เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ – ตอนที่ 242 : นี่มันกระทันหันเกินไปแล้ว?!

ตอนที่ 242 : นี่มันกระทันหันเกินไปแล้ว?!

ในเวลานี้เองที่อาคารศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ ล็อบบีชั้น 1

ยามรักษาความปลอดภัยสองคนกําลังคุยกัน คนหนึ่งเป็นคนเก่าและอีกคนหนึ่งเป็นคนใหม่ หัวข้อก็คือเจ้าของผู้ลึกลับ

“พี่ชาย ตึกของเราสูงจัง แต่ทําไมเราไม่เคยเห็นเถ้าแก่ของพวกเราเลย?”

รูปภ.คนใหม่ถามด้วยความสงสัย

“มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วที่นายจะไม่มีโอกาศได้เห็นเถ้าแก่นะ”

รูปภ.คนเก่าสูบบุหนี่ก่อนจะพูดออกมา “ถึงเป็นฉัน ฉันก็มีโอกาศได้เจอเขาแค่ครั้งเดียว”

“พี่ชาย ช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่าหน้าตาของเขาเป็นยังไง ผมจะได้ไม่จําผิดจนทําเรื่องน่าอายออกไป”

รปภ.คนใหม่พูดออกมาอย่างรวดเร็ว

รูปภ.คนเก่าถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดออกมาว่า “ที่จริงแล้ว ฉันเองก็ได้แต่เห็นเถ้าแก่จากไกลๆเท่านั้นแหละ เถ้าแก่เป็นคนทําตัวติดดิน อายุยังน้อยมาก แต่ก็มีอาคารที่ใหญ่โตขนาดนี้แล้ว!

“ทําตัวติดดินขนาดไหนหรอครับ?”

รปภ.คนใหม่ถาม

“ถ้าฉันบอกว่าเขาเคยเป็นคนส่งพัสดุมาก่อน ก่อนที่จะมาขับตีตื้นายจะเชื่อไหมล่ะ?”

รูปภ.คนเก่าหันไปถามรปภ.คนใหม่

รูปภ.คนใหม่ตกตะลึง–

รปภ.คนเก่าดูพอใจมากที่รปภ.คนใหม่นั้นดูราวกับว่าเขาเพิ่งจะได้เปิดโลก เขายิ้มออกมาก่อนจะพูด “ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ําก่อนเดี๋ยวฉันจะกลับมาเล่าให้นายฟังต่อ”

พูดจบเขาก็เดินออกไปทันที

ในเวลานี้เอง

เจียงเฉินก็เดินเข้ามาพร้อมกับอาหารที่จะนํามาส่ง

และในเวลาเดียวกันก็มีเด็กส่งอาหารอีกคนที่วิ่งเข้ามาด้วยความเร่งรีบ

“หยุดก่อน!”

รปภ.คนใหม่หยุดเจียงเฉินและเด็กส่งอาหารอีกคน “ห้ามเข้าไป!”

“ทําไมล่ะ?”

เจียงเฉินถาม

รูปภ.คนใหม่ชี้ไปที่กระดาษที่อยู่ข้างๆลิฟต์อย่างหยิ่งยโส [ห้ามพนักงานส่งอาหารเข้า

“พวกนายเห็นนั่นไหม?”

รปภ.คนใหม่พูดออกมา “ที่นี่เป็นอาคารสํานักงานระดับ 5A นะ! ที่นี่เต็มไปด้วยบริษัทระดับไฮเอนด์ ดังนั้นพวกนายจะเข้าออกที่นี่ตามใจชอบได้ยังไง?! ถ้าเกิดมีอะไรเสียหายพวกนายจะรับผิดชอบได้ไหม?!”

เจียงเฉินตกตะลึง

ภาพลักษณ์ของคนทํางานส่งอาหารมันแย่มากขนาดนั้นเลยหรอ?

แม้แต่รปถ.ยังห้ามขึ้นอาคารเนี่ยนะ?

เด็กส่งอาหารที่อยู่ข้างๆเข้าเหงื่อตกท่วมตัว–

เขาหันไปดูนาฬิกา เพราะเวลาการส่งอาหารของเขานั้นใกล้จะหมดแล้ว!

ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นเขาได้แต่โทรแจ้งลูกค้าของเขา

“สวัสดีครับ คุณเฉิน ผมนําขนมจีบที่คุณสั่งไว้มาส่งครับ คุณช่วยลงมารับมันหน่อยได้ไหมครับ?”

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์สาวสวยในชุดโอแอลที่ดูหยิ่งยโสกําลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เธอขมวดคิ้วและพูดออกมาทันทีที่เธอได้ยิน

“นายเป็นคนส่งอาหารนะ นี่มั่นงานของนาย ทําไมต้องให้ฉันลงไปเอาเองด้วย! ฉันไม่ไป!”

เด็กส่งอาหารหลั่งเหงื่อออกมาอย่างกระวนกระวายใจและพูดออกมา “แต่ รปภ. ของอาคารไม่ยอมให้ผมขึ้นลิฟต์นะครับ! ผมจะขึ้นไปได้ยังไง”

“นายก็ขึ้นบันไดมา!”

สาวสวย “หรือว่านายขึ้นบันไดไม่เป็น?”

เด็กส่งอาหารถึงกับตกตะลึง–

เขามองไปที่รายการคําสั่งซื้อ

เจียงเฉินเองก็เห็นมัน

ในรายการนั้นบอกเอาไว้ว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่ชั้น 231

“ชั้นที่ 23 ผมจะขึ้นไปได้ยังไงครับ?”

เด็กส่งอาหารแทบจะทรุดตัวลงกับพื้น

“ฉันไม่สน!”

หญิงสาวสูดหายใจและพูดออกมาอย่างเย็นชา “ฉันให้เวลานาย 2 นาที ถ้านายวิ่งขึ้นบันไดมาไม่ได้ภายใน 2 นาที ฉันจะกดรายงานนาย!”

หลังจากพูดจบหญิงสาวก็วางสายลงทันที

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะวิ่งขึ้นไปชั้น 23 ในเวลาแค่ 2 นาที!

มั่นไม่ตลกไปหน่อยหรอ?

ฉันจะขึ้นไปได้ยังไง?

ทําไมต้องกลั่นแกล้งคนแบบนี้?

เด็กส่งอาหารอยากจะร้องไห้ออกมา

ดวงตาของเจียงเฉินก็หยุดนิ่งทันทีที่เห็นแบบนี้

แม้ว่าเจียงเฉินจะไม่ใช่คนดีอะไรและถ้ามันอยู่ในสถานการณ์ปกติ เขาจะไม่ยื่นมือลงไปช่วยเหลือแน่

แต่วันนี้

เจียงเฉินเองก็เป็นเด็กส่งอาหารแล้วเช่นกัน!

และอาคารนี้มันก็เป็นของเขา!

เขาทนไม่ไหวจริงๆ

เจียงเฉินพูดกับเด็กส่งอาหาร “เดี๋ยวฉันเอาไปส่งให้เอง”

เด็กส่งอาหาร “???”

รูปภ.คนใหม่ “????”

คนรอบข้าง “????”

รปภ. คนใหม่เยาะเย้ยออกมา “นายก็เป็นเด็กส่งอาหาร นายจะช่วยเขายังไง ขึ้นบันไดไปหรอ?”

“ไม่ต้องห่วงหรอก เอามาให้ฉันเลย”

เจียงเฉินพูดออกมา

“ขอบคุณครับ!”

เด็กส่งอาหารรู้สึกขอบคุณมาก เขามองดูเพื่อนร่วมอาชีพและรีบส่งของให้ทันที

เจียงเฉินรับมันมาก่อนจะพูดออกมา “นายไปได้แล้ว”

เด็กส่งอาหารรีบวิ่งออกไปทันที

เจียงเฉินเดินตรงไปที่ลิฟต์โดยไม่พูดอะไร

ก่อนจะดึงประกาศที่ว่า “ห้ามคนส่งอาหารเข้า!” ออก

รปภ.ที่อยู่ข้างๆก็ตกตะลึง!

มีการพูดคุยกันเกิดขึ้น!

“พระเจ้า น้องชายส่งอาหารเผด็จการเกินไปแล้ว!”

“สุดยอดมาก!”

“เขากล้าดึงออกเลยหรอ? นี่โคตรกล้าเลย!”

“นาย นาย นาย!”

รปภ.หลั่งเหงื่อด้วยความโกรธเขาชี้ไปที่เจียงเฉินแล้วพูดออกมา “นายกล้ามาก! นายกล้าดียังไงถึงมาถึงประกาศออก นายคิดว่านายเป็นใคร?! คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของอาคารหรอ?! ให้ตายเถอะ! รอดูได้เลยว่าฉันจะจัดการกับนายยังไง ”

ขณะที่พูดเขาก็หยิบวิทยุออกมาแล้วพูดออกไปอย่างเกรี้ยวกราด

“เรียกทีมรปภ. เรียกทีมรปภ. มาที่ลิฟต์ด่วน! มีเด็กส่งอาหารกําลังขึ้นลิฟต์! เขาดึงคําเตือนห้ามขึ้นลิฟต์ของฉันออกไปด้วย! มาด่วนเลยเร็ว!”

เขาหยุดลิฟต์เอาไว้พยายามไม่ให้เจียงเฉินได้ขึ้นไป

ข้างๆลิฟต์ก็มีเสียงพูดคุยกันเกิดขึ้น

และคนส่วนใหญ่ก็อยู่ข้างเจียงเฉิน

เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาต่างก็เห็นฉากที่เด็กส่งของทรุดลงกับพื้นแล้วแทบจะต้องไห้ออกมา พวกเขาที่เห็นต่างก็รู้สึกเห็นใจ

เพราะท้ายที่สุดแล้วมนุษย์ก็ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความเห็นใจ

“ฉันเคยเตือนรปภ. แล้วว่าอย่าทําแบบนี้!”

“ใช่แล้ว! อาคารนี้สูงกว่า 20 ชั้น จะให้พวกเขาขึ้นบันไดเอาได้ยังไง? ไร้มนุษยธรรมเกินไปหน่อยไหม?”

“แม้ว่าพวกเขาเป็นเด็กส่งอาหาร แต่พวกเขาก็เป็นคน ทุกคนทํางานเหมือนกัน ไม่มีสูงต่ําหรอกนะ!”

“ใช่แล้ว หยุดทําแบบนี้ได้แล้วและปล่อยให้เขาขึ้นไป!”

รูปภ.คนใหม่ทําหน้าสลด ก่อนที่จะพูดออกมา “อย่าไปคิดมาก! ในอาคารนี้ รปภ.คือคนที่ตัดสินใจ! ในเมื่อฉันบอกห้ามขึ้นก็อย่าฝืน! ถ้าจะขึ้นก็ไปขึ้นบันได!”

ทัศนคติของเขาหยาบคายมากและเขานั้นไม่ยอมให้เจียงเฉินเข้าไปในลิฟต์

เวลานี้เอง–

“หวังรุ่ยกวง! นายทําอะไรของนาย?!”

หัวหน้ารูปภ.และรปภ.อีกสางสามคนสิ่งเข้ามา

รปภ.คนใหม่ที่มีชื่อว่าหวังรุ่ยกวงก็หันกลับไปตอบทันที “รายงานครับหัวหน้า! ผมพยายามหยุดเด็กส่งอาหารคนนี้อยู่ครับ! เขาพยายานขึ้นลิฟต์นี้อยู่ครับ! เขาพยายามขึ้นลิฟต์ของเรา! แต่ลิฟต์ของเรานั้นมีไว้สําหรับบริการ แขกผู้มีเกียรติและพนักงานของบริษัทที่ทําการในอาคารของเรานะครับ! ถ้าเกิดว่าเขาทําให้กลิ่นอาหารติดในลิฟต์ขึ้นมามันจะทําให้อาคารของเราดูแย่จริงไหมล่ะครับ”

ท้ายที่สุดแล้ว อาคารศูนย์กลางทางการเงินของเจียงเฉินนั้นก็มีระดับที่สูงมากจนเกินไป

อาคารสํานักงานระดับ 5A แม้แต่เคาน์เตอร์ต้อนรับนั้นก็ทํามาจากหินอ่อนสีสดใส ตัวพื้นก็ยังทํามาจากหินอ่อน

ลิฟต์ทั้งหมดที่ใช้ก็เป็นของแบรนด์ Weinsteiger จากประเทศเยอรมันแต่ละตัวมีราคาหลายสิบล้านดอลลาร์

และการห้ามเด็กส่งอาหารขึ้นลิฟต์นั้นก็เป็นความคิดของรปภ.คนใหม่นี้เองเพราะเขานั้นกลัวว่าเด็กส่งอาหารจะทําให้ลิฟต์นั้นมีกลิ่นเหม็น เขาก็เลยประกาศห้ามเด็กส่งอาหารขึ้นลิฟต์!

“หืม?”

หัวหน้ารูปภ.ที่ได้ยินก็ยังไม่ได้พูดอะไร

เพราะตามอาคารสํานักงานระดับไฮเอนด์นั้นก็มีกฏแบบนี้อยู่แล้ว

แต่!

เมื่อเขาได้เห็นเจียงเฉินเขาก็ตกตะลึง

ในตอนแรกเจียงเฉินนั้นสวมเครื่องแบบของเด็กส่งอาหารของหมถวนอยู่ซึ่งเขาก็สวมหมวกเอาไว้ และมันก็ได้ปิดบังใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ดังนั้นตอนแรกหัวหน้ารปภ.จึงไม่สามารถเห็นหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน–

แต่เมื่อหัวหน้ารปภ.ได้เห็นชัดแล้ว

เขาก็ทรุดตัวลงทันที!

พระเจ้า!

นี่มัน– คุณเจียงเฉิน?

เขาไม่ได้เป็คนส่งพัสดุหรือคนขับตี้ตี้แล้วหรอ? ทําไมเขากลายเป็นเด็กส่งอาหารไปแล้วล่ะ?

โดยที่ไม่มีใครคาดคิดหัวหน้ารูปภ.โค้งหัวให้เจียงเฉินและพูดออกมาอย่างสุภาพและใบหน้าที่ประจบว่า “คุณเจียง–!”

เจียงเฉินมองไปที่เขา

แน่นอนว่าคนที่มีตําแหน่งเป็นหัวหน้ารปภ.ย่อมต้องรู้จักหน้าของเจียงเฉินดี

ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น ประธานเฉินลี่และรองประธานของพวกเขาก็ได้ย้ําที่มรูปภ.ครั้งแล้วครั้งเล่า ว่าพวกเขานั้นห้ามดูถูกคนขับตี้ตี้หรือคนส่งพัสดุเด็ดขาด การโอ้อวดตัวเองนั้นถือเป็นเรื่องต้องห้าม! เพื่อป้องกันไม่ให้คุณเจียงมีเรื่องต้องขุ่นเคือง และถ้าหากได้พบคุณเจียงพวกเขาก็จะต้องทํา ความเคารพอย่างสุภาพทันที

หัวหน้ารูปภ.เปลี่ยนความสนใจทันที

“ท่านครับ! ท่านจะไปส่งอาหารด้านบนใช่ไหมครับ?”

รปภ.อึ้ง

คนรอบข้างก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน–

นี้มันหมายความว่ายังไง?

ทําไมหัวหน้ารูปภ.ถึงสุภาพขนาดนี้?

เจียงเฉินพยักหน้า

“ฮ่าฮ่าฮ่า งั้นเชิญเลยครับ!”

หัวหน้ารปภ.พูดออกมาด้วยความเคารพพร้อมกับโค้งคํานับ

รูปภ.คนใหม่ที่อยู่ข้างๆก็มองด้วยความตกตะลึง–

ทําไมหัวหน้าถึงต้องสุภาพกับเด็กส่งอาหารคนนี้ด้วย?

เขาพูดออกมาด้วยเสียงที่ดังและกังวล “หัวหน้า! คุณปล่อยเขาขึ้นไปไม่ได้นะ! เด็กส่งอาหารก็แค่คนไร้ความสามารถ จะปล่อยให้เขาขึ้นลิฟต์ปะปนไปกับแขกได้ยังไงกันครับถ้าเกิดเขาทําเสื้อผ้า หรือรองเท้าของคนอื่นเปื้อนขึ้นมาล่ะครับ? เราจะโดนฟ้องเอาได้นะ!”

“หุบปาก!”

หัวหน้ารูปภ.โกรธจัด เขาด่าออกมา “แกนั่นแหละคนไร้ความสามารถ! ใครว่าเด็กส่งอาหารไร้ความสามารถกัน! นายเป็นรปภ. แต่ทําไมถึงชอบดูถูกคนแบบนี้!”

ด้านข้างก็มีคนๆหนึ่งโผล่ออกมา

เฉินลี่รองประธานผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์!

เมื่อเขาได้ข่าวเขาก็รีบวิ่งออกมาทันที

เมื่อเห็นเจียงเฉินแล้วเขาก็ต้องตกตะลึง เพราะว่าชุดที่เจียงเฉินใส่อยู่นั้นเป็นชุดเด็กส่งอาหารธรรมดาๆที่มาพร้อมกับประเป๋าใบใหญ่สองใบ แต่ที่สําคัญคือดูเหมือนว่าเขากําลังมีปัญหากับรปภ.เฝ้าลิฟต์ในอาคารของตัวเอง!–

เขาทนไม่ไหวจนต้องเข้าไปเตะรปภ.คนใหม่!

เขาพูดออกมา “สุภาพบุรุษคนนี้ เอ่อ…น้องชายพูดถูก! แรงงานก็มีเกียรติเหมือนกัน! จะเด็กส่งอาหารหรือรูปภ.ก็มีเกียรติเท่ากัน!”

รปภ. “…”

พนักงานบริษัท “”

รปภ.ใหม่ “…”

รองประธานบริษัทคนนี้พูดออกมาได้ดีจริงๆ

เฉินลี่แสดงท่าที่สุภาพกับเจียงเฉินและโค้งคํานับ “น้องชาย นายทํางานหนักมาแล้ว! มาเถอะ เดี๋ยวฉันจะหาชาสมุนไพรให้เ”

เจียงเฉินยิ้มและเข้าไปในลิฟต์ก่อนจะกดไปที่ชั้นที่ 23

ลิฟต์ขึ้นไป

เฉินหันกลับมาและพูดกับรปภ.คนใหม่อย่างจริงจัง “เพราะการเลือกปฏิบัติต่อเด็กส่งอาหารของนาย นายถูกไล่ออก!”

รูปภ.คนใหม่ “”

อาก–

นี้มันจะกระทันหันเกินไปแล้ว?!

ในลิฟต์ เจียงเฉินไม่ได้มองลงไปข้างล่าง

และในลิฟต์นั้นก็มีคนอยู่มากมาย

พวกเขาต่างก็อยากรู้เกี่ยวกับตัวตนของเจียงเฉินพวกเขาจึงเริ่มกระซิบคุยกัน

“น้องชายสงอาหารคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ”

“ใช่ ไม่อ่อนน้อมแต่ก็ไม่เย่อหยิ่ง แต่คิดไม่ถึงเลยว่ารองประธานจะนอบน้อมต่อเขาขนาดนั้น”

“สุภาพกว่าที่ทํากว่าพวกเรามาก!”

“ฉันว่านะเขาคงปฏิบัติกับน้องชายคนนี้แบบเดียวกับประธานของเขาแน่”

ท่ามกลางฝูงชนในนั้นก็มีคนใหญ่คนโตที่เป็นเจ้าของบริษัทที่อยู่ชั้นที่ 23 อยู่คนหนึ่ง

เขานั้นรู้สึกคุ้นๆกับเจียงเฉินมาก–

แลเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างล่างเขาก็ยิ่งรู้สึกคุ้นขึ้นมาอีก

เอ๊ะ?

ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้นมาทันที

ในที่สุดฉันก็นึกออกแล้ว!

ในงานเลี้ยงปีใหม่ของอาคาร ดูเหมือนฉันจะเห็นเขา!

คงไม่ใช่ว่า–

เขาก็คือเจ้าของอาคารนี้ เจียงเฉิน?!

จู่ๆเขาก็หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก–

ตามตํานานบอสเจียงคนนี้เป็นดั่งมังกรที่เห็นหัวแต่ไม่มีวันได้เห็นหาง!

ก่อนหน้านี้ก็ทํางานส่งพัสดุขับติ์ตี้

แล้วตอนนี้?

กลับมาเป็นคนส่งอาหาร?

คนๆนี้ก็คือเถ้าแก่ แซ่เตียว เป็นคนจากมณฑลเจ้อเจียง เขานั้นเริ่มต้นจากการทําธุรกิจเล็กๆ และสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดก็คือการดูถูกคนอื่น

ก่อนหน้านี้ตอนที่เขายังอยู่ชั้นล่างเขาเองก็ได้ยินเสียงจากหญิงสาวของชั้นที่ 23 ที่ตะโกนใส่เด็กส่งอาหารผ่านทางโทรศัพท์และยังขู่ว่าจะรายงานเขาอีก

บอสเมียวนั้นก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นทําได้ดีมากจริงๆ – (ประชด)

ขึ้นมาถึงชั้นที่ 23

เจียงเฉินเดินออกไป

บอสเมียวก็เดินตามออกไป

เจียงเฉินโทรหาพนักงานหญิงให้เธอมารับอาหาร

พนักงานสาวในชุดโอแอลเดินออกมาด้วยด้วยท่าทางโกรธจัด

แต่ก่อนที่เธอจะมาถึงก็มีเสียงดังนําออกมาก่อน

“นี่! นี่มันผ่านไปกี่นาทีแล้ว?! อะไร? ฉันพูดกับนายแล้วไม่ใช่รึไง?! ถ้านายส่งไม่ทันสองนาที ฉันจะรายงานนาย! ฉันจะทําตามที่ฉันพูดไว้เดี๋ยวนี้แหละ!”

แต่เมื่อเธอเดินมาถึงหน้าเจียงเฉินเธอก็ต้องประหลาดใจ!

หล่อ!

เมื่อเห็นว่าเจียงเฉินนั้นหล่อขนาดนี้ความคิดของหญิงสาวก็เปลี่ยนไปทันที

เธอสูดอากาศเย็นเข้าปอดและเตรียมที่จะให้เจียงเฉินทําสิ่งที่ยากจะทํา!

แม้ว่ามันจะแค่การกดรายงาน แต่สําหรับคนส่งอาหารแล้ว

“นายไม่กลัวว่าฉันจะกดรายงานรึยังไง?”

พนักงานสาวขมวดคิ้ว

เจียงเฉิน : กลัวอะไร? แต่อย่างไรก็ตามฉันยังต้องพึ่งแอพนี้ส่งงานให้ฉันอยู่!

เจียงเฉิน “กลัวสิ”

“งั้นถ้านายกล้วก็มาคบกับฉันสิ!”

พนักงานสาวพูดออกมาอย่างน่าไม่อาย

เจียงเฉิน “”

การเป็นคนส่งอาหารนี่มันลําบากจริงๆ

ไม่เพียงต้องปั่นจักนยานให้เร็วกว่ามอเตอร์ไซค์แต่ยังต้องมาปีนบันไดให้เก่งกว่าสไปเดอร์แมน แถมยังต้องมาเปลืองตัวเพื่อแลกกับการไม่ถูกรายงานเนี่ยนะ?

แต่ถามว่าฉันกลัวไหม?

ยังไม่ทันได้คิดจบก็มีเสียงไอมาจากข้างหลังก่อน

บอสเมียวเดินมาจ้องพนักงานหญิงด้วยท่าทางจริงจังและเด็ดขาด

พนักงานสาวตกใจมากเพราะเธอเพิ่งจะใช้ตําลวนลามเด็กส่งอาหารไปและจู่ๆเธอก็ถูกเจ้านายของเธอจับได้ เธอจึงพูดออกมาอย่างเขินอายว่า “เจ้านายคะ—”

“ดูสิ่งที่คุณทํา!” บอสเมียวดุออกมาก่อนจะมองไปที่เจียงเฉินอย่างขอโทษ

เจียงเฉินพยักหน้าให้เขา

เจียงเฉินรับรู้ได้ทันทีว่าพนักงานสาวคนนี้จบสิ้นแล้ว

บอสเมียวก้าวออกไปอย่างเร่งรีบและเปิดประตูลิฟต์ให้เจียงเฉิน

พนักงานสาว “???”

เกิดอะไรขึ้น?

เจ้านายทําไมคุณถึงสุภาพกับเด็กส่งอาหารแบบนั้น?

ฉันไม่เคยเห็นเขามีน้ําใจกับใครขนาดนี้มาก่อนเลย?

เมื่อบอสเมียวเปิดประตูลิฟต์ให้เขาเจียงเฉินก็เดินเข้าไปอย่างไม่อ่อนน้อม แต่ก็ไม่เย่อหยิ่ง เพียงแค่ยิ้มให้อย่างสุภาพเท่านั้น

แต่ดูเหมือนว่าบอสเมียวจะพอใจไม่น้อยเลย ดังนั้นเขาจึงโค้งให้เจียงเฉินก่อนจะส่งเขาออกไป

พนักงานสาว “…”

จู่ๆลางสังหรณ์ไม่ดีของเธอก็ระเบิดออกมา!

บอสเมียวที่ส่งเจียงเฉินออกไปด้วยความเคารพพอหันกลับมาใบหน้าของเขาก็มืดมนลงราวกับก้นหม้อ

เขาเรียกพนักงานสาวเข้ามาอย่างเย็นชา “คุณไปที่ฝ่ายบุคคลและรับเงินเดือนของคุณ แล้วออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”

พนักงานสาวอึ้ง!

เธอไม่คิดว่าเจ้านายที่ปกติจะสุภาพกับทุกคนจะไล่เธอออกกระทันหันแบบนี้?

เธอตื่นตระหนก!

งานนี้นั้นทําให้เธอนั้นมีชีวิตที่สดใสและสวยงามด้วยเงินเดือนที่สูงจนเพื่อนๆรอบๆตัวต้องอิจฉาที่เธอสามารถหางานนี้ได้

แล้วตอนนี้เธอกลับโดนไล่ออก?

“ทําไมกันคะ?” พนักงานสาวทําหน้าไม่พอใจ “เจ้านายคะ ฉันทําอะไรผิดหรอคะ?”

เจ้านายชี้ไปที่อาหารในมือของเธออย่างเย็นชา “ผมได้ยินทัศนคติของคุณที่มีต่อคนที่ทําอาชีพส่งอาหารที่ชั้นหนึ่ง!”

พนักงานหญิง “??? ทัศนคติ? ทัศนคติของฉันมันทําไมหรอคะ?”

เจ้านายส่ายหัวและพูดอย่างจริงจัง “ก่อนที่คุณจะทําอะไร คุณก็ควรเรียนรู้ที่จะเป็นคนให้ได้ก่อน! ทั้งๆที่คุณอยู่ชั้นที่ 23 แต่คุณกลับคิดจะให้เด็กส่งอาหารขึ้นบันไดมาชั้นที่ 23 ในเวลาแค่ 2 นาที? ให้ตายเถอะ คุณควรกลับบ้านไปแล้วคิดได้แล้วนะว่าการเป็นคนมันเป็นยังไง?!”

พนักงานสาว “..”

พูดไม่ออก

หลังจากนั้นเจียงเฉินก็มารับรายการเพิ่ม

แน่นอนว่าเจียงเฉินไม่จําเป็นต้องรับทั้งหมดเหมือนกับคนส่งอาหารคนอื่นๆ เจียงเฉินมักจะรับมาเพียงหนึ่งรายการนําไปส่งแล้วก็พักหนึ่งชั่วโมง

พักผ่อนสบายๆ

หลังจากหยุดพักตอนเที่ยงเจียงเฉินก็เริ่มโทรหาเพื่อนเพื่อชวนมาทานอาหารเย็น

“พี่เว่ย พี่มีเวลามาทานอาหารเย็นกันหน่อยไหม ใช่ คืนนี้ผมเป็นเจ้าภาพเอง พอดีจะขอบคุณเรื่องที่ช่วยผมจัดการพวกคนน่ารังเกียจก่อนหน้านี้น่ะครับ… โอเคครับ คืนนี้ที่ซินหรงจีนะครับ ไปที่ห้องวีไอพีได้เลยครับ”

“บอสจาง (จางเปยผู้บริหาร ByteDance) คืนนี้ว่างไหมครับ พอดีผมจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยง.. “

“พี่เทียนเหิง! วันนี้หลันเจียนเฟิงมีอะไรหรอครับ..ดีมาก! วันนี้ผมหาช่องทางธุรกิจมาให้ คืนนี้มาที่ซินหลงจีที่ห้องวีไอพีหนึ่งนะครับ…”

“บอสซู (บิลบิล) ครั้งก่อนเรามีนัดทานอาหารกันไม่ใช่หรอครับ คืนนี้ผมจะชวนเพื่อนมาทานอาหารด้วยสองสามคนน่ะครับ คุณอยากจะมาไหม?”

“คุณโจว คืนนี้ผมเชิญจางเปยจากบริษัท ByteDance ไปทานอาหารเย็นด้วยคุณสนใจ..ฮ่า ฮ่า มีความสุขมากเลยใช่ไหมล่ะ? คุณเองก็มีรายชื่ออยู่ในวงการนี้อยู่แล้ว…ไม่เอาสิ ไม่ต้องโทษตัวเองหรอก…ไม่ๆ มันยังไม่เริ่ม เดี๋ยวผมส่งที่อยู่ไปให้”

เจียงเฉินเริ่มโทรหาและทําการนัดหมายทีละคน

คนเหล่านี้ล้วนถูกคัดกรองมาจากเจียงเฉินแล้ว

มันเป็นสิ่งที่สําคัญที่สุด!

ประธานซูจากบิลบิล เชิญเขาไปทานอาหารเย็นและกระทั่งให้ตัวเข้างานกับเขา ยอมลงมือกับลูกชายของตัวเองแลสั่งสอน คนแบบนี้สมควรที่จะทํางานด้วย

ส่วน ByteDance ของเว่ยหยงเซียงก็มีส่วนร่วมใยการช่วยเขาก่อนหน้านี้ทั้งนั้นเจียงเฉินจึงตัดสินใจดึงให้เข้าร่วมงานนี้ด้วย

สําหรับจางเทียนเหิงจากบริษัทกฎหมายนั้น เขานั้นต้องการที่จะดูว่าจางเทียนเหิงนั้นจะใช้โอกาสนี้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับบริษัทกฎหมายเทียนกวนได้หรือไม่!

เพราะถ้าผลออกมาดีเขาก็จะได้รับเงินปันผลเพิ่ม!

(หลิงหยุน : ผมก็มีส่วนร่วมด้วยน้ํา ทําไมไม่เชิญผมไปด้วย ฮือๆ–)

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

Status: Ongoing
บทนำ ติ้ง! เจียงเฉินได้ส่งพัสดุและได้รับโอกาศสัมผัสกับประสบการณ์จากระบบลงชื่อ! ได้รับรางวัลเป็น Lamborghini Poison “ติ้ง…อีเว้นท์ลับเสร็จสิ้น ทำการลงทะเบียนสำเร็จ รับรางวัลเงินสด 1000 ล้าน!!!” “ติ้ง…อีเว้นท์ลับเสร็จสิ้น ทำการลงทะเบียนสำเร็จ คุณได้รับหุ้น 30% ตามรายการต่อไปนี้!!!” “ติ้ง…….” …… เจียงเฉินไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าเขาจะได้พบกับประสบการณ์แบบนี้!!! เรื่องย่อ “ผมเจียงเฉินผมเป็นคนที่ดูดีเกินไปจนมีผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตของผม“ “สองเดือนก่อนผมเป็นผู้อํานวยการของบริษัท ที่มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 10,000 หยวน แต่ประธานสาวที่มีความงามที่โดดเด่นของ บริษัทของเราและลูกสาวของเธอตกหลุมรักฉันด้วยกัน“ “เพื่อป้องกันไม่ให้ความสัมพันธ์พังทลายลงระหว่างทั้งสองผมจึงเลือกที่จะลาออกอย่างเด็ดเดี่ยว“ “ตอนนี้ผมมีงานที่ยิ่งใหญ่ต้องทำ…” ลิฟต์มาถึงแล้ว ชั้น 7 เจียงเฉินมองไปที่พัสดุและเคาะประตูห้องหมายเลข 0702 เคาะประตู “เฮ้ มีใครอยู่บ้านไหมครับ“ “คุณเป็นใคร” มีเสียงหวานใสดังออกมา ฟังดูแล้วเป็นเสียงของผู้หญิงที่มีความอบอุ่นและถ้าจะให้คาดเดาจากประสบการณ์ของเขา เสียงนั่นก็ควรจะเป็นเสียงของเด็กสาว “พัสดุส่งด่วนครับคุณ ซู เสี่ยวเสี่ยว ช่วยออกมารับพัสดุด้วยครับ” เจียงเฉินกล่าวว่า ‎“รอฉันก่อนเหลืออีกแค่ 10 คนฉันจะกินไก่เร็ว ๆ นี้!” เสียงประหม่าดังออกมาจากห้อง‎ ‎“งั้นผมจะรอคุณสักครู่ ถ้าคุณยังไม่ออกมา ผมจะทิ้งพัสดุไว้หน้าประตูนะ” เจียงเฉินพิงกําแพงและเล่นกับโทรศัพท์ของเขาในขณะที่‎รอเจ้าของเสียงออกมารับพัสดุ ‎ไม่ถึงสิบห้าวินาที ‎ประตูก็ถูกเปิดออกมา ‎สาวสวยสวมเสื้อยืดสีขาวหลวม ๆ ออกมาด้วยรูปลักษณ์ที่น่ารักมาก ด้วยคะแนนที่สมบูรณ์แบบ 100 คะแนนสมควรมีคะแนนอย่างน้อย 95 คะแนน‎ ‎“ซู เสี่ยวเสี่ยวใช่ไหม? เพียงเซ็นชื่อที่นี่ ” เจียงเฉิน พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นๆ และส่งพัสดุออกไป‎ ‎“ฮึ เพราะนายเลยที่มาเร่งฉันคนนี้จนฉันต้องตาย!” ซูเสี่ยวเสี่ยว เซ็นชื่อและพึมพำอย่างเจ็บปวดเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้เข้ามาเล่นในแรงค์สูงระดับนี้“‎ ‎“มันก็แค่เกมไม่ใช่เหรอ? ” เจียงเฉินช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกตลกเล็กน้อย‎ ‎ซูเสี่ยวเซี่ยวเงยหน้าขึ้นและเห็นเจียงเฉินหล่อเหลาภายใต้หมวกเบสบอลสีดําทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงการเต้นของหัวใจอย่างรวดเร็ว‎ ‎หล่อขนาดนี้เลยเหรอ?‎ ‎อย่างไรก็ตามเขาเป็นคนทำให้ฉันคนนี้แพ้ ไม่ว่าจะหล่อแค่ไหน ฉันคนนี้ก็จะไม่มีวันให้อภัย! ‎”ก็แน่สินายมันเป็นคนส่งพัสดุที่ต้องคอยส่งพัสดุทั้งวันจะเอาเวลาที่ไหนไปเล่นเกมส์กัน”ซูเสี่ยวเสี่ยวพูดออกมา “นี่คิดอย่างงั้นได้ไง คิดว่าคนส่งของแบบผมไม่มีเวลามาเล่นเกมส์งั้นหรอ ผมจะบอกอะไรให้นะ ไม่เพียงแค่ผมจะเคยเล่นเกมส์นี้แต่ผมยังเล่นเก่งมากด้วย”เจียงเฉินพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มที่แสดงถึงความตั้งใจ “จริงหรอ งั้นก็ลองโชว์มาหน่อยสิ”เธอตาของเธอเป็นประกายก่อนจะส่งคำเชิญไปให้เจียงเฉิน ฮิฮิ อย่างน้อยน้องชายหน้าหล่อคนนี้ก็ไม่เลวเลย “ตกลง” เจียงเฉินไม่พูดมากและตอบตกลงอย่างตรงไปตรงมา ซูเสี่ยวเสี่ยวนำเจียงเฉินเข้ามาในห้อง ให้เขาไปนั่งที่เก้าอี้เกมมิ่ง และกดเริ่มเกม ในตอนนี้นิ้วที่เรียวยาวของ เจียงเฉินควบคุมเมาส์และตัวละครในคอมพิวเตอร์ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นฆาตกรที่โหดเหี้ยมในทันที! สาวสวยซูเสี่ยวเสี่ยวที่เห็นก็ตกตะลึงจนค้างไป สายตาของเธอตอนนี้กำลังจ้องสลับระหว่างตัวของเจียงเฉินกับหน้าจอ โอ้พระเจ้า! เขาจะเก่งเกินไปแล้ว เขาสามารถไปเป็นนักแข่งมืออาชีพได้เลยนะเนี่ย!!! เละเทะไปหมดแล้ว!!! ไม่นะ กวางน้อยของฉันกำลังถูกฆ่าแล้ว!!! เธอในตอนนี้ตื่นเต้นเป็นอย่างมากตั้งแต่วินาทีที่เจียงเฉินแตะพื้นเขาก็ไล่ฆ่าแบบไม่เลืกหน้า สามสิบนาทีต่อมาเขาก็สามารถฆ่าผู้เล่นคนสุดท้ายและเขาก็กลายเป็นที่หนึ่ง บนหน้าจอก็แสดงข้อความขึ้นมา “โชคดีและโชคดีคืนนี้กินไก่” ซูเสี่ยวเสี่ยวมองเจียงเฉินด้วยดวงตาที่มีประกายดาวอยู่ในตาของเธอ o(〃‘▽‘〃)o ในช่วงเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง ซูเสี่ยวเสี่ยวก็พบว่าเธอนั้นถูกน้องชายแสนหล่อคนนี้ตกเข้าแล้ว ไม่เพียงแค่เขาหล่อเท่านั้นแต่ยังเล่นเกมเก่งอีกด้วย ซูเสี่ยวเสี่ยวกลอกตาของเธอและยิ้มออกมาอย่างเขินอายและถามออกมาว่า “น้องชาย นายอยากได้อะไรไหม” เจียงเฉินถอดหูฟังออกและถามออกไปอย่างสงสัยว่า “อะไรหรอ” ซูเสี่ยวเสี่ยวยื่นมือไปทางเจียงเฉินก่อนจะก้มหัวและพูดอย่างเขินอายว่า “ฉัน…ถคุณต้องการมัน?” เจียงเฉินเหลือบมองก่อนจะโบกมือ “ผมขอโทษ ผมขอโทษสำหรับอา..” ซูเสี่ยวเสี่ยว “???” เจียงเฉินลุกขึ้นและเตรียมที่จะออกไป และทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ “ยังไงก็ตาม คราวหน้าอย่าให้ใครก็ตามเข้ามาในห้องง่ายๆอีกนะ บางทีคนที่พาเข้ามาครั้งหน้าอาจจะเป็นหมาป่าที่หื่นกระหายก็ได้นะ” หลังจากพูดจบ เจียงเฉินก็เดินออกจากห้องไปอย่างเท่ๆ ซูเสี่ยวเสี่ยวก็ตกใจ ก่อนจะทำการดึงเสื้อของเธอไปด้านหลังเผยให้เห็นรูปร่างที่โค้งเว้าอย่างงดงาม ปกติแล้วคนส่วนใหญ่ก็คิดว่าขนาด 36D ก็ใหญ่มากแล้ว แต่ฉันต้องโทษเจ้าเสื้อตัวนี้เลยจริงๆมันปิดรูปร่างที่ฉันคนนี้ไปซะหมดเลย “น้องชายไปไหนแล้ว เอ๋ น้องชาย ให้พี่ได้อธิบายก่อน มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ!” ซูเสี่ยวเสี่ยววิ่งตามออกไปอย่าร้อนรน และก็พบว่าลิฟทต์นั้นลงไปแล้ว เธอจึงรีบกดปุ่มเรียกลิฟต์ทันทีเพื่อที่จะขอช่องทางการติดต่อของน้องชายคนนี้ …. ในตอนที่เจียงเฉินเพิ่งเข้ามาในลิฟต์ ก็เกิดเสียงดัง ติ้ง ติ้งขึ้นมาในใจเขาเหมือนกับเสียงของซอฟต์แวร์บางอย่าง [ติ้ง…อีเว้นท์พิเศษถูกเปิดใช้งานและทำการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว] [ติ้ง…แจ้งเตือน : รถยนต์ของคุณกำลังจอดรออยู่ที่ลานจอดรถด้านนอกชุมชน กุญแจรถยนต์ของคุณถูกส่งเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของคุณแล้ว กรุณาตรวจสอบ] ว้าว! เจียงเฉินตกตะลึง,มันคือเรื่องจริง เขานั้นมาส่งของในครั้งนี้ก็เพื่อเปิดอีเวนท์พิเศษ สิ่งนี้คือระบบที่เขามักอ่านเจอในนิยายใช่ไหม ยังไงก็ตาม ตอนนี้เขาหันมาสนใจเรื่องกุญแจ เจียงเฉินเอามือไปสัมผัสที่กระเป๋ากางเกงและพบว่ามันมีบางอย่างอยู่ภายในจริงๆ เขาเอาออกมาดู มันมีรูปร่างเหมือนกุญแจรถทั่วๆไป แต่บนโลโก้ของมันมีกระทิงที่ดูดุดันและก้าวร้าวปรากฏอยู่ และแน่นอนว่ามันเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของแลมโบกินี่ “กุญแจรถยนต์มูลค่า 80 ล้านทำไมมันดูธรรมดาจังเนี่ย!” เจียงเฉินยังคงมีความรู้สึกไม่เชื่อเล็กน้อย แต่เขาก็เอาโทรศัพท์ของเขามาค้นหารูปกุญแจของรถ Lamborghini Poison ดูและปรากฏว่ามันเป็นแบบเดียวกับอันที่อยู่ในมือของเขาจริงๆด้วย พูดตามแนวคิดการออกแบบของมันคือ รถหรูมีความเรียบง่าย เจียงเฉินก็เลยลองขับรถสามล้อไปดูที่นอกชุมชนด้วยความสงสัยทันที ณ เวลานี้บริเวณด้านนอกชุมชนก็มีกลุ่มคนจำนวนมากกำลังมุงถ่ายอะไรบางอย่างกันอย่างบ้าคลั่งอยู่ “ว้าว! มันเท่อะไรอย่างนี้!” “รถสปอร์ตสีเทาเงินคันนี้ดูเรียบๆ มีเกียรติ และหรูหรามันเป็นรถ Lamborghini รุ่นไหนกัน” “ฉันเจอแล้วๆ! มันคือ Lamborghini Poison ตัวท็อปทั้งโลกนี้มีเพียงแค่ 3 คันเท่านั้น เป็นที่รู้กันว่ามันเป็นรถสปอร์ตที่ดูเท่ที่สุด และราคามันอยู่ที่ประมาณ 80 ล้าน!” “โอ้พระเจ้า ราคามากกว่า 80 ร้านหยวนฉันไม่สามารถทำใจซื้อมันได้จริงๆ” “ทุกคนรีบดึงลูกของตัวเองออกไปเร็วอย่าให้พวกเขาไปแตะมัน” “เมื่อกี้ฉันถ่ายรูปมันลงไปในโมเมนต์ มีเพียงแค่ 3 คนในโลกช่างดูเท่อะไรขนาดนี้” “80 ล้านใครกันที่รวยถึงขนาดนั้น ทรัพย์สินของคนคนนั้นต้องไม่ต่ำกว่าพันล้านแน่ๆ หรืออาจจะถึงหมื่นล้านเลยก็ได้ มันมีคนที่รวยได้ขนาดนั้นในชุมชนเราจริงๆหรอ” “แน่นอนว่าถ้ามี ฉันคนนี้จะไปเคาะประตูและเอาของไปให้เขาทุกวันเพื่อสร้างความสัมพันธ์เลยล่ะ” “จะไปกับฉันเลยไหมล่ะ” และในขณะนั้นเองทุกคนก็เห็นคนส่งพัสดุขับรถสามล้อเข้ามา “เฮ้ ระวังๆหน่อย!” “เวรเอ้ย น้องชายอย่ามาทางนี้ ตรงนี้มีรถยนต์มูลค่า 80 ล้านหยวนจอดอยู่ถ้านายทำมันเป็นรอยนายได้ตายแน่” “ใช่ๆ อย่าหาว่าพวกข้าไม่เตือนนะ” ฮึ! เจียงเฉินไม่สนใจก่อนจะจอดรถของเขาตรงช่องที่ยังว่างอยู่ซึ่งมันตรงข้ามกับรถ Lamborghini พอดี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset