เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 490 ไปสถานที่โบราณ

[TL.เมืองเมฆาสงบ เปลี่ยนเป็น ดินแดนเมฆาสงบนะครับ แปลผิดลืมเมืองพวกนี้ไปละ 5555]

บทที่ 490 ไปสถานที่โบราณ

 

ท้องฟ้าสีครามแขวนอยู่เหนือมหาสมุทรกว้างใหญ่ . ลมโบกพัดบนนภาไร้สิ้นสุด

เหนือทะเลสีครามค้างคาวโลหิตครามและแร้งสิงโตเขายักษ์บินอย่างรวดเร็ว ฉื่อหยานนั่งเรียบร้อยบนมือถือบัญญัติอมตะ เขากำลังอ่านพร้อมกับขมวดคิ้ว

บัญญัติอมตะนั้นอธิบายอภิยานถึงพลังของจิตวิญญานต่อสู้และพลังที่น่าอัศจรรของโลหิตอมตะ

หลังจากอ่านบัญญัติอมตะ เขาก็รู้วิธีที่ใช้โลหิตอมตะ ปรากฏว่าโลหิตอมตะสามารถฟื้นฟูความเสียหายแก่สมบัติลับที่เสียหายได้ และมันสามารถช่วยให้สัตว์อสูรพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ โลหิตอมตะ ยังสามารถทำนายนักรบที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำได้ด้วย

ด้วยการใช้โลหิตอมตะและเคล็ดโลหิตอมตะจุติ เขาสามารถเห็นอดีตและปัจจุบันของนักรบที่เขาอยากรู้ ซึ่งแม้แต่เจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าอนาคตเป็นเช่นไร

แน่นอน ว่านี่ก็มีขีดจำกัด เขาสามารถใช้ได้กับเพียงนักรบที่มีระดับการบ่มเพาะน้อยกว่าเขา

ด้วยระดับการบ่มเพาะของฉื่อหยานปัจจุบันอยู่ที่ระดับนภา ถ้าเขาใช้โลหิตอมตะเพื่อดูอนาคตเขาจะต้องใช้กับนักรบที่มีระดับปฐพีลงไป แต่สิ่งที่เห็นจะซับซ้อนมากขึ้นหากเขาใช่กับนักรบระดับรู้แจ้ง ถ้าเป็นนักรบระดับเดียวกับเขา เขาไม่สามารถใช้โลหิตอมตะเพื่อดูอนาคตอดีตปัจจุบันคนๆได้

นอกจากทำนายอนาคตแล้วโลหิตอมตะยังสามารถทำได้อีกอย่าง ด้วยโลหิตอมตะในร่างกายของเขา เขาสามารถฝึกฝนเคล็ดโลหิตอมตะจุติ หลังจากที่เขาเข้าใจเคล็ดลับนี้ เมื่อเข้าต่อสู้อยู่ ถ้าแขนขาของเขาถูกตัด เขาก็สามารถใช้เคล็ดโลหิตอมตะจุติเพื่องอกแขนและขาของเขาออกมาใหม่ได้

เพื่อที่จะบ่มเพาะจิตวิญญานอมตะให้อยู่จุดสูงสุด เขาจะต้องรู้วิธีที่จะใช้โลหิตอมตะ ตามที่เขียนใน บัญญัติอมตะ เมื่อเขาฝึกจิตวิญญานอมตะจนถึงจุดสูงสุด เลือดของเขาจะเปลี่ยนไป

เขาจะต้องให้โลหิตอมตะจะไหลท่วมเส้นเลือดของเขา มีเพียงการเปลี่ยนเลือดธรรมดาในร่างทั้งหมดให้กลายเป็นโลหิตอมตะเท่านั้น ที่จะทำให้เขาเข้าสู่จุดสูงสุดของจิตวิญญานอมตะได้ ในระดับนั้นเขาจะกลายเป็นอมตะอย่างสมบูร์ แม้ว่าร่างกายเนื้อของเขาระเบิด เขาก็สามารถกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง

เมื่อจักพรรดิหยางเทียนถูกคุมขังโดยสองราชาอสูร เขาก็ฝึกฝนขัดเกลาผ่านรูปแบบเทพอสูรของพวกอสูร ต่อมา ต้องขอบเจ้าโลหิตอมตะที่ไหลอยู่ในร่างเขา เขาจึงฟื้นฟูได้อย่างสมบูรณ์

ถ้าโปวชุน ชิหยาน มีจิตวิญญาณอมตะ ที่เกาะสุริยัน , แม้ว่าร่างกายของพวกเขาจะถูกทำลาย พวกเขาก็สามารถกลับมามีชีวิตได้อีกครั้งด้วยจิตวิญญานอมตะ ใช้โลหิตอมตะสร้างร่างกายเนื้อหนังขึ้นมาใหม่ ซึ่งไม่แตกต่างจากร่างเดิมของพวกเขา

นี่เป็นพลังที่มหัศจรรย์ของโลหิตอมตะ

ขี่อยู่บนอสูรล่าวิญญาน ศึกษาบัญญัติอมตะอยู่หลายวัน เขาก็มีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับโลหิตอมตะและจิตวิญญานอมตะมากยิ่งขึ้น ในที่สุด เขารู้แล้วว่าทำไมตระกูลหยางถึงได้ยิ่งใหญ่อยู่ในทะเลไม่มีสิ้นสุดมาเนิ่นนาน

ตราบใดที่ตระกูลหยางมีจิตวิญญานอมตะ ด้วยความช่วยเหลือนี้ พวกเขาจะต้องเป็นนักรบที่แข็งแกร่งแน่นอน แม้ร่างกายของพวกเขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง พวกเขาก็สามารถฟื้นฟูร่างกายและความสามารถอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาได้ในไม่ช้า

ในการต่อสู้กับคนที่มีจิตวิญญาณอมตะ นอกจากการฆ่าพวกเขาได้ทันทีแล้ว หากการต่อสู้ยิ่งยืดเยื้อ คนๆนั้นจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบอย่างมาก

นี่เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ยิ่งนัก , พลังที่ยิ่งใหญ่ของโลหิตอมตะและจิตวิญญาณอมตะถูกเขียนไว้ในบัญญัติอมตะ หลังจากหนึ่งเดือน ฉื่อหยานก็ได้เข้าใจความลับทั้งหมดของบัญญัติอมตะ ตอนนี้เขาอยู่เงียบๆ กำลังบ่มเพาะเคล็ดอมตะจุติ

หลายวันต่อมา เมื่อเขามีความเข้าใจลึกซึ่งเกี่ยวกับจิตวิญญานอมตะ เขาก็เก็บบัญญัติอมตะ หลับตา และนั่งสมาธิอยู่บนหลังอสูรล่าวิญญาน

เวลาก็ล่องลอยไป

เพียงเวลาสั้นในพริบตาพวกเขาก็จากทะเลไม่มีสิ้นสุดมาและก็ปรากฏอยู่บนท้องฟ้าของดินแดนเมฆาสงบ

ฉื่อหยานลืมตา มองป่าที่อยู่รอบๆสมาคมการค้า และก็ช่วยไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

ที่ตระกูลฉือ

ตามที่พวกเขาคิด ฉื่อเจี้ยนและฉื่อเตี่ยก็มีรอยยิ้มเบิกบานอยู่บนหน้า

” นายท่าน “

ตี่ฉานและยู่โหลวก็เรียกเจ้านายที่อยู่ห่างตนห้าเมตร

ฉื่อหยาน ก็แปลกใจ มองอย่างสงสัยไปที่ทั้งสอง ” มีอะไรรึ ? “

” เราต้องการที่จะไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์กับท่าน เผ่าปีกและเผ่าเสียงอสูรนั้นมีบ้านเกิดอยู่ที่นั่น ” ตี่ฉาน เอียงศีรษะของเขาเล็กน้อย ” บ้านเกิดของเรามีวิชาลับมากมายและสมบัติแปลกประหลาดที่หายไปตั้งแต่บรรพบุรุษ เราต้องการที่จะนำสิ่งเหล่านั้นกลับมาเป็นของเรา

 

” ไม่ต้องรีบ ” ฉื่อหยานรำพึงแล้วพูดอย่างเย็นชา ” ดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้น ซับซ้อนกว่าที่เจ้าคิดไว้ นักรบที่นั่นแข็งแกร่งกว่านักรบในทะเลไม่มีสิ้นสุดมาก ที่ข้ามาที่นี่ เพราะข้ายังไม่กล้าที่จะทำอะไรบุ่มบาม ข้ารู้ว่าพวกท่านไม่สบายใจ ยังไงก็ตาม ข้าคิดว่า พวกท่านควรอยู่ในทะเลไม่มีสิ้นสุดไปก่อน สักพักชั่วคราว หลังจากที่ข้าสามารถตั้งหลักฐานที่แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ได้เมื่อใด ข้าจะส่งคนเข้าไปหาพวกท่าน “

ตี่ฉาน และยู่โหลวก็พยักหน้าฟังเขา และก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

” เอาหละ เรากำลังจะถึงสมาคมการค้าแล้ว พวกเจ้าเตรียมตัว เราจะลงจอดที่เมืองนภาดาวตก ” คิดสักพัก ฉื่อหยาน กล่าวว่า ” จำไว้ว่า อย่าทำอะไรป่าเถื่ิอนที่เมือง ตามข้ามา อย่าได้ทำตัวหยาบคาย “

” ขอรับ “

” พวกเจ้าก็ด้วย สมาคมการค้าเป็นของตระกูลหยาง อย่าได้ทำอะไรรบกวน ” ฉื่อหยานหันไปมององค์รักษ์ชูร่าและองค์รักษ์เทพดวงดาว และตะโกนออกมาห้วนๆ

องค์รักษ์ชูร่าและองค์รักษ์เทพดวงดาวก็มองเขาด้วยสีหน้าจริงจัง

องค์รักษ์ชูร่าและองค์รักษ์เทพดวงดาว ในสายตาของพวกเขา ฉื่อหยานนับได้ว่าเป็นดวงดาวเป็นแบบอย่างของพวกเขา

ชื่อ ฉื่อหยาน นั้นดังกระจายไปทั่วทะเลไม่มีที่สิ้นสุด ตอนนี้เขามีชื่อเสียงยิ่งกว่า จักพรรดิหยางเทียน ฉาวเชี่ยวเต้า และหยางอี้เทียน เขาคือคลื่นลูกใหม่ที่เปล่งประกายไม่มีใครเทียบ

เมื่อมีผู้นำที่มีตัวตนเช่นนี้ องค์รักษ์ทุกคนต่างก็ภูมิใจ

ค้างคาวโลหิตครามและแร้งสิงโตเขายักษ์ก็บินอย่างรวดเร็ว . ไม่นานหลัง พวกเขามายังน่านฟ้าดินแดนเมฆาสงบและลอยอยู่เหนือสมาคมการค้า

” นั่นอะไร ? “

ฉื่อหยานก็ร้องออกมาในใจ เมื่อมองไปยังพื้นด้านล่าง ระหว่างเมืองมากมายที่อยู่ข้างใต้ ซึ่งเป็นของร้านค้าสหภาพ เขาจ้องมองลงไป เขาไม่เห็นธงของตระกูลซั่วและตระกูลฉื่อ ตรงกันข้าม เขาเห็นสัญญาณของหลายกองกำลังจากจักรวรรดิอัคคีและอาณาจักรพรพระเจ้า

เมืองนี้เต็มไปด้วยนักรบจากจักรวรรดิอัคคีและอาณาจักรพรพระเจ้า ไม่อาจรู้ได้เลยว่าพวกเขามีแผนอันใด

ฉื่อหยานปล่อยจิตสำนึกวิญญาณของเขา หลังจากผ่านไปทั่วเมือง คิ้วของเขากระแทกเข้าด้วยกัน

นักรบระดับปฐพี ระดับหายนะ ของจักวรรดิอัคคีและอาณาจักรพรพระเจ้าต่างก็แออัดกันอยู่ในแต่ละเมือง ราวกับว่าพวกเขาเป็นผู้ปกครอง อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนจะไม่มีสมาชิกของตระกูลฉื่อและตระกูลซั่วปรากฏอยู่ในนั้นเลย

” ดูเหมือนมีบางอย่างเกิดขึ้นกับสมาคมการค้า . . . “

หน้าฉื่อหยานก็ค่อยๆมืดมน .

เริ่มแรก ที่หมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ ซั่วฉือ ซั่วซูและชิเสี่ยวได้บอกเขาเกี่ยวกับจักวรรดิอัคคีและอาณาจักรพรพระเจ้า พวกเขานั้นมีแผนการเกี่ยวกับสมาคมการค้า พวกเขาพยายามที่จะยึดครอง บางทีนี่อาจจะเป็นความจริง

ตั้งแต่เวลาที่เขาใช้กองกำลังของเสี่ยวฮานยี่กวาดล้างตระกูลเป่ยหมิง ตระกูลโม่ ตระกูลหลิง ในสมาคมการค้า แม้ว่าสมาคมการค้าจะเป็นของตระกูลฉื่อและตระกูลซั่ว แต่กองกำลังของเขาไม่แข็งแกร่งเท่าใดนัก

และนั่นก็ทำให้จักวรรดิอัคคีและอาณาจักรพรพระเจ้าฉวยโอกาสนี้ พวกเขาให้คนไปส่งสารอย่างต่อเนื่องเพื่อบีบบังคับตระกูลฉื่อและตระกูลซั่วให้คิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา

แน่นอน , ฉื่อเจี้ยนและซั่วซู ไม่ได้มีความสุขเลย พวกเขาพยายามที่จะยืดเวลาโดยไม่ตอบกลับ

ดังนั้นจักวรรดิอัคคีและอาณาจักรพรพระเจ้าจึงไม่พอใจ จากตอนแรกที่สุภาพพวกเขาก็ค่อยๆ กลายเป็นบับบังคับไปทีละขั้นตอน ปัจจุบัน ดูเหมือนพวกเขาจะเริ่มลงมือแล้ว

จักวรรดิอัคคีและอาณาจักรพรพระเจ้ามีนักรบระดับนภาปกป้องอยู่ ตระกูลฉื่อและตระกูลซั่วนั้นไม่อาจต้านทานกองกำลังของพวกเขา ถ้าชิเสี่ยวไม่อยู่ในสมาคมการค้า สองอาณาจักรก็คงลงมือไปแล้ว

ความคิดก็ผุดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหัวของเขา ฉื่อหยานดวงตาก็เย็นชา เรอยยิ้มเยาะเย้ยแขวนอยู่บนมุมปากของเขา

ถ้าเป็นเขาในปีนั้น หากเผชิญหน้ากับกองกำลังของจักวรรดิอัคคีและอาณาจักรพรพระเจ้าก็อาจจะถูกฆ่าตายที่สมาคมการค้าไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม สิบปีหลังจากที่เขาได้เข้าไปในทะเลไม่มีที่สิ้นสุด เขาก็ได้เข้าสู่ระดับนภา และเขามีิอำนาจที่อยู่เหนือทุกคนในทะเลไม่มีสิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นนักรบระดับพระเจ้า ในสายตาของเขา ก็ราวกับเป็นลูกแกะที่สามารถฆ่าได้อย่างง่ายดาย

ถ้าเขาต้องการ เขาใช้เวลาเพียงสามวันเท่านั้นเพื่อทำลายอาณาจักรเหล่านี้ .

เขามั่นใจว่ากองกำลังของเขานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

” เร็วเข้า “

ฉื่อหยานรำพึงสักครู่หนึ่ง แล้วตะโกน

 

เขาไม่รู้สถานการณ์ของสมาคมการค้า จากที่เขาสังเกตได้จากเมืองรอบ ๆ จักวรรดิอัคคีและอาณาจักรพรพระเจ้ากำลังจะลงมือ บางทีพวกเขาอาจจะบุกเข้าไปยังเมืองนภาดาวตก ซึ่งนั่นจะเป็นอันตรายต่อตระกูลฉื่อ

ตั้งแต่ที่เขาได้เข้ามาในโลกนี้ ตระกูลฉื่อได้รู้แต่ความเป็นอยู่ของเขา ฉื่อหยานถึงจะแสดงสีหน้าเย็นชา แต่เขารู้สึกอบอุ่นหัวใจ เขาในฐานะตัวตนของฉื่อหยาน เขาได้รับการดูแล ทั้งการฝึกบ่มเพาะ วิชาต่างๆ เขาได้รับการเอาใจใส่ได้รับความรัก เขาถึงใช้หัวใจทั้งหมดของเขา ทุ่มเทเพื่อหยางไห่พ่อของเขาและตระกูลฉื่อ

หลังจากที่เขาตะโกน เขาก็ลูบไปที่คอของอสูรล่าวิญญาน

อสูรล่าวิญญานพุ่งออกไปเหมือนลูกศร ด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาด วาดเป็นเส้นโค้งแสงสีดำในอากาศและมุ่งไปยังเมืองนภาดาวตก

หวือ !

อสูรล่าวิญญานที่เต็มไปด้วยหนามก็ปรากฏในท้องฟ้าของเมืองนภาดาวตก กลิ่นอายที่น่าหวาดกลัวก็ปกคลุมเมืองนภาดาวตกทั้งหมดกลายเป็นแรงกดดัน

ฉื่อหยานจิตสำนึกวิญญาณ ของเขาก็ขยายไปทุกมุมของเมือง เขาหลับตาลงและสัมพัส . ฉื่อหยานหายใจออกมาอย่างโล่งอก

ผู้คนของจักวรรดิอัคคีและอาณาจักรพรพระเจ้านั้นยังไม่ได้บึกเข้ามาในเมือง ซึ่งนั่นหมายความว่า ตระกูลฉื่อและตระกูลซั่วยังปลอดภัยดี

ตราบใดที่ทุกคนที่ทุกคนปลอดภัย เวลานี้ ด้วยการปรากฏตัวของเขา ไม่มีกองกำลังใดสามารถรุกรานตระกูลฉื่อและตระกูลซั่วไดอีก

โฮ๊กกก !

อสูรล่าวิญญานก็คำรามออกมาสั่นสะท้านไปทั่วเมือง นักรบของเมืองนภาดาวตกก็สั่นสะท้าน นักรบระดับต่ำพลังปราณลึกลับก็ปั่นป่วน ไม่สามารถสงบจิตใจของตนเองลงเพื่อโคจรพลังปราณลึกลับได้

” สัตว์อสูร !”

” น่าหวาดกลัวยิ่งนัก ! “

” คนที่มาเป็นใครกัน ? “

นักรบของเมืองนภาดาวตกกรีดร้องด้วยความกลัว มองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยใบหน้าตื่นตระหนกกลัว .

” หรือว่าตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดของจักวรรดิอัคคีและอาณาจักรพรพระเจ้าจะมาที่นี่กัน ? “

” แย่แล้ว “

” เรากำลังจะตายในอีกไม่ช้า “

มีนักรบที่รู้สถานการณ์ที่อยู๋ทั่วเมืองนภาดาวตกก็หมดหวังอย่างโศกเศร้า

อสูรล่าวิญญานบินอย่างช้าไปยังตระกูลฉื่อ

________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 30 แล้ว มีถึงตอนที่ 1405 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset