เปลวไฟในม่านหมอก – ตอนที่ 15 เธอก็จะร้ายให้ดู !

“ คุณมาที่นี่ทำไม คงจะไม่ได้มาเยี่ยมฉันเพราะเป็นห่วงอย่างเดียวหรอก เพราะนักธุรกิจอย่างคุณคงไม่ทำอะไรที่ไม่ได้รับผลตอบแทนอันคุ้มค่า ” เธอพูดจาเหน็บแนมใส่ เขาแย้มยิ้มอย่างไม่ทุกข์ร้อน

“ ฉลาดมากคุณหนู บังเอิญผมรู้มาจากทีมแพทย์ว่า คุณพ่อของคุณต้องได้รับการรักษาโดยวิธีพิเศษอย่างด่วนที่สุด โดยมีค่าใช้จ่ายร่วมล้านบาท สถานะของคุณตอนนี้ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าลำบากเรื่องเงินทอง ผมเลยอยากจะขอเสนอตัวช่วย ”

“ ฉันไม่มีอะไรจะให้คุณเพื่อแลกกับเงินหนึ่งล้านบาท ”

“ มีสิ คุณมี อวัศยา ” เขาว่าพลางใช้สายตาคมกริบนั้นกวาดมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เธอเชิดหน้าขึ้นทันควัน

“ ผมว่าคุณฉลาดพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าตกลงก็ให้พยาบาลต่อสายหาผม ก็เท่านั้น ” เขาหันหลังกลับแล้วเดินไปยังประตูห้อง ทว่ายังส่งเสียงทิ้งท้าย

“ ชีวิตคุณพ่ออยู่ในกำมือของคุณเองนะ ตัดสินใจอะไรให้มันไว ๆ หน่อยก็ดี ”

ก่อนจะเปิดประตูห้องแล้วเดินออกไป ทันทีที่ประตูปิดลง น้ำตาใสก็ไหลพร่างพรูอาบสองแก้มนวลราวทำนบแตก

นายไฟ… ผู้ชายที่เธอตกหลุมรัก คนแรกและคนเดียว เฝ้ารักและเฝ้ารอ ไม่เคยชายตามองใครที่ไหน แม้ว่ามันจะลม ๆ แล้ง ๆ แต่เธอก็มีความสุขเมื่อได้ทบทวนความทรงจำระหว่างทั้งคู่

วันนี้เธอเจอเขาแล้ว เธอมั่นใจ นายไฟกับนายอัคคีเป็นคนเดียวกันแน่ ทว่าอำนาจเงินทำให้เขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

เขารังเกียจที่เธอสิ้นเนื้อประดาตัว เขาคงกลัวว่าเธอจะใช้สิทธิ์ที่ครั้งหนึ่งเคยรักกันมาลำเลิกบุญคุณ มาปอกลอกสินทรัพย์ล้นฟ้าที่มีอยู่ในตอนนี้ หรือไม่ก็คงละอายที่จะต้องเปิดเผยให้สังคมรู้ว่า ครั้งหนึ่งเคยรักกับผู้หญิงล้มละลายสิ้นไร้ไม้ตอกอย่างเธอ

เคยรักกัน… จะใช้คำนั้นได้ไหมนะ หรือเป็นเธอที่โง่งมงายอยู่ฝ่ายเดียว

ถ้าเขารักเธอ แล้วตอนนั้นทำไมอยู่ดี ๆ จึงหายไปจากชีวิต เขาหายไปไหน ทำไมไม่ร่ำลา

แถมตอนนี้เขามีเงินทองล้นฟ้า จะซื้อหาผู้หญิงสักกี่คนมาบำรุงบำเรอความสุขก็ย่อมได้

ลืมเขาซะอวัศยา ลืมผู้ชายคนนั้นให้หมดสิ้น ลบเลือนเขาออกไปจากความทรงจำอันยาวนาน เลิกงมงายและเพ้อฝันถึงผู้ชายคนนั้นเสียที

รักแท้ที่เธอเชื่อมั่นมาตลอด มันไม่มีอยู่จริง !

เลิกร่ำไห้ให้กับผู้ชายใจร้ายคนนั้นเสียที เธอต้องเข้มแข็ง ใช้สติต่อสู้กับปัญหา ถ้ามัวแต่อ่อนแอแบบนี้แล้วจะแก้ไขทุกสิ่งอย่างที่กระหน่ำถาโถมเข้ามาพร้อมกันราวห่าฝนได้อย่างไร

เข้มแข็งอวัศยา เธอบอกตัวเอง…

หญิงสาวตักจ้วงข้าวต้มเข้าปากทั้งน้ำตาราวคนบ้า เธอต้องกินเยอะ ๆ จะได้มีพลังกายและพลังใจที่จะต่อสู้มัน

เธอจะเข้มแข็ง เธอจะลุกขึ้นต่อสู้เพื่อพ่อและตัวเอง ในเมื่อเป็นคนดีแล้วสูญเปล่า จะเป็นมันไปทำไม

เมื่อเขาบีบให้เธอร้าย เธอก็จะร้ายให้ดู !

***

“ ท่านครับ คุณหนูอวัศยามาถึงแล้วครับ ” บอดี้การ์ดคนสนิทเข้ามารายงานนายใหญ่ที่นั่งนิ่งอยู่บนโซฟาตัวหรู ทั้งเรือนกายมีเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวปกปิดอยู่ ซ้ายขวามีร่างของสาวสวยแสนเซ็กซี่สองนางสวมชุดวาบหวิวขนาบข้างซุกซบอยู่ไม่ห่าง ขวดเรมี่มาร์ติน ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเบื้องหน้าพร่องไปกว่าครึ่ง

“ ให้เข้ามา ” เสียงทุ้มแข็งกร้าวเอ่ยสั้น ๆ ด้วยแววตาเย็นชา สองสาวยิ่งเบียดบดเข้าหาแผงอกแกร่งราวกับจะแสดงออกว่าเธอทั้งคู่เป็นเจ้าของเขามาก่อน เพื่อให้ผู้มาเยือนได้เห็น

“ ท่านครับ มาแล้วครับ ” เสียงบอดี้การ์ดคนเดิมเอ่ยขึ้นอีกครั้ง พร้อมแขกผู้มาเยือนเดินตามหลัง ตาคมกริบเบิกกว้างเมื่อได้เห็น

เรือนร่างสมส่วนมาในชุดเดรสแขนยาวสีแดงเพลิงรัดรูปความยาวเหนือเข่าทว่าแหวกสูงจนน่าหวาดเสียวโชว์ความขาวนวลของต้นขา สีของชุดขับผิวขาวให้ยิ่งผุดผ่อง ด้านบนแม้จะปกปิดถึงต้นคอทว่าเป็นผ้าซีทรู จนถึงครึ่งเนินเต้าอวบอิ่มกลมกลึงพองาม ผมตรงดำสลวยราวเส้นไหมถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ความยาวของมันคลอเคลียอยู่ระหว่างเอวคอดเบื้องหลัง

เสียงส้นสูงสี่นิ้วกระทบพื้นตามจังหวะการเยื้องย่างช้า ๆ ใบหน้าสวยหวานที่ปกติปล่อยให้งดงามตามธรรมชาติวันนี้กลับแต่งแต้มไว้ด้วยโทนร้อนแรง

เธอหยุดเดินที่ระยะห่างจากชายหนุ่มราวหนึ่งเมตร ก่อนปากอวบอิ่มที่แต่งแต้มด้วยสีแดงเข้มราวสีเลือดเผยอขึ้นเอ่ยทักทายด้วยเสียงดังฉะฉาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset