เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ – ตอนที่ 406 : เจียงเฉินนายมันเป็นตัวสร้างปัญหาอย่างแท้จริง!

ตอนที่ 406 : เจียงเฉินนายมันเป็นตัวสร้างปัญหาอย่างแท้จริง!

“พี่เฉิน จริงๆ แล้วพี่เป็นนักศึกษาชั้นยอดที่จบมาจากมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคงั้นหรอ”

“โอ้พระเจ้าเราต่างกันขนาดนี้เลยหรอ”

นักศึกษาใหม่และผู้ปกครองไม่อยากจะเชื่อเลย เมื่อมองไปที่นักศึกษาชั้นยอดที่ “จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค” ที่กําลังสวมชุดรักษาความปลอดภัยและกําลังปฏิบัติหน้าที่ที่มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค

มีการพูดคุยกันมากมาย

“เหลือเชื่อ!”

“พระเจ้า ตอนนี้คนที่จบมหาวิทยาลัยว่างงานแล้วหรือ”

“ทั้งที่รู้ว่างานมันหายาก แต่นี่ก็เกินจริงไปหน่อยไหม”

“จบตั้งมหาวิทยาลัยแต่ไปทํางานรปภ.ทําไม?”

ต่จุนจุนหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า”

“นายนี่ตลกชะมัด!”

“แม้ว่านายจะเป็นรุ่นพี่ของฉันและจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคแต่นายมันมีชีวิตที่ช่างน่าสังเวชเกินไป!”

ต่จุนจุนเยาะเย้ย “ฉันละอายใจจริงๆ ที่มีรุ่นพี่แบบนาย! น่าอับอายมาก! สมองของนายมีปัญหารึเปล่า? นายไม่อายเลยหรอที่กลับมาที่นี่ในฐานะรปภ. รุ่นน้องแบบฉันควรยกย่องรุ่นพี่แบบนายไหม? สิ้น ถ้าฉันเป็นนายฉันจะไปซ่อนตัวอยู่ไกลๆแล้ว”

เธอชี้ไปที่ใต้อาคารที่อยู่ถัดจากเจียงเฉินและพูดเสียงดัง “ดูสิ พวกเขาก็เป็นศิษย์เก่า พวกเขาทั้งหมดเป็นรุ่นพี่ ทําไมพวกเขาถึงไม่รู้จักคุณเลยล่ะแล้วก็นะเห็นนั้นไหมนั้นคืออาคารที่รุ่นพี่เจียงเฉินเป็นคนบริจาคให้! มันถูกตั้งชื่อว่าอาคารเจียงเฉิน! แล้วไหนล่ะเงินหลายสิบล้านของนายลองมองดูตัวนายสินายที่เป็นแค่รูปภ.ไม่ละอายใจบ้างเลยรึยังไง?!”

เจียงเฉิน: !

อาคารเจียงเฉิน?

พระเจ้านี่…

เจียงเฉินไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

เจ้าโง่จที่อยู่ด้านข้างที่ยังไม่ได้รู้ความจริงก็ตะโกนออกมาว่า: “จริงงั้นหรอ? อาคา รเจียงเฉิน อาคารนี้ได้รับบริจาคมาจากศิษย์เก่าที่ชื่อเจียงเฉินงั้นหรอ? มูลค่าหลายสิบล้าน? โอ้พระเจ้า เดี๋ยวก่อนนะ! พี่เฉิน ผมจําได้ว่าชื่อของพี่ก็เจียงเฉินไม่ใช่หรอ?

เจ้าโง่จู่ผู้ซึ่งสมองของเขาเฉื่อยชาราวกับเป็ดในที่สุดก็ดูเหมือนจะพบบางสิ่งและพูดออกมาด้วยเสียงต่ําๆ “พี่เฉิน ไม่ใช่ชื่อว่าพี่ชื่อเจียงเฉินหรอ แถมพี่ยังสําเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคด้วยใช่ไหม??”

หัวใจของเจียนบีบตัวทันที

พระเจ้า!

ไม่ดีแล้ว!

ตัวตนของฉันกําลังจะถูกเปิดเผยโดยเจ้าโง่จ!

เหล่านักศึกษาใหม่และผู้ปกครองที่อยู่รอบๆ ต่างตกตะลึง!

พากันมองดูเจียงเฉินพร้อมกันทันที!

“ฉันได้ยินมานานแล้วว่ามีศิษย์เก่าที่ชื่อเจียงเฉินในมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคและเขาเป็นคนที่มีอานาจมาก”

“ฉันมาสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคเพราะพี่เจียงเฉินเลยนะ”

“คนคนนี้คือเจียงเฉินจริงๆ เหรอ?”

“เด็กน้อย อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระของคนอื่น เจียงเฉินคือใคร เขาจะเป็นรูปภ.ได้ยังไงกัน”

แต่ใครจะรู้

ต่จุนจุนได้ยินเจ้าโง่จที่เรียกชื่อเจียงเฉินเธอก็ตกตะลึงครู่หนึ่งทันใดนั้นเธอก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“ว้าว ฮ่าฮ่าฮ่า! มันทําให้ฉันตลกจริงๆ!”

“ยามรักษาความปลอดภัยสองคน คนหนึ่งร้องเพลงและหนึ่งประสาน การเสแสรั้งก็ควรต้องมีขีดจํากัดนะ!”

“นายคือเจียงเฉิน? ชื่อของนายคือเจียงเฉิน? นายจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค? ถ้าอย่างนั้นนายจะทํางานเป็นยามรักษาความปลอดภัยไปทําไม?”

ต่จุนจุนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

เธอพ่นลมอย่างเย็นชา “เพียงแค่โอ้อวดทําเป็นมีพลัง แกล้งแสดงเป็นรุ่นพี่เจียงเฉินที่นี่ฉันคงไม่สามารถปล่อยให้คนอย่างนายอยู่ที่นี่ต่อไปได้ฉันคงต้องยื่นเรื่องไล่นายออกแล้ว! หลีกทางให้ฉันเดี๋ยวนี้!”

เจียงเฉินส่ายหัวและไม่ปล่อยเธอไป “คุณต้องขับรถออกไป ไม่อย่างนั้นจะไม่มีการพูดคุยกันอีก”

“นาย ”

ไฟปรากฏขึ้นมาในดวงตาของต่จุนจุน

ในเวลานี้เอง…

ก็มีคนๆหนึ่งรีบวิ่งเข้ามา

ใช่แล้วเขาก็คือ…

อาจารย์ฟู!

หรืออาจารย์ใหญ่ฟูผู้รับผิดชอบฝ่ายวิชาการ! แซ่ของเขาคือฟูและเขาก็ยังมีตแหน่งเป็นเป็นรองอาจารย์ใหญ่ด้วย!

อาจารย์ใหญ่ฟูเห็นต่จุนจุนจากระยะไกลก่าลังโต้เถียงกับเจียงเฉินเขาจึงถอนหายใจออกมา

“จนจน ทําไมเธอถึงยังไม่ขึ้นไปล่ะ การประชุมนักศึกษาใหม่กาลังจะเริ่มแล้วนะ อาจารย์ใหญ่จางก็มาถึงแล้วพวกเขากําลังรอเธอขึ้นไปพูดอยู่นะ!”

เมื่อต่จนจนเห็นว่าอาจารย์ใหญ่ฟูเข้ามา ความเย่อหยิ่งของเธอก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก!

เพราะอาจารย์ใหญ่ฟูเป็นลุงของเธอ

น่ากลัวมั้ยล่ะ?

ใช่แล้วคู่จุนจุนเย่อหยิ่งได้ก็เพราะมีลุงของเธอคอยหนุนหลังให้อยู่!

อาจารย์ใหญ่ฟูเป็นคนรับผิดชอบฝ่ายวิชาการและยังเป็นถึงรองอาจารย์ใหญ่แค่นี้ก็น่ากลัวพอไหมล่ะ?

ต่จุนจุนชี้ไปที่เจียงเฉินและพูดอย่างโกรธเคือง “ลุงคะ ดูยามรักษาความปลอดภัยตัวน้อยนี่สิเขากล้าหยุดหนูไว้และไม่ให้หนูเข้าไป จนหนูมาสายแล้ว”

อาจารย์ใหญ่ฟูนั้นเพิ่งจะย้ายเข้ามาทํางานที่นี่ เขาไม่เคยเห็นเจียงเฉินมาก่อน เมื่อ เขามองดูเจียงเฉินและเจ้าโง่จูยืนอยู่ต่อหน้าหลานสาวของเขา เขาก็พูดออกมาอย่างไม่อดทนว่า “พวกนายเป็นยามรักษาความปลอดภัยจากข้างนอก พวกนายคงไม่รู้จักฉันสินะ ฉันขอสั่งให้พวกนายเปิดทางให้เธอเดี๋ยวนี้เธอยังต้องไปทําหน้าที่ของประธานสภานักศึกษาใหม่อยู่นะ!”

เจียงเฉินชีไปที่ Maserati ที่จอดอยู่ที่ข้างประตู “เธอฝ่าฝืนกฎการจอดรถและจอดรถไว้ที่ประตูโรงเรียน มันปิดกั้นทางออกเราจะไม่ปล่อยให้เธอเข้าไปอย่างเด็ดขาด ดังนั้นเธอควรไปขยับรถก่อน”

อาจารย์ใหญ่ฟูเหลือบมองรถ Maserati และโบกมือ “ก็ได้ ฉันเข้าใจแล้วมันไม่เป็นไรหรอพวกนายไม่จําเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ถ้ามีคนถามก็บอกว่าฉันเป็นคนให้จอดเอง”

เขากําาลังจะจากไปพร้อมกับต่จุนจุน

แต่ใครจะรู้

ในขณะนี้ จุนจุนก็ยังไม่สํานึกผิด เธอชี้ไปที่เจียงเฉินและพูดว่า “ลุงคะ ยามสองคนผู้นี้ทําตัวหยาบคายกับหนูจะให้หนูลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง”

อาจารย์ใหญ่ฟูคิดว่าเจียงเฉินที่เป็นแค่ยามรักษาความปลอดภัยก็คงไม่มีความฉลาดอะไรมากและไม่ต้องพูดถึงว่าพ่อแม่ของต่จนจนทั้งสองคนนั้นเป็นคนที่รารวย และมีอานาจมากความแข็งแกร่งและสถานะของพวกเขาไม่ได้เลวร้ายเลย

ดังนั้นแค่ยามรักษาความปลอดภัยตัวเล็กๆกับหลานสาวของเขาเขาควรให้น้ําหนักกับใครมากกว่ากัน?

จําเป็นต้องพูดด้วยหรอ?

อาจารย์ใหญ่ฟูเยาะเย้ยออกมา “พวกนายนะ เร็วเข้ามาขอโทษจุนจุนเร็ว!”

เจ้าโง่จดึงแขนเสื้อของเจียงเฉิน “พี่เฉินพวกเราต้องก้มหัวให้พวกเขาไหม? นี่คือรองอาจารย์ใหญ่เลยนะ เรื่องจะได้จบเร็วๆ”เหล่านักศึกษาใหม่และผู้ปกครองที่อยู่รอบๆพวกเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป

“เป็นอะไรไป ทําไมรปภ.ถึงต้องยอมรับผิด”

“รปภ.เขาท่าตามกฎ พวกนายต่างหากเป็นอะไรหรือเปล่า”

“คนรวยมันมันวิเศษและมีอานาจมากนักใช่ไหม”

“เฮ้ ดูทางนี้สิ มหาลัยโพลีเทคนิคเป็นเพียงมหาลัยที่มีดีแต่กระแส!”

ตูจุนจุนไม่สนใจความเห็นและการถากถางดูถูกของคนเหล่านี้

เมื่อโตขึ้นเธอมักจะ…

ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร เธอจะสนแค่เรื่องของเธอเท่านั้น

แต่ใครจะรู้

เจียงเฉิน รปภ.ตัวน้อยนั้นไม่เพียงแต่ไม่ทําตามคําสั่งของรองอาจารย์ใหญ่เท่านั้น แต่ยังพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “อาจารย์ฟู ผมคิดว่าการที่คุณเป็นรองอาจารย์ใหญ่ของที่นี่มันไม่เหมาะสม!”

“อะไรนะ?”

อาจารย์ใหญ่ฟูคิดว่าหูของเขามีบางอย่างผิดปกติ

รปภ.ตัวเล็กๆแถมยังเป็นลูกจ้างชั่วคราว กล้าพูดว่าฉันที่เป็นอาจารย์ใหญ่ไม่เหมาะสม?

ใครให้ความกล้าหาญแก่นายกัน?

เขาหัวเราะอย่างโกรธเคือง: “เอาล่ะ งั้นนายลองบอกฉันที ว่าฉันทําอะไรผิด”

เจียงเฉินชี้ไปที่ประตูโรงเรียน “กฎที่เราได้รับคือไม่อนุญาตให้จอดรถที่ประตูมหาลัย ดังนั้นนักศึกษาใหม่และผู้ปกครองที่มามหาลัยเพื่อรายงานตัวก็ต้องปฏิบัติตามกฎ นี้และไปจอดรถไว้ในที่จอดรถ บางคนรอกันถึงชั่วโมงหรือสองชั่วโมงด้วยซ้ํา”

นักศึกษาใหม่ที่อยู่รอบๆและผู้ปกครองพากันพยักหน้า เจียงเฉินพูดถูก

“พวกเขาทั้งหมดต่างก็ปฏิบัติตามกฎ แต่อย่างไรก็ตามหลานสาวของคุณซึ่งเป็นถึงตัวแทนของสภานักศึกษาปีแรกนั้นกลับทําตัวหยิ่งผยองและจอดรถไว้ที่ประตูมหาลัย!”

เจียงเฉินพูดออกมาอย่างชอบธรรม “การกระทําแบบนี้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกคนมันหมายความว่าอย่างไร”

“มันไม่ยุติธรรม!”

เจียงเฉินพูดอย่างจริงจัง “เธอเป็นถึงตัวแทนของมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค แต่เธอกลับไร้ซึ่งความอดทนและเอาแต่ใช้สิทธิพิเศษและอานาจจากเบื้องหลัง และนี่เป็นการดูถูกภาพลักษณ์ของมหาลัยของเรา ผมคิดว่าคุณเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นเบื้องหลังให้กับต่จนจนคนนี้และคุณก็เป็นพวกไร้ความยุติธรรม!”

“ฉัน! &*%&&…

อาจารย์ใหญ่ฟลุกเป็นไฟ

เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าแค่ยามรักษาความปลอดภัยจะกล้าเผชิญหน้ากับเขาแบบนี้

กล้าพูดว่าเขาไร้ความยุติธรรม

ครูใหญ่ฟูโกรธมาก “หัวหน้าของนายอยู่ที่ไหน ฉันโทรหาหัวหน้าของนาย! ฉันขี้เกียจเกินกว่าจะพูดเรื่องไร้สาระกับนายแล้ว! วันนี้ ถ้าบริษัทรักษาความปลอดภัยของนายไม่ไล่คุณออก ฉันจะไปซื่อบริษัทรักษาความปลอดภัยแล้วไล่นายออกเอง!”

“โยโย่โย?”

เจียงเฉินยิ้ม “คุณแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยหรอ คุณมีพลังมากขนาดนั้นเลยหรอ คุณจะไล่ฉันออกหรอ? ให้ผมบอกคุณก่อนก็แล้วกันแม้ว่าคุณจะต้องการไล่ผมออกในวันนี้ ผมก็ยังจะยืนยันคําเดิมให้เธอไปหาที่จอดรถใหม่ที่ประตูมหาลัยห้ามจอด!”

อาจารย์ฟูอึ้ง…

ต่จุนจุนก็อึ้ง…

เกิดอะไรขึ้น?

ทําไม รปภ.ตัวน้อยคนนี้ถึงแข็งกระด้างขนาดนี้?

ใครให้ความกล้าหาญแก่เขา?

นักศึกษาและผู้ปกครองโดยรอบปรบมืออย่างกระตือรือร้น

“พูดได้ดี!”

“รปภ.ตัวน้อยคนนี้ ถึงแม้ว่าสถานะของเขาจะต่ํามาก แต่เขาก็ยังยืนหยัดเพื่อความยุติธรรม!”

“การให้สิทธิพิเศษเป็นการดูถูกมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค! เยี่ยมมาก!”

“สุดยอด! ฉันชอบพี่ชายคนนี้ที่มีความยติธรรม!”

“หุบปาก! ใครกล้าปรบมือ?”

อาจารย์ใหญ่ฟูโกรธมาก

เสียงปรบมือของเหล่าพ่อแม่ของนักศึกษาใหม่เหล่านี้ดูเหมือนกับเสียงตบหน้าของเขาอย่างแรง

“ให้ตายเถอะ!

ในเวลานี้หัวหน้าโจวก็รีบวิ่งมา

เขากําลังยุ่งอยู่กับการทํางานที่ประตูมหาลัยอีกด้านและเขาก็ได้ยินว่ามีเรื่องเกิดขึ้นที่ประตูฝั่งเจียงเฉินเขาจึงรีบวิ่งมาทันทีเมื่อเห็นเจียงเฉินยืนอยู่ต่อหน้าอาจารย์ใหญ่ฟูและหญิงสาวหัวหน้าโจวก็บ่นในใจ

ให้ตายเถอะ!

เจียงเฉิน!

ทําไมนายมาทํางานแล้วต้องเจอแต่เรื่องตลอดอเลยนะ?

เมื่อผู้คนเห็นว่ามียามวิ่งเข้ามาเพิ่มพวกเขาก็เริ่มเงียบลง

หัวหน้าโจววิ่งเข้าไปหาอาจารย์ใหญ่ฟูและโค้งคํานับให้ “อาจารย์ฟ-s”

“หัวหน้าโจว!”

อาจารย์ใหญ่ฟูโกรธมากเขาชี้นิ้วไปที่เจียงเฉินและพูดว่า “นี่คือยามรักษาความปลอดภัยของคุณใช่ไหม”
หัวหน้าโจวพยักหน้าอย่างตกตะลึง

อาจารย์ใหญ่ฟูหัวเราะอย่างโกรธจัดและพูดว่า “โอเค ดีมาก ลูกน้องของคุณเป็นห่วงประเทศและประชาชนมากเลยนะเขากล้าเพิกเฉยต่อคําสั่งของฉันและถึงกับกล้าบอกว่าฉันดูหมิ่นมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค! พวกคุณทํางานกันแบบนี้หรอ!!?”

หัวหน้าโจวรู้สึกหวาดกลัว

พระเจ้า!

เจียงเฉินนายมันเป็นตัวสร้างปัญหาอย่างแท้จริง!

แม้แต่อาจารย์ใหญ่ฟูแห่งมหาลัยโพลีเทคนิคยังกล้าสู้ได้อย่างไร?

เขารีบพยักหน้าและก้มศีรษะและพูดกับอาจารย์ใหญ่ฟูเพื่อขอโทษเขา “อาจารย์ใหญ่ฟูโปรดยกโทษให้เขาด้วย แม้ว่าเจียงเฉินของเราจะหล่อแต่สมองของเขามีบา งอย่างผิดปกติ ฮ่าฮ่า เขาเลยค่อนข้างหยิ่ง ผมจะให้เขาหลับให้พ้นทางเอง!”

“ไม่!”

อาจารย์ใหญ่ฟูเริ่มร่าคาญและพูดว่า “ฉันไม่ยอมแค่นี้หรอก!”

เขาชี้ไปที่เจียงเฉิน: “วันนี้ฉันจะบอกให้เขารู้ว่าพลังที่แท้จริงคืออะไร!”

เจียงเฉินไม่ได้ขี้ขลาดเลยแม้แต่น้อยเขาเยาะเย้ยออกมา “พลัง? ว้าวน่าพึ่งดีนี่ ใครให้พลังแก่คุณกันล่ะ?

“ให้ตายเถอะ!”

อาจารย์ใหญ่ฟูโกรธจัดและพูดว่า “ใครให้อานาจฉันงั้นหรอ? ฉันเป็นหัวหน้าฝ่ายวิชาการมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคแห่งนี้มีอานาจถึงหนึ่งในสามของอานาจทั้งหมดในมหาลัย!!”

“หรอ?”

ในเวลานี้เอง~~

จางห้าวจนเดินมาพร้อมกับกลุ่มอาจารย์

“คุณบอกว่าคุณเป็นหัวหน้าฝ่ายวิชาการของมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคแห่งนี้หรืออาจารย์ใหญ่ฟูทําไมเรื่องนี้ผมถึงไม่รู้มาก่อน เมื่อไหร่กันที่คุณได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการการศึกษาและมาเป็นอาจารย์ใหญ่ของมหาลัยของเรา”

จางห้าวจนพูดประชดประชัน

อาจารย์ใหญ่ฟูรู้ว่าเขาทําผิดก็หน้าแดงและเขาก็พูดเล่นอย่างรวดเร็ว: “อาจารย์จางผมหยิ่งผยองเกินไปหน่อยผมต้องขอโทษจริงๆ เมื่อกี้ผมพูดผิดไป แต่ผมโกรธเจ้าคนๆนี้มาก! ใช่ผมโกรธมากผมเลยต้องการให้เขารู้ว่าใครกันแน่ที่ใหญ่กว่ากัน

จางห้าวจนไม่สนใจเขาเลย แต่…

เขาเดินตรงไปที่เจียงเฉิน

รองอาจารย์ใหญ่กลุ่มหนึ่งก็มองไปที่อาจารย์ใหญ่ฟูและต่จุนจุนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยด้วยความยินดีในความโชคร้ายก่อนที่จะหันไปทักทายเจียงเฉิน

ต่จุนจุนเชื่อว่าในสายตาของอาจารย์ใหญ่จาง สถานะของเธอนั้นย่อมต้องสูงกว่าเจียงเฉินมากยังไม่ต้องพูดถึงว่าลุงของเธอเป็นถึงรองอาจารย์ใหญ่และพ่อแม่ของเขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมากและจางฮ่าวจุนก็จะต้อง….

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

Status: Ongoing
บทนำ ติ้ง! เจียงเฉินได้ส่งพัสดุและได้รับโอกาศสัมผัสกับประสบการณ์จากระบบลงชื่อ! ได้รับรางวัลเป็น Lamborghini Poison “ติ้ง…อีเว้นท์ลับเสร็จสิ้น ทำการลงทะเบียนสำเร็จ รับรางวัลเงินสด 1000 ล้าน!!!” “ติ้ง…อีเว้นท์ลับเสร็จสิ้น ทำการลงทะเบียนสำเร็จ คุณได้รับหุ้น 30% ตามรายการต่อไปนี้!!!” “ติ้ง…….” …… เจียงเฉินไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าเขาจะได้พบกับประสบการณ์แบบนี้!!! เรื่องย่อ “ผมเจียงเฉินผมเป็นคนที่ดูดีเกินไปจนมีผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตของผม“ “สองเดือนก่อนผมเป็นผู้อํานวยการของบริษัท ที่มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 10,000 หยวน แต่ประธานสาวที่มีความงามที่โดดเด่นของ บริษัทของเราและลูกสาวของเธอตกหลุมรักฉันด้วยกัน“ “เพื่อป้องกันไม่ให้ความสัมพันธ์พังทลายลงระหว่างทั้งสองผมจึงเลือกที่จะลาออกอย่างเด็ดเดี่ยว“ “ตอนนี้ผมมีงานที่ยิ่งใหญ่ต้องทำ…” ลิฟต์มาถึงแล้ว ชั้น 7 เจียงเฉินมองไปที่พัสดุและเคาะประตูห้องหมายเลข 0702 เคาะประตู “เฮ้ มีใครอยู่บ้านไหมครับ“ “คุณเป็นใคร” มีเสียงหวานใสดังออกมา ฟังดูแล้วเป็นเสียงของผู้หญิงที่มีความอบอุ่นและถ้าจะให้คาดเดาจากประสบการณ์ของเขา เสียงนั่นก็ควรจะเป็นเสียงของเด็กสาว “พัสดุส่งด่วนครับคุณ ซู เสี่ยวเสี่ยว ช่วยออกมารับพัสดุด้วยครับ” เจียงเฉินกล่าวว่า ‎“รอฉันก่อนเหลืออีกแค่ 10 คนฉันจะกินไก่เร็ว ๆ นี้!” เสียงประหม่าดังออกมาจากห้อง‎ ‎“งั้นผมจะรอคุณสักครู่ ถ้าคุณยังไม่ออกมา ผมจะทิ้งพัสดุไว้หน้าประตูนะ” เจียงเฉินพิงกําแพงและเล่นกับโทรศัพท์ของเขาในขณะที่‎รอเจ้าของเสียงออกมารับพัสดุ ‎ไม่ถึงสิบห้าวินาที ‎ประตูก็ถูกเปิดออกมา ‎สาวสวยสวมเสื้อยืดสีขาวหลวม ๆ ออกมาด้วยรูปลักษณ์ที่น่ารักมาก ด้วยคะแนนที่สมบูรณ์แบบ 100 คะแนนสมควรมีคะแนนอย่างน้อย 95 คะแนน‎ ‎“ซู เสี่ยวเสี่ยวใช่ไหม? เพียงเซ็นชื่อที่นี่ ” เจียงเฉิน พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นๆ และส่งพัสดุออกไป‎ ‎“ฮึ เพราะนายเลยที่มาเร่งฉันคนนี้จนฉันต้องตาย!” ซูเสี่ยวเสี่ยว เซ็นชื่อและพึมพำอย่างเจ็บปวดเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้เข้ามาเล่นในแรงค์สูงระดับนี้“‎ ‎“มันก็แค่เกมไม่ใช่เหรอ? ” เจียงเฉินช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกตลกเล็กน้อย‎ ‎ซูเสี่ยวเซี่ยวเงยหน้าขึ้นและเห็นเจียงเฉินหล่อเหลาภายใต้หมวกเบสบอลสีดําทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงการเต้นของหัวใจอย่างรวดเร็ว‎ ‎หล่อขนาดนี้เลยเหรอ?‎ ‎อย่างไรก็ตามเขาเป็นคนทำให้ฉันคนนี้แพ้ ไม่ว่าจะหล่อแค่ไหน ฉันคนนี้ก็จะไม่มีวันให้อภัย! ‎”ก็แน่สินายมันเป็นคนส่งพัสดุที่ต้องคอยส่งพัสดุทั้งวันจะเอาเวลาที่ไหนไปเล่นเกมส์กัน”ซูเสี่ยวเสี่ยวพูดออกมา “นี่คิดอย่างงั้นได้ไง คิดว่าคนส่งของแบบผมไม่มีเวลามาเล่นเกมส์งั้นหรอ ผมจะบอกอะไรให้นะ ไม่เพียงแค่ผมจะเคยเล่นเกมส์นี้แต่ผมยังเล่นเก่งมากด้วย”เจียงเฉินพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มที่แสดงถึงความตั้งใจ “จริงหรอ งั้นก็ลองโชว์มาหน่อยสิ”เธอตาของเธอเป็นประกายก่อนจะส่งคำเชิญไปให้เจียงเฉิน ฮิฮิ อย่างน้อยน้องชายหน้าหล่อคนนี้ก็ไม่เลวเลย “ตกลง” เจียงเฉินไม่พูดมากและตอบตกลงอย่างตรงไปตรงมา ซูเสี่ยวเสี่ยวนำเจียงเฉินเข้ามาในห้อง ให้เขาไปนั่งที่เก้าอี้เกมมิ่ง และกดเริ่มเกม ในตอนนี้นิ้วที่เรียวยาวของ เจียงเฉินควบคุมเมาส์และตัวละครในคอมพิวเตอร์ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นฆาตกรที่โหดเหี้ยมในทันที! สาวสวยซูเสี่ยวเสี่ยวที่เห็นก็ตกตะลึงจนค้างไป สายตาของเธอตอนนี้กำลังจ้องสลับระหว่างตัวของเจียงเฉินกับหน้าจอ โอ้พระเจ้า! เขาจะเก่งเกินไปแล้ว เขาสามารถไปเป็นนักแข่งมืออาชีพได้เลยนะเนี่ย!!! เละเทะไปหมดแล้ว!!! ไม่นะ กวางน้อยของฉันกำลังถูกฆ่าแล้ว!!! เธอในตอนนี้ตื่นเต้นเป็นอย่างมากตั้งแต่วินาทีที่เจียงเฉินแตะพื้นเขาก็ไล่ฆ่าแบบไม่เลืกหน้า สามสิบนาทีต่อมาเขาก็สามารถฆ่าผู้เล่นคนสุดท้ายและเขาก็กลายเป็นที่หนึ่ง บนหน้าจอก็แสดงข้อความขึ้นมา “โชคดีและโชคดีคืนนี้กินไก่” ซูเสี่ยวเสี่ยวมองเจียงเฉินด้วยดวงตาที่มีประกายดาวอยู่ในตาของเธอ o(〃‘▽‘〃)o ในช่วงเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง ซูเสี่ยวเสี่ยวก็พบว่าเธอนั้นถูกน้องชายแสนหล่อคนนี้ตกเข้าแล้ว ไม่เพียงแค่เขาหล่อเท่านั้นแต่ยังเล่นเกมเก่งอีกด้วย ซูเสี่ยวเสี่ยวกลอกตาของเธอและยิ้มออกมาอย่างเขินอายและถามออกมาว่า “น้องชาย นายอยากได้อะไรไหม” เจียงเฉินถอดหูฟังออกและถามออกไปอย่างสงสัยว่า “อะไรหรอ” ซูเสี่ยวเสี่ยวยื่นมือไปทางเจียงเฉินก่อนจะก้มหัวและพูดอย่างเขินอายว่า “ฉัน…ถคุณต้องการมัน?” เจียงเฉินเหลือบมองก่อนจะโบกมือ “ผมขอโทษ ผมขอโทษสำหรับอา..” ซูเสี่ยวเสี่ยว “???” เจียงเฉินลุกขึ้นและเตรียมที่จะออกไป และทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ “ยังไงก็ตาม คราวหน้าอย่าให้ใครก็ตามเข้ามาในห้องง่ายๆอีกนะ บางทีคนที่พาเข้ามาครั้งหน้าอาจจะเป็นหมาป่าที่หื่นกระหายก็ได้นะ” หลังจากพูดจบ เจียงเฉินก็เดินออกจากห้องไปอย่างเท่ๆ ซูเสี่ยวเสี่ยวก็ตกใจ ก่อนจะทำการดึงเสื้อของเธอไปด้านหลังเผยให้เห็นรูปร่างที่โค้งเว้าอย่างงดงาม ปกติแล้วคนส่วนใหญ่ก็คิดว่าขนาด 36D ก็ใหญ่มากแล้ว แต่ฉันต้องโทษเจ้าเสื้อตัวนี้เลยจริงๆมันปิดรูปร่างที่ฉันคนนี้ไปซะหมดเลย “น้องชายไปไหนแล้ว เอ๋ น้องชาย ให้พี่ได้อธิบายก่อน มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ!” ซูเสี่ยวเสี่ยววิ่งตามออกไปอย่าร้อนรน และก็พบว่าลิฟทต์นั้นลงไปแล้ว เธอจึงรีบกดปุ่มเรียกลิฟต์ทันทีเพื่อที่จะขอช่องทางการติดต่อของน้องชายคนนี้ …. ในตอนที่เจียงเฉินเพิ่งเข้ามาในลิฟต์ ก็เกิดเสียงดัง ติ้ง ติ้งขึ้นมาในใจเขาเหมือนกับเสียงของซอฟต์แวร์บางอย่าง [ติ้ง…อีเว้นท์พิเศษถูกเปิดใช้งานและทำการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว] [ติ้ง…แจ้งเตือน : รถยนต์ของคุณกำลังจอดรออยู่ที่ลานจอดรถด้านนอกชุมชน กุญแจรถยนต์ของคุณถูกส่งเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของคุณแล้ว กรุณาตรวจสอบ] ว้าว! เจียงเฉินตกตะลึง,มันคือเรื่องจริง เขานั้นมาส่งของในครั้งนี้ก็เพื่อเปิดอีเวนท์พิเศษ สิ่งนี้คือระบบที่เขามักอ่านเจอในนิยายใช่ไหม ยังไงก็ตาม ตอนนี้เขาหันมาสนใจเรื่องกุญแจ เจียงเฉินเอามือไปสัมผัสที่กระเป๋ากางเกงและพบว่ามันมีบางอย่างอยู่ภายในจริงๆ เขาเอาออกมาดู มันมีรูปร่างเหมือนกุญแจรถทั่วๆไป แต่บนโลโก้ของมันมีกระทิงที่ดูดุดันและก้าวร้าวปรากฏอยู่ และแน่นอนว่ามันเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของแลมโบกินี่ “กุญแจรถยนต์มูลค่า 80 ล้านทำไมมันดูธรรมดาจังเนี่ย!” เจียงเฉินยังคงมีความรู้สึกไม่เชื่อเล็กน้อย แต่เขาก็เอาโทรศัพท์ของเขามาค้นหารูปกุญแจของรถ Lamborghini Poison ดูและปรากฏว่ามันเป็นแบบเดียวกับอันที่อยู่ในมือของเขาจริงๆด้วย พูดตามแนวคิดการออกแบบของมันคือ รถหรูมีความเรียบง่าย เจียงเฉินก็เลยลองขับรถสามล้อไปดูที่นอกชุมชนด้วยความสงสัยทันที ณ เวลานี้บริเวณด้านนอกชุมชนก็มีกลุ่มคนจำนวนมากกำลังมุงถ่ายอะไรบางอย่างกันอย่างบ้าคลั่งอยู่ “ว้าว! มันเท่อะไรอย่างนี้!” “รถสปอร์ตสีเทาเงินคันนี้ดูเรียบๆ มีเกียรติ และหรูหรามันเป็นรถ Lamborghini รุ่นไหนกัน” “ฉันเจอแล้วๆ! มันคือ Lamborghini Poison ตัวท็อปทั้งโลกนี้มีเพียงแค่ 3 คันเท่านั้น เป็นที่รู้กันว่ามันเป็นรถสปอร์ตที่ดูเท่ที่สุด และราคามันอยู่ที่ประมาณ 80 ล้าน!” “โอ้พระเจ้า ราคามากกว่า 80 ร้านหยวนฉันไม่สามารถทำใจซื้อมันได้จริงๆ” “ทุกคนรีบดึงลูกของตัวเองออกไปเร็วอย่าให้พวกเขาไปแตะมัน” “เมื่อกี้ฉันถ่ายรูปมันลงไปในโมเมนต์ มีเพียงแค่ 3 คนในโลกช่างดูเท่อะไรขนาดนี้” “80 ล้านใครกันที่รวยถึงขนาดนั้น ทรัพย์สินของคนคนนั้นต้องไม่ต่ำกว่าพันล้านแน่ๆ หรืออาจจะถึงหมื่นล้านเลยก็ได้ มันมีคนที่รวยได้ขนาดนั้นในชุมชนเราจริงๆหรอ” “แน่นอนว่าถ้ามี ฉันคนนี้จะไปเคาะประตูและเอาของไปให้เขาทุกวันเพื่อสร้างความสัมพันธ์เลยล่ะ” “จะไปกับฉันเลยไหมล่ะ” และในขณะนั้นเองทุกคนก็เห็นคนส่งพัสดุขับรถสามล้อเข้ามา “เฮ้ ระวังๆหน่อย!” “เวรเอ้ย น้องชายอย่ามาทางนี้ ตรงนี้มีรถยนต์มูลค่า 80 ล้านหยวนจอดอยู่ถ้านายทำมันเป็นรอยนายได้ตายแน่” “ใช่ๆ อย่าหาว่าพวกข้าไม่เตือนนะ” ฮึ! เจียงเฉินไม่สนใจก่อนจะจอดรถของเขาตรงช่องที่ยังว่างอยู่ซึ่งมันตรงข้ามกับรถ Lamborghini พอดี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset