เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 450 แผนการที่บ้าคลั่ง

บทที่ 450 แผนการที่บ้าคลั่ง

 

ฉื่อหยาน ก็ยัง งง . เค้ามองลิช่า คำนับให้เกียรตินางและกล่าวว่า ” จักพรรดินีลิซ่า ที่ท่านทำนั้นมันมากเกินไป ในนามของตระกูลหยาง ข้าขอบคุณท่านมาก “

มีหลายเผ่าในเผ่าทะเล อย่างไรก็ตาม มังกรสมุทะดำ เผ่าฉลามเงิน เผ่าเงือก และเผ่าแมงป่องน้ำเป็นสี่เผ่าที่ทรงอำนาจที่สุด ด้วยจำนวนนักรบที่แข็งแกร่งมากมายในเผ่า

เผ่าเงือกนั้นมีอำนาจน้อยกว่าเผ่าฉลามเงินและเผ่ามังกรสมุทร นอกจากนี้ ลิซ่า ระดับการบ่มเพาะของนางเองก็ไม่แข็งแกร่งเท่ากับ หยินหุ้ยและนู่หลาง อย่างไรก็ตาม เมื่อตระกูลหยางตกอยู่ในอันตราย นางได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือตระกูลหยาง . เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้ไม่ต้องการช่วยเหลือตระกูลหยาง

นางไม่ได้โยนก้อนหินทับทมพวกเขาเมื่อพวกเขาล้มลง และได้เตรียมที่จะช่วยพวกเขาในช่วงเวลาที่สำคัญ ถ้าลิซ่าพูดจริง ตระกูลหยางจะต้องขอบคุณนางเป็นอย่างมาก

” เหตุผลที่ข้าอยู่ที่นี่ก็เพื่ออธิบานทุกอย่าง ความเป็นจริง ชนเผ่าทะเลนั้นไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เจ้าคิด “

ลิซ่าลังเล ก่อนที่นางจะมองมา แล้วกล่าวว่า ” เมื่อข้าเสนอไปว่าให้ไว้ชีวิตคนจากตระกูลหยาง นู่หลาง และหยินหุ้ยก็ตกลงทันที แม้แต่เปาเค่อ ที่เคยถูกจักพรรดิหยางเทียนทำร้ายก่อนหน้านี้ก็ยังลังเลสักพัก แต่แล้วเขาก็ตกลง ไม่มีใครต้องการที่จะล้มล้างตระกูลหยางเลยสักนิด “

” อะไรนะ ? ” ฉื่อหยานก็ตกใจ ” ไม่ใช่ว่า สี่ผู้นำของชนเผ่าทะเลได้ประชุมเพื่อจัดการกับตระกูลหยางของเราหลอกรึ ? “

” จริงๆแล้วข้าไม่ได้ต้องการปิดบังพวกเจ้า ” ลิซ่าพยักหน้า ” แต่เรีื่องนี้เราได้เจรจากันแล้ว “

ฉื่อหยานหัวเราะแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

” เราคุยกันว่าถ้าตระกูลหยางสามารถมอบผลประโยชน์ให้กับเผ่าทะเลต่อไปได้ ข้าคิดว่าผู้นำคนอื่นๆก็คงคิดเห็นเช่นเดียวกัน ” ลิซ่า บีมฝืนยิ้ม” แต่จักพรรดิหยางเทียนถูกกักขังอยู่ในดินแดนอสูรและสูญเสียอำนาจในทะเลเคียร่าไป ผ่านมาสี่ปีแล้วตั้งแต่พวกเจ้าได้หยุดขนส่งทรัพยากรมาให้พวกเรา นี้ทำให้สมาชิกหลายคนของเผ่าทะเลที่เห็นด้วยกับตระกูลหยางรู้สึกอึดอัด “

หยางจั่วถอนหายใจ ” เราไม่มีทางเลือก “

” ข้ารู้ ” ลิซ่ายิ้ม” มันคงจะดีถ้าเราไม่คาดหวังกับมันมาก เป็นเช่นนี้มาหลายปีแล้ว เมื่อเผ่าทะเลของเราต้องการทรัพยากรจากด้านบน ตระกูลหยางก็จะแลกเปลี่ยนกับเรา แล้วเราก็เริ่มเสียนิสัย เมื่อพวกท่านได้หยุดแลกเปลี่ยนทรัพยากร หลายคนที่ไม่มีทรัพยากรก็หุนหันไปคิดแค้นกับพวกท่าน ตอนนั้นเมื่อหมิงไห่ และฟู่ฮาว ลุกขึ้นและยืนยันว่าพวกเขาสามารถแทนที่ตระกูลหยางและสามารถหาทรัพยากรมาให้เราได้ เจ้าคิดว่าพวกเราจะทำยังไง ? ”

” หมิงไห่กับฟู่ฮาวรึ ? ”

หยางจั่วก็ยิ้มเย็นชาเหยียดหยันและกล่าวว่า ” พวกมันสองตัวหนะรึ ? “

” แน่นอน พวกเขาไม่มีทางทำได้แน่ ” ลิซ่าพูดต่อว่า ” แต่พวกเขาได้ติดต่อกับตระกูลฉาวและพระราชวังจิตวิญญานต่อสู้”

ในที่สุด หยางจั่วสีหน้าก็เปลี่ยนไป ” . เป็นไปได้ยังไง ! “

” ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ” ลิซ่าโก่งคิ้วของนางแล้วยิ้ม ” ตระกูลหยางได้รับทรัพยามากมายจากเมืองใต้บาดาล เจ้าคิดว่าตระกูลฉาวและพระราชวังจิตวิญญานต่อสู้จะไม่อิจฉาพวกเจ้าหลอกรึ ถ้าตระกูลหยางทำได้ ตระกูลฉาวและพระราชวังจิตวิญญานต่อสู้ก็ทำได้เหมือนกัน หมิงไห่และฟู่ฮาวต่างก็ติดต่อกับกองกำลังทั้งสอง ด้วยสถานการณ์นี้ พวกเราควรจะทำเช่นไร ?

ฉื่อหยานขมวดคิ้วแล้วถอนหายใจ ” ข้าทำได้ “

หยางจั่วก็พยักหน้า ” ถ้าเป็นงั้น ข้าคิดว่า ตระกูลฉาวและพระราชวังจิตวิญญานต่อสู้จะไม่หยุดแค่นี้แน่นอน “

” นั่นคือความจริง ” ลิซ่ายิ้ม” แม้ว่าตระกูลฉาวและพระราชวังจิตวิญญานต่อสู้ไม่สามารถทำได้ในตอนนี้ และไม่สามารถส่งนักรบที่แข็งแกร่งมาเมืองใต้บาดาล เมื่อพวกเขาได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมืองใต้บาดาล พวกเขาก็ได้มุ่งความสนใจไปที่หมิงไห่ ฟู่ฮาว พวกเขานั้นบอกพวกตระกูลเหล่านั้นว่าพวกเขาสามารถเกลี้ยกล่อมเผ่าทะเลได้ และสามารถยื่นขอให้เสนอให้เป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่ายได้ “

แม้ว่าผู้คนจากตระกูลหยางจะไม่อยากจะยอมรับมัน เขาก็ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ที่ลิซ่าต้องเจอ

” ไม่สงสัยเลยว่าทำไม ฟู่ฮาว และ หยางเฟิง พวกมันถึงได้กล้านัก หึ . . . . . . . ปรากฏว่ามีตระกูลฉาวและจิตวิญญานพระราชวังต่อสู้หนุนหลังพวกเขาอยู่นี่เอง ” หยางจั๋ว ขบฟันของเขายิ้มอย่างเย็นชา ” ตอนนี้ ทะเลไม่มีสิ้นสุดวุ่นวายเป็นอย่างมาก แต่ตระกูลฉาวและพระราชวังจิตวิญญานต่อสู้ยังมีแผนการที่ละโมภเช่นนี้อีก พวกเขากล้ามาแหย่จมูกของพวกเราในเมืองใต้บาดาล พวกเขาช่างทะเยอทะยานนัก”

 

“ทุกคนต่างมีความทะเยอทะยาน ” ลิซ่าพยักหน้า ” นี่คือสถานการณ์ที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม พวกเราทั้งสี่เผ่าได้นึกถึงบุญคุณของตระกูลหยาง ดังนั้น เราจึงตกลงกันว่าเพื่อความปลอดภัยของตระกูลหยาง และให้พวกเจ้าจากไป หลินหุ้ย เปาเค่อ และข้า มานี่ก็เพิ่อสังเกตกลุ่มของพวกหมิงไห่ไม่ให้ทำอะไรเกินไป”

” เอาหละ ข้าเข้าใจพวกท่านแล้ว ” ฉื่อหยานขมวดคิ้วของเขา” ถ้าข้าเป็นท่าน ข้าจะทำแบบเดียวกัน นั่นก็เพื่ออนาคตของเผ่า ให้ไปเป็นพันธมิตรกลับคนที่ไร้ประโยชน์ใครกันหละจะกล้า นี่มันถือเป็นเรื่องปกติ เพียงแค่ท่านนึกถึงตระกูลหยางและคิดว่าจะช่วยพวกเราหลบหนี นั่นก็ถือว่าทำเพื่อมิตรภาพแล้ว”

” พวกเรานั้นไม่เหมือนพวกมนุษย์” ลิซ่าหัวเราะออกมา

กลุ่มของตระกูลหยางที่อยู่บนอาคารก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย

” ข้าเพียงพูดตรงๆ อย่าได้โกรธข้าเลย ” ลิซ่ายิ้ม” ตระกูลหยางนั้นทำสิ่งดีๆเพื่อเผ่าทะเลของเรามากมาย ถ้าตระกูลหยางไม่ถูกมนุษย์ด้วยกันช่วยเหลือ เผ่าอสูรให้บุกมา , ข้าคิดว่าในทะเลไม่มีสิ้นสุดคงจะสงบสุขไปอีกนาน อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเห็นตระกูลหยางกำลังจะพ่ายแพ้ กลับไม่มีใครยื่นมือมาช่วย ในทะเลกว้างใหญ่ พวกเจ้าได้ใช้วิธีโหดร้ายยึดอำนาจทะเลเคียร่าและทะเลอื่นๆ นั่นจึงทำให้คนเหล่านั้นไม่เพียงแต่ให้พวกเจ้าหนีไป แต่พวกเขายังต้องการที่จะทำลายตระกูลของพวกเจ้าทั้งหมด ใช่หรือไม่ ? “

ฉื่อหยาน หยางจั่วและคนอื่น ๆสีหน้าก็มืดมน

” แม้ว่าเรา เผ่าทะเลจะเห็นแก่ตัวและทุกครั้งจะทำอะไรเราก็คิดถึงมันก่อนเสมอ เรารู้ว่าควรรักษามิตรภาพและทดแทนบุญคุณเช่นไร ” ลิซ่าหัวเราะ ” สิ่งที่ข้าเพิ่งบอกเจ้าไป ว่าเผ่าทะเลของเรานั้นดีกว่ามนุษย์ ก็คือในเรื่องการทดแทนบุญคุณ ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธ์ไหนเราก็ไม่โหดร้าย ที่จะทำสิ่งสิ่งอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น”

” เฮ้อ . . “

หยางจั่วก็ถอนหายใจและพยักหน้า

มนุษย์นั้นมีชื่อเสียงในด้านความเห็นแก่ตัวและใจดำ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงนี้ได้

นั่นคือเหตุผลที่เมื่อเผ่าพันอื่นทำธุรกิจกับมนุษย์ และเจอใครที่มีทัศนคติที่เสมอภาคกัน พวกเขาก็จะคิดว่ามนุษย์เหล่านั้นเป็นคนดี มนุษย์นั้นฉลาดแต่พวกเขากลับคดโกงกันเป็นส่วนใหญ่ และสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

” ข้าพูดนี้เพื่อหวังว่าจะให้เจ้าเข้าใต ถึงแม้ว่าสิ่งที่เราเผ่าทะเลทำครั้งนี้จะผิด แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายเกินไป” ลิซ่าได้รำพึงสักพักก่อนที่จะพูดอีก ” เรื่องนี้ได้ถูกแก้ไขในวันนี้แล้ว ข้าหวังว่า ตระกูลหยางจะไม่มีความแค้นกับเผ่าทะเลอีก อีกอย่าง มันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับเราทั้งสองฝ่าย ถ้าเราสามารถรักษาความสัมพันธ์เดิมไว้ได้ เราก็จะได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่ายและเราจะยืนเคียงข้างตระกูลหยาง . แต่ถ้าเจ้ามีความแค้น และหาประโยชน์จากเผ่าทะเลของเรา … ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นใช่หรือไม่ “

” นี่มันเร็วเกินไปที่จะพูดถึง” ฉื่อหยานคิดและยิ้ม ” ประมุข นู่หลางของเผ่ามังกรสมุทรดำ นั้นไม่ได้มาที่นี่ เขาเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าทะเล ถ้าเขายอมรับให้เราตระกูลหยางปกครองเมืองใต้บาดาล เราก็ไม่อาจอยู่ในเมืองใต้บาดาลได้อย่างสงบสุบ ถ้ามันเกิดขึ้นอย่างนั้น ตระกูลหยางจะจากเมืองใต้บาดาลไป ตอนนั้นบางทีท่านอาจจะได้ร่วมมือกับตระกูลฉาวและพระราชวังจิตวิญญานต่อสู้ ฮ่าๆๆ อย่างไรก็ตาม ข้าขอเตือนท่านเรื่องหนึ้ง ปัจจุบันตระกูลฉาวและพระราชวังจิตวิญญานต่อสู้ยังไม่สามารถแม้แต่จะปกป้องตัวเองได้ เราไม่รู้ว่าในอนาคตพวกเขาจะสามารถทำเหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้ได้หรือไม่ “

ดวงตาที่งดงามของลิซ่าก็ส่องประกาย

ฉื่อหยานยิ้ม ” วันหนึ่ง ข้าเกรงว่าหากมีเหตุการณ์ครั้งใหญ่เกิดขึ้นในทเลไม่มีสิ้นสุด หลังจากเหตุการณ์นั้น ข้าไม่แน่ใจว่า ตระกูลฉาวและพระราชวังจิตวิญญานจะอย่เฉย และถ้าท่านร่วมมือกันตระกูลฉาวและพระราชวังจิตวิญญานต่อสู้ในตอนนั้นหละก็ ข้าก็ไม่รับประกันว่าท่านจะสามารถรักษาความสัมพันธ์กับตระกูลหยางได้หรือไม่.”

” เจ้าช่างโอหังนัก ยิ่งหยองยิงกว่าจักพรรดิหยางเทียนในปีนั้นเสียอีก”

ลิซ่าเข้าใจความคิดของเขา และจ้องเขา ” . ทำไมเจ้าถึงคิดว่าตระกูลหยางของเจ้าสามารถรับมือกับตระกูลฉาวและพระราชวังจิตวิญญานต่อสู้ที่ทรงอำนาจที่สุดในทะเลไม่มีสิ้นสุดได้ เจ้านั้นตัวคนเดียว ถึงแม้ว่าเจ้าจะมีพลังที่มหัศจรรย์ แต่เจ้าก็ยังห่างไกลจากฉาวเชี่ยวเต้าและหยางอี้เทียนนัก เจ้าคิดจริงๆหรือว่าการยืมพลังที่ไม่ใช่ของตนจะทำให้เจ้าแข็งแกร่งพอจะรับมือกับพวกเขาได้ ?

ฉื่อหยานยิ้มและไม่ตอบนาง

ลิซ่าค่อยๆขมวดคิ้วเข้าหากัน ” เด็กร้อย , เจ้านั้นกำลังพูดสั่วๆหรือเจ้ามั่นใจเช่นนั้นจริงๆกันแน่ ? “

” ไม่รู้สิ ” ฉื่อหยานส่ายหัว ” ข้าจะทำตามเป้าหมายของ้ขาให้ได้ บางทีมันอาจจะไม่สามารถทำได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่เมื่อข้าตั้งเป้าแล้ว ไม่ว่าจะสิบหรือยี่สิบปี . . . . . . . อยากมากก้ไมาเกินสามสิบปี ข้าคิดว่าข้าจะสามารถทำได้ . “

 

คนจากตระกูลหยางก็ยังหวั่นไหว ดวงตาของพวกเขาก็เปล่งประกาย

สมาชิกของตระกูลหยางทั้งหมดก็มีใบหน้าตื่นเต้นราวกับพวกเขาถูกกระตุ้น ราวกับพวกเขากำลังเห็นภาพที่ฉื่อหยานทำมันได้สำเร็จ

มันเป็นภาพของตระกูลหยางที่ปกครองทั่วทะเลไม่มีที่สิ้นสุดและทุกกองกำลังก็กำลังก้มหัวให้กับพวกเขา

” เป้าหมายของเจ้าช่างไกลเกินกว่าความสามารถของเจ้านัก . ” ลิซ่า จ้องหน้าเขาสักพัก ก่อนที่นางจะพยักหน้า ” . อย่างแรก ข้าก็ขอให้เจ้าทำตามเป้าหมายของเจ้าได้สำเร็จโดยเร็ว ถ้าทำได้ ข้าจะปรบมือให้เจ้าครั้งใหญ่เลยและข้าก็จะได้มีความสุขกับจักพรรดิหยางเทียนเสียที”

นางนิ่งสักครู่แล้วสแยะยิ้ม” อย่างไรก็ตาม ก่อนอื่น เจ้าต้องชักชวนนู่หลางให้ได้เสียก่อน “

” นู่หลาง ? “

” ใช่ ตอนนี้เขากำลังยุ่งกับการขัดเกลาสมบัติลับระดับศักดิ์สิทธิ์ แล้วเขาก็ไม่ได้มาที่เมืองใต้บาดาล เมืองเลย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้นู่หลาง ดูเหมือนจะเอียงไปร่วมมือกับตระกูลฉาวและพระราชวังจิตวิญญานต่อสู้ เขาคิดว่ามันคงจะเป็นประโยชน์สำหรับเผ่าทะเลมากกว่าหากให้ตระกูลฉาวและพระราชวังจิตวิญญานต่อสู้ปกครองเมืองใต้บาดาล “

” นู่หลางอยู่ไหนรึ? “

” แน่นอน ว่าอยู่ที่เผ่ามังกรสมุทรดำ เขาต้องการที่จะปรับปรุงสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถหาเปลวไฟที่เผาไหม้ได้เพียงพอ เขาได้พยายามที่จะทำมันหลายครั้ง แต่ก็ล้มเหลว เพราะเขาไม่สามารถละลายวัสดุชิ้นนี้ได้ เขาค่อนข้างปวดหัวอยู่ในขณะนี้ ดังนั้นข้าเดาว่าเขาคงไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่ดีนัก ถ้าเจ้าต้องการที่จะหาเขาในเวลาแบบนี้ ข้าไม่คิดว่า เขาจะให้เจ้าพบดีๆ “

” เปลวไฟที่มีพลังเผาไหม้เพียงพอรึ ?” ฉื่อหยานดวงตาสดใสขึ้น เขาหัวเราะออกมาดังๆ

_________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 30 แล้ว มีถึงตอนที่ 1376 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset