เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ – ตอนที่ 166 : อาจารย์พูดถูก

 

ตอนที่ 166 : อาจารย์พูดถูก

 

“อาจารย์”

 

มู่เฉิงเฉิงเธอนั้นไม่รู้ว่า แท้จริงแล้วจริงแล้วเจียงเฉินนั้นมีชื่อว่าอะไรเธอรู้เพียงแค่ว่าเขามีแซ่เจียงเท่านั้นแต่เธอก็ยังชอบ เรียกเขาว่าอาจารย์อยู่ดี

 

*(ขอเปลี่ยนการเรียกจากคนขับมาเป็นอาจารย์นะครับสองคํานี้ IrjX กับ Ir ในภาษาจีนนั้นออกเสียงคล้ายกันมากคําแรกนั้นจะหมายถึงอาจารย์ส่วนคําหลังจะ เป็นคําเรียกที่ค่อนข้างให้เกียรติกับคนที่ชํานาญในงานอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งรวมถึงงานขับรถ ช่างไม้และงานอื่นๆ)*

พอสําหรับเธอคําว่าอาจารย์นั้นฟังดูดีกว่าเยอะ!

 

“ว่ายังไงเด็กดี มีอะไรเหรอ?”

 

เจียงเฉินล้อเลียนเธอ

 

มู่เฉิงเฉิงที่อยู่ปลายสายก็หน้าแดง

 

แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอนั้นเคยหยอกล้อกับเจียงเฉินมาก่อนแต่สถานการณ์ในตอนนี้ไม่เหมือนเดิม

 

เพราะเจียงเฉินนั้นได้ช่วยให้เธอเข้าทํางานในบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินผ่ต่ํา!

 

มู่เฉิงเฉิงในตอนนี้เธอนั้นเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่มีต่อเจียงเฉิน

 

ที่ข้างๆเธอนั้นก็มีเฉินเค่อเฉียนหัวเราะคิกคักเดินเข้ามา “นี่คุณลูกศิษย์อาจารย์ของเธอเรียกเธอแล้วนะ รีบๆพูดเร็ว!”

 

“ไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

 

มู่เฉิงเฉิงตีแขนของเฉินเค่อเฉียน “อย่ามาแอบฟัง”

 

“แม้แต่กับฉันก็ต้องปิดบังด้วยหรอ?”

 

เฉินเค่อเฉียนทําหน้าน้อยใจ “ก็ใช้สิมีผู้ชายแล้วนิ!”

 

สองสาวหยอกล้อกัน

 

“นี่คุณลูกศิษย์ ไปอาบน้ําให้อาจารย์ของเธอได้แล้ว!”

 

เจียงเฉินที่ได้ยินก็เหงื่อตก

 

“ไม่!”

 

เฉินเค่อเฉียนแย่งโทรศัพท์มาแล้วพูดกับเจียงเฉิน “พอดีลูกศิษย์คนสวยของคุณ อยากจะเชิญคุณไปทานอาหารเย็นค่ะ!”

 

“???”

 

เจียงเฉินตกตะลึง

 

ท้ายที่สุดมู่เฉิงเฉิงก็แย่งโทรศัพท์กลับมาได้และพูดออกมาอย่างใจเย็น “อาจารย์คะพอดีมันเป็นแบบนี้ค่ะ พวกเราสองคนอยากเชิญคุณไปทานอาหารกินสักหน่อยเพื่อขอบคุณสําหรับความช่วยเหลือของคุณในวันนี้”

 

“โอเค”

 

เจียงเฉินยิ้มออกมาก่อนจะพูดว่า “ในเมื่อลูกศิษย์เชิญประทานอาหาร ทําไมอาจารย์จะไม่ไปล่ะ”

 

“นอกจากนี้”

 

มู่เฉิงเฉิงลังเลราวกับว่าเธอมีบางอย่างที่อยากจะพูดออกมา

 

“มีอะไรเหรอ?”

 

เจียงเฉินพูดออกมาเบาๆ

 

“เดี๋ยวค่อยคุยกันตอนเย็นนี้ดีกว่าค่ะ”

 

เฉินเค่อเฉียนรีบพูดแทรกออกมา

 

“เราไปที่ไหนล่ะ?”

 

“วันนี้ตอน 6 โมงเย็น ที่ร้านอาหารเทียนฉี ใกล้ๆกับประตูตะวันตกของมหาลัยเหรินหมินค่ะ!”

 

มู่เฉิงเฉิงพูดออกมาพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ํา “พวกฉันเพิ่งเริ่มทํางานและยังไม่ค่อยมีตังค์มากเท่าไหร่ ก็เลยเลี้ยง คุณได้เท่านี้”

 

“ไม่เป็นไรหรอก นี่ก็ดีกว่าที่ผมกินตามปกติอยู่แล้ว”

 

เจียงเฉิน “เอาเป็นว่าตามนี้แล้วกัน”

 

เวลา 6 โมงเย็น เจียงเฉินก็ขับรถ Audi ไปตามที่หมายที่ได้นัดกันไว้

 

เวลา 6 โมงเย็น Jiang Chen ขับรถ Audi ไปที่นัดหมาย

 

ร้านอาหารเขียน

 

มู่เฉิงเฉองกับเฉินเค่อเฉียนทักทายเจียงเฉินอย่างอบอุ่น

 

ในระหว่างการทานอาหารมู่เฉิงเฉิงก็ค่อนข้างสงวนท่าที่ของตัวเธอแต่เฉินเค่อเฉียนกลับกระตือรือร้นต่อเจียงเฉินมากเธอทั้งคอยคีบอาหารและหลินเหล้าให้เจียงเฉิน จน เจียงเฉินรู้สึกเขินอาย

 

เฉินเค่อเฉียนเองก็อยากรู้เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของแจงเชิญมากเช่นกัน

 

เมื่อยิ่งคิดก็ยิ่งแปลกเพราะเขาเป็นเพียงแค่คนขับตี้ตี้แต่เขากลับสามารถเปลี่ยนความคิดของประธานบริษัทใหญ่อย่างท่านประธานสู่จีได้!

 

และเธอยังจําได้อย่างชัดเจนว่าประธานลู่เรียกเขาว่าคุณเจียง!

 

จากเหตุการณ์นี้มันเห็นได้ชัดว่าจะต้องมีเรื่องราวซับซ้อนซ่อนอยู่แน่!

 

เฉินเค่อเฉียน ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัยว่าตัวตนที่แท้จริงของเจียงเฉินนั้นเขาเป็นใครกันแน่?!

 

เธอจะต้องรู้ให้ได้

 

เมื่อเห็นการแสดงออกของมู่เฉิงเฉิง เจียงเฉินก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยเขาเลยถามออกไป “คุณลูกศิษย์ มีอะไรหรือเปล่าเธอไม่มีความสุขที่ได้ทํางานเหรอ?”

 

มู่เฉิงเฉิงลังเลอยู่สักพักก่อนจะบอกเหตุผลออกมา “ปาวหรอกค่ะ ฉันก็ต้องดีใจอยู่แล้วที่ได้เข้าทํางานที่บริษัทผู้ตาแต่ ” หลังจากนั้นเธอก็เริ่มเล่าเรื่องออกมา

 

ปรากฏว่าเมื่อไหร่สัปดาห์ก่อนช่วงที่เธอแหละเฉินเค่อเฉียนเข้าไปฝึกงานเธอนั้นก็โดนมอบหมายให้หัวหน้าทีมคนนี้ดูแล

 

หัวหน้าทีมคนนี้มีอายุประมาณสามสิบปี อยู่ในสถานะหย่าร้างไม่มีลูกปัจจุบันเขาโสดและมีฐานะการเงินที่ดีใบหน้าก็ดูหล่อเหลาไม่น้อยแต่เขาก็เป็นพวกหัวหน้าที่ชอบเผ ด็จการ

 

ในระหว่างที่พวกเธออยู่ในช่วงการฝึกงาน เขาก็ไล่ตามจีบมู่เฉิงเฉิงและยังบอกเธอด้วยว่าตราบใดที่เธอนั้นตกลงเป็นแฟนของเขาเมื่อเธอได้เข้าทํางานเธอก็จะได้ทํางานอย่างไร้อุปสรรคใดๆทั้งนั้น

 

แต่มู่เฉิงเฉิงปฏิเสธเขา

 

“เมื่อวานนี้ ตอนที่ฉันได้รับโทรศัพท์จากบริษัทให้ไปรา ยงานตัวฉันก็พบว่าฉันถูกมอบหมายให้ไปอยู่ภายใต้การดูแลของเขาอีกแล้ว”

 

มู่เฉิงเฉิงพูดด้วยความหดหู “จะว่ายังไงดี… มันยากที่จะสลัดเขาออกไปเขานั้นคอยตามตื้อฉันจนฉันเริ่มรําคาญเขามาก!”

 

“ใช่ๆ!”

 

เฉินเค่อเฉียน พยักหน้าอยู่ด้านข้างด้วยความโกรธ “ผู้ชายคนนี้น่ารังเกียจมาก! โดยตําแหน่งของเขาที่เป็นหัวหน้าทําให้เขามีเจตนาที่ไม่ดีต่อนักศึกษาหญิงที่เข้ามาฝึกงานอย่า งพวกเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเฉิงเฉิง!”

 

เฉินเค่อเฉียนลดสียงลง “ฉันได้ยินจากคนในบริษัทมาว่าหัวหน้าคนนี้มักจะชอบออกไปหาเศษหาเลยอยู่ข้างนอกตลอดเวลาจนกระทั่งภรรยาของเขาทนไม่ไหวก็เลยหย่ากับเขาหลังจากนั้นเขาก็ยิ่งไร้ยังอายเข้าไปอีกเมื่อไม่กี่ปีก่อนเขากับ เด็กฝึกงานหญิงคนหนึ่งได้ก่อเรื่องอื้อฉาวกันเพื่อให้แน่ใจว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่ได้อยู่ในบริษัทอีกเขาก็เลยใส่ร้ายเธอ จนทําให้เธอต้องถูกฟ้องและสูญเสียเงินไปหลายแสน…”

 

เจียงเฉินขมวดคิ้ว

 

คนประเภทนี้พบได้ทั่วไปในที่ทํางาน

 

คนพวกนี้มักจะใช้สถานะของตัวเองในการทําสิ่งไม่ดีต่อจากเด็กฝึกงานสาวและลูกน้องที่เป็นผู้หญิงทุกๆคน

 

โดยที่ตัวเองนั้นไม่รู้สึกอับอายเลยแม้แต่น้อย

 

พวกเขาทําราวกับว่าที่ทํางานก็คือพื้นที่ในการออกล่าของพวกเขา!

 

ไม่รู้ว่ามีครอบครัวและผู้หญิงมากเท่าไหร่ที่ถูกคนแบบนี้ทําลาย?

 

“ทําไมไม่ไปบอกกับประธานบริษัทของพวกเธอล่ะ?”

 

เชียงเฉินถาม

 

“แม้ว่าคนๆนี้จะทําผิด แต่ความสามารถของเขา นั้นเป็นของจริง”

 

มู่เฉิงเฉิงพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เขานั้นเป็นหนึ่งในคนที่ประสบความสําเร็จที่สุดในบริษัท ปีที่แล้วเขานั้นได้ประสบความสําเร็จอย่างยิ่งใหญ่แม้แต่คนใหญ่คนโตใน บริษัทก็ยังต้องใบหน้าเขาอยู่บ้างและว่ากันว่าปีนี้เขาอาจจะได้เลื่อนตําแหน่งอีกครั้ง!”

 

เจียงเฉินพยักหน้า

 

คุณคนนี้ก็ทําเรื่องเลวร้ายแบบนี้ ก็แสดงว่าเขาคงจะต้องมีความสามารถไม่น้อยแน่เพราะไม่งั้นบริษัทคงไม่เก็บเขาไว้นานขนาดนี้

 

ขณะที่พูดอยู่โทรศัพท์ของมู่เฉิงเฉิงก็ดังขึ้น

 

หูเฉิงมองดูที่โทรศัพท์ของเธอก่อนที่ใบหน้าของเธอจะดู!

 

ผู้โทร : “หวงซาน”

 

เจียงเฉินยิ้ม “หัวหน้าขยะคนนั้นเหรอ?”

 

“ค่ะ”

 

มู่เฉิงเฉิงมองดูด้วยความหดหู “เขาโทรมาหาฉันอีกแล้ว”

 

“รับสิ”

 

เจียงเฉินพูดออกมา

 

มู่เฉิงเฉิงและเฉินเค่อเฉียนมองไปที่เจียงเฉินก่อนที่ความวิตกกังวลในดวงตาของพวกเธอก็ค่อยๆลดลง

 

เห็นได้ชัดว่าแม้เขาจะเป็นคนขับรถตี้ตี้แต่พวกเธอก็ไว้ใจเขามาก

 

มู่เฉิงเฉิงและเฉินเค่อเฉียนต่างก็ไว้ใจและชื่นชมในตัวเจียงเฉิน!–

 

และนี่ก็เป็นสาเหตุว่าทําไมผู้หญิงสองคนนี้ถึงชวนเจียงเฉินออกมาทานอาหารเย็นในวันนี้!

 

มู่เฉิงเฉิงกลับมามีความมั่นใจอีกครั้งเธอกดรับโทรศัพท์ทันที “สวัสดีค่ะหัวหน้าหวง”

 

“ทําไมรับสายช้าจัง”

 

เสียงจากปลายสายที่ฟังดูคล้ายเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งตําหนออกมา

 

มู่เฉิงเฉิง “พอดีฉันไม่ได้ยินค่ะฉันออกมากินข้าวข้างนอกบ้าน”

 

“โอเค”

น้ําเสียงของชายคนนั้นฟังดูช้าลงเล็กน้อยก่อนจะออกคําสั่งออกมา “ตอนนี้เธอเป็นลูกน้องของฉันแล้วและฉันเองก็เป็นหัวหน้าการแข่งขันมันสูงมากนะ ดังนั้นเธ อต้องเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาตลอดเจ็ดวันยี่สิบสี่ชั่วโมงไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนก็ตาม!”

 

เจียงเฉินขมวดคิ้ว

 

แม้ว่าสิ่งที่ชายคนนี้พูดนั้นจะเหมือนเป็นเรื่องงานก็ตามแต่เขานั้นจงใจย้ําคําว่า “เตรียมพร้อมตลอดเวลาตลอดเจ็ดวันยี่สิบสี่ชั่วโมงทั้งกลางวันและกลางคืน!”

 

สําหรับคนที่เป็นลูกน้องยิง ที่มีอายุน้อยยังมู่เฉิงเฉิงคําที่เขาพูดออกมานั้นก็มีบางส่วนที่ฟังดูคลุมเครือ

 

ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมมู่เฉิงเฉิงถึงได้รู้สึกไม่สบายใจ

 

ดวงตาของเจียงเฉินเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาพยายามสี่อสารผ่านสายตาบอกกับมู่เฉิงเฉิงว่าไม่เป็นไร

 

มู่เฉิงเฉิงตอบ

 

“โอเค”

 

เขาพูดออกมา “เพื่อเป็นการฉลองให้กับเธอที่ได้เข้าร่วมทีมของกับฉัน ฉันก็เลยจองที่นั่งในร้านอาหารระดับมิชลินสามดาวร้าน[ซินหลงจีๆให้กับเธอโดยเฉพาะเธอคง ไม่ปฏิเสธหรอกใช่ไหม?”

 

เขาคอยพูดออกมาและเริ่มทําให้มู่เฉิงเฉิงเริ่มรู้สึกทําอะไรไม่ถูก

 

เจียงเฉินที่ได้ยิน : ร้านซินหลงงั้นหรอ?

 

ไม่ใช่ว่านี่เป็นร้านอาหารระดับสามดาวที่ฉันเพิ่งได้มาไม่ใช่หรือไง

 

ดูเหมือนจะได้เห็นเรื่องสนุกแล้ว!

 

“ตอบตกลงกับเข้าไป”

 

เจียงเฉินพูดออกมาเบาๆ

 

“???”

 

ดวงตาของมู่เฉิงเฉิงเบิกกว้าง “ตกลง?”

 

เฉินเค่อเฉียนที่นั่งอยู่ข้างๆก็พูดออกมาด้วยความกังวล “ตอบตกลงได้ยังไงกันถ้าทําแบบนั้นมันไม่ใช่เป็นการโยนเนื้อแกะปากเสืองั้นเหรอ?”

 

“ตอบตกลงไป แล้วบอกเขาไปด้วยว่าฉันจะไปด้วย ที่เหลือเดี๋ยวฉันจัดการเอง”

 

เจียงเฉินพูดออกมาอย่างใจเย็น

 

เมื่อมองไปที่เจียงเฉินที่กําลังนั่งอยู่อย่างสงบ และด้วยเหตุผลบางอย่างก็ทําให้มู่เฉิงเฉิงเชื่อใจเขาโดยไม่ลังเล

 

แม้ว่าเฉินจะเป็นแค่คนขับติ์ตี้ก็ตาม

 

เธอตอบตกลงกับหัวหน้าของเธอทันที “ค่ะหัวหน้า แต่ว่าฉันอยากจะพาแฟนของฉันไปด้วย จะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?”

 

หวงซานขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินมู่เฉิงเฉิงพูดออกมา

 

อะไรกัน?

 

มู่เฉิงเฉิงคนนี้เพิ่งจะเรียนจบ เธอโสดและไม่มีแฟนไม่ใช่หรอ?

 

หวงซานนั้นเป็นคนฉลาด ทุกครั้งที่เขามองหาเหยื่อ เขาจะเตรียมการอย่างระมัดระวังและพิถีพิถันเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ทําอะไรผิดพลาด!

 

เพียงติดต่อเขาก็สามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้ทันที!

 

หนี้ แหมมจะหาแฟนตัวปลอมมาเป็นเกราะกําบังฉันงั้นเหรอ? เพื่อฉันยอมถอยออกไปสินะ?!

 

คิดว่าฉันคนนี้ถูกหลอกง่ายขนาดนั้นเลยหรอ?

 

ในสายตาของเขา มู่เฉิงเป็นคนที่มีความภูมิใจของตัวเองเธอแน่และจะไม่ยอมจํานนต่ออะไรง่ายๆ

 

ดังนั้นเพื่อเป็นการการเข้าออกไปเธอจึงรีบหาผู้ชายมาแกล้งเป็นแฟนเพื่อให้เขาปล่อยตัวเธอไป

 

แต่สําหรับเขาผู้หญิงแบบนี้แหละถึงจะคุ้มค่ากับการไล่ตาม!

 

ฮ่าๆๆ

 

อย่างไรก็ตาม ในใส่ผ้าของเขาหวงซานเธอนั้นยังเด็กเกินไป!

 

หวงซานคุณคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา “ฉันจะทําตัวไร้น้ําใจได้ยังไง ในเมื่อเธอมีแฟนแล้วก็พาเขามาสิเ”

 

“พรุ่งนี้ตอนหกโมงเย็นที่ร้านชินหลงจีนะ!”

 

“แล้วก็อย่าลืมพาคนที่เธอเรียกว่าแฟนมาด้วยล่ะ!”

 

เฉินเค่อเฉียนกรอกตาของเธอไปมา “หัวหน้าฉันก็อยากไปด้วย! ร้านอาหารระดับมิชลินสามดาวเลยนะ!”

 

เฉินเค่อเฉียน กลัวว่าถ้าหากมู่เฉิงเฉิงไปคนเดียวจะจัดการกับหวงซานได้ยากดังนั้นเธอจึงคิดจะไปช่วยเพื่อนสาวของเธ อด้วย!

 

“ตกลง!”

 

หวงซานก็คิดว่าเฉินเค่อเฉียนนั้นก็สวยมากเช่นกันแถมยังดูมีชีวิตชีวามากกว่ามู่เฉิงเฉิง แต่อย่างไรก็ตามคนแต่ละคนก็ มี ข้อดีของตัวเองแต่บางทีถ้าสามารถยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวได้สองสาวมาพร้อมกันคงจะดี!”

 

“มาเถอะ!”

 

หวงซานพูดออกมาอย่างโอ้อวด “ถือซะว่าเป็นงานเลี้ยงต้อนรับสองสาวงามก็แล้วกัน!”

 

วางสาย

 

มู่เฉิงเฉิงถามเจียงเฉินอย่างงุนงง “อาจารย์ ทําไมคุณถึงให้ฉันตอบตกลงเข้ากันไปละค่ะ หวงซานคนนี้ทั้งรวยทั้งมีอํานาจมากจริงแต่มันไม่ดีเลยที่จะเข้าไปยุ่งกับเขา!”

 

“ก็เธอไม่ใช่ลูกศิษย์ของฉันหรือยังไง หวงซานคนนี้น่ารําคาญมาก ดังนั้นฉันก็เลยจะช่วยเธอกําจัดเขาออกไป!”

 

Related

Comment

Options

not work with dark mode
Reset