิทธิ์ของเราถาม ขอให้เจ้าเชื่อฟัง ถ้าเจ้าไม่เชื่อฟัง ข้าจะทำให้เจ้ารู้ซึ้งถึงความเจ็บปวด.

ฉื่อหยานยักไหล่ แต่เขาก็ยังใจเย็น

” ตามข้ามา ” ซูหยานซิงแน่นอนว่ามาที่นี่ก็เพราะเข่ นางชำเลืองมองเขาด้วยท่าทีเย็นชาและหยิ่งยโส เห็นได้ชัดว่านางมองเขาเป็นนักรบทั่วไป

ฉื่อหยานก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แค่ตามนางไปอย่างเงียบๆ

ระหว่างทาง เขาตระหนักได้ว่า นักรบแห่งดินแดนทะเลสาบเทวาศักดิ์สิทธิ์กำลังจ้องมองด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น เขามองตามหลังซูหยานซิง อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาอยู่ด้านหน้าของนาง พวกเขาทั้งหมดกลับแสดงออกอย่างหวาดกลัว

เขาแอบหัวเราะในใจ ฉื่อหยานตระหนักได้ทันทีว่าซูหยานซิงนั้นเป็นอาหารตาของเหล่านักรบเหล่านี้ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าแม้แต่ตะสัมพัสนาง พวกเขาทำได้เพียงจ้องมองทั้งชีวิต

อยู่ๆเขาก็นึกถึงสถานที่ที่เขาได้เปลื้องผ้าร่างกานส่วนล่างของหญิงสาวคนนี้ และฉีกประชากหน้านางออก ดังนั้น เมื่อเห็นบรรดานักรบของดินแดนทะเลสาบเทวาศักดิ์สิทธิ์ เขาก็รู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย

ข้าได้สัมพัสท่านหญิงพรมจาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้าไปเรียบร้อยแล้ว

ฉื่อหยานหัวเราะและพูดกับตัวเอง

มาถึงบ้านที่หลังคามุงด้วยกระเบื้องสีแดงซูหยานซิงก็เข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมซึ่งมีขนาดห้าสิบเมตรสามารถนั่งได้หลายคน

ซูหยานซิงนั่งลงบนเก้าอี้หลักและโบกมือของนาง เพื่อบอก ฉื่อหยาน นั่งลงด้านซ้ายของนาง

ฉื่อหยาน ค่อยๆนั่งลงและมองหน้า และได้รู้ว่า ที่ประตูมีนักรบสองคนยืนอยู่ไกลออกไป พวกเขาไม่อาจเห็นเหตุการณ์หรือได้ยินอะไรจากที่นี่

” เจ้าบอกว่าเจ้ามาจาก ทะเลตูต้า ดังนั้นเจ้าต้องรู้สถานการณ์ที่นั้น ตราบใดที่มันเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ข้าจะให้รางวัลเจ้าอย่างงาม ” เสียงของซูหยานซิงชัดเจน แต่แววตาของนางกลับเย็นชาเย่อหยิ่ง ในขณะที่พูด นางค่อยๆ ดึงบางอย่างออกมาวางไว้บนโต๊ะ พวกมันเป็นหินจิตวิญญานระดับสูงสามก้อน นิ้วของนางเคาะเบาๆบนมันและถามอย่างเรียบเฉย

” ไม่รู้สิ ” ฉื่อหยานส่ายหน้า

 

” อะไร ? ” ซูหยานซิงขมวดคิ้ว และเผยใบหน้าที่ไม่มีความสุข ” สำหรับนักรบที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำ เช่นเจ้า หินจิตวิญญานระดับสูงทั้งสามนับได้ว่าไม่ใช่ของที่จะได้มาง่ายๆ เจ้าเองนี้ก็เป็นรางวัลที่ไม่น้อย ! ไม่เป็นไร ข้าขอดูหน่อยสิว่าข้อมูลของเจ้าจะสำคัญเท่าใด . ถ้ามันมันดี ข้าจะให้มันเพิ่ม เจ้าคิดอย่างไร ?

” ข้าไม่ได้ต้องกานหินจิตวิญญานของเจ้า ” ฉื่อหยานส่ายหัวแล้วพูดว่า ” ข้าเพียงต้องการที่จะรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ที่นี่ เจ้าเป็นนายหญิงแห่งดินแดนทะเลสาบเทวาศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเจ้าควรจะทราบสถานการณ์ดี เจ้าจะบอกข้าได้หรือไม่ ?”

รอยยิ้มของซูหยารซิงก็ชะงัก ตาของนางมองเขาอย่างแปลกประหลาด

เมื่อ นักรบ ปกติเห็นนาง พวกเขาทั้งหมดจะหวั่นและเกรงกลัว รด้วยฐานะและระดับการบ่มเพาะของนาง นักรบเหล่านั้นไม่สามารถทำให้อะไรด้นอกจากถ่อมตน แต่คนๆ นี้พูดอย่างใจเย็นและกล้าที่จะตั้งคำถามกับนาง

นี้ ทำให้ ซูหยารซิงสะดุ้งเล็กน้อย นางรู้สึกว่าคนที่อยู่ตรงหน้านางมีบางอย่างแปลกๆ

” เจ้าเองก็รู้สถานการณ์ของ ทะเลตูต้าทั้งหมดใช่ไหม ?” ซูหยานซิงลังเลและถามในขณะที่ใบหน้าของนางมืดมน” เจ้าควรตอบคำถามที่ข้าถามเจ้า ข้าไม่ชอบคนที่ต่อรองกับข้า “

หลังจากหยุดช่วงเวลาสั้น ๆ ซูหยานซิงก็พูดเยาะเย้ย ” เจ้าคิดว่าเจ้ามีเจ้าคุณสมบัติเพียงพอที่จะต่อรองกับข้า รึ? “

ฉื่อหยานยิ้มและการยืนยันด้วยการพยักหน้า ” ใช่ ” .

” อะไรนะ ! ? ” ซูหยานซิงขมวดคิ้วของนางและถามอย่างหงุดหงิด ” เจ้าช่างสามหาวนัก ! “

” ข้าเคยสัมผัสเจ้าแล้ว “

” เจ้าอยากตายรึ ? ” ซูหยานซิงพลันลุกขึ้นยืน ใบหน้าของนางและดวงตาก็เย็นชา ดูเหมือนนางกำลังจะโจมตีชายตรงหน้านาง

ทันทีที่นางยกมือของนางขึ้นนางก็ตระหนักว่าฉื่อหยานได้หายไป

ในเวลาต่อมา ลมหายใจที่หยาบคายของใครบางคนก็กระทบที่ท้ายทอยของนาง นางตะลึงจนพูดไม่ออก และก่อนที่นางจะได้มีเวลาตอบสนอง , หน้ากากบางๆของนางก็ถูกฉีกออก

” ข้าชอบใบหน้าเบื้องหลังหน้ากากมากกว่า ” ฉื่อหยานยิ้มและโผงผางแตะหน้าอกของนางและกล่าวว่า ” พวกเมันเองก็ยืดหยุ่นมากเหมือนเช่นเมื่อก่อน ร่างกายของเจ้ายังทรงเสน่ห์ ไม่มีเวลาไหนเลยที่ข้าไม่คิดถึงเจ้า . “

หน้าของซูหยารซิงก็เปลี่ยนไปร่างสง่างามก็สั่นสะท้าน และเสียงของนางดูเหมือนจะหายไป . ” เจ้า เสียงของเจ้า . . . ? “

เขาได้ใช้เสียงเดิมของเขา เมื่อเขาพูดคำเหล่านั้น

ฉื่อหยานหัวเราะและพูดว่า , ” สาวน้อย เจ้ายังจำเสียงของข้าได้แม้ว่าเราจากกันนานแล้วงั้นรึ ! ไม่เลว ไม่เลวเลย ดูเหมือนว่าเจ้าเองก็มีความรู้สึกกับข้าบางอย่าง ข้ารู้สึกยินดีนัก . “

” ข้าจะไม่มีวันลืมเสียงชั่วร้ายของเจ้าได้หลอก”

ซูหยานซิงนางนางกัดฟันแน่น แล้วหันกลับมาอย่างเย็นชา นางไม่รู้ว่านางกลัวหรือตื่นเต้นเมื่อนางจ้องเขาอย่างโหดร้าย และกล่าวว่า ” เจ้ากล้ากลับมาที่นี่รึ ?

ฉื่อหยานยิ้มด้วยความประหลาดใจ มอง และถามว่า ” เหตุใดข้าจึงกลับมาไม่ได้กัน ? “

หลังจากถามอย่างรวดเร็ว เขาก็จ้องมอง ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนงดงามของนางและเสริมด้วยรอยยิ้ม” เห็นได้ชัดว่าเจ้าเองก็ชอบใบหน้าของตัวเอง ดังนั้นทำไมเจ้าต้องปกปิดมันด้วย มันน่ารำคาญจริงๆ ข้าเป็นคนที่ชื่นชอบบุปผา ทุกครั้งที่ข้าเห็นเจ้า ข้ารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากแสงแดด และพลังของกลิ่นอายธรรมชาติ ” .

” สารเลว !

” ใช่ ข้าเป็นคนสารเลว ! ” ฉื่อหยาน ยอมรับมัน และพยักหน้าตลอดเวลา เขายื่นมือของเขาออกและโผงผาง ” ลูบใบหน้าของนาง” แต่ มีคนแย่กว่าข้า หลังจากสัญญากับข้าบางอย่าง พวกเขาทันทีกลับหันหลังให้ข้าและยังส่งคนมาฆ่าข้า งั้นเจ้าบอกข้าสิ . . . . . . . เจ้าหรือข้า ใครกันแน่ที่เป็นคนสารเลว? และเจ้า . . . . . . . ถ้าไม่ใช่เพราะข้าช่วยชีวิตเจ้าไว้ เจ้าจะยังรอดชีวิตกลับมาจากหุบเหวสนามรบรึ ? เจ้าจะมีชีวิตอยู่จนถึงตอนี้รึ ?

กลิ่นอายของซูหยารซิงก็อ่อนลง

” ข้าจำได้ว่าสถานที่รกร้างแห่งนั้น เจ้าเป็นทาสที่ข้าจะซื้อมา ข้ายุ่งๆอยู่ ในตอนนั้นแล้ว ข้าไม่ได้ชอบเจ้า ตอนนั้นข้าก็เลยไม่ได้ทำอะไรนัก แต่ เราจะทำมันในตอนนี้” ฉื่อหยาน ยิ้มชั่วร้าย และพูดด้วยน้ำเสียงโหดร้าย

” เจ้า ! ” ซูหยานซิงโกรธและเสียใจที่นางไม่สามารถกินเขาได้

” อะไรรึ ? ” ฉื่อหยานแสยะยิ้ม อย่างเย็นชา

” ข้ายอมรับว่าสิ่งที่ข้าทำมันไม่สมควร ” ซูหยานซิงพลันถอนหายใจ หลีกเลี่ยงการยั่วยุ และนั่งลงด้วยสีหน้าเศร้าหมอง ” แต่ข้าไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ข้าไม่ได้เข้าร่วมใดๆ เมื่อเหล่าคนของข้าถูกส่งมาเพื่อฆ่าเจ้า เนื่องจากเจ้าได้จาดไปแล้ว เจ้าไม่ควรจะกลับมา เมื่อเจ้ากลับมา , สถานการณ์ก็จะเป็นเช่นเดิม ผู้ที่ต่อต้านเจ้าจะทำแบบเดียวกันกับเจ้าอีกครั้ง “

 

”พวกเขาไม่ได้ถูกบุกลุกโดยเผ่าอสูรและเผ่าทมิฬหลอกรึ ”? ฉื่อหยานยังคงมีใบหน้ายิ้มที่เย็นชา” ทะเลไม่มีสิ้นสุดดูเหมือนจะถุกบดขยี้ได้ตลอดเวลา แต่พวกเจ้ายังมีปัญหาความขัดแย้งภายในกันอยู่อีก เมื่อข้าได้กลับมาครั้งนี้ ข้าได้เห็นเผ่าอสูรและเผ่าทมิฬอยู่ที่นี่ทั่วไปหมด และปกครองครอบครองทะเลไม่มีที่สิ้นสุด นั่นเป็นสิ่งที่ดีแล้วงั้นรึ ? คนเหล่านี้สงสัยอยากตายกันจริงๆ แทนที่จะช่วยกันประหยัดทรัพยากรบ่มเพาะในทะเลไม่มีสิ้นสุดแต่กลับมาขัดแย้งกันภายใน แทนมราพวกเขาควรจะเก็บทรัพยากรเหล่านั้นไว้รับมือกับพวกคนเผ่า”

” เจ้าไม่ควรกลับมา . ” ซูหยานซิงพูดด้วยใบหน้าที่สับสน ” มันไม่มีที่ให้เจ้าในทะเลไม่มีที่สิ้นสุด เจ้าสามารถอยู่ได้อย่างสบายในดินแดนอื่น ดังนั้นทำไมเจ้าถึงกลับมาที่นี่อีก ? ”

” โอ้ ดูเหมือนเจ้าจะเป็นห่วงข้ามากนะ ” ฉื่อหยาน ก็แปลกใจ ” สาวน้อย หัวใจของเจ้าตกหลุมรักข้าแล้วงั้นรึ ? ข้ารู้ว่าเสน่ห์ของข้ามิอาจต่อต้านได้ และเจ้ากับข้าก็เคยมีสัมพัสธ์ทางเพศบางอย่างต่อกัน . หญิงสาวนี่นช่างมีจิตใจที่ลึกลับนัก มักจะหล่าววาาพวกนางเมื่อมีความรู้สึกพิเศษกับผู้ใด นางจะไม่สนใจพวกเขาหรือไม่ก็ดูหมิ่นพวกเขาซึ่งหน้า มิใช่ว่าเจ้ากำลังทำเช่นนั้นอยู่รึ ? “

” ข้าไม่สนว่าเจ้าจะมีชีวิตอยู่หรือตาย . ” หน้าของซูหยานซิงเปลี่ยนเรื่องทันที ร่างกายของนางสั่นสะท้าน นางเสียใจที่นางไม่สามารถบีบคอฉื่อหยานให้ตายได้

ฉื่อหยานยังคงท่าทีเย็นชาของเขา และมองนางด้วยสายตาที่มีความหมาย ดูเหมือนเขารู้อะไรบางอย่าง

_________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 29 แล้ว มีถึงตอนที่ 1364 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset