เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ – ตอนที่ 264 ผลสอบเข้ามหาวิทยาลัย

ในทุกปีที่เมืองอวิ๋นเฉิงจะมีช่วงเวลาที่เหล่าเด็กนักเรียนมัธยมต้องรู้สึกตื่นเต้นเช่นนี้  

 

 

หนึ่งคือสองสามวันช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัย สองคือวันที่ผลคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยออก  

 

 

วันที่ยี่สิบสาม เด็กมัธยมปลายปีสองและสามยังไม่ได้เปิดเทอม แม้จะอยู่ในช่วงวันหยุด แต่ครูประจำชั้นมัธยมปลายปีสามจากเหิงชวนมาถึงที่ห้องสำนักงานตั้งแต่เช้าตรู่   

 

 

คะแนนจะประกาศประมาณเก้าหรือสิบโมง พวกเขาแทบจะรอให้เวลานั้นมาถึงไม่ไหว พยายามสงบอารมณ์นั่งอยู่บนที่นั่งหน้าห้องสำนักงาน   

 

 

กอดถุงน้ำร้อนด้วยใจที่รุ่มร้อนคอยรออยู่ที่สำนักงานอย่างกระสับกระส่าย   

 

 

เกาหยางเองก็มาตั้งแต่เช้า เขาถือชาไว้ถ้วยหนึ่ง ใบหน้าที่ออกจะอวบอิ่มยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา ดูไม่มีอะไรแตกต่าง  

 

 

คะแนนสอบเข้ามหาวิทยาออก ไม่เพียงแต่นักเรียน พวกอาจารย์มัธยมปีสามแต่ละคนก็เฝ้ารออย่างตื่นเต้น แม้แต่นักเรียนมัธยมปลายปีหนึ่งและปีสองเองก็แอบคาดเดาถึงผลสอบในปีนี้กันอยู่เงียบๆ  

 

 

อาจารย์จากเหิงชวนกำลังวางเดิมพันว่าใครจะเป็นอันดับหนึ่งของเหิงชวน  

 

 

โดยหลักแล้วก็มีฉินหร่าน พานหมิงเย่ว์และสวีเหยากวง  

 

 

มีจำนวนมากที่วางเดิมพันกับสวีเหยากวง พานหมิงเย่ว์น้อยลงมาหน่อย สำหรับฉินหร่าน…พฤติกรรมของเธอยากที่จะคาดเดา โดยเฉพาะในส่วนของฟิสิกส์ ยังไม่มีครูท่านไหนที่มองเห็นคะแนนฟิสิกส์ของเธอออก   

 

 

เหล่าครูที่วางเดิมพันกับเธอ ต่างก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกลังเล  

 

 

“อาจารย์เกา ฉินหร่านจากห้องคุณสอบครั้งนี้สรุปเป็นอย่างไรบ้าง” ตอนนี้เพิ่งจะแปดโมงครึ่ง อาจารย์กลุ่มหนึ่งกำลังคุยกันเรื่อยเปื่อย คนส่วนใหญ่กำลังถกเถียงเกี่ยวกับนักเรียนระดับหัวกะทิสองสามคนนั้น “ได้ยินว่าคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษยากมาก นักเรียนหลายคนถึงกับร้องไห้เลย”  

 

 

ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเกาหยางก็ไม่ได้เปลี่ยน เขายกถ้วยชา ยังคงยิ้มตาหยีเช่นเดิม “ก็ธรรมดานะ ตามปกตินั่นแหละ”  

 

 

คำพูดนี้ทำให้อาจารย์คนอื่นแทบจะอยากพุ่งไปชกเขาสักหมัด  

 

 

อาจารย์ประจำชั้นนั่งเรียงเป็นแถวคุยกัน มีเพียงหลี่อ้ายหรงที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง เม้มปากนิ่งไม่พูดจา จ้องนิ่งไปยังทางคอมพิวเตอร์อยู่ตลอด  

 

 

เวลาเก้านาฬิกา ระบบของศึกษาธิการก็ทำการอัปเดต   

 

 

คะแนนจะถูกทำการรีเฟรชในระบบสืบค้นการสอบเข้ามหาลัย รวมไปถึงการเรียงลำดับผลคะแนน  

 

 

ในปีนี้ผู้เข้าสอบในเหิงชวนมีหนึ่งพันคน คะแนนของผู้คนจำนวนมากเพียงนี้ทำการจัดเรียงลำดับรายชื่อจากฐานข้อมูลในระบบต้องใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง บรรดาครูประจำชั้นทั้งหลายต่างอดใจรอไม่ได้เป็นธรรมดา   

 

 

เกือบทั้งหมดของบรรดาอาจารย์ หลายคนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ต้องนัดหมายเพื่อโทรหาลูกศิษย์ที่ภาคภูมิใจของตน  

 

 

เกาหยางคิด และก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาฉินหร่าน  

 

 

เสียงในโทรศัพท์ดังขึ้นสองครั้ง ในที่สุดก็ถูกรับสาย   

 

 

“คุณครูหรอคะ” ฉินหร่านลุกขึ้นจากเตียง กระแอมแล้วพูดขึ้น “คุณโทรหาหนูทำไม”  

 

 

น้ำเสียงถูกกดต่ำ  

 

 

เฉิงเจวี้ยนให้อาจารย์ของเขาส่งยาไปให้ ด้วยยาของเขาและทีมแพทย์นั้น มือของเธอฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาก็ถอดเฝือกแล้ว เมื่อคืนเล่นเกมกับพวกลู่จ้าวอิ่งและเฉียวเซิงจนถึงตีสี่ จนกระทั่งเฉียวเซิงได้สองดาว ทั้งสองคนถึงได้ยอมหยุดลงทั้งที่อารมณ์ยังค้างอยู่  

 

 

เกาหยางได้ยินเสียงแหบพร่าเล็กน้อยของเธอ ก็รู้ว่าเธอยังไม่ตื่นนอน เขาเงียบอยู่สักครู่ “…วันนี้คะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยออกแล้ว เธอรู้หรือเปล่า”  

 

 

“วันนี้หรอ” ฉินหร่านหยีตา แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันที่ยี่สิบสาม เป็นวันที่ประกาศผลคะแนน “เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณคุณครูมากค่ะ ไว้เดี๋ยวหนูจะลองตรวจสอบดู”   

 

 

เกาหยาง: “…”  

 

 

เธอรู้แล้ว แต่เธอจะยังไม่ตรวจสอบทันทีอีกหรือ  

 

 

เขาไม่รู้จะพูดอะไรดี ได้แต่พูดขึ้นเบาๆ “…เอาเถอะ เธอนอนต่ออีกหน่อยแล้วกัน”  

 

 

ไม่ต้องรอให้เธอนอนพอค่อยตรวจสอบคะแนนแล้วมาบอกเขาหรอก  

 

 

เกาหยางคิดว่า พอฉินหร่านตื่นขึ้นมา ตอนนั้นคะแนนที่โรงเรียนก็คงรู้สถิติไปแล้วเรียบร้อย  

 

 

เขาวางโทรศัพท์ลง แล้วเริ่มเดินไปยังเด็กหนุ่มที่จัดการข้อมูลอีกฝั่งหนึ่ง  

 

 

“อาจารย์เกา นักเรียนห้องนายสอบเป็นยังไงบ้าง” คนอื่นเองก็โทรศัพท์เสร็จเรียบร้อย มุมปากอมยิ้ม เห็นได้ชัดว่าลูกศิษย์ที่ภาคภูมิใจของตนทำได้ไม่เลว  

 

 

เกาหยางมองไปยังหน้าต่างคอมพิวเตอร์ แล้วก็ส่ายหน้า “ไม่รู้สิ ยังไม่ได้ความ”  

 

 

ได้ยินคำพูดเช่นนั้น คนอื่นต่างมองหน้ากัน หลายคนเดาไม่ถูกว่าเกาหยางหมายความว่าอะไร “ทำไมถึงถามไม่ได้ความ หาคะแนนไม่เจอหรือ”  

 

 

นี่ก็อาจเป็นไปได้ ปีที่แล้วที่โรงเรียนอวิ๋นเฉิง คะแนนของซ่งลี่ว์ถิงเองก็ตรวจสอบไม่พบ อาจารย์ประจำชั้นของซ่งลี่ว์ถิงร้อนรนจนอยู่แทบไม่สุข จนกระทั่งโรงเรียนมัธยมปลายใหญ่หลายคนโทรศัพท์หาซ่งลี่ว์ถิงติดๆ กันถึงได้รู้ว่าคะแนนถูกตัดออกจากระบบ   

 

 

เกาหยางเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่กล้าบอกว่าฉินหร่านยังหลับไม่ตื่น  

 

 

เด็กคนนี้ช่างเหลือเกินเสียจริง  

 

 

“พวกเราดูคะแนนกันก่อนเถอะ” เขาชี้นิ้วไปที่คอมพิวเตอร์ของชายหนุ่ม  

 

 

ชายหนุ่มที่ทำหน้าที่ดูแลข้อมูลได้รวบรวมสถิติถึงตอนนี้ คะแนนของคนส่วนใหญ่ออกมาแล้วเรียบร้อย  

 

 

รายชื่ออันยาวเหยียด ชายหนุ่มฝ่ายเทคนิครีเฟรชเพื่อจัดคะแนนตามลำดับ ที่อยู่ในสิบอันดับแรกส่วนใหญ่แล้วเป็นนักเรียนจากห้องหนึ่ง  

 

 

มีนักเรียนจะห้องเก้าปนเข้ามาอยู่คนสองคน  

 

 

ข้อมูลแสดงผลออกมาตามต่อไปนี้  

 

 

ภาษาจีน คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์/วรรณคดี คะแนนรวม ลำดับที่ของเมือง ลำดับที่ระดับโรงเรียน  

 

 

ในขณะนี้ที่ถูกจัดอยู่ในอันดับที่หนึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นพานหมิงเย่ว์  

 

 

ภาษาจีน 141 คณิตศาสตร์ 135 ภาษาอังกฤษ 146 วิทยาศาสตร์/วรรณคดี 277 คะแนนรวม 719 ลำดับที่ของเมือง 5 ลำดับที่ระดับโรงเรียน 1  

 

 

เพราะว่าเธอยังได้คะแนนจากนโยบายคะแนนเพิ่ม คะแนนรวมสุดท้ายจึงเป็นเจ็ดร้อยสิบเก้า  

 

 

นโยบายคะแนนเพิ่มนี้ช่างน่ากลัวเสียจริง ชั่วพริบตาเดียวคะแนนก็ทิ้งห่างไปถึงยี่สิบคะแนน  

 

 

ข้อสอบปีนี้ยาก โดยทั่วไปแล้วคะแนนเจ็ดร้อยสิบเก้านี้เมื่อแบ่งตามระดับความยากแทบจะเทียบได้กับระดับจอหงวนของเมือง  

 

 

แต่นี่แค่อันดับที่ห้า อันดับที่เหลือน่ากลัวกว่านี้มาก  

 

 

ทั่วทั้งเมืองมีโรงเรียนมัธยมปลายเยอะถึงขนาดนี้ แต่สามารถขึ้นสู่สิบอันดับแรกได้ คะแนนของพานหมิงเย่ว์พูดได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่  

 

 

หลี่อ้ายหรงเห็นดังนั้น ในที่สุดก็ค่อยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก  

 

 

เหิงชวนในปีที่ผ่านมาน้อยมากที่จะเห็นนักเรียนอยู่ในสิบอันดับแรก  ยิ่งไม่ต้องพูดถึงติดหนึ่งในห้าอันดับแรกเลย  

 

 

เพียงแต่ในแววตาของเธอยังแฝงด้วยความขุ่นเคือง แต่ไหนแต่ไรมาทั้งโรงเรียนสิบอันดับแรกนอกจากสวีเหยากวงแล้ว คนอื่นล้วนแต่เป็นนักเรียนในห้องหนึ่งของเธอ ในครั้งนี้ห้องเก้าเข้ามาถึงสองคน   

 

 

หลินซือหรานและเซี่ยงหว่านโจว อันดับที่หกและที่เจ็ด  

 

 

และที่สำคัญที่สุด คะแนนของฉินหร่านและสวีเหยากวงก็ยังไม่ทันจะแสดงออกมา ไม่มีใครรู้ว่าวิชาฟิสิกส์ของฉินหร่านจะสอบได้เท่าไหร่ แต่อย่างไรคงติดสิบอันดับแรกของโรงเรียนได้อย่างไม่มีปัญหา  

 

 

“คะแนนยังตรวจสอบไม่ได้หรือ” ในเวลานี้คะแนนสอบของนักเรียนปีสามคนอื่นถูกบันทึกไว้เรียบร้อยแล้ว มีเพียงฉินหร่านและสวีเหยากวงที่ยังไม่ออก ในตอนนี้อาจารย์คนอื่นต่างถือใบคะแนนของห้องตัวเอง แล้วดูคะแนนของนักเรียนที่ภาคภูมิใจของตน  

 

 

ส่วนคะแนนของคนอื่นยังไม่มีเวลามาวิเคราะห์  

 

 

และก็ไม่ได้ออกจากห้องสำนักงาน แต่มุงล้อมกันอยู่หน้าคอมพิวเตอร์รอคะแนนของฉินหร่านและสวีเหยากวง   

 

 

“ยังไม่ได้” ชายหนุ่มที่จัดการข้อมูลย่อหน้าจอ Excel แล้วรีเฟรชกลับสู่หน้าคะแนน คะแนนของสวีเหยากวงและฉินหร่านก็ยังคงไม่ปรากฏออกมา  

 

 

เมื่อเห็นเช่นนั้น  

 

 

คุณครูคนอื่นก็นิ่งอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นก็มองไปยังเกาหยาง “อาจารย์เกา ดูเหมือนครั้งนี้นักเรียนทั้งสองคนของห้องประจำชั้นคุณน่าจะสอบได้ไม่เลวเลยทีเดียว”  

 

 

ไม่เช่นนั้นแล้วทำไมถึงตอนนี้คะแนนยังไม่ปรากฏออกมากันล่ะ  

 

 

เกาหยางยิ้มอย่างเรียบเฉยไปยังคนผู้นั้น “อาจเป็นเพราะว่าระบบดีเลย์น่ะ”  

 

 

 สีหน้าเรียบเฉย แต่กลางฝ่ามือของเกาหยางกลับชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ  

 

 

“ดูท่าคะแนนคงจะยังไม่ออกอีกสักพักเลย” คุณครูคนหนึ่งกลับสู่ที่นั่ง ยิ้มตาหยี “พวกเรานั่งรอก่อนสักครู่เถอะ”  

 

 

ในใจของพวกเขาแอบรู้สึกลึกๆ ว่า วิชาฟิสิกส์ของฉินหร่านน่าจะสอบได้ไม่เลวเลยทีเดียว  

 

 

แต่ละคนต่างนั่งรออยู่ในห้องสำนักงานอย่างใจลอย  

 

 

คะแนนของห้องหนึ่งออกมาหมดแล้ว  

 

 

แต่หลี่อ้ายหรงยังไม่ได้ออกไป เธอเห็นคะแนนของเมิ่งซินหรานจากห้องหนึ่งถูกจัดอยู่ในอันดับสุดท้าย คะแนนทุกรายวิชาล้วนแต่เป็นศูนย์ อยู่ในลำดับที่สี่หมื่นกว่าของการจัดลำดับเมือง  

 

 

เธอเม้มปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะจัดการอารมณ์อย่างไร ได้แต่นั่งกำกระดาษใบนั้นนั่งอยู่ที่มุมของห้องสำนักงาน รอคะแนนของฉินหร่านและสวีเหยากวงออกมา   

 

 

ผ่านไปอีกสิบนาที  

 

 

เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลก็ทำการรีเฟรชหน้าเว็บไซต์ หน้าเว็บไซต์ที่แสดงว่า “ไม่มีข้อมูล” เมื่อครู่นี้ก็แสดงผลคะแนนออกมา  

 

 

“มาแล้ว! คะแนนออกมาแล้ว!” เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลรีบพูดขึ้นจนลืมที่จะดูก่อน   

 

 

อาจารย์คนอื่นทันทีที่ได้ยิน ก็รีบร้อนลุกขึ้นยืน มุงเข้าไปมองคอมพิวเตอร์ที่อยู่ด้านหน้า   

 

 

คะแนนที่ออกมาคือคะแนนของสวีเหยากวง  

 

 

ตอนนี้เป็นหน้าเว็บไซต์ ไม่ใช่ Excel รูปแบบการแสดงคะแนนจึงไม่เหมือนกันl  

 

 

ภาษาจีน: 145  

 

 

คณิตศาสตร์: 146  

 

 

ภาษาอังกฤษ: 150  

 

 

วิทยาศาสตร์: 291  

 

 

คะแนนรวม: 732  

 

 

อันดับของเมือง: 2  

 

 

ทั้งห้องสำนักงานเงียบลงทันที  

 

 

แม้แต่หลี่อ้ายหรงที่เดินเข้ามาอย่างอดไม่ได้ก็ไม่มีปฏิกิริยา คะแนนของพานหมิงเย่ว์จะทิ้งห่าง 20 คะแนนอยู่เสมอ  เป็นเพราะมีการเพิ่มคะแนน คะแนนของพานหมิงเย่ว์และสวีเหยากวงโดยพื้นฐานแล้วจึงห่างกันไม่มาก  

 

 

ใครจะไปรู้ว่าการสอบของสวีเหยากวงจะได้คะแนนเต็มวิชาภาษาอังกฤษ  

 

 

ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ในการสอบครั้งนี้ระดับความยากแทบจะไม่ต่างกัน หลายคนแม้แต่ฟังก็ไม่ได้ สวีเหยากวงจะสอบได้คะแนนเต็มอย่างนั้นหรือ  

 

 

อาจารย์คนอื่นมองไปยังเกาหยางอย่างสับสน พูดเสียงอู้อี้พูดขึ้นมาว่า “อาจารย์เกา ติดอันดับเมืองเชียวนะ ห้องพวกคุณครั้งนี้ช่าง…”  

 

 

เกาหยางไม่ได้รู้สึกแปลกใจ เพราะว่าตอนที่ดื่มเหล้าในคืนวันที่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จสิ้น สวีเหยากวงได้ประเมินคะแนนตัวเองว่าน่าจะอยู่ที่ระหว่าง 725-735  

 

 

แต่ลำดับที่ได้นั้นน่าตกใจเสียจริงๆ  

 

 

สวีเหยากวงไม่เหมือนกับพานหมิงเย่ว์ ไม่มีนโยบายเพิ่มคะแนน ได้คะแนนเจ็ดร้อยสามสิบสองคะแนนจากความสามารถของแท้จริง คณิตศาสตร์หนึ่งร้อยสี่สิบหกคะแนน  เกาหยางเองยังรู้สึกว่าแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่น่าจะสอบได้คะแนนถึงขนาดนี้   

 

 

โรงเรียนมัธยมปลายหลายแห่งต่างจ้องจะดึงตัวเขา เกาหยางไม่รู้สึกประหลาดใจสักนิด   

 

 

“ฉินหร่าน ยังมีฉินหร่านอีก” คุณครูที่รายล้อมอยู่รอบคอมพิวเตอร์ในที่สุดก็รู้สึกตัวกลับมา   

 

 

นึกขึ้นได้ว่าคะแนนของฉินหร่านเองก็ยังไม่ปรากฏ จากนั้นก็เร่งให้ชายหนุ่มที่ดูแลข้อมูลรีบทำการรีเฟรชคะแนนของฉินหร่าน  

 

 

ชายหนุ่มที่ดูแลข้อมูลในที่สุดก็ได้สติคืน “อ่า ครับๆ”  

 

 

เขาขยับมือวุ่นวาย เปิดหน้าเว็บไซต์อีกหน้าหนึ่งอย่างสั่นเทา แล้วรีเฟรชหนึ่งครั้ง  

 

 

 คนทั้งหมดมองไปยังหน้าเว็บไซต์บนคอมพิวเตอร์ จับตาจ้องโดยไม่กะพริบ  

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ
Status: Ongoing
ด้วยว่าพ่อแม่หย่าร้างกันตั้งแต่ยังเล็ก และ ฉินหร่าน ไม่ใช่เด็กประพฤติดี นอกจากจะไม่ตั้งใจเรียนจนผลการเรียนย่ำแย่แล้ว เธอยังหัวรั้นและก่อเรื่องทะเลาะวิวาทจนโดนพักการเรียนไปเป็นปี แตกต่างจาก ฉินอวี่ น้องสาวที่เป็นนักเรียนดีเด่นผู้แสนเพียบพร้อมราวฟ้ากับเหว ด้วยเหตุนี้แม่ของเธอจึงเลือกพาน้องสาวไปอยู่ด้วยเพียงคนเดียวและทิ้งฉินหร่านเอาไว้ท่ามกลางชนบท ปล่อยให้เธอเติบโตเพียงลำพังในความดูแลของคุณยายวัยชรา สองยายหลานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาสิบสองปี จนกระทั่งวันหนึ่งคุณยายเกิดป่วยหนักอาการโคม่าต้องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในเมือง ครอบครัวฉินจึงได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง เมื่อคุณยายไม่สามารถดูแลฉินหร่านด้วยตัวเองได้ต่อไปได้อีก แม่ของเธอจึงอาสารับเลี้ยงเธอไว้แทน กระนั้นก็ยังไม่วายเหน็บแนมหญิงสาวอยู่ตลอดว่าอย่าทำตัวน่าขายหน้า ให้เอาอย่างฉินอวี่ผู้เป็นน้องบ้าง กระนั้นกลับไม่มีใครล่วงรู้เลยว่านอกจากฉินหร่านจะมีใบหน้างดงามเกินเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกันแล้ว เธอยังมีอีกหนึ่งตัวตนปริศนาที่ซุกซ่อนเอาไว้อยู่ เพราะใครกันล่ะที่ทำข้อสอบกากบาททุกข้อแล้วผลคะแนนสอบจะออกมาได้เท่ากับศูนย์ในทุกๆ วิชา เธอโง่จริงๆ หรือว่าตั้งใจกันแน่… เช่นเดียวกับ เฉิงเจวี้ยน หมอหนุ่มประจำโรงเรียนที่แสนธรรมดาคนนั้น ทว่า…เขาเป็นแค่หมอประจำโรงเรียนจริงหรือ เมื่อโชคชะตานำพาให้คนสองคนที่ปกปิดตัวตนของตัวเองเอาไว้ได้มาพบกัน หน้ากากของใครจะถูกกระชากออกมาก่อนนะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset