เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ – ตอนที่ 10 Latife ปี 82

“เพื่อนนักเรียน ถ้าไม่รังเกียจ ให้ผมเป็นคนแนะนำอาหารเหล่านี้ให้ทุกคนดู”

ชิวเหวินเทา อาสาออกมาและเริ่มแนะนำอาหารแต่ละอย่าง

“นี่เป็นอาหารขึ้นชื่อ [มังกรคู่เล่นมุก] ต้องใช้ปลาหางยาวสองตัวจากทะเลลึกที่ถูกใช้เครื่องมือพิเศษในการจับมาและปรุงมันด้วยเชฟระดับสูง เหราะเหตุนี้รสชาติของเนื้อปลาจึงสดใหม่และไม่เลี่ยน ส่วนไข่มุกทองคำนั้นเป็นมันฝรั่งบดที่เมื่อเข้าปากแล้วมันจะละลายในปากของคุณ”

“นอกจากนี้ จานนี้ยังเป็นหนึ่งในอาหารฮาลาล [จูปาเซียน] เป็นจานที่มีชื่อเสียงอีกจานหนึ่ง มันมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่าพันปี รสชาติที่สดกรอบ และมีกลิ่นหอมกรุ่น”

“เร็วเข้าทุกคน อย่างเอาแต่ฟังอย่างเดียว รองชิมดู”

“แล้วก็มีซุปนี้ด้วย ทุกคนอาจเคยได้ยินชื่อของมัน มันคือพระกระโดดข้ามกำแพง แต่พระกระโดดข้ามกำแพงนี้ มีวิธีทำที่แตกต่างออกไปจากวิธีปกติ…”

ชิวเหวินเทา พูดจาฉะฉานและไหลลื่น จนชนะใจกลุ่มสาวๆได้

“สมควรแล้วที่เป็นปลาหางยาวน้ำลึก อร่อยจริงๆ ด้วยรสชาติชั้นหนึ่ง สดมากและไม่มีกลิ่นคาวเลย”

“การรวมตัวของอมตะทั้งแปดนี้ก็ยังอร่อย รสชาติไม่หนักมาก ฉันชอบ!”

“ถึงที่นี่จะแพง แต่ก็มีเหตุว่าทำไมมันถึงแพง อย่างพระกระโดดกำแพงนี่ฉันสามารถกินได้หลายชามอย่างที่พี่เทาบอกเลยจริงๆ!”

ทุกคนต่างชื่นชมความเป็นอาชีพของชิวเหวินเทา

“พี่เทาช่างรอบรู้!”

“เมื่อพี่พูด พี่นั้นเหมือนแม่น้ำและทะเลสาบอันเก่าแก่ที่บรรจุความรู้ไว้มากมาย!”

“แน่นอน ฉันเห็นด้วย!”

“ฉันก็ด้วย”

ชิวเหวินเทา ภายนอกของเขานั้นอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ภายในนั้นเขากลับมีแต่ความเย็นชา!

การแสดงของเขานั้นยกระดับขึ้นแล้วจริงๆ!

จางซีรุ่ยเห็นว่าปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่ วันนี้ชิวเหวินเทาทำได้ดีเกินไป!

มันแสร้งทำเป็นสุขุมเก่งจริงๆ!

เขารู้ว่าเจ้านั่นได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตามจางซีรุ่ยก็ทำงานหนักมากถ้าเทียบกันในหมู่เพื่อนร่วมชั้นเหล่านี้ เขาเป็นคนที่มีพัฒนาการดีที่สุดและมีเงินเดือนมากที่สุด

ไม่นานบรรยากาศก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

จางซีรุ่ยอาศัยทักษะทางสังคมและพลังอันหนักหน่วงของเขาเพื่อให้ตัวเองกลายเป็นจุดสนใจของชั้นเรียนอีกครั้งแต่ชิวเหวินเทาไม่เหมือนกับเขา

ในสายตาของบรรดาเพื่อนร่วมชั้นทั้งหมดมีเพียงสองคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตซึ่งนั่นก็คือพวกเขาทั้งคู่!

ว้าว!

น่าสนใจมาก!

……

ณ เวลานี้

ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดอีกครั้ง

ผู้จัดการภัตตาคารจีหยวน เดินนำเข้ามาและตามด้วยพนักงานเสิร์ฟสาวสวยสามคนในชุดกี่เพ้า แต่ละคนถือขวดไวน์แดงในมืออย่างระมัดระวัง

พวกเขาเดินเข้ามา

“ผมขอโทษจริงๆครับ”

ผู้จัดการเดินเข้ามากล่าวขอโทษ และสามสาวงามก็เดินตรงไปยังเจียงเฉิน ดวงตาของพวกเขาเธอเต็มไปด้วยความเคารพ

“พวกคุณเป็นอะไรรึเปล่า?”

เมื่อเห็นเหตุการณืนี้ เพื่อนร่วมชั้นเรียนก็สับสนในเวลาเดียวกัน

ชิวเหวินเทามีสายตาที่แหลมคมเขาเห็นป้ายบนขวดไวน์สี่ขวด และดวงตาของเขาก็แทบถลนออกมา!

“บ้าไปแล้ว! นี่มันลาฟีเต้! ลาฟิตปี 1982!”

“อะไรนะ!”

จางซีรุ่ยอุทานออกมาดังยิ่งกว่าเดิมและเดินเข้าไปและมองดู “มันคือ Lafite ปี 1982 จริงๆด้วย!”

“ล…ลาฟีตปี 82!”

ทั้งห้องก็เดือดขึ้นทันที!

Lafite ปี 82 ปีนี้เรียกได้ว่าเป็นเหมือนโรลส์รอยซ์ ในวงการของไวน์

ChateauLafiteRothschild Chateau Lafite ซึ่งผลิตในประเทศ F ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองบอร์กโดซ์ เป็นหนึ่งในโรงบ่มไวน์ชั้นนำ 5 แห่งของโลก

ในปี 1982 องุ่นในภูมิภาคบอร์โดซ์นั้นสุกเกินไปเนื่องจากสภาพอากาศ และกลิ่นหอมของผลไม้ก็แรงผิดปกติ ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญบางคนจึงเชื่อว่าไวน์ดังกล่าวมีอายุที่สั้นและเก็บไว้ในขวดค่อนข้างยาก

แต่สิ่งที่ฉันคาดไม่ถึงก็คือองุ่นของคฤหาสน์ Lafite ในปี 1982 นั้นทรงพลังมาก ปัญหานี้ไม่เพียงแต่ไม่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ไวน์ที่ผลิตออกมายังมีรสชาติที่เข้มข้นกว่าปกติอีกด้วย

ณ จุดนี้ Lafite ในปี 1982 มีชื่อเสียงของมันก็พุ่งทยานและกลายเป็นตำนานในอุตสาหกรรมของไวน์

ปีที่แล้วมีการประมูลขายไวน์ชนิดนี้และมันเพียงขวดเดียวกลับถูกประมูลไปด้วยราคาที่สูงถึง 100,000 หยวน!

นอกจากนี้ Lafite ของแท้ในปี 1982 ยังเป็นคอลเลกชั่นที่คุ้มค่า และคนรวยหลายคนที่ใช้มันเป็นของเก็บสะสม!

พวกเขาเคยเห็นแต่ไวน์ที่มีชื่อดังนี้ผ่านทางทีวี แต่พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นมันที่งานเลี้ยงรวมตัวของชั้นเรียนในวันนี้!

เพราะเหตุนี้ทำให้จางซีรุ่ยต้องบังคับให้ตัวเองกลืนน้ำลายและถามออกมาว่า

“ไวน์นี้มันมาได้อย่างไร

ชิวเหวินเทา ตกใจมากจนเขาหยุดที่หน้าชุดกี่เพ้าสาวงามอย่างรวดเร็ว

“สาวงามทั้งหลายพวกคุณคงเข้าใจผิดไป เราไม่ได้สั่งไวน์นี้ รีบนำมันกลับไปเร็วๆ”

ไวน์ขวดละหนึ่งแสนหยวนนี้ปกติจะมีราคาขายปลีกอยู่ที่ 150,000 หยวน

สี่ขวดนี้ราคาหกแสน และรถของฉันคันเดียวต่อให้ขายมันก็ได้ไม่ถึงครึ่งของราคานี้ด้วยซ้ำ!

เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ก็ยากจนกันหมด ฉันควรทำอย่างไรหรือเขาจำเป็นต้องแบ่งกันจ่ายกับจางซีรุ่ยจริงๆ

ใครจะไปรู้ ผู้จัดการโรงแรมยิ้มออกมาเล็กน้อยด้วยอารมณ์สงบแล้วพูดว่า

“สุภาพบุรุษท่านนี้ ได้โปรดรับไว้เถิด เรามอบไวน์นี้ให้กับประธานเจียง”

“ท่านประธานเจียง!”

ชิวเหวินเทา ตกตะลึง

จางซีรุ่ยก็ตกตะลึง

หยาซินก็ตกตะลึงเช่นกัน

ทุกคนอึ้ง!

ประธานเจียง…

ดูเหมือนว่าจะมีเพียงคนเดียวในชั้นเรียนของเราที่มีแซ่เจียงใช่ไหม?

มันอาจจะเป็น…

เจียงเฉิน! ! !

ทุกคนหันไปมองเจียงเฉินทันที!

พวกเขาทุกคนเห็นว่าผู้จัดการและสาวงามทั้งสามเดินตรงไปที่เจียงเฉินและโค้งคำนับด้วยกัน!

“ท่านประธานเจียง!”

เพราะเป็นร้านหลักของบริษัท ผู้จัดการและสาวสวยในชุดกี่เพ้าที่นี่จึงมีความเป็นมืออาชีพเป็นพิเศษและมีการเก็บอารมณ์ได้ดั

ทุกคนช็อก!

ทุกคนต่างเงียบไม่ส่งเสียงอะไรทั้งนั้น!

ไม่มีใครคาดคิด เจียงเฉินในตอนนี้อยู่ๆก็เปลี่ยนร่างของเขาและกลายเป็นประธานเจียง ของ ภัตคารจีหยวนกรุ๊ป!

เจียงเฉินพยักหน้า: “เอาล่ะ มาเปิดไวน์กันเถอะ ให้เพื่อนร่วมชั้นของฉันได้ลิ้มรส Lafite ปี 82 ด้วย”

“ยอดเยี่ยม!”

เมื่อได้รับคำสั่ง ผู้จัดการก็หันไปทางสาวงามทั้งสอง และให้พวกเธอทั้งสามเปิด Lafite ทั้งสามขวดในทันที

จุกไวน์ถูกดึงออกมา และด้วยเสียง “ป็อป~” เพื่อนนักเรียนทุกคนในกลุ่มต่างมองดูจนตัวสั่น!

นี่คือเสียงของเงิน~

“ประธานเจียง ต้องการจะสั่งอะไรเพิ่มอีกไหมครับ?” ผู้จัดการถามอย่างสุภาพ

“ไม่ครับ แค่นี้ก็พอแล้ว” เจียงเฉินโบกมือของเขา

“ได้ครับ ผมจะให้พวกเธอสามคนคอยดูและท่านนะครับ” ผู้จัดการก้มเล็กน้อยและกล่าวด้วยความเคารพ

“อืม” เจียงเฉินพยักหน้า

“งั้นถ้าท่านประธานต้องการอะไร ติดต่อผมได้ตลอดเวลาเลยนะครับ”

ผู้จัดการก้มศีรษะและออกจากกล่องด้วยความเคารพ

ฝูงชนระเบิดอีกครั้ง!

“ว้าว!เจียงเฉิน ของพวกเรากลายเป็นประธานเจียง ของจีหยวนกรุ๊ปไปแล้ว!”

“ปรากฎว่าเจียงเฉิน มีพลังมากและเป็นคนสำคัญในประเทศจีนมาโดยตลอด… พวกเราคิดว่าเจียงเฉิน จะเป็นคนส่งพัสดุจริงๆซะอีก”

“แน่นอน คุณไม่สามารถฟังสิ่งที่จาง ซีรุ่ย และชิวเหวินเทาพูด มันเป็นเรื่องโกหก!”

จางซีรุ่ยและชิวเหวินเทา พูดไม่ออกเจียงเฉิน คนนี้จะเป็นประธานเจียงของจีหยวนกรุ๊ปได้อย่างไร?

การแสดงก่อนหน้านี้ถูกวางแผนมาเพื่อเยาะเย้ยเขา และตอนนี้เป็นใบของเขาคนนี้ถูกตบแทน! !

หลังจากได้รับความยินยอมจากเจียงเฉินแล้วเหล่าสาวสวยในชุดกี่เพ้าก็เริ่มเปิดขวดไวน์ Lafite ปี 82 และเทมันลงใส่แก้วทันที

 

เพื่อนร่วมชั้นต่างเฝ้ามองดูไวน์แดงชั้นดีที่น่ารับประทานในขวดไวน์อย่างโหยหา

“คนสวยคุณพอจะรู้ไหมว่าไวน์นี้มีประวัติความเป็นมายังไงบ้าง?”

เพื่อนร่วมชั้นชายคนหนึ่งถามอย่างกังวล

หญิงสาวในชุดกี่เพ้า เหลือบมองที่เจียงเฉิน และหลังจากได้รับการอนุญาติจากเจียงเฉิน เธอกล่าวว่า “ในกรณีนั้นฉันจะแนะนำ Lafite อายุ 82 ปีนี้ให้กับทุกคนอย่างเป็นทางการ”

 

“นี่คือไวน์แดงชั้นนำของโลกที่ผลิตขึ้นที่ Chateau Lafite ในเมืองบอร์กโดซ์ ประเทศฟา Lafite ในปี 1982 ตามชื่อของมัน มันถูกผลิตขึ้นในปี 1982 และมนตอนนี้มันก็หายากมาก ทางเราไปประมูลมันได้ในราคา 17,000 ดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว และนำมันมาเป็นของเก็บสะสมของทางภัตคาร ทั้งสี่ขวดนี้เป็นของขวัญจากทางที่ประชุมให้มอบไวน์ทั้งสี่ขวดนี้เป็นของขวัญสำหรับต้อนรับ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสามของ ซีหยวนกรุ๊ป”

“…”

หลังจากการแนะนำของของสาวงามในชุดกี่เพ้าเหล่าเพื่อนนักเรียนก็เริ่มอุทานอีกครั้ง

“พระเจ้าเจียงเฉิน กลายเป็นผู้ถือหุ้นอันดับสามของซีหยวนกรุ๊ป!”

“แน่นอน เขาเป็นผู้ชายในดวงใจของฉัน เขาไม่เคยเปลี่ยนไปเลย เขายังคงมีความสามารถอยู่!”

“เจียงเฉินนี้นายซ่อนมันไว้ได้เก่งจริงๆ! พอเปิดเผยออกมานายก็กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ไปแล้ว!”

นักเรียนชายวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้น

“พี่ชายเฉิน ขอบคุณที่มีคุณเป็นพี่ชาย ทำให้เพื่อนร่วมชั้นของเราโชคดีพอที่จะได้ดื่มไวน์แดงราคาแพงเช่นนี้ เพื่อนร่วมชั้น พวกเรามาขอบคุณพี่เฉินด้วยกัน! พี่เฉินสุดยอด!”

“พี่เฉินสุดยอดมาก!”

ทุกคนต่างส่งเสียงตะโกนออกมา!

ฉากนี้ดูมีชีวิตชีวามาก เจียงเฉินตอนนี้ไม่ต่างจากคนที่อยู่เวทีและมีสปอตไลท์คอยส่องมาที่ตัวเขาตลอดเวลา

เจียงเฉินยิ้มอย่างเฉยเมย “คืนนี้ฉันจะเป็นคนจ่ายเอง กินให้เต็มที่ ไม่เมาไม่กลับ!”

“พี่เฉินแข็งแกร่งและมีอำนาจจริงๆ!”

“พี่เฉินหล่อมาก!”

“พี่เฉินสุดยอดมาก!”

“แน่นอน ใบบรรดาพวกเราพี่เฉินเก่งที่สุด!”

บรรยากาศเฮฮาขึ้นมาทันที!

จางซีรุ่ยอ้าปากค้างและจ้องไปที่ Lafite ปี 82 ด้วยความงุนงง

เขาแอบตัดสินใจเงียบๆว่าเขาจะไม่มีวันจิบไวน์ Lafite ปี 82 อย่างเด็ดขาด

ทางด้านชิวเหวินเทา เขาไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเขาจึงยกมันขึ้นมาดื่มโดยตรง จากนั้นจึงยื่นแก้วให้จางซีรุ่ย

“มาเถอะ ดื่มอวยพรเถอะ นายทำอะไรเขาไม่ได้แล้ว”

“หนึ่งอึก ฉันจะดื่มหนึ่งอึกเท่านั้น”

จางซีรุ่ยดมไวน์ก่อนที่จะจิบมัน

“สมควรแล้วที่เป็นไวน์ชั้นดี…”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset