เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 12: นายท่านเชิ่งจากเมืองหลวง

 
ย่าเจี่ยนปลอบโยนเจี่ยนอีหลิงอีกครั้งว่า “หลานรัก ในเมื่อหลานได้ยอมรับว่าทำผิดแล้ว หลานห้ามทำผิดอีกในอนาคตนะ หากมีใครทำให้หลานโกรธอีกก็อย่าหุนหันพลันแล่น หากไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีให้บอกย่า ตกลงนะ”
 
การปกป้องของย่าเจี่ยนนั้นไม่ใช่แค่เพียงระยะเวลาสั้นๆ
 
เธอปกป้องตระกูลเจี่ยน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจี่ยนอีหลิง
 
เจี่ยนอีหลิงและเจี่ยนชูฉิงอยู่ที่บ้านเก่าตระกูลเจี่ยนเพื่อรับประทานอาหารค่ำ
 
หลังจากอาหารค่ำแล้ว ทุกคนก็มานั่งรวมกันจิบชา
 
ในเวลานี้ปู่เจี่ยนก็ได้ถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ล่าสุดที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นในเมืองเหิงเหย่วน
 
“ฉันได้ยินว่าหลานตาแก่ในเมืองหลวงมาที่เมืองเหิงเหย่วนของเราไม่นานมานี้อย่างงั้นเหรอ” ปู่เจี่ยนไม่ได้พูดเฉพาะเจาะจง แต่เจี่ยนชูฉิงรู้ว่าใครคือตาแก่ที่กำลังถูกพูดถึง มีเพียงแต่ชายคนนั้นที่มีค่าให้ปู่เจี่ยนพูดถึง
 
“ใช่ เขามาที่นี่” เจี่ยนชูฉิงยืนยันข่าว
 
ข่าวถูกเผยแพร่โดยตระกูลจ๋ายอย่างจงใจ เพื่อที่ต้องการให้ผู้คนในเมืองเหิงเหย่วนให้ความสนใจกับเรื่องนี้
 
“เช่นนั้นเธอก็ควรให้ความสนใจแล้วก็พยายามเว้นระยะห่างจากเขาไว้ ตระกูลจ๋ายนั้นเป็นตัวยุ่งยากที่สุด ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ นั่นก็จักเป็นปัญหา” กระทั่งปู่เจี่ยนที่มีความเข้าใจในเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งยังเกิดความกังวล
 
“ไม่ต้องกังวล พ่อ ผมรู้แล้ว” เจี่ยนชูฉิงรู้ดี “แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมตระกูลจ๋ายจึงกังวลเกี่ยวกับเขานัก แม้ว่าตระกูลจ๋ายจะมีทายาทเหลือเพียงคนเดียว แต่ตอนนี้เขาก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว มันไม่ควรเป็นแบบนี้…”
 
เจี่ยนชูฉินค่อนข้างจะสับสนกับวิธีที่ตระกูลจ๋ายดูแลลูกหลาน
 
ปู่เจี่ยนพูดด้วยอารมณ์ว่า “คุณชายเชิ่งคนนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นทายาทของตระกูลจ๋าย แต่เขายังมีหัวใจอ่อนแอตั้งแต่เกิด ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาเขาก็จะตาย ตัวของเขาได้รับการปกป้องจากตระกูลจ๋ายตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้”
 
ข่าวของปู่เจี่ยนนั้นได้รับมาจากเพื่อนสนิทที่อยู่ในเมืองหลวง ซึ่งไม่ใช่ความลับอะไรในเมืองหลวง
 
เจี่ยนชูฉิงกล่าวว่า “ผมไม่เข้าใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณชายเชิ่งกับกลุ่มเทียนซิงเป็นอย่างไร ครั้งนี้เขามาที่เมืองเหิงเหย่วน ไม่เพียงแต่ผมได้รับข่าวจากตระกูลจ๋ายในเมืองหลวง แต่ยังได้รับข่าวสารจากกลุ่มเทียนซิงด้วย”
 
ปู่เจี่ยนรู้เหตุผล “เจ้าของกลุ่มเทียนซิงไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นนายท่านคนที่สองของตระกูลจ๋าย และมีความสัมพันธ์เป็นลุงของนายท่านเชิ่ง ในปีแรกๆ นายท่านสองนี้เป็นคนดุร้ายและไม่ค่อยอยู่ในกฏเกณฑ์ เขาก่อปัญหาและทำให้เกิดศัตรูมากมาย ยามเมื่อศัตรูมาหาเขาเพื่อแก้แค้น พี่ชายคนโตของเขาได้ตายลงเพื่อที่จะปกป้องเขา นายท่านสองนี้ได้แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดของตนเอง เขารู้สึกละอายใจต่อพี่ชาย ดังนั้นหลายปีมานี้เขาจึงไม่ยอมแต่งงาน และนอกจากการทำงานแล้วก็เป็นการดูแลหลานชายของเขา เขายังประกาศต่อสาธารณะว่าอาณาจักรธุรกิจของเขานั้นจะทิ้งไว้ให้หลานของเขาในอนาคต”
 
เหตุผลเรื่องนี้ไม่ได้เป็นที่รู้ักันโดยทั่วไป และเช่นเดียวกัน ปู่เจี่ยนก็ได้ข่าวนี้มาจากเพื่อนเก่าในเป่ยจิงเช่นเดียวกัน
 
เพราะว่านายท่านสองตระกูลจ๋ายละอายใจต่อพี่ชายและตระกูล เขาจึงไม่ได้เอ่ยถึงต้นตอของตนเองเมื่อตอนที่เขาเข้าสู่วงการธุรกิจในตอนแรก ทุกคนเพียงแต่รู้ว่าเขามีนามสกุลจ๋าย พวกเขาไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของเขากับตระกูลจ๋ายอันโด่งดัง
 
“ไม่คาดคิดว่า กลุ่มเทียนซิงและตระกูลจ๋ายจะมีความสัมพันธ์กันแบบนั้น”
 
นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจไม่น้อย เพราะว่าเบื้องหลังหรือความแข็งแกร่ง ตระกูลเจี่ยน ไม่อาจจะเทียบกับตระกูลจ๋ายหรือกลุ่มเทียนซิงได้
 
เจี่ยนอีหลิงถือถ้วยชาจิบอยู่ในขณะที่เธอฟังพ่อกับปู่ของเธอพูดคุยกัน
 
เมืองหลวง นามสกุล จ๋าย
 
ชื่อนี้โผล่ขึ้นมาในใจของเจี่ยนอีหลิง
 
เป็นเขา วายร้ายของหนังสือเล่มนี้ เขาเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดที่พระเอกต้องเผชิญหลังจากกลับไปที่เมืองหลวง
 

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset