เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ – ตอนที่ 491-492

บทที่ 491 ขโมยผลงานวิจัย 1

 

ถ้าใครไม่รู้ดีพอ พวกเขาจะสันนิษฐานว่าเธอไม่ได้มีส่วนร่วมในงานวิจัยทางวิชาการ

 

ยิ่งไปกว่านั้น เงี่ยนอีหลิงก็ยังแตกต่างจากความคาดหวังของพวกเขามากเกินไป

 

โต๊ะทํางานของลู่หยวนและเจียนอีหลิงอยู่ติดกัน

 

เจียนอีหลิงไม่ได้อยู่ที่มหาวิทยาลัยวันนี้ คอมพิวเตอร์เธอปิดและมีเอกสารกองอยู่บนโต๊ะเธอ

 

เนื่องจากมีล็อคอิเล็กทรอนิกส์ที่ประตูห้องปฏิบัติการ และอาคารปฏิบัติการก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย นักศึกษาหลายคนจึงปล่อยงานของตนเองไว้ที่ห้องปฏิบัติการ

 

ลู่หยวนเหลือบมองเอกสารและเกิดความรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้นในใจ

 

เธอสงสัยว่า งานวิจัยของเจียนอีหลิงเป็นอย่างไร…

 

พวกเธอทั้งสองศึกษาหัวข้อวิจัยเดียวกัน แม้ว่าพวกเธอจะทํางานร่วมกัน แต่ในอีกมุมมองหนึ่งพวกเธอก็แข่งขันกันเองด้วย

 

ด้วยเหตุนี้ลู่หยวนจึงไม่สามารถระงับความอยากรู้ของเธอได้ และเปิดกองเอกสารที่เจี้ยนอีหลิงทิ้งไว้บนโต๊ะของเธอ

 

เธอตกใจมากที่พบว่าเงี่ยนอีหลิงมีความก้าวหน้ามากกว่าเธอ

 

ลู่หยวนยืนนิ่งอยู่กับที่

 

เป็นไปได้ยังไงกัน? ความคืบหน้างานวิจัยของเจียนอีหลิงจะเร็วกว่าเธอได้ยังไง

 

อีกฝ่ายนั้นใช้เวลาอยู่ที่แล็บน้อยมาก

 

เจียนอีหลิงมาที่ห้องปฏิบัติการสัปดาห์ละสามครั้งเท่านั้น

 

แล้วมันเป็นไปได้ยังไง

 

ผ่านไปนาน ลู่หยวนก็มองไปรอบๆตัวเธอ สังเกตว่าไม่มีใครอยู่ในห้องแล็บเพราะทุกคนไปที่โรงอาหารเพื่อทานอาหาร ในขณะที่เธอเครียดอยู่กับความก้าวหน้าของงานวิจัยเธอได้ขอให้ใครบางคนนําอาหารกลับมาให้เธอ

 

จากนั้นลู่หยวนก็จําสิ่งที่ศาสตราจารย์หวงพูดกับเธอได้

 

เขาต้องการให้เธอนําผลลัพธ์มาให้เขาโดยเร็วที่สุด ผลลัพธ์เหล่านี้มีความสําคัญต่อการพัฒนาที่ตามมาของเธอ…

 

แต่ถ้า…

 

เธอกําลังค้นคว้าในเรื่องเดียวกับเจี้ยนอีหลิง ถ้าเจี้ยนอีหลิงใช้เวลาที่แล็บน้อย แต่จบลงที่ผลลัพธ์เร็วกว่าเธอ

 

เธอจะกลายเป็นหัวข้อของการเยาะเย้ย เธอจะกลายเป็นตัวตลกที่แท้จริง เธอจะเสี ยตําแหน่งในใจของศาสตราจารย์

 

ศาสตราจารย์มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของเธอ… อันที่จริง ในบรรดานักศึกษาทั้งหมดของเขา เขาเพียงพาเธอเข้าร่วมการประชุมแลกเปลี่ยนทางวิชาการ…

 

ดังนั้นลู่หยวนจึงหยิบโทรศัพท์เธอออกมาเพื่อถ่ายรูปเอกสารที่เงี่ยนอีหลิงเขียนขึ้น

 

เมื่อถึงเวลาที่นักศึกษาคนอื่นกลับมา เธอก็นั่งอยู่ในตําแหน่งของเธอราวกับว่าเธอจดจ่ออยู่กับงานของตนเองมาโดยตลอด

 

เมื่อวันศุกร์ เจียนอีหลิงก็ได้ส่งรายงานวิทยานิพนธ์ของเธอไปที่ศาสตราจารย์หวง

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ศาสตราจารย์หวงก็บุกเข้าไปในห้องทดลองและเริ่มตะโกนใส่เงี่ยนอีหลิง

 

“เจี้ยนอีหลิง ก่อนหน้านี้ ฉันคิดว่าเธอแค่เกียจคร้านกับการศึกษา แต่ว่าจริงแล้วเธอถึงกับลอกเลียนงานคนอื่นด้วยงั้นเหรอ? เธอกําลังใช้ผลการวิจัยของคนอื่นงั้นเหรอ? ไม่อายบ้างหรือไงถ้าเธอไม่สามารถทําให้ได้ผลลัพธ์ นั่นก็เป็นแค่เพียงปัญหาในความสามารถของเธอ แต่ว่าหากเธอขโมยผลงานของคนอื่น นั่นถือว่าเป็นปัญหาทางทัศนคติและบุคลิกของเธอ”

 

ความโกรธของศาสตราจารย์หวงทําให้คนทั้งห้องตกใจ

 

ทุกคนหยุดสิ่งที่พวกเขาทําและมองไปที่ศาสตราจารย์หวงด้วยความประหลาดใจ

 

เจียนอีหลิงมองไปที่ศาสตราจารย์หวงและไม่ได้ตอบกลับในทันที

 

ศาสตราจารย์หวงยังคงตะโกนใส่เจียนอีหลิงอีกว่า “ไม่เป็นไรถ้าเธอไม่อยู่ในห้องปฏิบัติการทั้งวันไม่เป็นไรถ้าเธอไม่จดจ่อกับงานของเธอเช่นเดียวกัน แต่ว่ามันยอมรับไม่ได้กับการที่เธอคัดลอกงานวิจัยของคนอื่น เธอไม่สามารถแค่คัดลอกงานของลู่หยวน เธอรู้มั้ยว่าไร้ยางอายแปลว่าอะไรฉันไม่ต้องการนักศึกษาแบบเธอ เธอจะต้องถูกไล่ออก เธอจะต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์จากวงการวิชาการและขึ้นบัญชีดําอย่างสมบูรณ์ ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอทําลายนักศึกษาที่เหลือของฉัน”

 

ทั้งห้องแล็บเงียบกริบ

 

ทุกคนมองไปที่ศาสตราจารย์หวงและเงี่ยนอีหลิงด้วยความตกใจ

 

การไล่ออกและทําหนังสือวิพากษ์วิจารณ์ถือเป็นการลงโทษที่ร้ายแรงมาก

 

ถ้าศาสตราจารย์หวงทําเช่นนี้ ทั้งชีวิตของเงี่ยนอีหลิงจะถูกทําลาย

 

บทที่ 492 ขโมยผลงานวิจัย 2

 

อย่างไรก็ตาม ท่าทีที่ทุกคนมองเงี่ยนอีหลิงนั้นไม่ได้เห็นอกเห็นใจเลยแม้แต่น้อย

 

ถ้ามีใครขโมยผลการวิจัยของคนอื่นไปจริงๆ การลงโทษแบบนี้ก็สมควรแล้ว ไม่สมควรได้รับความเห็นใจเลย

 

“ฉันไม่ได้ขโมยอะไร ถ้าจะกล่าวหาฉันว่าขโมย ก็ต้องแสดงหลักฐาน โปรดตรวจสอบเรื่องราวเหล่านี้ก่อนที่คุณจะกล่าวหาฉัน” เงี่ยนอีหลิงพูดกับศาสตราจารย์หวงด้วยเสียงที่เยือกเย็น

 

การวิจัยเชิงทดลองใดๆที่ดําเนินการโดยเจียนอีหลิงได้รับการบันทึกไว้เป็นอย่างดี

 

ถ้าเธอถูกสงสัยว่าขโมยงานของคนอื่น เธอก็เต็มใจที่จะท้าทายข้อกล่าวหานี้ อาจมีการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอ

 

“โอ เธอจะดื้อจนถึงที่สุดงั้นเหรอ” ศาสตราจารย์หวงตะโกน เขาโยนรายงานการวิจัยกองห นาลงบนโต๊ะของเงี่ยนอีหลิง

 

“ลู่หยวนส่งรายงานนี้เมื่อวันก่อน ผลลัพธ์และทฤษฎีที่กล่าวถึงในบทความของลู่หยวนเหมือนกับเธอทุกประการ”

 

“การส่งก่อนเวลาไม่มีความหมาย” เงี่ยนอีหลิงตอบ

 

หลังจากพลิกดูไปสองสามหน้าเจี้ยนอีหลิงก็รู้ว่าลู่หยวนขโมยผลงานที่เธอวางไว้บนโต๊ะ

 

ศาสตราจารย์หวงตําหนิเธอด้วยน้ําเสียงเคร่งขรึม “ฉันรู้สึกเหมือนฉันได้เห็นสิ่งใหม่ในอาชีพการสอนของฉันในวันนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบกับนักศึกษาที่อุกอาจ เธอได้เรียนรู้อะไรมาบ้างในช่วงหลายปีที่เธอไปศึกษาต่อต่างประเทศ? เธอได้เรียนรู้ที่จะทําตัวหน้าด้านงั้นเหรอ?”

 

เมื่อต้องพบปะกับลู่หยวนนักศึกษาที่เขาสอนมาสองปีแล้ว และเจียนอีหลิงนักศึกษาที่เข้าชั้นเรียนน้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์ ศาสตราจารย์หวงก็ต้องเข้าข้างต่อนักศึกษาที่เขาไว้ใจอย่างไม่ต้องสงสัย

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อเจียนอีหลิงใช้เวลาในห้องทดลองน้อยมากในสัปดาห์ที่ผ่านมาเธอทําให้เขาและนักศึกษาคนอื่นในห้องทดลองรู้สึกว่าเธอไม่จริงจังกับงานของเธอ

 

ลู่หยวนซึ่งนั่งถัดจากเจียนอีหลิงตกใจ เธอก้มหน้าลงอย่างกระอักกระอ่วนและไม่ กล้ามองไปยังศาสตราจารย์หวงและเขียนอีหลิง

 

แทนที่จะโต้กลับ เงี่ยนอีหลิงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เธอหาหมายเลขในรายชื่อผู้ติดต่อและก็กําลังจะโทรออกไป

 

อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์หวงยังไม่จบ “เธอกําลังทําอะไร? ทําไมเธอถึงเล่นโทรศัพท์เธอคิดว่าไม่มีฉันอยู่งั้นเหรอ? ฉันต้องการให้เธอตอบคําถามของฉันเดี๋ยวนี้”

ศาสตราจารย์หวงรู้สึกว่าเขานั้นถูกทําให้ขายหน้า

 

ในช่วงเวลาที่จริงจังแบบนี้ เจียนอีหลิงยังคงไม่สํานึกผิด แต่เธอกลับจดจ่ออยู่กับโทรศัพท์ของเธอ?

 

เธอเป็นนักศึกษาประเภทไหนกัน

 

เธอไม่สมควรที่จะเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเปยจิงด้วยซ้ํา

 

“คุณไม่ฟังคําอธิบาย การดําเนินการจะมีประสิทธิภาพมากกว่า”

 

เจียนอีหลิงตอบศาสตราจารย์หวงอย่างใจเย็น ขณะที่โทรศัพท์ของเธอมีการรับสายแล้ว

 

“ดําเนินการเหรอ? ใช่ วันนี้ฉันจะดําเนินการกับเธออย่างแน่นอน” ศาสตราจารย์หวงเดือดดาล “เฝ้าเธอไว้ อย่าให้เธอไปไหน ฉันจะแจ้งให้อธิการบดีและเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ เรื่องนี้จะต้องถูกตัดสินในวันนี้”

 

คนที่ปลายสายไม่ได้ยินเสียงของเงี่ยนอีหลิง อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้ยินเสียงศาสตราจารย์หวงตะโกนสุดเสียง

 

ดังนั้น คนที่อยู่อีกฝั่งของโทรศัพท์ก็ไม่พูดอะไรเช่นเดียวกัน แต่พวกเขาก็เริ่มพิมพ์ที่แป้นพิมพ์ 

 

ไม่นานหลังจากนั้น ผู้คนจํานวนมากก็เข้าไปในห้องทดลอง

 

รูปภ. อธิการบดี เจ้าหน้าที่คนอื่นและอาจารย์คนอื่นต่างมาที่นั่น

 

ศีรษะของศาสตราจารย์หวงถูกแผดเผาไปด้วยความโกรธ

 

เขาพาทุกคนมาที่นี่เพื่อฉีกหน้าที่ไร้ยางอายของเจียนอีหลิง เขาต้องการให้เธอหลุดพ้นจากวงการวิชาการไปตลอดกาล

 

จํายหวินเชิงก็อยู่ที่นั่นด้วย

 

อธิการบดีของโรงเรียนเรียก “ผู้ติดต่อฉุกเฉิน” ในบันทึกของโรงเรียนของเจียนอีหลิง คนที่รับสายคือจํายหวินเชิง

 

เมื่อจํายหวินเชิงมาถึง เขาก็กวาดสายตามองดูทุกผู้คนในห้อง

 

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

Status: Ongoing Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนืยายเรื่อง เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อเดิมที เจี่ยนอีหลิง เป็นตัวละครประกอบที่มีชะตากรรมเป็นแนวหน้ากล้าตาย แต่ทว่าเมื่อตอนนี้เธอมีความทรงจำจากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เจี่ยนอีหลิง ซึ่งเป็นผู้อ่านได้ย้ายเข้ามามีตัวตนในนิยาย จึงได้เปลี่ยนแปลงตนเองไปเป็นผู้มีอิทธิพลที่แฝงตัวอยู่ ไม่เพียงแต่เจี่ยนอีหลิงจะไม่สนใจในตัวเอกชาย แต่เธอยังคงทำให้ผู้คนรอบกายเธอตกตะลึง สับสน งงงัน ตามต้นฉบับแล้ว พี่ชายทั้งหลายต่างพากันเกลียดเธอ แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนพากันปกป้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย “อี้หลิงตกใจง่าย อย่าทำให้เธอกลัว” “อี้หลิงไม่เคยไปที่ไกลๆ อย่าหลอกเธอ” “อี้หลิงมีร่างกายอ่อนแอ ห้ามรังแกเธอ” คนอื่นๆ ต่างต้องการร่ำร้องไม่อยากเชื่อ มั่นใจเหรอว่าเธอน่ะน่ารักและถูกรังแกได้ง่ายๆ ใครกล้ารังแกเธอกัน ในขณะที่พวกเขาล้วนคิดว่าเพียงแค่บรรดาพี่ชายตระกูลเจี่ยนก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง แต่นั่นก็ยังมีคนอื่นที่คอยเติมส่วนที่เหลือ นายท่านเฉิง “อี้หลิงเป็นคนเปราะบางมาก อย่าทำให้เธอโกรธ ถ้าคุณทำให้เธอโกรธ ผมจะหั่นคุณออกเป็นชิ้นๆและทำเป็นน้ำซุป” คนอื่นๆ “นายท่านเฉิง ผมคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับดวงตาคุณ ผมแนะนำให้คุณไปหาจักษุแพทย์”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset