เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ – ตอนที่ 261-262

大姐大 บทที่ 261 ป้าโม่ถูกไล่ออก 4

 

การตอบสนองของเจี่ยนหยุ่นน่าว เหมือนกับเข็มที่แทงเข้าไปในหัวใจของโม่ชืออวิ้น

 

ถึงเธอจะเคยคาดเดามาก่อน เมื่อถึงตอนนี้เธอก็สามารถสรุปได้อย่างสมบูรณ์ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเจี่ยนหยุ่นน่าวกับเธอนั้นพังทลายลงไปแล้ว

 

ส่วนสาเหตุที่เลิกรานั้นเจี่ยนหยุ่นน่าวไม่พูดออกมาแม้แต่น้อย ไม่แม้แต่จะซักถามหรือทะเลาะกัน

 

เขาตัดสินโทษตายของเธอเพียงฝ่ายเดียวอย่างเงียบๆ

 

โม่ชืออวิ้นยังคงมีความหยิ่งผยองอยู่ในกระดูกของเธอ แม้จะเป็นเพียงแค่ทัศนคติของเจี่ยนหยุ่นน่าวที่เปลี่ยนไป เธอก็จะไม่ยอมลดตัวเองไปถามเขาว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้

 

แต่วันนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาของเธอคนเดียว แต่รวมถึงแม่เธอด้วย

 

ดังนั้นโม่ชืออวิ้นจึงเปลี่ยนท่าทีก่อนหน้านี้ ทันใดนั้นเธอก็ก้าวไปข้างหน้าและมาที่หน้าต่างรถ

 

“หยุ่นน่าว เกิดอะไรขึ้น อย่างน้อยก็บอกเหตุผลให้ฉันรู้ทีสิ”

 

“ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม” เจี่ยนหยุ่นน่าวก็เห็นพวกเธอยืนอยู่พร้อมกระเป๋าเดินทางที่ประตูบ้านเช่นกัน นั่นหมายความว่าพวกเธอถูกเชิญออกจากบ้านตระกูลเจี่ยน

 

“หยุ่นน่าว เรารู้จักกันมานานกว่าสองปี แน่ใจหรือว่าต้องการเลิกติดต่อกันแบบนี้ ทั้งยังไม่ให้เหตุผลกับฉัน”

 

“เรารู้จักกันมากว่าสองปีแล้ว …” เจี่ยนหยุ่นน่าวพูดทวน “โม่ชืออวิ้น ฉันต้องบอกว่าฉันไม่รู้เกี่ยวกับเธอกับแม่ของเธอเลย และฉันก็ไม่สนใจในเรื่องการจ้างคนรับใช้ของครอบครัวด้วย”

 

เรื่องการจ้างคนรับใช้

 

ประโยคนี้ประโยคเดียวได้ดึงโม่ชืออวิ้นให้กลับคืนสู่ความเป็นจริงที่ขมขื่นที่สุด

 

คนรับใช้ กลับกลายเป็นว่าในหัวใจของเจี่ยนหยุ่นน่าวเธอเองก็ยังคงเป็นเพียงลูกสาวของคนรับใช้ในบ้านของเขา

 

อ่านบทล่าสุดที่ my-novel.co หรือ www.thai-novel.com

 

เธอคิดว่าในบ้านตระกูลเจี่ยน อย่างน้อยเขาก็แตกต่าง

 

“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว” โม่ชืออวิ้นดึงดัน ไม่ยอมที่จะแสดงสีหน้าเศร้า

 

ถึงจะเป็นลูกสาวของคนรับใช้ ก็ต้องมีความนับถือตนเองเช่นเดียวกัน

 

โม่ชืออวิ้นหันตัวกลับและพาแม่เธอจากไป

 

“แม่ เราไปกันเถอะ”

 

“ชืออวิ้น…” ป้าโม่ถูกลูกสาวลากออกไป เธอหันหน้ากลับมาอย่างไม่เต็มใจ เธอยังไม่ได้รอจนกว่าคุณท่านคุณนายจะกลับมา เธอยังไม่ยอมแพ้

 

“แม่ หยุดพูด ไปกันเถอะ” โม่ชืออวิ้นกล่าวอย่างหนักแน่น

 

ต่อให้พวกเธอจะออกจากบ้านตระกูลเจี่ยน พวกเธอก็จะยังอยู่ได้

 

แม้ชีวิตจะขมขื่นอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยก็อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี

 

โม่ชืออวิ้นและป้าโม่เดินไปได้เพียงสิบเมตร พวกเธอมีกระเป๋าเยอะเดินไกลไม่ได้ ต้องรอให้รถมาเท่านั้น

 

เมื่อโม่ชืออวิ้นมองกลับไปที่ประตูคฤหาสน์ตระกูลเจี่ยน รถของเจี่ยนหยุ่นน่าวได้ขับเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลเจี่ยนเรียบร้อยแล้ว ประตูเหล็กขนาดใหญ่ก็ได้ปิดลงไปแล้ว

 

เพราะต้องรอรถบัส สองแม่ลูกต้องรอท่ามกลางลมหนาวเป็นเวลานาน

 

ในตอนนี้ ก็มีรถคันหรูหยุดอยู่ตรงหน้าสองแม่ลูก

 

ตอนแรกแม่ลูกไม่ได้ดูรถ เพียงแค่คิดว่าพวกเขามาหาคนตระกูลเจี่ยนในคฤหาสน์ตระกูลเจี่ยน

 

จนกระทั่งคนในรถลงจากรถ จากนั้นก็มีชายวัยกลางคนที่แต่งตัวดีเดินไปตรงข้างหน้าแม่และลูกสาว

 

“มิสโม่ชืออวิ้นใช่หรือเปล่าครับ”

 

โม่ชืออวิ้นมองไปยังชายที่พูดจาสุภาพนี้ด้วยความประหลาดใจ

 

“ฉันเอง คุณเป็นใครกัน”

 

“มิสโม่ชืออวิ้นเคยพบกับหญิงตั้งครรภ์ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ข้างถนนเมื่อสองปีก่อน”

 

โม่ชืออวิ้นพยักหน้า “ฉันเคยพบ ฉันพาเธอไปโรงพยาบาล พอหมอบอกว่าเธอไม่เป็นไร ฉันจึงจากไป”

 

“หญิงตั้งครรภ์ที่มิสโม่ชืออวิ้นได้ช่วยไว้คือนายหญิงของผม เพราะความช่วยเหลือของคุณ นายหญิงจึงปลอดภัยรวมไปถึงเด็กในท้องก็ได้รับการช่วยชีวิต นายท่านกับนายหญิงต่างรู้สึกซาบซึ้งกับความช่วยเหลือของมิสโม่ชืออวิ้นเป็นอันมาก พวกเขาจึงส่งผมออกมาตามหาคุณ แต่เนื่องจากคุณมีข้อมูลน้อยมากในตอนนั้น เราจึงต้องใช้เวลามากในการค้นหาคุณ”

 

บทที่ 262 นิทรรศการกล้วยไม้ 1

 

โม่ชืออวิ้นตอบกลับว่า “ในสถานการณ์แบบนั้น ถึงเปลี่ยนเป็นคนอื่นฉันก็จะช่วย ด้วยนี่คือสิ่งที่ฉันควรทำ”

 

โม่ชืออวิ้นรู้ว่าสถานการณ์ของเธอไม่สู้ดี แต่เธอไม่ต้องการขอให้คนอื่นช่วยเธอในเรื่องนั้น

 

ชายคนนั้นยิ้ม จากนั้นก็ถือโอกาสดูสถานการณ์ของโม่ชืออวิ้นและโม่ฮุ่ยฉิง กระเป๋าเดินทางรอบตัวพวกเธอได้อธิบายถึงสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเธอได้อย่างชัดเจน

 

ชายคนนั้นยิ้มและพูดกับทั้งสองคน “หลังจากวันนั้นนายหญิงก็ได้แต่คิดถึงคุณ คงจะดีมากเลยถ้ามิสโม่ชืออวิ้นจะให้ความร่วมมือมากับผม ให้นายหญิงได้สมความประสงค์ของเธอ ในเวลาเดียวกันมิสโม่ชืออวิ้นก็จะได้เห็นลูกที่คุณได้ช่วยชีวิตไว้ด้วย”

 

ชายคนนั้นเข้าใจถึงความทระนงในศักดิ์ศรีของโม่ชืออวิ้นเป็นอย่างดี

 

ให้โม่ชืออวิ้นไม่ต้องมีภาระทางจิตใจ

 

โม่ชืออวิ้นลังเลอยู่พักหนึ่ง

 

แต่เมื่อคำนึงถึงสถานการณ์ปัจจุบันของแม่แล้ว โม่ชืออวิ้นจึงเลือกที่จะยอมรับ

 

“ตกลง”

 

ชายคนนั้นเชื้อเชิญโม่ชืออวิ้นให้เข้าไปในรถด้วยความเคารพและสุภาพและช่วยพวกเธอจัดการกระเป๋า

 

สำหรับป้าโม่และโม่ชืออวิ้น นี่คือตกนรกในวินาทีแรกและขึ้นสวรรค์ในวินาทีที่สอง

 

ประสบการณ์วันนี้สุดขั้วเป็นอย่างมาก

 

###

 

วันหยุดสุดสัปดาห์ ปู่เจี่ยนกำลังจะเข้าร่วมนิทรรศการกล้วยไม้และเขายังพาเจี่ยนอีหลิงไปด้วยเป็นพิเศษ

 

เนื่องจากชายชราพบว่าหลานรักของเขายังทำงานวิจัยเกี่ยวกับการปลูกดอกไม้ โบตั๋น พืชอวบน้ำ กล้วยไม้ และเบญจมาศทุกชนิด และดูเหมือนว่าเธอปลูกได้ดีกว่าเขาเสียอีก

 

สิ่งที่ชายชราเจี่ยนไม่คาดคิดก็คือเขาจะพาเจี่ยนอีหลิงไปงานนิทรรศการกล้วยไม้เท่านั้น แต่เมื่อเขาออกเดินทาง เขาก็เจอกับคนทั้งครอบครัว

 

ปู่เจี่ยนมองไปที่ลูกชายคนโต ลูกสะใภ้คนโต หลานชายคนโตเจี่ยนหยุ่นเฉิง และหลานชายคนที่เจ็ดเจี่ยนหยุ่นน่าว

 

“หรือว่าบริษัทตระกูลเจี่ยนของฉันปิดแล้ว ไม่ทำธุรกิจกันต่อแล้วเหรอ”

 

เจี่ยนชูฉิงรีบอธิบาย “ไม่ครับพ่อ ตระกูลของเราธุรกิจดีมาก ปีนี้การขายของเราเพิ่มขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์

 

ปู่เจี่ยนหัวเราะเบาๆ “อืม ฉันคิดว่าเป็นเพราะบริษัทของเราล้มละลายเสียอีก ดังนั้นพวกนายเลยไม่มีอะไรทำ ก็เลยมาดูงานดอกไม้กับชายชราคนนี้”

 

เจี่ยนชูฉิงมีสีหน้าลำบากใจอยู่บ้าง

 

ผู้เฒ่าไม่ไว้หน้าพวกเขาเลย

 

ปู่เจี่ยนบ่นเรื่องนี้ แต่เขาไม่ได้ห้ามพวกเขาไม่ให้ติดตาม

 

ผลสุดท้าย ทุกคนจึงไปที่ห้องโถงนิทรรศการกล้วยไม้ด้วยกัน

 

กล้วยไม้หายากและมีค่าหลายชนิดถูกจัดแสดงในงานนิทรรศการ

 

เจี่ยนอีหลิงและปู่เจี่ยนให้ความสนใจกับดอกไม้มาก

 

เมื่อปู่เจี่ยนพูดถึงกล้วยไม้ เจี่ยนอีหลิงก็ฟังเขาอย่างตั้งใจ

 

สิ่งนี้ทำให้ปู่เจี่ยนมีความสุขมาก เขารู้สึกว่าไม่มีใครที่บ้านเข้าใจเขาเลย และเมื่อตอนนี้หลานรักคนโปรดเขากลับฟังเขาคุยเรื่องกล้วยไม้อย่างอดทน อารมณ์เขาจึงเบิกบานเป็นพิเศษ

 

คนอื่นๆกลับเป็นขี้เหล้าที่ใจไม่อยู่กับแก้ว*

 

โดยเฉพาะเจี่ยนหยุ่นน่าว สายตาของเขาไม่เคยห่างจากเจี่ยนอีหลิง

 

เขาตามหลังเธอมาก็ได้เพียงแค่มองดูเธอเท่านั้น

 

สิ่งที่เขาอยากจะบอกกับเธอก่อนออกที่จะออกเดินทาง กลับไม่สามารถพูดได้ในตอนนี้

 

ความขมขื่นและรสชาติของอารมณ์นั้นไม่อาจพรรณนาได้

 

หลังจากเตร็ดเตร่ดูในงานสักพัก ชายชราเจี่ยนค่อยพาเจี่ยนอีหลิงไปบริเวณส่วนที่เป็นสวนพักผ่อนเพื่อกินและดื่ม

 

ในที่สุดเจี่ยนชูฉิงและพวกก็สบโอกาสที่จะนั่งกับเจี่ยนอีหลิง

 

เวินน่วนนำขนมทุกชนิดที่เธอชอบมาให้เจี่ยนอีหลิง

 

เจี่ยนอีหลิงกล่าวขอบคุณ เธอทั้งดูนิสัยดีและสุภาพ

 

แต่เพราะเนื่องจากสุภาพเกินไป จึงดูเหินห่างและแปลกแยก

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่ย่อมเป็นการเชือดเฉือนใจของพวกเขา

 

แต่เจี่ยนอีหลิงไม่รู้ตัว

 

ในเวลานี้ก็มีคนรู้จักเข้ามาหา

 

คนนี้เป็นเพื่อนเล่นดอกไม้ของปู่เจี่ยน เป็น CEO ของบริษัทจดทะเบียน

 

—————————————–

 

醉翁之意不在酒 ขี้เหล้าที่ใจไม่อยู่กับแก้ว * มีความหมายประมาณว่า มีแรงจูงใจภายนอก มีสิ่งอื่นอยู่ในใจ

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

Status: Ongoing Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนืยายเรื่อง เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อเดิมที เจี่ยนอีหลิง เป็นตัวละครประกอบที่มีชะตากรรมเป็นแนวหน้ากล้าตาย แต่ทว่าเมื่อตอนนี้เธอมีความทรงจำจากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เจี่ยนอีหลิง ซึ่งเป็นผู้อ่านได้ย้ายเข้ามามีตัวตนในนิยาย จึงได้เปลี่ยนแปลงตนเองไปเป็นผู้มีอิทธิพลที่แฝงตัวอยู่ ไม่เพียงแต่เจี่ยนอีหลิงจะไม่สนใจในตัวเอกชาย แต่เธอยังคงทำให้ผู้คนรอบกายเธอตกตะลึง สับสน งงงัน ตามต้นฉบับแล้ว พี่ชายทั้งหลายต่างพากันเกลียดเธอ แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนพากันปกป้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย “อี้หลิงตกใจง่าย อย่าทำให้เธอกลัว” “อี้หลิงไม่เคยไปที่ไกลๆ อย่าหลอกเธอ” “อี้หลิงมีร่างกายอ่อนแอ ห้ามรังแกเธอ” คนอื่นๆ ต่างต้องการร่ำร้องไม่อยากเชื่อ มั่นใจเหรอว่าเธอน่ะน่ารักและถูกรังแกได้ง่ายๆ ใครกล้ารังแกเธอกัน ในขณะที่พวกเขาล้วนคิดว่าเพียงแค่บรรดาพี่ชายตระกูลเจี่ยนก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง แต่นั่นก็ยังมีคนอื่นที่คอยเติมส่วนที่เหลือ นายท่านเฉิง “อี้หลิงเป็นคนเปราะบางมาก อย่าทำให้เธอโกรธ ถ้าคุณทำให้เธอโกรธ ผมจะหั่นคุณออกเป็นชิ้นๆและทำเป็นน้ำซุป” คนอื่นๆ “นายท่านเฉิง ผมคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับดวงตาคุณ ผมแนะนำให้คุณไปหาจักษุแพทย์”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset