เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 65: เกรดไม่ค่อยดีเท่าไหร่

 
หลังจากที่พูดกับศาสตราจารย์ฉื่อแล้ว ศาสตราจารย์ฉื่อก็ขอให้เฉิงอี้ขับรถไปส่งเจี่ยนอีหลิงกลับ
“เฉิงอี้ เธอต้องขับรถไปส่งเธอผู้นี้อย่างปลอดภัย หรือไม่ก็ไม่ต้องกลับมาอีก”
“ผมทราบครับอาจารย์”
เมื่ออาจารย์พบสมบัติ เฉิงอี้ก็กลายเป็นหญ้าข้างทาง
“อีหลิง บ้านเธออยู่ที่ไหน” เฉิงอี้ถามเจี่ยนอีหลิง
“ไปที่โรงเรียนมัธยมเชิ่งหัว” เจี่ยนอีหลิงกล่าว
เจี่ยนอีหลิงยังคงมีเวลากลับไปยังโรงเรียนก่อนที่ย่าจะมารับตัวเธอ
เฉิงอี้ไม่ได้ซักถามเธอเพิ่มเติม เมื่อเจี่ยนอีหลิงพูดว่าเธอต้องการกลับไปโรงเรียน ดังนั้นเขาก็จะส่งเธอกลับไปที่โรงเรียน
เฉิงอี้ไปเอารถ รถของเขาดูเรียบง่ายเมื่อมองจากด้านนอก แต่ภายในนั้นเลือกเฟ้นอย่างมีรสนิยม
เจี่ยนอีหลิงยังพบอีกว่ากระจกรถของเฉิงอี้นั้นเป็นกระจกกันกระสุน และมีความปลอดภัยสูง
ไม่มีอะไรที่อยู่ภายในสถาบันวิจัยทางการแพทย์ฮุ่ยหลิงจะเป็นของธรรมดาทั่วไป และเฉิงอี้เองก็แน่นอนว่าไม่ได้เป็นข้อยกเว้น
เมื่อเฉิงอี้ขับรถพาเจี่ยนอีหลิงผ่านประตู รปภ.ก็ยิ้มอย่างกระอ่วนและไม่กล้าที่จะมองไปยังเจี่ยนอีหลิงโดยตรง
ในขณะขับรถ เฉิงอี้ก็อดไม่ได้ที่จะถามเจี่ยนอีหลิงถึงปัญหาคาใจ
“ว่าแต่ว่า ทำไมชื่อย่อของเธอจึงเป็น FS”
“ลบสิบ*”
เฉิงอี้ชะงัก จากนั้นก็พลันคิดถึงเรื่องบางอย่างจากนั้นก็หัวเราะขึ้นมา
“ฉันเข้าแล้ว ถ้างั้นฉันต้องเปลี่ยนชื่อย่อเมื่อตอนกลับมา ฉันต้องเรียกว่า X1**”
หลังจากที่ Cheng Yi เข้าใจความหมาย เขาก็คิดคำย่อใหม่สำหรับตัวเอง
เฉิงอี้ส่งเจี่ยนอีหลิงไปที่โรงเรียนและหันตัวเพื่อที่จะจากไปหลังจากที่เห็นเธอเดินเข้าประตูโรงเรียนไปแล้ว
ขณะที่รถกำลังจะออกไปนั้น หัวหน้าแผนกการสอนได้เห็นเขาและจำเฉิงอี้ซึ่งกำลังขับรถได้ จึงรีบเข้าไปหา
“ด็อกเตอร์เฉิง” หัวหน้าแผนกการสอนทั้งตื่นเต้นและระมัดระวังตัวอยู่บ้าง
หัวหน้าแผนกการสอนรู้จักเฉิงอี้เพราะว่าครั้งหนึ่งญาติของเขาได้รับเลือกให้เข้าร่วมการทดลองทางคลินิกสำหรับยาใหม่ของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ฮุ่ยหลิง
และเขาก็ได้มีโอกาสได้สัมผัสกับคนจากสถาบันฮุ่ยหลิงเช่นกัน ซึ่งรวมไปถึงเฉิงอี้ด้วย
หัวหน้าแผนกการสอนมีความเคารพและชื่นชมต่อคนในสถาบันทางการแพทย์ฮุ่ยหลิงเป็นอย่างมาก
ยังไม่พูดถึงว่าตัวเขาเองบางทีอาจจะป่วยในอนาคต และเขาก็อาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากสถาบันวิจัยทางการแพทย์ฮุ่ยหลิงเช่นกัน
ดังนั้นแน่นอนว่าไม่มีทางผิดพลาดกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในสถาบัน
เฉิงอี้ลดกระจกหน้าต่าง มือขวาของเขาดันกรอบแว่นตาด้วยความเคยชิน ยิ้มตอบกลับหัวหน้าฝ่ายการสอนอย่างสุภาพ “อาจารย์หลี่”
“การที่ด็อกเตอร์เฉิงจำผมได้ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูง”
หัวหน้าฝ่ายการสอนยิ้มเต็มหน้า เขาดีใจเป็นพิเศษเพราะว่าเฉิงอี้จำเขาได้
ความจริงแล้วที่เฉิงอี้จำหัวหน้าฝ่ายการสอนได้นั้นไม่มีอะไรมาก เพราะว่าเขาเป็นคนมีความจำดี ไม่ใช่เพราะว่ามีบางอย่างเป็นพิเศษที่หัวหน้าฝ่ายการสอนได้สร้างความประทับใจลึกซึ้งให้กับเขา
จากนั้นหัวหน้าฝ่ายการสอนได้ถามว่า “ด็อกเตอร์เฉิง ทำไมคุณถึงมาที่โรงเรียนมัธยมเชิ่งหัวของพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นธุระอะไร มีความต้องการอะไร บอกผม ไม่มีใครในโรงเรียนนี้คุ้นเคยกับสิ่งต่างๆในโรงเรียนนี้มากกว่าผมแล้ว”
เขาเป็นหัวหน้าฝ่ายการสอน เป็นธรรมดาที่เขาจะต้องคุ้นเคยกับทุกสิ่งทุกอย่างภายในโรงเรียน
เดิมทีเฉิงอี้ไม่ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยวกับหัวหน้าฝ่ายการสอน แต่เมื่อเขานึกถึงเจี่ยนอีหลิง เขาก็พลันเกิดความอยากรู้
“คุณรู้จักนักเรียนหญิงชื่อเจี่ยนอีหลิงไหม”
“ทำไมด็อกเตอร์เฉิงจึงถามถึงเธอ” รอยยิ้มบนใบหน้าของหัวหน้าฝ่ายการสอนนั้นเห็นได้ชัดว่าจางลงไปเมื่อพูดถึงเจี่ยนอีหลิง
เจี่ยนอีหลิงเป็นความอับอายของโรงเรียนของพวกเขา ในฐานะหัวหน้าฝ่ายการสอน แน่นอนว่าเขาหวังที่จะพูดเกี่ยวกับแง่มุมดีๆของโรงเรียน ไม่ใช่กับเรื่องนักเรียนที่แย่
“เธอมีปัญหาอะไรเหรอ” เฉิงอี้หรี่ตา เมื่อเห็นปฏิกิริยาของหัวหน้าฝ่ายการสอนแตกต่างไปจากที่เขาคาดไว้
“เธอ… เธอไม่มีอะไร เพียงแต่เกรดของเธอไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
ผู้แต่ง: หยู่เจี๋ยเป็นลูกพี่ลูกน้อง ไม่ใช่พี่น้อง พวกเขามีชื่อสกุลเดียวกันคือ เจี่ยน อย่างอื่นนั้นต่างออกไป
———————————————————-
FS* มาจากภาษาจีน 负十 อ่านว่า ฟู่ฉี หรือ Fù shí และได้อักษร F กับ S มาจากเสียงอ่านภาษาอังกฤษ แปลว่า ลบสิบ(-10) ในขณะเดียวกันชื่อ เจี่ยนอีหลิง คำว่า เจี่ยน 简 นั้นออกเสียงเหมือนคำว่า เจี่ยน 减 ซึ่งแปลว่า ลบ(-) และคำว่าอีหลิง 一凌 อ่านออกเสียงเหมือนกับคำว่า อีหลิง 一零 ซึ่งแปลว่า หนึ่งศูนย์ หรือเลข 10 นั่นเอง
X1** มาจากคำว่า คูณ กับคำว่า 1 ในภาษาจีน 乘一 (x1) ซึ่งอ่านได้ว่า เฉิงอี Chéng yī คล้ายกับชื่อของเฉิงอี้ 程易 Chéng yì

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
Status: Ongoing
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset