เนตรเซียนทะลุสมบัติ – ตอนที่ 301

ตอนที่ 301 ปากทางแยก

หยางโปตื่นตกใจยกใหญ่ ในขณะที่จ้องมองไปยังวัตถุระเบิดที่อยู่ตรงหน้านั้น เขากลับสังเกตเห็นตัวอักษรจีนของประเทญี่ปุ่นที่สลักทิ้งเอาไว้อยู่ด้านบนว่า ” คลังแสง ! นี่เป็นคลังแสงของชาวญี่ปุ่นในสมัยนั้นเหลือทิ้งเอาไว้ ! “

” ใช่ มันเหลือทิ้งเอาไว้มาตั้งแต่ในปีนั้น จากการลงนามสัญญาข้อตกลงระหว่างพวกเรากับรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่นเมื่อหลายปีก่อน วัตถุระเบิดที่ตกทอดมาถึงปัจจุบันเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่พวกเขาจัดการเอาไว้ทั้งสิ้น เพียงแต่ไม่รู้ว่าที่บริษัทแห่งนี้ปล่อยให้เช่าและขุดของเหล่านี้ออกมา มันหมายความว่ายังไง ? ” ลัวซือเต๋อพูด

หยางโปยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า ” เราไปดูกันสักหน่อยไหมว่าในนั้นมีของมีค่าอะไรซ่อนอยู่บ้าง ? “

ตาอ้วนหลิวที่กำลังจ้องมองไปทางวัตถุระเบิดเหล่านั้นที่อยู่ด้านหลังก็ได้พูดขึ้นว่า ” นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ของเหล่านี้ไร้ประสิทธิภาพแล้วมั้ง ? “

 

” ระวังหน่อยก็แล้วกัน ถ้าพาของที่ติดไฟง่ายและระเบิดได้ง่ายเหล่านี้ขึ้นลิฟต์ออกไปตามอำเภอใจ วัตถุระเบิดที่อยู่ที่นี่ไม่มีทางที่จะไร้ประสิทธิภาพอย่างแน่นอน ! ” ลัวซือเต๋อพูด

หยางโปมองไปทางลัวซือเต๋อ ” อาลัว ด้านล่างอันตรายเกินไป คุณและย่าวหัว อยากขึ้นไปข้างบนสักคนไหมครับ ? “

ความหมายของหยางโปนั้นชัดเจนมาก ถึงแม้ว่าจะต้องใช้ภาษาโบราณสู้รบกับพี่น้องคนสนิท ถึงพ่อลูกจะต้องทะเลาะเบาะแว้งกันก็ตาม แต่ถ้าพ่อลูกลัวยังลงไปแบบนี้ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ตระกูลลัวก็คงจะไม่มีเหลืออีกต่อไป นี่เป็นการเตือนด้วยความหวังดี

ลัวซือเต๋ออึ้งงันไป จากนั้นก็มองไปทางลัวย่าวหัวแวบหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า ” เสี่ยวโปเตือนนั้นถูกแล้ว ย่าวหัว ตอนนี้แกขึ้นไปก่อนเถอะ ! “

 

ลัวย่าวหัวเดินลงลิฟต์ไป จากนั้นก็มองไปรอบๆด้าน ” พ่อ พ่ออายุมากแล้ว เดินเหินก็ไม่สะดวก ให้ลูกไปเถอะ ถ้าเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น ลูกยังพอวิ่งได้ ! “

” เหลวไหล พูดแบบนี้กับพ่อได้ที่ไหนกัน ! ” ลัวซือเต๋อตำหนิ

แต่สุดท้ายเขาก็เหยียบย้ำตามเข้าไปข้างใน โดยที่ไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นไปเลยสักนิดเดียว

พ่อลูกทั้งสองคนจ้องตาซึ่งกันและกัน โดยต่างก็ไม่มีใครยอมใครเลย

ลัวซือเต๋อจึงส่งเสียงฟึดฟัดอย่างเย็นชาออกมา โดยที่ไม่พูดอะไรออกมาอีก

ลัวย่าวหัวเชิดหน้าด้วยความภาคภูมิใจ เพื่อแสดงท่าทางแห่งชัยชนะ หลังจากนั้นเขาก็มองไปทางหยางโปอีกครั้ง เพื่อตำหนิว่าหยางโปนั้นพูดมากเกินไป !

เมื่อหยางโปเห็นท่าทางนี้ ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก

 

ใต้ฝ่าเท้าที่เหยียบย้ำลงไปนั้นล้วนแล้วแต่เป็นหินภูเขา ภายในถ้ำนั้นแห้งขอดมาก หยางโปมองไปรอบ ๆ ด้วยจิตใจที่อดที่จะตึงเครียดขึ้นมาไม่ได้ ที่นี่มีวัตถุระเบิดถูกฝังเอาไว้อยู่เป็นจำนวนมาก หากเดินไม่ระวัง พวกเขาทั้งกลุ่มก็อาจจะถูกระเบิดจนแตกกระจายไปก็เป็นได้

ในขณะที่ทั้งสี่คนเดินเข้าไปภายใน เสียงฝีเท้าก็ได้ดังกังวานภายในถ้ำ หยางโปเดินตรงไปข้างหน้า เขามีเรื่องที่อยากรู้มากเรื่องหนึ่ง ที่นี่ตั้งอยู่ใจกลางของภูเขา ทำไมชาววะในสมัยนั้นถึงได้ฝังวัตถุระเบิดเอาไว้ที่นี่ละ ? หรือจะบอกว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ ?

 

หยางโปส่ายหน้าอีกครั้ง นี่ไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะคนรุ่นหลังของชาวญี่ปุ่นต้องกลับมาหาอีกครั้ง ในนี้ต้องมีของที่พวกเขาต้องการอย่างแน่นอน หรือพูดอีกอย่างว่าต้องมีทรัพย์สมบัติซ่อนอยู่อย่างแน่นอน ! หลุมศพโบราณ !

เมื่อเดินต่อไปข้างหน้า ไม่นานหยางโปก็เห็นกำแพงแห่งหนึ่งปรากฏขึ้นมาตรงหน้า ซึ่งเป็นกำแพงที่ถูกทุบไปส่วนหนึ่งแล้ว ดูเหมือนว่าอาจเป็นเพราะรีบร้อนเข้าไป ค้อนที่ใช้ทุบกำแพงจึงยังถูกวางเอาไว้ที่นี่ ซึ่งบนตัวค้อนนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นเขรอะ ดูราวกับของเก่าโบราณเช่นเดียวกัน !

หยางโปเดินเข้าไปตรวจสอบค้อนด้ามนั้น เมื่อเห็นว่าค้อนไม่ได้ชำรุดเสียหายอะไร เขาจึงมองไปทางกำแพงนั้นอีกครั้ง กำแพงแห่งนี้ใช้อิฐสีเงินก่อสร้างขึ้นมา อิฐสีเงินดูเหมือนว่าน่าจะอยู่ในช่วงสมัยปราบปราม เพราะมันหนาและหยาบกระด้างมากอย่างเห็นได้ชัด แต่มันกลับแข็งแรงมากทีเดียว

 

ลัวย่าวหัวเดินเข้ามา จากนั้นก็ใช้มือเคาะไปบนกำแพง เมื่อได้ยินเสียงก้องกังวานที่ดังขยายออกมาจากภายใน เขาจึงอดที่จะพูดขึ้นไม่ได้ว่า ” ในนี่ต้องมีทางออก ! “

ลัวซือเต๋อเดินเข้ามา ” งั้นก็ทุบมันซะสิ ! “

เมื่อพูดจบ ลัวซือเต๋อก็ยื่นมือออกไป เตรียมจะหยิบค้อนมาจากในมือของหยางโป แต่หยางโปหลบหลีก โดยไม่ได้ยื่นค้อนให้อีกฝ่าย แล้วเอ่ยปากพูดขึ้นว่า ” อาลัว ก่อนหน้านั้นพวกคุณไม่เคยเข้ามาถึงที่นี่ใช่ไหมครับ ? “

” มาทันที่ไหนละ พอเห็นระเบิดมากมายขนาดนี้ ทุกคนก็ต่างแต่นิ่งงันไป พวกเรากำลังรอการมาของกองกำลังทหารตรวจระเบิด ที่ตามติดพวกนายมา ” ลัวซือเต๋อพูด

 

หยางโปพยักหน้า จากนั้นก็กวัดแกว่งค้อนขึ้นมา แล้วออกแรงทุบลงไป

” ปึง ! ปึง ! ปึง ! “

กำลังกายของหยางโปนั้นไม่ถือว่ามากมายเท่าไหร่นัก แต่ทุกครั้งที่เขาทุบลงไปก็ทำให้กำแพงอิฐสั่นไหว เมื่อใช้ค้อนทุบลงไป 3 ครั้งในตำแหน่งเดิมซ้ำๆ ไม่นาน กำแพงอิฐก็แตกออกเป็นช่องขนาดใหญ่ !

หลังจากที่ใช้ค้อนทุบไปอีกหลายต่อหลายครั้ง รอยแตกร้าวบนกำแพงอิฐก็ยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ ” บึ้ม ” เสียงหนึ่งดังขึ้น สุดท้ายกำแพงนั้นก็ถล่มลงมาในที่สุด

หยางโปรีบถอยออกไปด้านหลังหลายก้าว ฝุ่นตลบอบอวนไปทั่วทั้งถ้ำ ก่อนที่ถ้ำหนึ่งจะปรากฏขึ้นมา

ทั้งสี่คนมองหน้ากัน พร้อมกับแสดงอาการตื่นตกใจ

 

” หรือว่าคนเหล่านั้นกำลังหาถ้ำนี้อยู่ ? ” ลัวย่าวหัวเอ๋ยปาก

หยางโปพยักหน้า ” น่าจะใช่ “

ตาอ้วนหลิวเดินเข้ามา จากนั้นก็มองไปยังถ้ำเล็กน้อย พร้อมกับใช้ไฟฉายส่องออกไปอีกครั้ง ซึ่งถ้ำนั้นลึกจนหาจุดปลายสิ้นสุดไม่เจอ ไม่เห็นแม้แต่สิ่งของ เขาส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นว่า ” ไม่เหมือนกับทางนำไปสุสานเลยแฮะ “

” งั้นมันคืออะไรละ ? ” ลัวซือเต๋อเดินเข้ามา จากนั้นก็พูดกับทุกคน

หยางโปส่ายหน้า ลัวซือเต๋อกลับไม่ได้สนใจมากนัก เขาหยิบเครื่องวิทยุสื่อสารขึ้นมา ก่อนจะตะโกนออกไปว่า

” แจ้งผู้อำนวยการเฉาหยวนเต๋อให้ลงมา ที่นี่มีการค้นพบใหม่ ! “

 

ทั้งสี่คนไม่ได้เข้าไปในทันที ทำได้เพียงแค่ยืนมองจากที่ไกลอยู่ด้านข้าง เมื่อรอไปสักพัก ในที่สุด เฉาหยวนเต๋อก็ลงมา เมื่อเขามาถึง ก็อดที่จะถามขึ้นไม่ได้ว่า ” มีการค้นพบอะไรใหม่เหรอ ? “

ในระหว่างที่พูด เขาก็เห็นถ้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลนัก ถ้ำที่มีความสูงราว 200 เมตร มากพอที่จะให้คนสามารถเข้าไปข้างในได้พอดี

” นี่มันอะไร ? ” เฉาหยวนเต๋อมองไปทางถ้ำนั้น ซึ่งเป็นถ้ำที่มืดมิด ถึงจะส่องไฟฉายเข้าไป ก็มองไม่เห็นแม้แต่ทางสิ้นสุด ทำให้เขารู้สึกชาไปทั่วหัวขึ้นมา

เฉาหยวนเต๋อเป็นผู้ชำนาญการด้านนี้มาหลายปี เห็นหลุมฝังศพโบราณมานับไม่ถ้วน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พบเจอเหตุการณ์แบบนี้ วัตถุระเบิดที่ชาววะสะสมเอาไว้ที่นี่ เป็นแผนการอย่างนั้นเหรอ ?

 

” คงไม่ใช่เขาวงกตหรอกใช่ไหม ? “หยางโปเอ่ยปากพูดออกมาอย่างฉับพลัน

” เขาวงกตใต้ดินเหรอ ? ” เฉาหยวนเต๋อมองกลับมา ” พวกนายเจอมันได้ยังไง ? “

” ฉันเองก็ไม่แน่ใจ เพียงแค่รู้สึกว่าเหมือนกับเขาวงกตเท่านั้น พวกเรารอมากว่า 30 นาที มลพิษในนี้ก็น่าจะออกไปแล้วไม่น้อย รออีกหน่อย แล้วค่อยเข้าไป ” หยางโปพูด

ไม่นาน เมื่อรอไปอีกไม่นาน ทั้งสี่คนก็สวมไฟส่องสำรวจบนหัว จากนั้นก็พาอุปกรณ์เดินเข้าไปภายในถ้ำ ในเวลานี้ ก็มีตำรวจติดอาวุธ 4 นาย เดินตามหลังของทุกคนเข้าไปด้วย นี่เป็นตำรวจที่ลัวซือเต๋อจัดหามาให้

ภายในถ้ำนั้นมืดสนิท ทุกคนใช้ไฟส่องสำรวจสาดส่องไปบนทางเดินด้วยความระมัดระวัง เพราะประสบการณ์ก่อนหน้านั้นของหยางโป จึงค่อนข้างระมัดระวังเป็นพิเศษ

 

ไม่นานทั้งหมดก็พบกับทางแยก 2 ทางเบื้องหน้า ทุกคนหยุดก้าวเดิน ก่อนจะทยอยกันมองไปทางหยางโป

หยางโปอึ้งงันไป ” มองฉันทำไม ? “

” ตานายเจ้าคนปากเสีย ” ลัวย่าวหัวหัวเราะออกมา ” นายก็เห็นว่าตอนนี้มีทางแยก 2 ทาง นี่เป็นเครื่องพิสูจน์คำพูดนายแล้ว “

หยางโปตื่นตกใจทันที เพียงแต่ว่าเขาไม่เคยสัมผัสประสบการณ์แบบนี้มาก่อน จึงอดที่จะขมวดคิ้วออกมาไม่ได้

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

เป็นเพราะพ่อที่ป่วยหนัก อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลจำนวนมหาศาล จึงทำให้หยางโปเด็กฝึกงานของร้านขายวัตถุโบราณต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่กดดัน เป็นเพราะจิตใจที่มีเมตตาของเขาจึงทำให้เขาได้รับหินแก้วโดยบังเอิญ จนทำให้ดวงตาของเขาสามารถประเมินสมบัติอันล้ำค่าได้ มาลุ้นกันว่าเขาจะสามารถตรวจสอบสมบัติเหล่านั้นและล้มล้างชะตากรรมได้อย่างไร…….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset