เปลวไฟในม่านหมอก – ตอนที่ 45 เมียเราน่ารักที่สุดในโลก

ความนุ่มหยุ่นของสองเต้าเร่งเร้าให้ยิ่งอยากกลืนกิน ริมฝีปากหนาเลื่อนลงไปแล้วอ้าอมเต้าอวบข้างหนึ่งเข้าปาก ดูดกินอย่างกระหายสลับกระดกพลิ้วลิ้นไปบนยอดอก นางครางเครือราวใจจะขาด แต่ก็ยังอดห่วงอาการเจ็บป่วยของเขาไม่ได้

“ อื๊อ ไฟ ไฟจ๋า อย่าทำแบบนี้ ไฟป่วยอยู่นะ ”

ทว่าเขาไม่ฟังอีร้าค่าอีรมใด ๆ ยังคงระดมกลืนกินสองเต้าอย่างหิวโหย เบื้องล่างบดเบียดความแข็งแกร่งแห่งท่อนลำรักยิ่งใหญ่เข้ากับกลีบเนินอวบอูม แหวกแทรกเข้าตรงรอยแยก ถูไถมันเข้ากับเกสรกระสันน้อย ๆ ช้า ๆ ทว่าคนใต้ร่างดิ้นพราด

“ ไฟ มะ… ไม่ได้นะ เดี๋ยวช็อคแบบเมื่อกี๊ ”เธอว่าพลางพยายามผลักเขาออก แม้อารมณ์จะเตลิดไปไกลแต่ใจเป็นห่วงอาการของเขามากกว่า ทั้งที่ผู้ป่วยเองก็ดูจะไม่อาทรร้อนใจใด ๆ นัก เขาเงยหน้าขึ้นด้วยแววตาเยิ้มฉ่ำแรงกล้า

“ ไม่ช็อคหรอกน่า ”

“ ช็อคสิ ร่างกายไฟไม่ปกติอยู่นะ ”

เธอว่าพลางพยายามดิ้นรนออกจากใต้ร่าง แต่ผู้ป่วยไม่ยอม กลับยึดมือทั้งสองของเธอไปตรึงไว้เหนือศีรษะ บัวตูมสองเต้าตูมเต่งท้าทาย นั่นยิ่งทำให้ไฟในกายชายคุโชน

“ หมอกไม่เห็นในหนังจีนหรือไง เวลาที่พระเอกป่วยนางเอกก็จะถอดเสื้อผ้าแล้วเข้าไปกอด มันเป็นการถ่ายทอดพลังลมปราณให้กัน แล้วมันก็จะดีขึ้น นี่เห็นไหมเรามีแรงขึ้นมาเลย ถ้าหมอกรักเราและอยากให้เราหาย เรามาถ่ายทอดพลังลมปราณให้กันและกันนะ ”

“ ลมปราณบ้าบออะไรล่ะไฟ นั่นมันในหนัง อีกอย่างเดี๋ยวหมอหนามก็จะมา ” เธอรีบพูดรัวเร็วอย่างกังวล อีกฝ่ายส่งยิ้มมาให้

“ มันไม่มาหรอก ไอ้หมอเถื่อนนั่นน่ะ ”

“ มาสิ หมอรับปากหมอกแล้ว แล้วไฟรู้ได้ยังไงว่าหมอจะไม่มา ”

“ ก็ไปโรงพยาบาลนู่น กว่าจะกลับมาก็อีกนาน ”

“ แต่ว่า… ” แต่ว่าอะไรไม่รู้ เพราะคนพูดไม่มีโอกาสได้พูดจบ เพราะโดนปิดปากแล้วรุกล้ำด้วยจูบเร่าร้อนจนอ่อนระทวย

เมื่อรู้ว่าสาวเจ้าโอนอ่อน นายไฟที่ตอนนี้ร้อนเป็นไฟด้วยไฟราคะก็ไม่รอช้า ผละจากจุมพิตนั้นแล้วโลมเลียลาก ลิ้นสากร้อนผ่านเนื้อนวลทุกอณู เร่งรีบต่ำลงเบื้องล่างที่มือใหญ่ทั้งสองดันขาเรียวให้แหวกอ้า กลีบอวบอูมแยกแย้มเผยให้เห็นติ่งกระสันน้อย ๆ ยื่นออกมาท้าทาย เขาก้มลงดูดกลืนสองกลีบอูม แทรกลิ้นลงไปแตะต้องตุ่มติ่งน้อยลากลิ้นพลิกพลิ้วขึ้นลงซ้ายขวาสลับกับดูดดุบเป็นจังหวะ เสียงหวานครางเครือพยายามส่ายสะโพกหนีความกดดันเร่งเร้าเร่าร้อนทว่าเขายึดไว้แน่น ทั้งยังเร่งจังหวะลิ้นและดูดให้รัวเร็ว สุดท้ายเธอได้แต่ยอมจำนนแดะสะโพกโหนกงามขึ้นอัดใบหน้าหล่อเหลานั้นจนน้ำรักคาวสาวเปียกเปื้อนเขายิ่งดูดแรงเน้นหนัก ภายในร่องรักตอดตุบเป็นจังหวะรัวถี่ก่อนระเบิดพร่างพรายคาลิ้นและปากอุ่นชื้น

“ อูว ไฟ ไฟจ๋า  รับขวัญทั่วใบหน้า

“ หมอกจ๋า เราอยู่นี่ ” เธอคว้าร่างหนามากอดแนบแน่น

“ กอดหมอกที หมอกใจจะขาด ”

เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วบดเคล้าเรือนกายแกร่งกำยำลงแนบแน่นกับความนุ่มนิ่มอรชรเบื้องล่าง

“ ได้สิ เราจะกอดหมอกไว้แบบนี้ไม่มีวันปล่อยเราสัญญา ” พูดพลางเบียดบดความแข็งแกร่งที่ยังร้อนรุ่มแข็งขึงเข้ากับกลีบกลางอวบอูมอีกครั้ง เธอครางประท้วง

“ พอได้แล้วมั้งไฟ เดี๋ยวไข้กลับ ”

“ พอได้ยังไงล่ะหมอก เรายังไม่ได้ไปสวรรค์เลย ” เขาเย้า เธอหน้าแดงก่ำ ฟาดฝ่ามือลงบนอกแกร่งแก้เก้อ

“ ทะลึ่งไม่มีเปลี่ยน ”

“ ก็คนคนเดิม ภายนอกอาจจะเปลี่ยน แต่ไฟก็ยังเป็นไฟคนเดิม ที่รักหมอกจนสุดหัวใจ หมอกยังจำคำสัญญาของเราได้หรือเปล่า ” เธอยิ้ม

“ เรื่องไหนล่ะ สัญญาเยอะไปหมด จำไม่หวาดไม่ไหว ทำได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ”

“ เรารู้ว่าหมอกจำได้ ” หญิงสาวยิ้ม ก่อนยกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าคมสันนั้นเบา ๆ อย่างรักใคร่ ก่อนเอ่ยทวนคำรักที่เขาเคยบอก

จำได้ทุกอย่าง ไม่เคยลืม…

“ เมื่อไรที่หมอกหนาว ไฟจะให้ความอบอุ่น เมื่อไรที่หมอกร้อน ไฟจะให้ความร่มเย็น เมื่อไรที่หมอกอยากให้รัก ไฟจะรักให้เร่าร้อนจนหมอกละลาย ”

“ เมียเรา น่ารักที่สุดในโลก ” เขาเอ่ยพลางยิ้มหวาน แล้วแกล้งจ้องมองเธอด้วยสายตาเยิ้มฉ่ำไม่ลดละ หญิงสาวหน้าแดงมุดหนีหลบสายตานั้นไปซุกซบยังแผงอกแกร่ง

เปลวไฟในม่านหมอก

เปลวไฟในม่านหมอก

เปลวไฟในม่านหมอก

Comment

Options

not work with dark mode
Reset