เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 84 บึงมรณะ

บทที่ 84 บึงมรณะ

 

ชิ เสี่ยว มาถึงในสองวันต่อมา และกองกำลังที่จะไปสำรวจประตูสวรรค์ก็ได้รวมตัวกันอย่างสมบูรณ์

บึงมรณะประกอบไปด้วยหลายพันของหนองน้ำที่มรขนาดแตกต่างกันออกไป

บึงเหล่านี้ยังคงมีอยู่มานานหลายศตวรรษ ใครก็ตามที่ก้าวเข้ามาในที่แห่งนี้ส่วนใหญ่จะไม่สามารถหลบหนีออกไปได้และในที่สุดต้องจมลงไปในบึง

มันเป็นเรื่องยากมากที่จะเดินทางในหนองน้ำ พวกเขาพักรถม้าและม้าอยู่ไว้ที่ทางเข้า และกลุ่มของพวกเขาก็เริ่มเดินเข้าไปในบึง

ทันทีที่พวกเขาก้าวเข้ามา ฉื่อหยาน ก็แจ้งเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้น

มีหนองน้ำสีเขียวไม่มีที่สิ้นสุดในบึงมรณะแห่งนี้ ซึ่งส่วนมากพวกมันจะปลดปล่อยอากาศสีเขียวออกมา

ในบางสถานที่ อากาศก็เป็นพิษที่สามารถทำให้ผู้คนเน่าตายทันทีที่เมื่อเขาสูดมันเข้าไปแล้ว

นอกจากบึงและพิษในอากาศแล้วก็มีอสูรที่หลบซ่อนอยู่

ปีศาจสัตว์ได้ปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อม พวกเขามักจะซ่อนอยู่ในหนองน้ำ และกระโดดออกไปโจมตีเมื่อใดก็ตามที่ผู้คนผ่านไปมา

ชิ เสี่ยว เซี่ยซินหยาน ได้เดินนำหน้าและหลีกเลี่ยงพวกมัน .

ชิเสี่ยวเป็นนักรบในระดับนภา เขาจึงสามารถหลีกเลี่ยงบึงโดยการบินอยู่ในอากาศ

ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกกลัว เหมือนคนอื่นๆ แม้แต่เซี่ยซินหยานเองก็กลัวเช่นกันนางจะอยู่ในระดับนภาได้ก็ต่อเมื่อนางใช้จิตวิญญานต่อสู้เท่านั้น นั่นนางจึงจะสามารถบินได้

อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่เซี่ยซินหยานใช้จิตวิญญานต่อสู้ พลังของนางก็จะได้รับความเสียหาย

ดังนั้นเซี่ยซินหยาน จึงไม่ค่อยได้ใช้มันนัก หากไม่เกิดเหตุฉุกเฉืน นางค่อนข้างระมัดระวังและไปตามทางที่ชิเสียวนำ

ฉื่อหยานมีระดับการบ่มเพาะต่ำที่สุดในพวกเขา และรวมไปถึงความประสบการ์ต่างๆด้วย

ดังนั้น หลังจากที่เขามายังบึงมรณะ เขาก็เอาแต่เงียบ และค่อยๆสังเกตอันตรายในหนองน้ำ รวมถึงสังเกตุปฏิกิริยาของชิเสี่ยวและคนอื่น ๆด้วย

” เราจะต้องเดินทางในบึงไกลอีกสามไมล์ เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ” ชิเสี่ยวหยุดยืนอยู่บนพื้นที่เปียกชื้นและขมวดคิ้ว ” บึงนี้สมควรปลอดภัย แต่ต้องระวังรอบๆบริเวณนี้เอาไว้ เวลานี้เราห้ามทำการใดที่เป็นความเสี่ยง ” .

ใบหน้าของฉื่อหยานกลายเป็นแข็งทื้อเมื่อมองไปที่หนองน้ำตรงหน้า เขาก็ขมวดคิ้ว

บึงยาวออกไปถึงสามไมล์และเต็มไปด้วยโคลนสีเขียว ที่ศูนย์กลางมีชิ้นส่วนของพื้นดินแห้ง ที่พอสำหรับให้คนสองถึงสามคนยืน

บางส่วนก็มีพื้นที่ หลายสิบเมตร ในขณะที่บางส่วนมีเพียงเพียงสองหรือสามเมตรเท่านั้น มันอาจจะปลอดภัยหากเดินทางผ่านพื้นดินแห้งเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม ชิเสี่ยวก็ได้พูดขัดกับความคิดของเขา

” อย่าหวังว่าพื้นดินแห้งจะรองรับน้ำหนักได้ มันจะจมได้เร็วขึ้นเมื่อคุณเมื่อเจ้าขึ้นมาเหยียบพวกมัน พื้นดินแห้งส่วนมากในบึงแห่งนี้ไม่สามารถพยุงน้ำหนักใดๆได้เลย เมื่อเจ้าก้าวไป มันก็จะจมอย่างรวดเร็ว “

ฉื่อหยานหันไปอย่างตกตะลึงและไม่พูดสิ่งใด

” ไม่ต้องกังวล ข้าจะต้นหาพื้นที่แห้งที้แข็งแร่งให้เอง” ชิเสี่ยวที่เห็นถึงความกังวลของพวกเขาก็ยิ้มและพูดขึ้นมา ” มันจะผ่านไปด้วยดี หากพวกเจ้าทำตามที่ข้าบอก แต่ว่าบางส่วนมีพื้นที่ค่อนข้างเล็ก พวกมันเพียงพอรับน้ำหนักของข้าเพียงเท่านั้น แต่ไม่สามารถรับน้ำหนักได้ถึงสามหรือสี่คนได้นานนัก ดังนั้นเราก็ยังคงต้องระมัดระวังไว้ “

ทุกคนพยักหน้าด้วยใบจริงจัง แม้แต่ซั่วฉื่อที่ค่อนข้างผ่อนคลายก่อนหน้านี้ ก็เริ่มมีความกังวลเล็กน้อย และสังเกตที่พื้นดินก่อนที่นางจะระมัดระวัง

” แม่นางเซี่ย ที่นี่อาจจะมีอันตรายได้ เจ้าสามารถใช้พลังในระดับนภาช่วยเหลือข้าได้หรือไม่ ? ” ชิ เสี่ยว ลังเล ก่อนจะมองไปที่เซียซินหยานและพูดขึ้นมา

ดวงตาใสเหมือนคริสตัลของเซียซินหยานที่อยู่หลังผ้าคลุมตกอยู่ในความกังวล หลังจากที่คิดสักพักนางก็กล่าวว่า ” ท่านชิเสี่ยว ถ้าท่านพอที่จะสามารถจัดการกับมันได้เอง เช่นนั้นท่านก็ทำเถอะ ข้าจะอ่อนแอลงสักพักหลังจากได้เร่งพลังไปถึงระดับนภา ข้าต้องการให้ประหยัดพลังงานไว้สำหรับอสรพิษเก้าหัวเท่านั้น แต่ไม่ใช่บึงเหล่านี้ . “

ได้ยินดังนั้น ซั่วฉื่อ และ หวู่หยุนเหลียนก็แอบขมวดคิ้ว .

พวกนางคิดว่านางคงไม่อยากช่วย และพวกนางก็มองว่าเซี่ยซินหยานเป็นสหาย ดังนั้น พวกนางจุงผิดหวังนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้แสดงมันออกมา

ชิ เสี่ยว ก็ไม่ได้สนใจ เขาพยักหน้า ” งั้นข้าจะทำใมันเอง แต่เจ้าจะต้องระวังตัวให้มาก เพราะหากเกิดอะไรขึ้นก็จะไม่มีใครช่วยได้ ห้ามเดินไปที่อื่นนอกจากตามทางที่ข้าผ่าน มันจะยากสำหรับข้าที่จะช่วยพวกเจ้าเมื่อพวกเจ้าจมลงไปในโคลน “

ทั้งกลุ่มพยักหน้ากันอย่างจริงจัง

” ดี งั้นตามข้ามา ” ชิเสี่ยวเอาควบคุมลมปราณให้พยุงเท้าจากนั้นก็ลอยขึ้น และลงจอดบนพื้นดินแห้ง

เขาวางเท้าหนึ่งบนมันและมันก็จมลงไปในบึงทันที

สีหน้าของฉื่อหยานเปลี่ยนไปเล็กน้อยและดวงตาของเขาก็กลายเป็นเคร่งคึม จู่ๆ เขาก็ตระหนักได้ว่า การเดินทางอาจจะไม่ราบรื่นเหมือนที่เขาคิดไว้ ดังนั้น เขาจะต้องระวังให้มากขึ้น

ชิ เสี่ยว พูดอธิบายออกมาอย่างสงบ และมองไปที่พื้นดินแห้งที่จมลงไป ” พวกเจ้าเห็นหรือไม่ พื้นดินนี้ไม่สามารถรองรับคนได้แม้แต่คนเดียว ถ้าพวกเจ้ากระโดดลงไป พวกเจ้าต้องจมไปกับมันแน่นอน ” .

ในขณะที่พูด เขาก็บินขึ้นอีกครั้งและลงเหยียบบนพื้นส่วนอื่น ๆ และเขาก็พบว่า พื้นดินแห้งที่เขาเหยียบอยู่แข็งแรงและยังไม่จม

 

” นี่ ถือว่าดี แต่ก็ระวังไว้ด้วย มันอาจจะอันตราย หากมีคนจำนวนมากมาเหยียบมัน . ” ชิเสี่ยวยืนอยู่บนนั้นและกล่าวเตือน

ไม่นานผืนดินแห้งที่เหยียบอยู่ก็ค่อยๆสั่นและจมลงไปเล็กน้อย

” ผืนดินนส่วนนี้ยืนได้เพียงสามคนเท่านั้น และห้ามอยู่นานให้ผ่านไปทันที ” ชิ เสี่ยว อธิบาย และบินไปอีกครั้ง ด้วยวิธีเดียวกัน เขาก็ทดสอบผืนดินแห้งส่วนอื่น

รอจนกว่าชิเสี่ยวจะบินไปไกล 100 เมตร , เซี่ยซินหยานก็กล่าวอย่างใจเย็น ” ไปกันเถอะ “

แล้วนางก็ย้ายร่างกายที่งดงามของนาง ค่อย ๆก้าวไปยังผืนดินแห้งเหล่านั้น

หลังจากข้ามมาสองส่วน นางก็เคลื่อนไหวอีกครั้งไปยังพื้นที่ปลอดภัยและตามหลังชิเสี่ยวไปอย่างรวดเร็ว

ชายร่างใหญ่ทั้งสองก็ก้าวตามนางต่อไปโดยไม่ลังเล พวกมันก้าวหนึ่งตามหลังนางไปติดๆโดยห่างกันเพียงผืนดินแห้งส่วนเดียว

ซั่วฉื่อ , หวู่หยุนเหลียน และซู่ปิงก็ติดตามไปยังผืนดินแห้งที่เซี่ยซินหยานได้ผ่านไป

” นายน้อย ตาท่านแล้ว ” ฮันเฟิงพูดเตือนฉื่อหยาน ” ระวังตัวด้วย “

” อืม . . . ” ฉื่อหยานพยักหน้า และกระโดดไปข้างหน้า แล้วค่อยๆ เคลื่อนไหวตามซั่วฉื่อไป

ปรากฏเป็นแสงสว่างมีกลิ่นเหมือนกรดเหนือบึง

หลังจากที่พวกเขาเข้ามาในบึงได้หลายไมล์ ฉื่อหยานก็พบฟองอากาศที่เสียวที่เพิ่มมากขึ้น ก๊าสนั่นเป็นฟองสีเขียวและระเบิดเดือดออกมา

” ระวังก๊าซสีเขียวไว้ นั่นคือยาพิษ อย่าได้สูดดมเข้าไป ” เสียงของชิเสี่ยวดังมาจากข้างหน้า ” เราทุกคนมีระดับการบ่มเพราะค่อนข้างสูงดังนั้นมันจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเราที่จะกลั้นลมหายใจของเราในขณะนี้ ข้าจะหาวิธีที่เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รอข้าก่อน ”

ชิเสี่ยวไม่ได้หยุดเดินตามที่เขาพูด เขากระโดดไปยังผืนดินแห้งส่วนต่อไป และก็พูดรายงาน ” ส่วนนี้ ผ่านไปได้ แต่ระวังหน่อยมันรองรับได้เพียง 2 คนเท่านั้น . . . . . . . “

ฉื่อหยานมองไปที่ชิเสียวและจำขั้นตอนการสังเกตุของเขา

ตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกชื่นชมนักรบในระดับนภาเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาสามารถบินผ่านหนองน้ำนี้โดยไม่ได้รับความลำบากมากนัก

ความปรารถนาของเขาคือความแข็งแกร่งที่มากขึ้นและการบรรลุถึงระดับที่สูงขึ้นจากนั้นก็เป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่

ด้วยการนำของชิเสี่ยวที่อยู่ด้านหน้าพวกเขา ทั้งกลุ่มก็พบว่ามันง่ายมากที่จะก้าวเดินไป ทุกคนยกเว้นชิเสี่ยว นั้น จึงค่อนข้างที่จะผ่อนคลาย

พวกเขาทั้งหมดปลอดภัยได้ก้าวเดินอย่างปลอดภัยในบึงที่แสนอันตรายแห่งนี้ ซึ่งมีนักรบหลายคนได้ตกตายไป

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขากำลังใกล้จะออกจากบึงแห่งนี้ สีหน้าของชิเสี่ยวก็เปลี่ยนไปและเขาก็ร้องออกมา ” ระวัง ! มีบางอย่างในโคลน ! “

” ป๊อป ! ป๊อป ! ป๊อป ! “

เป็นสัตอสูรสามตัวที่ซ่อนอยู่ในบึงโผล่ขึ้นมา และกระโดดไปที่ฉื่อหยาน กับเซี่ยซินหยาน

สัตว์อสูรประเภทนี้เหมือนกับปลาชนิดหนึ่ง มันมีฟันที่แหลมคมและกระดูกที่เหมือนหนามพุ่งออกมาด้านหลัง

สัตอสูรสามตัวกระโดดออกมาจากโคลน สองตัวพุ่งไปยังเซี่ยซินหยานและคนอื่นๆ อีกหนึ่งตัวพุ่งไปยัง ต่อฉื่อหยาน

ฉื่อหยานดูสงบนิ่ง เช่นเดียวกับปีศาจอสูรกำลังกระโจนมาที่เขา เขาเหยียดมือขวาออกไปและทำให้มันกลายเป็นกายาแข็งทันที และใช้ [ ดรรชนรย์ทะลวง ] ไปที่สัตว์อสูรทันที !

 

” ชี “

สัตอสูรก็ประทะกับมือขวาของฉื่อหยาน แต่มันก็ไม่สามารถทำอะไรฉื่อหยาได้เลย ในทางตรงกันข้าม หัวของมันกลับถูกนิ้วของฉื่อหยานแทงทะลุ จนปรากฏเป็นเลือดสีเขียวไหลนองออกมาจากหัวก่อนที่มันจะจมในหนองน้ำ

” บูม บูม “

เสียงระเบิดสองครั้งดึงขึ้นมาจากทางด้านเซี่ยซินหยาน

ฉื่อหยานกลับพบว่า สัตอสูรทั้งสองตัวร่างของพวกมันระเบิดออกมาก่อนที่จะถึงตัวเซี่ยซินหยาน มันตกและจมลงไปยังบึง

ความรู้สึกชา เริ่มปรากฏมาจากฝ่ามือด้านขวาของเขา ซึ่งถูกปกคลุมด้วยเลือดสีเขียว ฉื่อหยานขมวดคิ้ว และน้ำผ้าออกจากกระเป๋าเช็ดไปยังเลือดที่เปรอะอยู่

หลังจากนั้น ก็มีสัตอสูรนับจำนวนมากโผล่ออกมาจากบึงสีเขียว , พวกมันปรากฏปกคลุมไปทั่วบึง ; จำนวนถึงประมาณหนึ่งร้อยโดยนับคร่าวๆ

เหล่าสัตอสูรจ้องมองไปยังพวกเขาอย่างเกลียดชัง ราวกับว่าพวกมันกลื่นกิน

” ฉื่อหยาน , มือของเจ้าเปรอะเลือดสีเขียวของปลานั่นงั้นรึ ? ” ชิ เสี่ยวก็ตะโกนมาจากด้านหน้า

ฉื่อหยานเช็ดคราบเลือดสีเขียวไปเรื่อยๆและ มองไปยังชิเสี่ยว ” มีอะไรผิดปกติงั้นรึ ? “

” ปลานั่นมีก๊าสพิษสีเขียวจำนวนมากในร่างกายและนั่นก็ทำให้เลือดของมันเต็มไปด้วยพิษ มันจะกัดกินนิ้วของเจ้า ! ” ชิ เสี่ยว ค่อนข้างเศร้าใจ ” ข้าตั้งใจจะบอกเจ้าหลังจากเราผ่านบึงนี้ไป ข้าไม่คิดว่าพวกมันจะปรากฏออกมาเช่นนี้ . “

” ชิ เสี่ยว เจ้ามาทำอะไรที่นี่ “

เป็นชายหัวโล้นหน้าตาน่าเกลียดที่จมอยู่ในโคลนค่อยๆผุดขึ้นจากหนองน้ำ ร่างกายของมันครึ่งหนึงก็ปรากฏตัวขึ้น มันจ้องไปที่ชิเสี่ยวและด่าว่า ” คราวที่แล้วเจ้าขโมยสมุนไพรเขียวของข้าไป ตอนนี้เจ้ายังต้องการอะไรอีก “

––––––––––––––––––––––––

ปล. ลงอีก 3 ตอน ในวันที่ 12/6/2560 ตอนนี้กลุ่มลับของเราเริ่มลงตอนที่ 231 แล้วจ้า สนใจอ่านรายระเอียดได้ที่โพสปักหมุดของเพจเลยครับ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset