เนตรเซียนทะลุสมบัติ – ตอนที่ 182

…..

พวกหลี่เอ้อทั้งสองคนไม่เข้าใจว่าที่หยางโปพูดถึงคือใคร แต่ก็ไม่ได้ถามมาก

เมื่อมาถึงชั้นห้ามันก็กว้างใหญ่อย่างมาก แต่จำนวนที่นั่งเหลืออยู่ไม่มากแล้ว หยางโปตะลึงเล็กน้อยแล้วก็ได้สติกลับมา ถึงแม้พวกเขาจะบอกว่าการประมูลนี้ต้องมีลู่ทาง แต่จุดสนใจเช่นนี้มาดึงดูดคนก็สามารถดึงดูดมาได้ไม่น้อย

คิดถึงตรงนี้ หยางโปยากที่จะอดผิดหวังเล็กน้อยขึ้นมาไม่ได้

ทั้งห้าคนหาที่นั่งแล้วนั่งลง ที่นี้มีคนมาไม่น้อยทยอยมาเรื่อยๆ แล้ว ด้านหลังเริ่มที่จะมีเสียงของโต๊ะเก้าอี้ดังวุ่นวาย หยางโปหันหน้ากลับไปมอง มองเห็นพนักงานกำลังเพิ่มเก้าอี้อยู่

เย่เหวยหลินอาจจะคาดเดาถึงจุดนี้ได้ อดที่จะเอ่ยกล่าวอย่างถอดถอนใจไม่ได้ “ทำให้คนผิดหวังอย่างที่สุดจริงๆ คิดไม่ถึงเลยว่าจะดึงดูดคนได้จริงๆ!

 

หยางโปหัวเราะ “คนมากันมากขนาดนี้แล้ว ถ้าหากไม่สามารถให้คำอธิบายกับทุกคนได้ อาจจะต้องปิดตัวลงนะ

“ก็ใช่” เย่เหวยหลินพยักหน้า

และแล้วก็มีผู้ชายอายุประมาณสามสิบกว่าปีคนนึงเดินขึ้นเวทีที่อยู่ด้านหน้า ท่าทียิ้มแย้มแจ่มใส “สวัสดีทุกท่าน ผมโจวหานเป็นผู้ทำการประมูลของวันนี้”

“ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาอย่างมาก เรื่องในการประมูลครั้งนี้ ทุกคนอาจจะได้ยินข่าวลือมาแล้ว ข่าวลือถึงสมบัติขุมทรัพย์ของไท่ผิงเทียนกั๋ว ทุกคนก็ได้ยินชัดเจนดี ตอนนี้ยอดเขาลูกนั้นที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเริ่มต้นดำเนินการก่อสร้าง ทุกคนน่าจะไม่ชอบที่จะฟังผมพูดจามากความ ดังนั้นพวกเราก็เริ่มต้นการประมูลกันทันทีเลย!”

 

“เข้าสู่ประเด็นเร็วจริงๆ!” เย่เหวยหลินถอนหายใจ

ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างกายเขาไม่ได้พูดจามาตลอด เวลานี้เพิ่งจะเปิดปากกล่าว “พี่เย่ การประมูลในวันนี้จะมีพวกศพอะไรพวกนั้นอะไรไหมคะ?”

เย่เหวยหลินส่ายหน้า “เธอคิดมากเกินไปแล้ว จะประมูลของพวกนั้นได้ยังไง?”

หญิงสาวยังคงมีท่าทีหวาดกลัว กอดแขนของเย่เหวยหลิน เงียบงันไม่พูดจา

หลี่เอ้อที่นั่งอยู่ข้างกายหยางโปหันไปกระซิบกับหยางโปว่า “นั่นไม่ใช่เสวี่ยหนิงใช่ไหม?”

หยางโปชะงักเล็กน้อยแล้วก็มองไปครั้งหนึ่ง ถึงค่อยจำได้ว่าผู้หญิงคนนั้นก็คือดาราหญิงตัวรอง เพียงแต่วันนี้แต่งหน้ามาอ่อนมาก ทำให้หยางโปจำเธอไม่ได้ในทันที แน่นอนว่าที่สำคัญที่สุดก็คือไม่ได้อยู่ภายใต้แสงสปอร์ตไลท์ ความเปล่งประกายของดาราหญิงท่านนี้ก็น้อยลงมาก

 

หยางโปไม่ได้สนใจ หันหลังกลับไปมองทางเวทีด้านหน้า

ของชิ้นแรกปรากฏขึ้นแล้ว ผู้ทำการประมูลกำลังอธิบาย “ของประมูลชิ้นแรก เงินหลงเฟิ่งต้าฮัวของไท่ผิงเทียนกั๋ว!”

“เงินนี้ทำมาจากทองเหลือง ภายนอกเป็นแผ่นทองคำ แบ่งเป็นสี่ชนิด นี่คือเงินที่มีจำนวนน้อยมาก เงินต้าฮัวทั้งสี่ด้านสลักเป็นมังกรสองตัวชิงไข่มุก ด้านหลังเป็นลายสมบัติทั้งแปด มีรูปสลักสัญลักษ์ทั้งแปดปะรำสมบัติ กงล้อแห่งธรรม มัจฉาทองคำ ร่มสมบัติ บัววิเศษ จานกมล หอยสังข์”

“ราคาขั้นต่ำสามแสนหยวน ราคาที่เพิ่มขึ้นของทุกคนต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันหยวน เชิญประมูลได้!

 

ผู้ทำการประมูลพูดอย่างเชื่องช้า ขณะที่พูดภายในที่นี้เงียบสงัด ทุกคนต่างก็ได้ยินคำบรรยายของผู้ทำการประมูล เต็มไปด้วยความตกตะลึง การประมูลครั้งนี้ลงทุนลงแรงไปมากจริงๆ!

เย่เหวยหลินก็ประหลาดใจเช่นกัน หันไปมองหยางโป “ดูเหมือนว่าครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะขึ้นป้ายว่าไท่ผิงเทียนกั๋ว แต่ราคาเป็นธรรมดีนะ!

หยางโปก็ตกตะลึง เพราะว่าเขาคิดว่าโรงประมูลนี้อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับไท่ผิงเทียนกั๋ว คิดไม่ถึงเลยว่าการประมูลเพิ่งจะเริ่มตนก็ปรากฏเรื่องใหญ่แล้ว อ้างอิงจากที่เขารู้ เงินหลงเฟิ่งต้าฮัวของไท่ผิงเทียนกั๋วหายากอย่างมาก ตอนนั้นใช่เป็นเงินที่ระลึกและเงินลองเตา และเป็นเงินพิธีกรรมอย่างหนึ่ง

 

ถึงแม้จะเป็นคนต่างประเทศก็รู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้รับเงินต้าฮัวนี้ เดือนสิงหาคม ปี 1861 ล่ามภาษาอังกฤษได้เขียนจดหมายให้กับเจ้าหน้าที่ระดับนายพลของไท่ผิงเทียนกั๋ว หลี่หมิงเฉิง หวังว่าจะได้รับ “อักษรคัดลอกของเงินศักดิ์สิทธิ์” หลี่หมิงเฉิงตอบกลับไปในจดหมายว่า “เงินศักดิ์สิทธิ์ของประเทศเรา ขณะนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าเงินต้าฮัวหนึ่งหยวน ผู้ใต้บัญชาได้รับความกรุณาจากนายเหนือหัว” เห็นได้ว่าเงินพิธีกรรมหลงเฟิ่งนี้งดงามอย่างมาก มีคุณค่าในการสะสมอย่างมาก

“ห้าแสนห้าหมื่นหยวน!” ในขณะนี้เสียงตะโกนดังลั่น ทำให้ทุกคนได้สติกลับคืนมาจากอารามตกตะลึง

เย่เหวยหลินหันหน้ามามองหยางโป “เงินต้าฮัวนี้เป็นยังไงบ้าง? ของจริงใช่ไหม?”

 

กลุ่มของหยางโปนั่งอยู่ที่แถวที่หก ห่างจากเวทีด้านหน้าถึงแปดเก้าเมตร และเงินต้าฮัวนี้ก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่ไปกว่าเงินโบราณสักเท่าไหร่ อยู่ไกลขนาดนี้ มันจึงมองได้ไม่ชัดเจนแต่แรกแล้ว ถึงแม้หยางโปจะสามารถมองเห็นความหนาแน่นของประกายแสงได้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรนัก

“ถ้าหากคุณอยากได้จริงๆ งั้นก็ประมูลไปอย่างสบายใจเถอะครับ ตอนนี้มองได้ไม่ชัดเจน ก่อนหน้าที่จะส่งมอบกันยังมีโอกาสประมาณได้” หยางโปกล่าวอธิบาย

เย่เหวยหลินมองครั้งหนึ่งก็แน่ใจว่าที่หยางโปพูดนั้นมีเหตุผล อาศัยสถานะของเขาก็ไม่กลัวว่าจะต้องถูกหลอก รอจนถึงตอนที่เขามีปฏิกริยาตอบกลับ ราคาประมูลในตอนนี้ก็สูงถึงเจ็ดแปดแสนหยวนแล้ว!

 

“หนึ่งล้านหยวน!” เย่เหวยหลินยกป้ายประมูล

ณ ที่นี้ก็เงียบสนิท ราวกับตกตะลึงไป แต่ผ่านไปไม่นานก็มีเสียงดังขึ้นอีก

“หนึ่งล้านหนึ่งแสนหยวน!”

“หนึ่งล้านสองแสนหยวน!”

“หนึ่งล้านสามแสนหยวน!”

ราคาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หยางโปมองราคาอันบ้าคลั่งนี้ก็ถอดถอนใจอย่างมาก ถึงแม้ว่าเขาจะมีความคิดที่จะได้ครอบครองเงินพิธีกรรมแบบนี้ แต่ราคาในตอนนี้มันสูงเกินกว่าล้านหยวนเขาก็ถอดใจแล้ว เพราะว่าราคาแบบนี้ทิ้งห่างจากมูลค่าที่แท้จริงของมันแล้ว ต่อไปก็จะเป็นการปั่นราคาขึ้นมา

 

“หนึ่งล้านห้าแสนหยวน!”

ฉวยโอกาสที่ในตอนนี้เงียบสงบ เย่เหวยหลินยกป้ายประมูลขึ้นอีกครั้ง

เสวี่ยหนิงมองเห็นความบ้าคลั่งแบบนี้ในตอนนี้ก็รู้สึกตกตะลึง ดึงรั้งเย่เหวยหลิน “เงินโบราณชิ้นหนึ่งเท่านั้นเอง ทำไมถึงขายได้แพงขนาดนั้น?”

“ฉันก็ไม่เข้าใจนัก!” เย่เหวยหลินทุ่มเทความสนใจทั้งหมดไปที่การประมูลตรงหน้า ชัดเจนว่าไม่ใส่ใจกับคำถามของเสวี่ยหนิงสักเท่าไหร่

เสวี่ยหนิงโกรธมาก เธอหงุดหงิดจนไม่สนใจเรื่องของเขาอีก

 

หยางโปย่อมไม่ไปอธิบาย ให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงในขณะนี้ เงินต้าฮัวของไท่ผิงเทียนกั๋วหายากจริงๆ มันปรากฏขึ้นภายในประเทศน้อยมาก ถึงแม้จะขุดออกมาได้ก็ไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ ไม่พบเจอในตลาดมาแต่ไหนแต่ไร

หลังจากเย่เหวยหลินยกป้ายประมูล ราคาก็เพิ่มขึ้นถึงสองล้านหยวนแล้ว ไม่นานก็เป็นสองล้านห้าแสนหยวน สามล้านหยวน!

มือขวาของเย่เหวยหลินกำป้ายประมูลที่อยู่ในมือแน่น รอจนผ่านไปครู่หนึ่ง ราคาไม่มีทีท่าว่าจะชะงักลง ในที่สุดเขาก็ถอดใจแล้ว เอนตัวไปบนพนักเก้าอี้อย่างแรง

 

“ราคานี้แพงเกินไปแล้ว” หยางโปกล่าวปลอบ

เย่เหวยหลินพยักหน้า “สูงไปสักหน่อย แต่ว่าถ้าหากได้มาครอบครองล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นของสะสมหรือว่าส่งต่อไปก็น่าจะได้กำไร”

ตาอ้วนหลิวกับหลี่เอ้อสองคน ซุบซิบเสียงเบากันมาตลอด ไม่ได้สนใจสถานการณ์ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

ในตอนนี้หลี่เอ้อหันไปถามหยางโปเสียงเบาว่า “ทำไมไม่เอามาล่ะ?”

“ราคาแพงเกินไป” หยางโปส่ายหน้า

หลี่เอ้อไม่ได้กล่าวคำ ราคาในตอนนี้สูงถึงสี่ล้านเจ็ดแสนหยวนแล้ว ราคานี้เพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าราคาประมูลเป็นสิบเท่าแล้ว สถานการณ์แบบนี้ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึง

 

“แปดล้านหยวน!” เสียงบอกราคาหนึ่งทำให้ภาพฉากในขณะนี้เงียบงันไป

ทุกคนหันหน้าไปมอง คนผู้นั้นนั่งอยู่ที่แถวที่สอง เงาร่างและเก้าอี้ถูกผู้หมู่คนห้อมล้อมเป็นชั้นๆ บดบัง หยางโปจนมองเห็นไม่ชัดเจนนัก แต่ยังอดที่จะประหลาดใจกับความใจสู้เช่นนี้ไม่ได้

ยังไงก็ตามราคามันก็เพิ่มขึ้นมาเป็นเท่าตัวในทีเดียว!

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

เป็นเพราะพ่อที่ป่วยหนัก อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลจำนวนมหาศาล จึงทำให้หยางโปเด็กฝึกงานของร้านขายวัตถุโบราณต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่กดดัน เป็นเพราะจิตใจที่มีเมตตาของเขาจึงทำให้เขาได้รับหินแก้วโดยบังเอิญ จนทำให้ดวงตาของเขาสามารถประเมินสมบัติอันล้ำค่าได้ มาลุ้นกันว่าเขาจะสามารถตรวจสอบสมบัติเหล่านั้นและล้มล้างชะตากรรมได้อย่างไร…….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset