เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ – ตอนที่ 417-418

ย่าเจียนไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้ ดังนั้นเธอจึงทําได้เพียงแค่รอให้สามีเป็นคนตัดสินใจ

 

ปู่เจี่ยนครุ่นคิดเรื่องนี้ชั่วระยะหนึ่ง

 

เหตุผลที่เขาปฏิเสธที่จะให้ธุรกิจครอบครัวกับเจี่ยนหยู่โป๋เพราะเขาโกรธ

 

ปู่เจี่ยนอยากจะทําลายธุรกิจของครอบครัวมากกว่าจะส่งต่อให้กับคนที่ข่มขู่เขาทางอ้อม

 

แต่ว่า…ถ้าเจี่ยนหยู่โป๋เกลียด…

 

หากเป็นกรณีนี้ บางทีเขาก็ย่อมยินดีที่จะมอบทรัพย์สมบัติของตระกูลให้เจี่ยนหยู่โป๋

 

ปู่เจี่ยนพูดกับเจี่ยนอี่หลิง “ปู่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ต้องกังวล ปู่ยังไม่แก่ ปู่สามารถปกป้อง ระกูลของเราได้”

 

“อื้อ” เจี่ยนอี่หลิงตอบกลับ

 

หลังจากวางสายแล้ว ปู่เจี่ยนและย่าเงี่ยนก็ได้พูดคุยกันเป็นเวลานาน

 

ในที่สุด การตัดสินใจที่ยากลําบากก็จบลง

 

จากนั้นปู่เจี่ยนก็เรียกเจี่ยนหยู่โป๋มาที่บ้านเก่าตระกูลเจี่ยน

 

ทันทีที่เขามาถึง เจี่ยนหยู่โป๋ก็ถามปู่เจี่ยน “ปู่ตัดสินใจแล้วเหรอ”

 

“ใช่ ฉันตัดสินใจแล้ว คราวนี้ปู่เจียนนิ่งขึ้นมาก “ไม่ว่ายังไง ก่อนที่ฉันจะบอกเธอถึงการตัดสินใจของฉัน ฉันอยากจะบอกเธอว่าทําไมฉันถึงตัดสินใจแบบนี้ตั้งแต่แรก”

 

เจี่ยนหยู่โป๋ไม่ตอบ แต่เขามองไปที่ปู่เจี่ยนและรอให้อีกฝ่ายพูดต่อ

 

“นั่นเป็นเพราะน้องสาวของเธอ น้องสาวของเธอพบข้อมูลมากมาย จากนั้นน้องสาวของเธอก็ขอให้ฉันวางโชคชะตาของตระกูลให้กับเธอ”

 

คําพูดของปู่เจี่ยนทําลายความเยือกเป็นและความสงบบนใบหน้าของเจี่ยนหยู่โป๋

 

คําพูดของปู่เจี่ยนไม่ควรทําให้เขาแปลกใจ

 

ย้อนกลับไปในตอนนั้น เธอได้หยุดเขาด้วยร่างเล็กๆ เธอเคยถามเขาในสิ่งเดียวกัน

 

ปู่เจียนพูดต่อ “ฉันไม่รู้ว่าน้องสาวเธอถามใครและใช้เวลานานแค่ไหนในการค้นหาข้อมูลนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรน้องสาวของเธอก็ได้ยินเกี่ยวกับคําที่เธอสารภาพกับอาจารย์สอนโกะของเธอ”

 

เจี่ยนหยู่โป๋ไม่ค่อยเปิดเผยความคิดเขาให้ใครรู้

 

ครั้งเดียวที่เขาทําคือกับอาจารย์สอนโกะของเขา

 

อาจารย์ถามเขาว่าทําไมเขาถึงแสดงพฤติกรรมต่อต้านสังคมและไม่เป็นมิตวเช่นนั้น

 

อาจารย์รับรู้ได้ถึงพฤติกรรมของเจี่ยนหยู่โป๋ คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ชัดเจน แต่ว่ามันกลับง่ายที่จะอ่านจากวิธีที่เขาเปิดแมตช์ในโกะ

 

อาจารย์บอกเขาว่า เขาจะไม่สามารถกลายเป็นผู้เล่นโกะอันดับต้นๆได้ ถ้าเขายังคงเปิดเผยสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับตัวเอง

 

การจะเป็นผู้เล่นโกะ เราต้องเรียนรู้ที่จะเยือกเย็น

 

จากนั้นอาจารย์ก็ขอให้เขาบอกว่าทําไมเขาถึงโกรธมาตั้งแต่แรก

 

นั่นเป็นครั้งเดียวที่เจี่ยนหยู่โป๋เปิดเผยความคิดลึกๆในใจของเขา เขาเปิดเผยความเกลียดชังที่แผดเผาในหัวใจของเขาในช่วงวัยเด็ก

 

เจี่ยนอีหลิงขอใครบางคนให้ช่วยติดต่ออาจารย์ของเจี่ยนหยู่โป๋ เธอได้รับข้อมูลนี้จากอาจารย์ของเจียนหยู่โป๋

 

นี้เป็นวิธีเดียวที่พวกเขาจะเข้าใจการกระทําของเจี่ยนหยู่โป๋

 

ปู่เจี่ยนจ้องไปที่เจี่ยนหยู่โป๋ “อี่หลิงบอกว่าเธอเต็มใจจะมอบโชคชะตาของตระกูลเราทั้งหมดให้ หลังจากที่ฉันกับย่าได้คุยกันในเรื่องนี้ เราก็ตัดสินใจสนับสนุนการตัดสินใจของอี่หลิง ฉันคิดว่าน้องสาวของเธอยังอยากให้เธอเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเรา”

 

ในที่สุด คําพูดของปู่เจี่ยนก็ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในสีหน้าท่าทางของเจี่ยนหยู่โป๋

 

เมื่อเจี่ยนหยู่โป๋เปิดปากพูดขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พูดด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านเล็กน้อยว่า “เธอ ยังเหมือนแต่ก่อน”

 

เจี่ยนอี่หลิงยังคงเป็นเด็กน้อยคนเดิม

 

เธอเป็นคนโง่ คนโง่ตัวเล็กๆ ที่ไม่ลังเลที่จะให้เงินทั้งหมดแก่เขา เพียงเพราะเขาพูดออกมาอย่างนั้น

 

ในฐานะเจ้าหญิงแห่งตระกูลเจี่ยน สิ่งที่เธอเห็นคุณค่าไม่เคยเป็นเงิน แต่เธอกลับให้ความสําคัญกับตระกูลของเธอ

 

สําหรับเธอ ตระกูลของเธอนั้นประเมินค่าไม่ได้

 

ไม่ว่าเธอจะถูกขอให้มอบทรัพย์สินของเธอหรือทรัพย์สมบัติตระกูลเจี่ยนทั้งหมด เธอก็เต็มใจที่จะทําแบบเสียวกัน

 

แต่ทว่า ในไม่ช้าเจี่ยนหยู่โป๋ก็เปลี่ยนกลับไปเป็นพฤติกรรมที่ไม่ใส่ใจดังเดิม

 

เขาขอให้ปู่เจี่ยนลงนามโอนหุ้น ซึ่งหมายความว่าหุ้นทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของปู่เจียนถูกย้ายไปอยู่ภายใต้ชื่อเขา

 

หุ้นของตระกูลเจียนในเบื้องต้นนั้นทั้งหมดอยู่ในมือของปู่เจี่ยนและภรรยาของเขา แต่ว่าเมื่อตระกูลของพวกเขาเติบโตขึ้น ส่วนแบ่งก็ค่อยๆแบ่งกันไประหว่างสมาชิกในตระกูล

 

บทที่ 418 หวังว่าการตัดสินใจของเราจะถูกต้อง

 

เมื่อใดก็ตามที่มีสมาชิกใหม่เข้ามาในตระกูล ไม่ว่าจะเป็นทารกคนใหม่หรือลูกสะใภ้คนใหม่ คู่สามีภรรยาเก่าจะมอบส่วนแบ่งของตระกูลเจี่ยนให้พวกเขา

 

แต่ทว่า หุ้นส่วนใหญ่ก็ยังคงอยู่ในมือปู่และย่าเจี่ยน

 

เจี่ยนซูฉิงและเจี่ยนซูหงมีสิทธิ์ในการจัดการการถือหุ้นในบริษัทเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

ปู่เจี่ยนลงนามในข้อตกลง

 

เมื่อลงนามแล้ว หมายความว่ามีการโอนกรรมสิทธิ์ในหุ้น

 

ตอนนี้เจี่ยนหยู่โป๋เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของตระกูลเจี่ยน

 

จากนั้นย่าเจี่ยนพูดกับเจี่ยนหยู่โป๋ว่า “ยังมีหุ้นที่น้องสาวของเธอถืออยู่อีก แต่ว่าน้องของเธอ ไม่ได้อยู่ที่นี่ในตอนนี้ เมื่อน้องสาวของเธอกลับมาจากการแข่งขันในอีกสองสามวัน เธอก็ควรกลับมาอีกครั้ง น้องสาวของเธอบอกว่ายินดีที่จะให้หุ้นที่เป็นชื่อของตัวเองกับเธอเช่นกัน”

 

เจี่ยนหยู่โป๋หยุดชะงักไปชั่วขณะ

 

จากนั้นเขาก็พูดว่า “ผมไม่ต้องการส่วนแบ่งของเธอ”

 

เจี่ยนหยู่โป๋ปฏิเสธข้อเสนอของเจี่ยนอี่หลิง

 

จากนั้น เขาก็รับเอกสารข้อตกลงโอนหุ้นและเดินออกจากห้องทํางานของปู่เจี่ยน

 

ขณะที่ย่าเจี่ยนมองดูเจี่ยนหยู่โป๋จากไป เธอแสดงความเห็นด้วยความเป็นห่วง “ฉันหวังว่าเรา ตัดสินใจถูกต้องในครั้งนี้

 

ในเวลาอาหารเย็น ทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องอาหารของโรงแรมที่พวกเขาพักอยู่

นี้เป็นสถานที่ทานอาหารที่ทางเจ้าหน้าที่จัดให้

 

เมื่อคืนเจี่ยนอีหลิงและคนอื่นๆกินข้าวในห้องของตัวเอง ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่ได้ลงมา

 

วันนี้ทุกคนอยู่ในโรงอาหาร

 

ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในห้องอาหาร ทุกคนก็จับจ้องมาที่พวกเขา

 

วันนี้มีการปะทะกันหลายแมตซ์ แต่ว่าการต่อสู้ระหว่าง [จอมอหังการ] กับทีมต่างประเทศนั้น น่าตื่นเต้นที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

 

มันยังคงเป็นหัวข้อสนทนายอดนิยมบนอินเทอร์เน็ต

 

[จอมอหังการ] ได้เอาชนะทีมอื่นทั้งหมดในแง่ของความนิยม

 

ฉินหยูฝานก็อยู่ที่นั่นด้วย เธอได้รับอนุญาตให้มาทานอาหารเย็นกับทีมที่เธอลงทุนไป

 

ทันทีที่ฉินหยูฝานเห็นจ๋ายหวินเชิ่ง เธอก็เดินตรงไปหาเขา

 

“นายท่านเชิ่ง” ฉินหยูฝานทักทาย เธอยิ้มและท่าทางเธอก็มั่นใจ

 

จ๋ายหวินเชิ่งไม่สนใจ ฉินหยูฝานดังเช่นปกติ

 

แต่ทว่า ฉินหยูฝานก็ไม่รู้สึกอึดอัด เธอยังคงพูดกับเขาต่อไป “นายท่านเชิ่ง ฉันผิดเองที่อยากให้ของขวัญชิ้นนั้นแก่นาย ก่อนที่ฉันจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”

 

“พูดกับตัวเองไปก็แล้วกัน” จ๋ายหวินเชิ่งเยาะเย้ย

 

ไม่มีใครต้องการของขวัญของเธอตั้งแต่แรก

 

“นายท่านเชิ่ง ดูเหมือนว่านายท่านมีอคติกับฉันงั้นเหรอ”

 

“ไม่ได้เป็นแบบนั้น” จ๋ายหวินเชิ่งตอบ น้ําเสียงเขาไม่แยแสแม้แต่น้อย

 

หลังจากพูดอย่างนั้นแล้ว จ๋ายหวินเชิ่งก็เดินออกไป เขาไปที่โต๊ะว่างตรงมุมไกลๆ พร้อมกับเพื่อนร่วมทีม เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง

 

ฉินหยูฝานยิ้ม เธอไม่ได้โกรธเลยแม้แต่น้อย

 

สมาชิกของ [ไล่เมฆาคว้าชัยชนะ] รู้สึกแย่กับบอสของพวกเขา

 

สมาชิกในทีมทุกคนมีอายุใกล้เคียงกับฉินหยูฝาน

 

ในสายตาของพวกเขา ฉินหยูฝานไม่เพียงมาจากภูมิหลังที่ดีเท่านั้น แต่เธอยังมีความสามารถในการทําสิ่งต่างๆอีกด้วย เธอมีวิธีคิดและความคิดเห็นของตัวเองเมื่อต้องทําสิ่งต่างๆ

 

นั่นคงถือเป็นการประเมินที่ต่ำไปมากหากจะบอกว่าเธอเป็นเทพธิดาของพวกเขา

 

แต่ว่า จ๋ายหวินเชิ่งกลับเย็นชากับผู้หญิงแบบนี้

 

ที่จริง เขาได้ทําสิ่งนี้ต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาพยายามจะทําให้เธออับอายอย่างโจ่งแจ้ง

 

ชายจาก [พึ่งพาผู้อื่น] ที่ได้ทะเลาะกับหนูมองไปที่จ๋ายหวินเชิ่งและเจี่ยนอี่หลิงด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร

 

ขณะที่จ๋ายหวินเชิ่งและคนอื่นๆเดินผ่านไป เขาก็ตั้งใจขึ้นเสียงดังพูดกับเพื่อนร่วมทีมว่า

 

“บางทีมเพิ่งชนะเกมเดียว แล้วอินเทอร์เน็ตก็ยกย่องพวกเขาเหลือเกิน พวกเขาคิดว่าจะชนะทัวร์นาเมนต์นี้ได้จริงงั้นเหรอ”

 

“อาา ลืมไปเถอะเผิงเจี๋ย อย่าไปยุ่งกับพวกเขา” เพื่อนร่วมทีมเขาแนะนํา

 

“เอ่อ ฉันแค่พูดตามความจริง ฉันไม่ได้ยุ่งกับใคร” เผิงเจี๋ยตอบ

 

เพื่อนร่วมทีมเขากระซิบกลับ “นายโกรบพวกเขาในตอนแรกเพราะนายคิดว่าข่าวลือนี้เป็นความจริง ทีมของเพื่อนนายอยู่ในอันดับที่ 21 และยังไงก็ไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว พวกเขาไม่ได้ชื่อตําแหน่งในการแข่งขันไม่จําเป็นต้องอารมณ์เสีย กับพวกเขาอีกต่อไป”

 

“ทําไมนายถึงต้องสนใจในสิ่งที่ฉันคิด นายกําลังขอให้ฉันขึ้นไปขอโทษพวกเขางั้นเหรอ”

 

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

Status: Ongoing Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนืยายเรื่อง เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อเดิมที เจี่ยนอีหลิง เป็นตัวละครประกอบที่มีชะตากรรมเป็นแนวหน้ากล้าตาย แต่ทว่าเมื่อตอนนี้เธอมีความทรงจำจากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เจี่ยนอีหลิง ซึ่งเป็นผู้อ่านได้ย้ายเข้ามามีตัวตนในนิยาย จึงได้เปลี่ยนแปลงตนเองไปเป็นผู้มีอิทธิพลที่แฝงตัวอยู่ ไม่เพียงแต่เจี่ยนอีหลิงจะไม่สนใจในตัวเอกชาย แต่เธอยังคงทำให้ผู้คนรอบกายเธอตกตะลึง สับสน งงงัน ตามต้นฉบับแล้ว พี่ชายทั้งหลายต่างพากันเกลียดเธอ แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนพากันปกป้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย “อี้หลิงตกใจง่าย อย่าทำให้เธอกลัว” “อี้หลิงไม่เคยไปที่ไกลๆ อย่าหลอกเธอ” “อี้หลิงมีร่างกายอ่อนแอ ห้ามรังแกเธอ” คนอื่นๆ ต่างต้องการร่ำร้องไม่อยากเชื่อ มั่นใจเหรอว่าเธอน่ะน่ารักและถูกรังแกได้ง่ายๆ ใครกล้ารังแกเธอกัน ในขณะที่พวกเขาล้วนคิดว่าเพียงแค่บรรดาพี่ชายตระกูลเจี่ยนก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง แต่นั่นก็ยังมีคนอื่นที่คอยเติมส่วนที่เหลือ นายท่านเฉิง “อี้หลิงเป็นคนเปราะบางมาก อย่าทำให้เธอโกรธ ถ้าคุณทำให้เธอโกรธ ผมจะหั่นคุณออกเป็นชิ้นๆและทำเป็นน้ำซุป” คนอื่นๆ “นายท่านเฉิง ผมคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับดวงตาคุณ ผมแนะนำให้คุณไปหาจักษุแพทย์”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset