เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 81 ทุกข์ใจ

บทที่ 81 ทุกข์ใจ

 

ในค่ำคืนที่เงียบสงัด สองรถม้ากำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆออกห่างจากเมืองซู่หลายไปเรื่อยๆ

ซู่หลาย เมืองเป็นเมืองสุดท้าย ระหว่างทางไปบึงมรณะ ระหว่างทางของบึงมรณะกับเมืองซู่หลาย เป็นป่า

ที่มีต้นไม้ขนาดกลาง ซึ่้งมีเพียงเส้นทางแคบๆที่นักรบและพ่อค้าไว้ใช้สำหรับเดินทาง

บนรถม้าด้านหน้า ซู่ปิงก็โบกแส้ของเขาในลักษณะที่ผ่อนคลาย

มีเสียงหัวเราะคิกคักของซั่วฉื่อ และหวู่หยุนเหลียนดังออกมาอย่างต่อเนื่อง. พวกนางพูดคุยกันอย่างมีความสุขตลอดทาง

ในตู้ข้างหลังพวกเขา ฮันเฟิงและ กู่หลงนั่งอยู่ด้านนอก พูดคุยกันบ้างเป็นบางครั้ง

พวกเขาส่วนใหญ่จะใช้เวลาทั้งหมดในการสังเกตุไปรอบๆอย่างระมัดระวัง

เป็นฉื่อหยานที่นั่งเงียบอยู่ในตู้

หลายสิบวันที่ผ่านมาก นอกจากเวลาอาหารแล้ว ฉื่อหยานแทบจะไม่ออกมาจากรถมาเลย

ทุกครั้งที่เขาออกมาจากรถม้า เขาจะมีใบหน้าที่เหนื่อยล้วพร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความกังวลเกี่ยวกับบางอย่าง

. . . . .

ตกดึก

รถม้าทั้งสองหยุดอยู่ที่ข้างลำธารในป่า ซั่วฉื่อหวู่หยุนเหลียน ออกมาจากรถม้นและเดินไปที่ลำธาร จากนั้นใช้น้ำล้างใบหน้าของตร

ไม่นานนัก , นางทั้งสองก็กลับมาจากล้างหน้า แล้วก็ต้องพบกับความเงียบงันที่เกิดขึ้น

” นั่นเขากำลังทำอะไรอยู่รึ ? “

หวู่หยุนเหลียน มองไปที่รถม้าของฉื่อหยานด้วยความสับสน สีหน้าของนางชัดเจนแสดงออกมาถึงความสงสัย ” ข้าแทบจะไม่เห็นเขาออกมาจากรถมาเลย นอกจากเวลาที่เขาจะลงมาทานอาหารของเขา เขาอยู่แต่ในรถม้าทั้งวัน และทุกครั้งที่เขาออกมา ก็เหมือนกับว่าเขากำลังอยู่ในห้วงความคิด และแสดงสีหน้าเป็นทุกข์ตลอดเวลา เขาช่างเป็นเด็กที่ประหลาดนัก”

” เขาก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว ” ซั่วฉื่อพยักหน้าอย่างยอมรับ เขามีงานอดิเรกแปลกๆ เช่น ชอบเรียนประวัติศาสตร์ พระธาตุ และภาษาโบราณ ไม่มีใครรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในสมองของเขากันแน่

หวู่หยุนเหลียน หัวเราะอย่างน่าหลงไหลออกมา ” เสี่ยวฉื่อ เขานี่ต่างออกไปจริงๆ โดยปกติแล้ว เด็กหนุ่มทั้งหลายจะคอยตามตื้อเจ้าตลอดทั้งวัน และจะไม่ไปไหน ถึงแม้เจ้าจะพยายามที่จะขับไล่พวกเขาออกไปก็ตาม แต่ในสิบวันที่ผ่านมานี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้มองเจ้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว แล้วก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เต็มใจที่จะออกมาจากรถม้าอักด้วย นี่ช่างแปลกเกินไป ”

” ปล่อยเขาไว้เช่นนั้นเถอะ เขาก็เป็นคนประหลาดเช่นนี้แหละ ” ซั่วฉื่อประหลาดใจจริงๆเมื่อนางได้ตระหนักถึงคำพูดของหวู่หยุนเหลียน ฉื่อหยานนั้นไม่เคยมองมาที่นางเลย

นางเป็นคนที่ค่อนข้างมั่นใจในคัวเอง ซั่วฉื่อรู้ตัวอยู่แล้วว่านางเป็นคนที่งดงาม แต่ทัศนคติฉื่อหยานมีต่อนางมันมากแตกต่างจากทัศนคติของคนอื่นๆมากเกินไป

ฉื่อหยาน ก็มีอายุพอที่จะรู้จักความรักแล้ว แต่ทำไมเขาถึงไม่สนใจหญิงสาวเลย ?

เขาไม่สนใจหญิงสาวคนไหนเลยรวมถึงซั่วฉื่อด้วย นอกเหนือจากความสับสนแล้ว นางยังโกรธคงโกรธเล็กน้อย

” ขอน้ำให้ข้าหน่อยสิ ” ฉื่อหยาน พูดออกมาจากรถมาโดยไม่แยแส

กู่หลงกลายเป็นอึ้งตะลึง เขาหันไปที่ฮันเฟิงแล้วถามออกไป ” ฮันเฟิง เจ้ามีน้ำเหลือหรือไม่ ? “

ฮันเฟิงส่ายหัวและชี้ไปที่หวู่หยุนเหลียน และ ซั่วฉื่อ ซึ่งกำลังเดินเข้ามาใกล้พวกเขา ” พวกนางต้องมีน้ำแน่นอน . “

กู่หลงยกหัวของเขาขึ้นและมองไปที่หวู่หยุนเหลียน ด้วยรอยยิ้มใหญ่ ” น้องสาว เจ้าช่วยแบ่งน้ำให้เราหน่อยได้หรือไม่ นายน้อยของเราต้องการมัน “

” ท่านก็บอกให้เขามาเอาไปเองสิ ” ซั่วฉื่อยื่นออกไปพร้อมกับถอนหายใจ ” เอาแต่หมกตัวอยู่ในรถม้าทั้งวัน เขาคงจะตัวเหม็นเน่าไปหมดแล้วมั้ง เจ้าคนประหลาด ! “

กู่หลงยิ้มอย่างอึดอัดและพิงกับรถม้า ” คุณชายหยาน แม่นางซั่วขอให้ท่านออกมารับน้ำด้วยตัวเอง”

” หึ . . “

ฉื่อหยานตอบสั้น ๆ ดึงม่านแล้วเดินออกมาด้วยใบหน้าที่เหี่ยวเฉา .

เขาดูล่องลอย แววตาฉงน ดูเหมือนสับสนปัญหาบางอย่าง

โดยไม่คิดว่ามากเกินไป เขาเดินไปที่ซั่วฉื่อและค่อยๆคว้าถุงใส่น้ำจากมือนาง แล้วก็ดื่มมันลงไป

หลังจากนั้น เขาก็ยื่นถุงกลับซั่วฉื่อที่ด้วยอารมณ์โกรธ แล้วหันกลับไปเพื่อกลับเข้าไปที่รถม้าและพึมพำบางอย่างออกมา ” ในน้ำมีกลิ่นหอง ช่างแปลกนัก . . . . . . . “

” ฉื่อหยาน ! “

ซั่วฉื่อหน้าแดงด้วยความโกรธ ” ถุงน้ำนี่เป็นของข้า ไม่ใช่ของตระกูลฉื่อนะ ! “

ฉื่อหยาน ก็ตกใจกับเสียงร้องของนางและในที่สุดก็ตื่นจากความคิดของเขาเกี่ยวกับ [ ผนึกแห่งความเป็นและความตาย ] จากนั้นเขาก็ถามออกไป ” แล้วมันมีอะไร ? “

” เสี่ยวฉื่อหลังจากที่เจ้าดื่มน้ำจากถึงนี่ ฮิฮิ แน่นอนว่าเจ้าต้องสัมพัสได้ถึงกลิ่นหอมแน่ ” หวู่หยุนเหลียน ยิ้มและกล่าวติดตลก ” ฮ่าฮ่า บางทีมันอาจจะเป็นน้ำลายบางส่วนของซั่วฉื่อที่อยู่ในนั้นก็ได้ “

” นี่ ! ! ” ซั่วฉื่อหน้าแดง และกระทืบเท้าลงบนพื้นดิน , ” เจ้ากำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ! “

กู่หลงและซู่ปิงก็ตะลึงพร้อมกับกับใบหน้าของพวกเขาที่เปลี่ยนไป แม้แต่ฮันเฟิงเองก็ยกศีรษะของเขาขึ้นและแอบมองไปที่ทิศทางของพวกเขา

แต่แล้วทั้งสามก็หันไปทำเรื่องของตัวเองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับว่าไม่มีใครเคยได้ยินคำพูดของหวู่หยุนเหลียน หรือว่าเห็นใบหน้าทีกลายเป็นสีแดงของซั่วฉื่อเลย

ฉื่อหยานรู้สึกตัวทันที แต่เขาก็ยังทำเป็นไม่รู้เรื่องและยิ้มออกไป ” ไม่เป็นไร ข้าเป็นคนง่ายๆ เช่นนั้นข้าไม่รังเกียจน้ำลายของเข้าหลอก . “

ทันที เขาก็หันหลังกลับด้วยความสนุกสนาน และก็กลับเข้ามาในรถม้าทันที จากนั้นก็ไม่ออกมาอีกเลย

 

” ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ! “

หวู่หยุนเหลียน หัวเราะออกมาขณะที่ยืนนิ่งอยู่หน้าอกของนางกระเพื่อมไปมา นางรู้สึกว่า ฉื่อหยานนั้นช่างไม่น่าเบื่อจริงๆ คำพูดที่ไม่สุภาพของเขาฟังดูน่าขบขัน

ซั่วฉื่อกลายเป็นงุนงงสักพักแล้ว นางดวงตาของนางก็เบิกกว้าง นางก่นด่าออกมา ” ฉื่อหยาน ! เจ้าสารเลว ! “

” ลุงฮัน ไปกันเถอะ ” ฉื่อหยานพูดออกมาด้วยเสียงเย็นชา ออกมาจากรถม้า

” ตกลง ” ปากของฮันเฟิงเกิดเป็นรอยยิ้มที่แปลกขึ้นมาและเขาก็หันไปพูดกับหู่หลง ” ไปกันเถอะ “

จากนนั้นรถม้าของพวกเขาค่อยๆเริ่มเคลื่อนไหว นี่เป็นครั้งแรกที่มีเหตุการณ์เช่นนี้

ซั่วฉื่อยืนอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าที่แดง ก่อนจะมองไปที่หวู่หยุนเหลียน แล้วก็ซู่ปิงที่ยืนเงียบ จากนั้นก็พูดออกมาด้วยความโกรธ ” เจ้าหัวเราะอะไร ? ตลกนักรึ ? นี่มันไม่สนุกเลยนะ พวกเจ้าทั้งหมดไม่ได้เรื่อง ! “

จากนั้นนางก็ขึ้นมาบนรถม้าอย่างรวดเร็ว และตะโกนออกไปว่า ” ลุงปิง เร็วเข้า กระแทกไปที่รถม้าขอบเขาเลย สั่งสอนบทเรียนให้เขาเสียบ้าง “

ซู่ปิงตกใจและมองไปที่หวู่หยุนเหลียนอย่างลำบากใจ

หวู่หยุนเหลียน ส่ายหัวของนางและกระโดดขึ้นไปบนรถม้า นางปลอบซั่วฉื่อ ” เอาหน่า เสี่ยวฉื่อ อย่าได้โกรธไป เขาคงไม่ได้หมายความเช่นนั้นหลอก “

” เขาช่างหยาบคายนัก ! เขาบอกว่า . . . . . . . เขสบอกว่า . . . . . . . ” ซั่วฉื่อถอนหายใจออกมาด้วยความไม่พอใจ แต่ก็อายเกินไปที่จะพูดต่อ

. . . . .

ฉื่อหยาน ดูไม่จริงจังกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเลย

ในรถม้า ฉื่อหยาน ก็พิงหลังและทำหน้ามุ่ยอยู่ ในขณะที่มีข้อความแปลก ๆแวบในความคิดของเขา

เป็นวิธีการฝึก วิชาโบราณ [ ผนึกแห่งชีวิต ] ที่แวบผ่านเข้ามาในหัว

ไม่นานมานี้นี้เขาได้ใช้พลังทั้งหมดในการเรียนรู้และฝึกฝนมัน

แม้แต่ตอนที่เขากำลังกินอาหารอยู่ สมองของเขาก็ไม่เคยหยุดคิดเลย . เขาพยายามอย่างมากที่จะเข้าใจการฝึกฝนผนึกเหล่านี้ อย่างบ้าคลั่ง

และเขาก็เป็นคนประเภทนั้น

ถ้าเขาตัดสินใจจะทำอะไรแล้ว เขาจะมุ่งมันและใช้ทุกอย่างที่มีทุ่มเทให้กับมัน ไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนความคิดของเขาได้

หลังจากที่ผ่านกีฬาผาดโผนมาหลายปี ทัศนคติของเขาก็เปลี่ยนไป , เมื่อตั้งใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว จะต้องทำให้สมบูรณ์แบบ

 

[ ผนึกแห่งความเป็นและความตาย ] !! [ ผนึกแห่งความเป็นและความตาย ] !!

ในเวลานี้ มีเพียงความคิดนี้ความคิดเดียวในจิตใจของเขา เพื่อที่เขาจะเข้าใจวิธีการฝึกฝน [ ผนึกแห่งความเป็นและความตาย ] ให้รวดเร็วที่สุด

มันจะเป็นการดีที่สุด ถ้าเขาสามารถสร้างผนึกได้ก่อนที่เขาจะไปถึงบึงมรณะ

หากเขาสามารถสร้างผนึกขึ้นมาได้ เขาก็จะสามารถปกป้องตัวเองในบึงมรณะได้ และเขาเองก็มีโอกาสที่จะได้รับสิ่งที่เป็นประโยชน์มากขึ้นด้วย

ฉื่อหยานปิดตาลงและพยายามที่จะผ่อนคลาย และเริ่มแยกแยะความเข้าใจในวิธีการฝึกที่พึ่งปรากฏขึ้นในจิตใจ

หลังจากนั้น เขาตั้งสมาธิเพื่อโคจรพลังปราณลึกลับของเขาและค่อยๆโคจรมันจากท้องไปยังแขรขวา

พลังปราณลึกลับไม่ได้โคจรอย่างรวดเร็วเลย แต่มันก็มีความเข้มข้นและบริสุทธิ์เป็นอย่างมากและกำลังไหลไปในแขนข้างขวาของเขา

จากนั้นพลังปราณลึกลับก็อัดแน่นอยู่ที่มือของเขา ตอนนั้นเอง ผิวหนังของเขาก็กลายเป็นโปร่งใส่ และสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนถึงกระดูกและเส้นเลือดที่อยู่ในมือของเขา

ฉื่อหยานไม่ได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดในแขนของเขาเลย

เขาหลับตาเช่นนั้น และเขาก็พยายามดำเนินการตามวิธีที่ปรากฏขึ้นในความคิดของเขา ไม่นานนัก เขาก็โคจรพลังปราณลึกลับที่อยู่ในแขนไปหลาบรอบ

และแขนของเขาก็เริ่มขยายขึ้น สัมพัสได้ดังนั้น ฉื่อหยานก็ตัดสินใจผลักพลังปราณลึกลับของเขาให้ลอยออกมาจากฝ่ามือ

” ชีชีชี “

ปอยผลึก พลังปราณลึกลับลอยออกมาจากมือของเขามันเหมือนกับสายฟ้าห้าสาย

กระแสพลังปราณลึกลับทั้งห้าสาย พวกมันเคลื่อนไหวไปรอบๆมือของเขาเหมือนกับว่าพวกมันมีชีวิต แต่มันก็ไม่สามารถลอยออกไปได้ไกลนัก

” นี่ยังคงไม่ถูกต้อง”

ฉื่อหยานลืมตาขึ้นและจ้องมองไปที่พลังปราณลึกลับที่อยู่บนนิ้วของเขา ใบหน้าของเขาก็แสดงความผิดหวังออกมาพร้อมกับที่เขาขมวดคิ้ว และพึมพำกับตัวเองว่า ” ต้องมีอะไรสักอย่างที่ผิดพลาดแน่ นี่มันไม่ได้บ่งบอกถึงความสำเร็จเลย ข้าควรทำเช่นไรดี “

เขาพึมพำกับตัวเองอย่างเบาๆ และเขาก็เริ่มถอนพลังปราณลึกลับจากนิ้วมือของเขากลับมาทีละน้อย

ฉื่อหยาน จมลึกลงในความคิดของเขาอีกครั้ง ตั้งสมาธิและพยายามที่จะค้นหาความจริงเกี่ยวกับผลึกนี่อีกครั้ง

 

––––––––––––––––––––––––

ปล. ขออภัยที่ผิดนัดครับ พอดีปิดพึ่งปิดโปรเจคกลุ่ม 4 แล้วก็กำลังจะเปิดกลุ่ม50 เลยยุ่งๆ ลงอีก 3 ตอน ในวันที่ 66/2560 ตอนนี้กลุ่มลับของเราถึงตอนที่ 230 แล้วจ้า สนใจอ่านรายระเอียดได้ที่โพสปักหมุดของเพจเลยครับ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

 

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset