เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ – ตอนที่ 143 : การจีบสาวเวอร์ชั่น 3.0ของเจียงเฉิน!!

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ ตอนที่ 143 : การจีบสาวเวอร์ชั่น 3.0ของเจียงเฉิน!!

 

วันต่อมา

 

เจียงเฉินขับรถส่งผู้โดยสารจนกระทั่งมาถึงห้างแห่งหนึ่ง!

 

“ขับมาตั้ง 2 ชั่วโมงรู้สึกเริ่มรู้สึกเหนื่อยแล้วงั้นพักซัก 3 ชั่วโมงก็แล้วกัน!”

 

เจียงเฉินจัดเวลาได้อย่างสมเหตุสมผลจริงๆ เขาใส่ใจทั้งการหาประสบการณ์ชีวิตทั้งการพักผ่อน!

 

(ระบบ :

 

ทําแบบนี้แล้วจะหางานยังไงละเนี่ย?)

 

เจียงเฉินตัดสินใจเดินลงไปช้อปปิ้งในห้างเพื่อผ่อนคลายซักหน่อย

 

ห้างแห่งนี้มีชื่อโลกแห่งจินตนาการ มันถูกตั้งอยู่บนย่านเศรษฐกิจ มันเป็นที่รู้จักในฐานะของหนึ่งในห้างที่มีความหรูหราที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองหลวง!

 

รอบๆที่นี่มีแต่คนที่รวยกันทั้งนั้น!

 

เจียงเฉินเดินเข้าไปข้างในเขาวางแผนว่าจะไปดูร้าน Gucci ของที่นี่เพื่อดูว่าการขายของร้านเป็นยังไงบ้าง

 

ในขณะนั้นเอง เจียงเฉินก็ได้สังเกตเห็นร่างที่คุ้นเคย

 

เด็กสาวที่สวยและบริสุทธิ์ในชุดนักเรียนที่มาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ

 

เธอนั้นราวกับตัวละครในโลกอนิเมะ ความสวยของเธออยู่ที่ 95 คะแนน

 

แม้ว่าในห้องแห่งนี้จะมีสาวสวยมากมายราวกับเมฆในท้องฟ้าแต่เธอนั้นเปรียบเสมือนนกกระเรียนที่อยู่ท่ามกลางฝูงไก่ทําให้คนที่ผ่านไปผ่านมาต่างจ้องมองมาที่เธอ

 

และแน่นอนเธอก้คือ มู่ฉิงเหอ ลูกสาวของประธานร้าน 4S มู่เจิ้งชาง!

 

เธอนั้นก็คอยส่ง Wechat มาหาเจียงเฉินทุกๆวันแต่เจียงเฉินเองก็คิดว่าเธอนั้นยังคงเด็กเกินไปเพราะเธอยังอายุแค่ 18 ปีเท่านั้น!

 

ในเวลานี้เองผู้ชายคนหนึ่งที่ทั้งอ้วนทั้งเตี้ยและน่าเกลียดก็เดินเข้าไปหาเด็กสาวในชุดนักเรียน

 

“น้องสาว พี่เป็นผู้กํากับ พี่ชื่อเผิงเผิง พอดีพี่เดินตามดูน้องมาประมาณชั่วใงครึ่งแล้ว น้องนี่สวยสุดยอดจริงๆ(ยก นิ้วให้)น้องสนใจเข้ามาทํางานในวงการบันเทิงไหม? ถ้า สนใจพี่หาตําแหน่งนางเอกให้ได้นะ!”

 

มู่ฉิงเหอ “ไม่ค่ะ!”

 

ตรงไปตรงมา!

 

เมื่อมองดูรูปร่างที่อ้วนท้วมของอีกฝ่ายเธอดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดีและต่อให้เขาเป็นผู้กํากับจริงๆเธอก็ไม่สนใจอยู่ดี!

 

ครอบครัวของเธอนั้นรวยมากพออยู่แล้วและเธอเองก็เป็นลูกคนเดียวดังนั้นเธอจึงไม่มีความจําเป็นที่จะ ต้องไปทําอะไรแบบนี้

 

และที่มากไปกว่านั้นกฏภายในของวงการบันเทิงทุกคนเองก็รู้ดีอยู่แล้ว

 

ตาของเผิงเผิงหกแคบเขาพยายามชักชวนต่อไป “เธอนะดูสวยและไร้เดียงสามากนะและเธอเองก็ดูมีความสามารถมากด้วยเธอสามารเป็นนักแสดงหญิงที่มีชื่อเสียงในอนาคตได้แน่ๆนะ”

 

มู่ฉิงเหอขมวดคิ้ว “ขอโทษนะคะ คุณลุงหนูไม่ได้มีความคิดที่จะเป็นดาราและก็ไม่เคยมีด้วยค่ะ

 

เผิงเผิงดูกังวล “อย่าเพิ่ง…น้องสาวเรามาแอด wechat ไว้ก่อนก็ได้ พี่ไม่ใช่ผู้กํากับปลอมหลอกนะ พี่เป็นผู้กํากับจริงๆ เธอเคยได้ยินหนังเรื่อง “นินจาสาวปะทะบูนาน่า” ไหมนั่นผลงานพี่เองนะ!”

 

“หนูเคยดูแล้วค่ะ! ห่วยแตกมาก!”

 

เพิ่งเผิงที่ได้ยินก็แทบกระอักเลือดออกมา!

 

หนังที่เขาตั้งใจทําขึ้นมากลับกลายเป็นหนังห่วยๆเนี่ยนะ?!

 

เขายังไม่ยอมแพ้เขายังพยายามตามตื้อมู่ฉิงเหอต่อไป

 

ในเวลานี้เอง เจียงเฉินก็เดินเข้ามาตบไหล่ของเขา “พวกจีบแบบนั้นน่ะไร้ประโยชน์ ดูฉันดีๆล่ะ”

 

เจียงเฉินเดินเข้าหามู่ฉิงเหอก่อนจะจ้องมองเธอ “สาวน้อย-เหมือนเราจะเคยเจอกันนะ? จําได้ไหม?”

 

ตาของมู่ลิ้งเหอเป็นประกาย!

 

ฤดูใบไม้ผลิของเธอมาแล้ว

 

กรด– ฉันตกหลุมรักอีกแล้ว!

 

เป็นเขา! พี่ชายเจียงเฉิน

 

เจียงเฉินเข้าไปโอบเอวเล็กของเธอก่อนจะหันกลับมาแล้วเอาหลังไปพิงกับกําแพง!

 

มู่ฉิงเหอหน้าแดงกําแต่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยประกายระยิบระยับ!

 

ในใจของเธอราวกับมีกวางน้อยกําลังวิ่งกระโดดไปมา! 

 

เผิงเผิง “????”

 

ทําไมสาวน้อยถึงยอมให้เขากอดได้กัน?

 

เลเลย!

 

เฝึงเพิ่งมึนงง!

 

แม่งเอ้ย! แม้ว่าฉันจะเป็นแค่ผู้กํากับหนังห่วยๆแต่ทักษะการจีบสาวของฉันมันก็ยังโดดเด่นไม่ใช่รึไง!

 

มีสาวๆนับไม่ถ้วยที่โดนฉันหลอก!

 

แต่วันนี้กลับโดนไอ้เวรนี้ตัดหน้าไปได้ซะงั้น?!

 

มันไม่สมเหตุสมผลเกินไปแล้ว!

 

เจียงเฉินพูดออกมาเบาๆ “สาวน้อย เราไปกินกาแฟซักแก้วกันหน่อยไหม?”

 

“ค่ะ

 

ดวงตาสวยของมู่ฉิงเหอปิดลงจนกลายเป็นพระจันทร์เสี้ยว

 

เผิงเผิง “ !!”

 

ตกตะลึง!

 

นี่มันเคล็ดลับใหม่งั้นหรอ?!

 

มู่ลิ้งเหอเข้าไปกอดแขนของเจียงเฉินไว้

 

ถึงแม้เจียงเฉินจะพาฉันกลับบ้านของเขาไม่ได้แต่พ่อของฉันก็จะให้ฉันแต่งกับพี่เจียงเฉินอยู่ดี!

 

เผิงเผิงในตอนนี้กําลังมองดูทั้งคู่อย่างโง่งมราวกับว่าตัวเองเป็นคนโง่ที่มี IQ แค่ 15

 

เจียงเฉินยิ้ม “พวก การจีบของนายมันตกยุคไปแล้วของฉันน่ะมันเวอร์ชั่น 3.0 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด นายทําตามไม่ ได้หรอกนะะะะ”

 

หลังจากพูดจบ เจียงเฉินก็เขียนคําว่า “ไม่” ก่อนจะเดินจากไปอย่างเท่ๆ!

 

เฝึงเผิงดูโง่งมหนักกว่าเดิม!

 

เวอร์ชั่นล่าสุด 3.0

 

มันคืออะไรกัน?

 

ดูเหมือนการจีบของเขามันจะใช้การไม่ได้แล้ว…ไม่แปลกใจเลยทําไมช่วงหลังๆมานี้อัตราสําเร็จมันถึงได้ต่ําลงข นาดนี้

 

“ดูเหมือนเราจะเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนนะ เธอจําได้ไหม?”

 

เผิงเผิงอดไม่ได้ที่จะท่องออกมาแล้วดวงตาของเขาก็เป็นประกาย “ฉันเข้าใจแล้ว! ที่นี้ต้องไปลองดู!”

 

ไม่นานเผิงเผิงก็เจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง เขาจึงลองใช้วิธีที่ได้มาใหม่เพื่อทําการจีบเธอทันที!

 

“ว่าไง คนสวย ”

 

เผึ้งเผิงเดินเข้าไปหาสาวสวยแล้วทําการเลียนแบบเจียงเฉินทันที “คนสวยไปกินกาแฟกับผมที่ร้านกาแฟข้างๆธนา คารไหม?”

 

สาวสวยมองเขาอย่างรังเกียจแล้วพูดออกมาด้วยความโม โห

 

“โรคจิตเอ๊ย!”

 

????”

 

เผิงเผิงมองดูอย่างโง่งม เขาก็ทําตามวิธีแบบแล้วนี่ทําไมถึงเป็นแบบนี้กัน?

 

ทําไมหมอนั่นทําแบบนี้กับเด็กสาวคนนั้นได้กัน?

 

เขายังคงพยายามลองต่อไปะ–

 

“สาวน้อย- ไม่ต้องอาย มาเถอะ

 

เลียนแบบเจียงเฉินโดยการใช้มือที่ใหญ่ราวกับท้าของหมูไปโอบเอวของสาวสวยก่อนจะเอนตัวไปพิงกับ กําแพง—

 

สาวสวยกร็ดออกมาทันที

 

“กรด– พวกโรคจิต! สามีช่วยฉันด้วย!”

 

สาวสวยวิ่งออกไปด้วยใบหน้าที่ซีดเธอวิ่งไปชายคนหนึ่งที่ดูแข็งแรงมาก

 

เวลาต่อมาเงาดําขนาดใหญ่ก็ปรากฎจนครอบครุมหัวของเฝึงเพิ่งไปทั้งหมดและปกครุมตัวเขาไปทั้งตัว!

 

ชายคนหนึ่งที่มีร่างกายกํายําเดินมาปรากฏตัวต่อหน้าเฝึงเผิง

 

ก่อนจะจับคอเสื้อของเขาแล้วยกขึ้นมาราวกับกําลังจับไก่

 

“แกกล้ามากนะ! กล้าดียังไงมารังแกแฟนของฉัน!”

 

ชายร่างกํายําจ้องมองเผิงเผิงด้วยสายตาเย็นชา

 

“อ๊ะ ไม่ นี่มันเรื่องเข้าใจผิด! มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด!”

 

เฟิงเผิงพยายามหาทางรอดและเริ่มตระหนักว่าเขาคงจะโดนหลอกเข้าให้แล้ว!

 

วิธีจีบสาวบ้าบออะไรกัน?

 

มันเรื่องโกหกทั้งนั้น!

 

“มไม่! พี่ชาย ฟังฉันก่อน ฉันไม่ได้เป็นคนโรคจิต ฉันแค่จะลองวิธีจีบสาวแบบ 3.0 เฉยๆ นะ”

 

เผิงเผิงถูกยกขึ้นมาอย่างน่าสงสารโดยผู้ชายที่แข็งแรงกํายําแต่ตัวเขานั้นกลับอ่อนแอและน่าสงสาร

 

“ฉันเชื่อก็บ้าแล้ว!”

 

ชายที่ดูแข็งแรงกํายําพูดออกมาอย่างโมโห “แกไอ้อ้วน แกมันพวกตัณหามาก! ตายซะเถอะ!”

 

โยน!

 

เผิงเผิงโดนโยนลงไปบนพื้นก่อนจะโดนชายร่างกํายําเข้ามาต่อยซ้ํา!

 

“อีก

 

เผิงเผิงน้ําลายฟูมปาก

 

ตาของเขาเหลือกจนมีเพียงแต่สีขาว!

 

เขาตะโกนออกมาด้วยความโศกเศร้าและขุ่นเคือง “เจ้าบ้านั่นโกหกฉัน รอฉันก่อนเถอะ!”

หลังจากเดินไปซักพัก

 

มุ่งฉิงเหอมองเจียงเฉินอย่างเขินอาย “พี่เจียงเฉิน-เราจะไปไหนกันหรอ?”

 

เจียงเฉินตอบอย่างเด็ดขาด “ส่งเธอกลับบ้าน!”

 

“หือ? กลับบ้านตอนนี้?”

 

มู่ฉิงเหอมองเจียงเฉินอย่างแปลกใจ คู่รักทั่วไปไม่ควรจะไปดูหนังกันหรอแล้วก็ค่อยไปต่อกันที่โรงแรมที่หลัง?

 

และที่มากไปกว่านั้น พ่อเองก็เห็นด้วยเรื่องการแต่งงานครั้งนี้แล้ว!

 

เจียงเฉินอธิบายออกมา “ฉิงเหอ ฉันมีแฟนอยู่แล้วนะฉันทําแบบนี้ก็เพื่อเธอ”

 

มู่ฉิงเหอพูดอย่างแปลกใจ “หนูไม่ขัดอะไรหรอกที่จะแบ่งพี่กับบรรดาพี่สาวคนอื่นๆ”

 

เจียงเฉินเหงื่อตก…

 

เจียงเฉินคิดซักพัก “ค่อยมาพูดกันอีกทีตอนเธอ โตแล้วก็แล้วกันตอนนี้เธอยังแค่ 18 เท่านั้นเอง!”

 

มู่ฉิงเหอโบกหมัดเล็กๆของเธอไปมาก่อนจะพูดอย่างดุ เดือด “หึพี่เจียงเฉิน-มันไม่ต่างกันหรอกพี่ล่วงเกินหนูไปแล้วพี่ต้องรับผิดชอบพอหนูจบจากมหาลับเมื่อไหร่หนูจะย้ายไปอยู่บ้านพี่!”

 

เจียงเฉินก่ายหน้าผากและหลั่งเหงื่อในใจ

 

ชื่อเสียงของฉันคนนี้ต้องตกไปอยู่ในมือของนางฟ้าตัวน้อยนี่แล้วหรอเนี่ย!

 

ไม่สิ เธอมันแม่มดตัวน้อยชัดๆ!

 

เจียงเฉินในตอนนี้ขับรถมาส่งมู่ฉิงเหอจนถึงหน้าประตูบ้

 

เธอลงจากรถก่อนจะเดินไปสองสามก้าวแล้วหันกลับมาก

 

มู่ฉิงเหอกลอกตา “พี่เจียงเฉิน- ตอนนี้พี่เป็นคนขับไปแล้ว หนูนั่งโดยไม่ให้อะไรที่ไม่ได้หรอกนะ”

 

เจียงเฉินพิงกระจกหน้าต่างรถแล้วยิ้มออกมา “หือ? เธอจะจ่ายค่ารถให้ฉันรึไง?”

 

มู่ลิ้งเหอเอนตัวมาข้างหน้าก่อนจะเดินเข้ามา

 

“มั่ว

เธอจูบเจียงเฉิน

 

เจียงเฉินที่ไม่ทันระวังก็ตกตะลึง!

 

นี่ฉันเป็นใคร? อยู่ที่ไหน? แล้วเมื่อเกิดอะไรขึ้น?

 

มู่ฉิงเหอยิ้มอย่างอายๆ “ฮิฮิ พี่เจียงเฉิน- จูบ แรกของหนูให้พี่เป็นค่ารถก็แล้วกัน”

 

“นี่”

 

เจียงเฉินเองก็เป็นไปด้วย

 

มู่ฉิงเหอยิ้มออกมาก่อนจะเดินจากไปอย่างไม่เต็มใจ

 

เจียงเฉินที่กําลังจาะขับรถออดไปทันใดนั้นเขาก็มีสายเรียกเข้าจากอู่หลิงเหยา

 

“เจียงเฉิน ฉันจะชวนนายมาทานอาหารเย็นคืนนี้ได้ ไหม?”

 

ปกติแล้วรู่หลิงเหยามักจะใจกว้างเป็นปกติแต่ครั้งนี้เธอนั้นเขินอายเป็นอย่างมาก

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอนั้นเป็นฝ่ายชวนผู้ชาย

 

เจียงเฉินยิ้ม “ได้สิ”

 

เจียงเฉินขับรถไปรับฉ่หลิงเหยาก่อน จะออกไปกินข้าวด้วยกัน

 

วันนี้ฉ่หลิงเหยาได้จองร้านอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว เป็นร้านอาหารฝรั่งเศา [Famello Western Restaurant]

 

ร้านนี้เป็นหนึ่งในร้านที่ดีที่สุดในเมืองหลวง ร้านแห่งนี้ตั้งอยู่ที่วงแหวนทางใต้ของเมืองหลวง

 

คนที่จะเข้ามาทานอาหารที่นี่จะต้องแต่งตัวเรียบร้อยไม่เช่นนั้นตัวของลูกค้าจะโดนบดบังจากการตกแต่งที่สว ยงามของร้าน : ภาพจิตกรรมฝาผนังที่ดูหรูหราโคมไฟคริ สตัลหรูทุกรายละเอียดของการออกแบบเต็มไปด้วยความหรูหรา

 

คนที่มาเยือนร้านแห่งนี้ปกติแล้วจะเป็นทูตหรือดาราคนดังจากต่างประเทศ

 

เพื่อที่จะมาทานอาหารที่นี่จะต้องทําการจองล่วงหน้าเอาไว้อย่างน้อย 7 วันและในแต่ละวันจะรับลูกค้าเพียง 20 คนเท่านั้น!

 

ดังนั้นราคาอาหารของที่นี่จึงแพงมากถ้าจะเฉลี่ยแล้วต่อคนนั้นมักจะอยู่ที่ 15,888 หยวนขึ้นไป!

 

นอกจากนี้อีกหนึ่งจุดเด่นของร้านนี้ก็คือภาพจิตกรรมบนฝาผนังที่มีราคาที่สูงมากมันถูกทํามาจากหินอ่อนจากประเทศฝรั่งเศษและพวกมันล้วนแต่ถูกสร้างสรรค์โดยศิลปินที่มีชื่อเสียงทั้งสิ้น!

 

เจียงเฉินดึงเก้าอีกออกมาก่อนจะให้ฉ่หลิงเหยานั่งลงไปด้านข้างเองก็มีพนักงานเสิร์ฟชาวฝรั่งเศษอยู่เขาเดินเข้ามาก่อนจะเริ่มทําการแนะนําเมนูอาหารตะวันตกทีละอย่าง

 

“เมนูอาหารตะวันตกของพวกเราที่นี่นับว่ามีชื่อเสียงมากด้วยการผสมผสานกับรสชาติแบบโพรวองซ์และรสชาติแบบต้นตําหรับได้อย่างลงตัวจึงทําให้มันมีกลิ่นหอมน่ารับป ระทานร้านของเราเองก็เลือกมาแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงไม่ ว่าจะเป็นเนื้อลูกวัวจากทุ่งหญ้าแพรรีทางตอนเหนือหรือจะเป็นเนื้อแกะจากเทือกเขาพิรินีและด้วยรสชาติต้ นตําหรับจากประเทศฝรั่งเศษของเรานั้นก็ทําให้ลูกค้าไม่น้อยเลยที่ได้ลิ้มลองแล้วก็ไม่อาจลืมรสชาติของมันลงได้ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าต้องการเมนูไหนดีครับ?”

 

“ที่นี่ดูเหมือนจะมีดีไม่น้อยนะ”

 

เจียงเฉินพลิกดูเมนูก่อนจะมองไปที่อู่หลิงเหยาแล้วยิ้มออกมา“คุณฉ่ถ้าอย่างงั้นวันนี้ผมไม่เกรงใจล่ะ นะ”

 

“ไม่มีปัญหาค่ะ”

 

อู่หลิงเหยายิ้มหวานออกมา “นายช่วยฉันเอาสร้อยคอกลับมาได้นะต้องเป็นฉันมากกว่าที่กลัวนายจะเกรงใจ”

 

การตอบแทนมันก็เป็นเพียงแค่เหตุผลหนึ่งเท่านั้นแต่เหตุผลหลักที่มาก็คือตอนที่อยู่ที่บ้านฉ่หลิงเหยานั้นคิดถึงเจียงเฉินมากกว่า

 

แม้แต่ตอนที่เธอเล่นเปียโนเธอก็ยังตั้งสมาธิไม่ค่อยจะได้

 

ดังนั้นเธอจึงเอาเรื่องการตอบแทนมาเป็นเหตุผลที่เหมาะสมเพื่อมาเจอเขาในวันนี้

 

เจียงเฉินที่ไม่รู้เรื่องก็ยิ้มออกมาก่อนจะเริ่มสั่งอาหาร

 

ในเวลานี้เอง..

 

ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับเสียงของเขาที่ดังมาแต่ไกละ

 

“ผมจะบอกอะไรให้นะ นี่คือร้านอาหารฝรั่งเศษที่ดีที่สุดในเมืองหลวง! ไม่มีที่ไหนดีกว่านี้อีกแล้ว!”

 

“และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนนั้นมากถึง 15,888 หยวน!”

 

“และที่มากไปกว่านั้นคนที่จะมาต้องทําการจองมาอย่างน้อยสามวันไม่งั้นก็อย่าหวังได้เข้ามาในร้าน!”

 

เมื่อได้ฟังเสียงที่ลอยมาใบหน้าของฉ่หลิงเหยาก็ดําคล้ําขึ้นมาทันที

 

เธอนั้นสามารถเดาตัวตนของคนที่กําลังเดินเข้ามาได้ในทันที

 

เจียงเฉินยิ้มแล้วถามออกมา “เธอรู้จักคนๆนี้ด้วยหรอ?”

 

รู่หลิงเหยาพูดออกมาด้วยความรังเกียจ “ฉันล่ะอับอายแทนเขาจริงๆฉันรู้จักเขา เขาชื่อเฉินเซิน… % ”

 

อู่หลิงเหยาแนะนําเขาสั้นๆ

 

ชายคนนี้ที่ชื่อเฉินเซินคือหนึ่งในเพื่อนร่ว มงานหลายๆคนของเธอเขานั้นเป็นนักดนตรีคนหนึ่ง และครอบครัวของเขาเองก็รวยมากมมีทรัพย์สินอยู่หลายพันล้าน

 

แต่ยังไงก็ตามเขานั้นโดนฉ่หลิงเหยาปฏิเสธมาหลายครั้งและวันที่เจียงเฉินได้ส่งรู่หลิงเหยากลับนั้น

 

รู่หลิงเหยาเองก็ได้ปฏิเสธเขาอย่างเด็ดขาดเป็นครั้งที่

 

เหตุผล : [ฉันมีคนที่ชอบแล้ว เขาชื่อเจียงเฉิน และเขาก็เป็นคนขับ

 

เฉินเซ็นทรุดตัวลงบนพื้นก่อนจะลุกขึ้นมาแล้วไปดื่มที่บาร์!

 

วันต่อมาเขาก็หาแฟนสาวมาได้ในทันทีและวันนี้เขาก็พาเธอมาด้วย

 

และในวันนี้ทั้งสองฝ่ายก็ได้มาเจอกันโดนบังเอิญ

 

เฉินเซินเองที่เห็นเจียงเฉินอยู่ข้างๆฉ่หลิงเหยาความโมโหของเขาก็เพิ่มขึ้น!

 

เขานั้นเข้าใจเรื่องราวได้ในทันทีว่า!

 

คนๆนี้ที่มีหน้าตาราวกับเทพบุตรจะต้องเป็นไปเวรที่ชื่อเจียงเฉินแน่ๆ!

 

ฉันสารภาพรักกับเธอไป 39 ครั้งแต่ก็ล้มเหลวตลอดแล้วตอนนี้เทพธิดาอู่หลิงเหยาของฉันก็ไปตกหลุมรักกับมัน!

 

แกมันไม่มีอะไรดีเลยนอกจากหน้าตา!

 

ทําไมกัน?

 

บิดาเฉินเซินคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการร้องเพลงแถมครอบครัวก็มีทรัพย์สินนับพันล้าน แต่ทําไมเทพธิดาอู่หลิงเหยากลับไปชอบคนอย่างแกกัน?!

 

Comment

Options

not work with dark mode
Reset