เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ – ตอนที่ 318 ซุบซิบราชาน้องใหม่ปีนี้

อาคาร A ทิศใต้ ห้อง 304

คาบเรียนแรกของวิชาคณิตศาสตร์ระดับสูง อาจารย์คณิตศาสตร์ระดับสูงของสาขาวิศวกรรมอัตโนมัติเป็นอาจารย์ของแผนกคณิตศาสตร์

สิ่งแรกที่ทำเมื่อเข้ามาคือหยิบใบรายชื่อขึ้นมา กวาดตามองในห้องเรียน แนะนำชื่อตัวเองก่อน จากนั้นจึงเริ่มเช็กชื่อ

“คาบแรกก็เช็กชื่อเลย ทำไงดี” หนานฮุ่ยเหยาพูดเสียงเบากับหยางอี๋ “อีกสักพักจะถึงหร่านหร่าน ฉันเช็กแทน…”

หนานฮุ่ยเหยายังพูดไม่จบ อาจารย์คณิตศาสตร์ระดับสูงก็พูดขึ้น “ฉินหร่าน”

นักเรียนของสาขาวิศวกรรมอัตโนมัติเรียงลำดับชื่อตามตัวอักษรพินอิน

อาจารย์คณิตศาสตร์ระดับสูงข้ามชื่อทุกคน เช็กชื่อของฉินหร่านก่อน

ใบหน้าของหนานฮุ่ยเหยากับหยางอี๋ตะลึง

“ฉินหร่าน” อาจารย์คณิตศาสตร์ระดับสูงเรียกสองครั้งไม่มีใครตอบกลับ อดไม่ได้ที่จะวางใบรายชื่อ ดันแว่นลง “นักเรียนฉินหร่านไม่มาเหรอ”

หนานฮุ่ยเหยาตั้งหัวตรงยกมือ บอกว่าฉินหร่านปวดท้องกลับห้องพักแล้ว

ตอนแรกเธอคิดว่าอาจารย์คณิตศาสตร์ระดับสูงจะวุ่นวายกับเรื่องนี้ของฉินหร่าน คิดไม่ถึงว่าพอพูดจบ อาจารย์คณิตศาสตร์ระดับสูงไม่ถามอะไรเลย วางใบรายชื่อลง โบ้ยมือให้หนานฮุ่ยเหยานั่งลง

จากนั้นก็ไม่ได้เช็กชื่อต่อ ราวกับแค่เพื่อเรียกชื่อฉินหร่านเท่านั้น

วิชาคณิตศาสตร์ระดับสูงสองคาบย่อยสิ้นสุดลง

คาบต่อไปเป็นฟิสิกส์มหาวิทยาลัย ห้องหนึ่งและห้องสองยังคงอยู่ด้วยกัน อาคาร A ทิศใต้ ห้อง 407

หลังจากอาจารย์ฟิสิกส์มหาวิทยาลัยมาถึงห้องเรียน ไม่พูดกล่าวอะไร มุ่งไปที่เช็กชื่อ “ฉินหร่านล่ะ ฉินหร่านอยู่ไหน”

หนานฮุ่ยเหยาและหยางอี๋ “…?”

“ตลอดช่วงบ่ายฉินหร่านไม่มาเข้าเรียน” สิงไคพูดเสียงเบากับหนานฮุ่ยเหยา “ฉู่หังเคยบอกว่า ทุกวิชาของแผนกฟิสิกส์ปีหนึ่งปีนี้ล้วนแต่เป็นศาสตราจารย์จากห้องปฏิบัติการและสถาบันวิจัย และช่วงนี้พวกเขาให้ความสำคัญกับพวกเรามาก หลังจากเธอกลับห้องพัก พยายามให้ฉินหร่านมาเข้าเรียนด้วย”

“ศาสตราจารย์ของห้องปฏิบัติการ?” หนานฮุ่ยเหยาไม่เคยได้ยินถึงสถาบันวิจัย แต่เคยได้ยินเหลิ่งเพ่ยซานบอกว่าห้องปฏิบัติการยอดเยี่ยมมาก

สิงไคยิ้ม “อาจารย์เย่ว์ก็เป็นศาสตราจารย์ของห้องปฏิบัติการ”

เขาบอกว่าอาจารย์เย่ว์ก็เป็นอาจารย์ฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัย

**

วิชาตอนบ่ายจบลง หนานฮุ่ยเหยาและหยางอี๋ไปโรงอาหารนำอาหารกลับห้องพัก แม้แต่ตอนบ่ายที่เหลิ่งเพ่ยซานไปกินข้าวกับรุ่นพี่กลับมา ฉินหร่านก็ยังไม่กลับมา

เหลิ่งเพ่ยซานวางกระเป๋าตัวเองลงบนโต๊ะ แล้วจึงหยิบแบบฟอร์มสองแผ่นออกมาจากในกระเป๋า ยิ้มพร้อมเอ่ยว่า “นี่คือแบบฟอร์มเข้าสมาพันธ์นักเรียนเป็นกรณีพิเศษ พวกเธอทั้งสองต้องการไหม”

“แบบฟอร์มภายใน? ขอบคุณเธอมากจริงๆ เลย” หนานฮุ่ยเหยารับมา อีกแผ่นวางให้หยางอี๋ “ระหว่างทางฉันกับหยางอี๋เอาแบบฟอร์มสมาพันธ์นักเรียนมาไม่ได้”

หนานฮุ่ยเหยาเข้าเรียนคาบบ่ายคาบหนึ่ง นั่งแถวเดียวกับกลุ่มฉู่หังกับสิงไคตลอดทั้งวัน จึงได้รู้ถึงข่าววงในมากมาย

และยังรู้ว่าถ้าเข้าสมาพันธ์นักเรียนได้ จะมีผลดีต่อการเข้าห้องปฏิบัติการอย่างมาก

รายชื่อทุกปีล้วนมาจากสมาพันธ์นักเรียน

หนานฮุ่ยเหยานั่งอยู่ที่เก้าอี้ พลางหยิบปากกากรอกแบบฟอร์ม ขณะที่กรอกก็หันหน้าพูดคุยกับหยางอี๋ “หร่านหร่านทำไมยังไม่กลับ เธอไม่มาทั้งบ่ายเลย วีแชทไปถามว่าเธอทำอะไร เธอก็บอกว่าตัวเองกำลังเรียน สิงไคบอกว่าตารางเรียนของพวกเราสอนโดยศาสตราจารย์ห้องปฏิบัติการ สำคัญมาก”

เหลิ่งเพ่ยซานกำลังสนใจกับของของตัวเอง ได้ยินหนานฮุ่ยเหยาพูด ชะงักไป “ศาสตราจารย์ห้องปฏิบัติการ เธอแน่ใจเหรอ”

“สิงไคบอก เขาคืออาจารย์เย่ว์ที่สอนภาควิชาฟิสิกส์มหาวิทยาลัยพวกเรา” หนานฮุ่ยเหยาวางปากกา หันไปด้านข้าง

“ศาสตราจารย์ของห้องปฏิบัติการทำไมมาสอนวิชาของพวกเธอได้” เหลิ่งเพ่ยซานประหลาดใจเล็กน้อย เธอไม่ใช่หนานฮุ่ยเหยาและคนธรรมดาทั่วไป รู้ดีว่าว่าแบบนี้มีความหมายอะไร เธอนั่งลง พูดคล้ายพึมพำ “ปีนี้มหาวิทยาลัยเมืองหลวงให้ความสนใจกับภาควิชาฟิสิกส์ขนาดนี้เลย?”

เธอคิดไม่ตกเรื่องนี้

“สำคัญรึเปล่า” หนานฮุ่ยเหยาไม่ค่อยเข้าใจระบบของมหาวิทยาลัย แต่เหลิ่งเพ่ยซานกับสิงไคเหมือนไม่ใช่คนฐานะธรรมดา พูดขนาดนี้พวกเขาต้องมีเหตุผลแน่นอน

เธอกรอกแบบฟอร์มเสร็จ จึงเปิดคอมพิวเตอร์ เพราะมีเข้าเรียนวิชาช่วงเช้า เธอจึงไม่ได้เล่นเกม คลิกเปิดดูกระดานสนทนาของมหาวิทยาลัย

มีโพสต์บนกระดานสนทนามากมาย

แวบแรกหนานฮุ่ยเหยาเห็นโพสต์หราอยู่หน้าแรก… [ราชาน้องใหม่ปีนี้]

ไม่ใช่ว่าเธออยากรู้อยากเห็นโพสต์นี้ แต่เพราะโพสต์อื่นส่วนมากมีแค่หลายสิบหลายร้อยการตอบ

แต่โพสต์นี้มีเก้าพันกว่าการตอบกลับ เกือบจะถึงหนึ่งหมื่น

หนานฮุ่ยเหยาจึงคลิกเปิดโพสต์ ในหัวยังคงคิดความหมายของราชาน้องใหม่

เนื้อหาโพสต์คือการแนะนำ

[ชื่อ: ฉินหร่าน

เพศ: หญิง

คะแนนสอบเข้า: 747

ให้ฉันเล่าเรื่องที่รู้มาทั้งหมดให้ทุกท่านฟังกัน การสอบเข้ามหาวิทยาลัยเมืองหลวงและมหาวิทยาลัย A ปีนี้ล้วนเกี่ยวข้องกัน ยังจำโพสต์ครั้งก่อนที่พวกเรายกย่องผู้สอบเข้าคนใหม่ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ไหม ผู้ชมโปรดไปที่… http: %¥¥#@!

747 คะแนนนี้ ไม่มีใครให้คะแนนพิเศษ ภาษาจีนกลาง 147 การทดสอบทางคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษคะแนนเต็ม คณบดีของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงและมหาวิทยาลัย A ต่อสู้กันเพื่อจอหงวนในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ท้ายที่สุดมหาวิทยาลัยเมืองหลวงของพวกเราก็ชนะอีกแล้ว

จากนั้น…

จอหงวนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเข้าร่วมแผนกฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัยเมืองหลวง ปีนี้ทางมหาวิทยาลัยได้มีการเข้าร่วมสองครั้งติดต่อกัน ทุกคนตรวจสอบตารางเรียนของแผนกวิชาฟิสิกส์ก็จะเห็นว่าพวกอาจารย์ อย่างน้อยสี่คนล้วนเป็นระดับศาสตราจารย์ของห้องปฏิบัติการหรือมากกว่านั้น (พูดถึงตรงนี้เจ้าของโพสต์ชักจะอิจฉาแล้ว ทำไมจอหงวนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยถึงเลือกแต่แผนกฟิสิกส์ติดกันสองครั้ง แผนกคณิตศาสตร์ของพวกเราไม่คู่ควรเหรอ)

ราชาน้องใหม่มาทุกปีละคนขนาดนี้ ว่ากันว่าเปิดเทอมวันแรกประธานสมาพันธ์นักเรียนก็เริ่มที่จะเกณฑ์คน (ตอนไหนที่ฉันจะได้รับสิทธิ์แบบนี้)…]

นักเรียนใหม่เพิ่งเปิดเรียน และได้รับประสบการณ์ฝึกทหาร จึงไม่มีเวลาไปพูดคุยถึงอย่างอื่น โพสต์บนกระดานสนทนาเขียนขึ้นโดยนักเรียนปีสอง

วันนี้ตรงกับวันพักผ่อนวันที่สองของนักเรียนใหม่พอดี ผู้มีความสามารถที่ชอบอ่านโพสต์ซุบซิบเมื่อมีเวลาจึงอ่านโพสต์

หนานฮุ่ยเหยาก็เป็นหนึ่งในนั้น

หลังจากอ่านจบ เธอหันหน้าไปอย่างแข็งทื่อ มองไปทางรูมเมททั้งสองคน พูดอย่างเลื่อนลอย “ฉันเหมือนจะรู้แล้วว่าทำไม…”

“อะไร” หยางอี๋ยังคงกรอกแบบฟอร์มอย่างเชื่องช้า ได้ยินคำพูดของหนานฮุ่ยเหยา เธอเลื่อนเก้ามาด้านหลัง หันหน้ามองจอคอมพิวเตอร์

หยางอี๋เป็นคนตรงๆ เธออ่านเนื้อหารวดเดียวแล้วพูดทันที “จริงๆ แล้วฉินหร่านเป็นจอหงวนการสอบระดับประเทศปีนี้งั้นเหรอ!”

สำหรับเรื่องจอหงวนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย หยางอี๋ก็รู้เช่นกัน แต่ปกติเธอไม่ได้เข้าอินเทอร์เน็ต อ่านข่าวบ้างบางครั้ง แต่ก็ไม่รู้หน้าตาของจอหงวน…

สำคัญที่สุดคือ ถึงจะจำชื่อของจอหงวนได้ ใครจะไปนึกว่าเป็นฉินหร่านที่อยู่หอกับพวกเธอ!

ใครจะไปรู้ว่าจอหงวนการสอบเข้าดูดีถึงกับไปเดบิวต์ได้กัน!

…จอหงวนการสอบเข้าปีนี้คนนี้หน้าตาดีเช่นนี้เลยเหรอ!

ได้ยินเสียงของหยางอี๋ เหลิ่งเพ่ยซานมือสั่น เธอเม้มปาก มือที่เท้าแขนบนเก้าอี้กำเข้าหากันแน่นเล็กน้อย “พวกเธอสองคนคุยอะไรกัน”

หนานฮุ่ยเหยาทำใจให้สบายสองนาที ในที่สุดก็กลับมาได้สติ เธอมองเหลิ่งเพ่ยซาน “อ่อ ก็ฉินหร่านเป็นจอหงวนแห่งการสอบเข้ามหาวิทยาลัย รุ่นพี่ของสมาพันธ์นักเรียนวันนั้น อีกทั้งศาสตราจารย์แต่ละคาบของสาขาพวกเราปีนี้ ดูเหมือนว่าต่างมุ่งมาที่เธอ”

**

ตลอดทั้งเช้าฉินหร่านอยู่ที่วิชาวิศวกรรมนิวเคลียร์ โรงอาหารของมหาวิทยาลัยมีคนเยอะ เธอไปหาที่เงียบสงบกินข้าวที่นอกมหาวิทยาลัย กินเสร็จจึงกลับห้องพัก

ทันทีที่กลับถึงห้องพักก็พบว่าบรรยากาศในห้องไม่ปกติ

หนานฮุ่ยเหยากับหยางอี๋ต่างมองเธอไม่ขยับเขยื้อน

เหลิ่งเพ่ยซาน…นั่งอยู่ที่ของตัวเอง เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้ใช้สายตาเหยียดหยามและไม่สนใจแบบนั้นมองเธอ

ฉินหร่านเดินมาที่ของตัวเองจากนอกประตูนิ่งๆ ลากเก้าอี้คอมพิวเตอร์นั่งลง คาบหลอดชานม ยกขาขึ้นเล็กน้อย เงยหน้ามองหนานฮุ่ยเหยาและคนอื่นๆ “ทำไม”

หนานฮุ่ยเหยามองฉินหร่านอย่างครุ่นคิด “จอหงวนสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรอ?”

“งั้นเหรอ” มือข้างหนึ่งฉินหร่านหยิบแก้วชานม มืออีกข้างเคาะโต๊ะคอมพิวเตอร์ เลิกคิ้ว “มีปัญหาเหรอ”

หนานฮุ่ยเหยาหัวใจจะวาย

ยังจะมา ‘มีปัญหาเหรอ’ อีก ไม่มีปัญหางั้นเหรอ!

“เธอรู้ไหม ราชาน้องใหม่ปีที่แล้วได้เข้าห้องปฏิบัติการไปเมื่อเทอมที่แล้ว ทุกคนต่างเดิมพันกันว่าตอนไหนที่เธอจะเข้าไปห้องปฏิบัติการได้…” พูดถึงตรงนี้ คำพูดของหนานฮุ่ยเหยาหยุดไป

เธอนึกได้ว่าเมื่อคืนฉินหร่านบอกว่าไปห้องปฏิบัติการได้ไม่ยาก…

ดูตอนนี้ การที่ฉินหร่านไปห้องปฏิบัติการเหมือนกับไม่ยากเลยจริงๆ แค่ปัญหาด้านเวลา

ห้องพักตกอยู่ในความเงียบแปลกๆ พักหนึ่ง

ตอนที่ห้องพักอยู่ในความเงียบ ประตูห้องพักก็ถูกคนเคาะดังขึ้น หนานฮุ่ยเหยาที่อยู่ใกล้ประตูที่สุดมีปฏิกิริยาตอบรับ ลุกจากเก้าอี้ไปเปิดประตูทันที

ด้านนอกประตูเป็นคุณป้าผู้ดูแลหอ เธอมองเลขที่ห้อง ยิ้มให้หนานฮุ่ยเหยา “นักเรียนฉินหร่านอยู่ห้องพักนี้ใช่ไหม นี่คือเอกสารด่วนของเธอ”

เธอยื่นกล่องกระดาษให้หนานฮุ่ยเหยา ยิ้มอย่างอ่อนโยนและสุภาพมาก ต่างจากวันปกติเล็กน้อย

หนานฮุ่ยเหยารับมา พูดตอบทันที “ขอบคุณคุณป้า”

คุณป้าผู้ดูแลหอพูดอย่างชัดเจนว่าไม่เป็นไร หนานฮุ่ยเหยาช่วยไม่ได้ หลังจากรอคุณป้าจากไป เธอจึงถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ปิดประตูยื่นกล่องเอกสารด่วนให้ฉินหร่าน น้ำเสียงค่อนข้างสงสัย “พัสดุด่วนของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงใส่ใจแบบนี้หมดเลยรึเปล่า ถึงขนาดส่งถึงประตูห้องพักเลย?”

“ไม่นะ” หยางอี๋หยิบกรรไกรขึ้นมา ยื่นให้ฉินหร่านแกะพัสดุ “เมื่อวานฉันไปรับพัสดุที่สถานีไฉเหนี่ยวด้วยตัวเอง”

ถ้าในมหาวิทยาลัยต้องส่งเอกสารถึงมือ คนส่งของต้องวิ่งขาหักแน่

หนานฮุ่ยเหยาให้ฉินหร่านรีบแกะ “นี่มันหนักมาก ข้างในคืออะไร”

ฉินหร่านประมาณการน้ำหนัก ในใจมีตัวเลขอยู่แล้ว หยิบออกมาเจอพัสดุที่แกะออก รูปร่างของสิ่งของก็ปรากฏออกมาให้เห็น

หนานฮุ่ยเหยาจ้องตาเขม็ง “นี่มันสวยเกินไปแล้ว”

หยางอี๋พยักหน้า “สวยจริงๆ ซื้อจากไหน”

เหลิ่งเพ่ยซานที่ไม่พูดอะไรเลยเมื่อได้ยินประโยคนี้ ในที่สุดก็อดจะหันหน้ามาไม่ได้

ทันใดนั้นก็เห็นภาพของวัตถุที่อยู่ในมือฉินหร่าน เธอเปลี่ยนสีหน้า ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวเองอย่างกะทันหัน

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ
Status: Ongoing
ด้วยว่าพ่อแม่หย่าร้างกันตั้งแต่ยังเล็ก และ ฉินหร่าน ไม่ใช่เด็กประพฤติดี นอกจากจะไม่ตั้งใจเรียนจนผลการเรียนย่ำแย่แล้ว เธอยังหัวรั้นและก่อเรื่องทะเลาะวิวาทจนโดนพักการเรียนไปเป็นปี แตกต่างจาก ฉินอวี่ น้องสาวที่เป็นนักเรียนดีเด่นผู้แสนเพียบพร้อมราวฟ้ากับเหว ด้วยเหตุนี้แม่ของเธอจึงเลือกพาน้องสาวไปอยู่ด้วยเพียงคนเดียวและทิ้งฉินหร่านเอาไว้ท่ามกลางชนบท ปล่อยให้เธอเติบโตเพียงลำพังในความดูแลของคุณยายวัยชรา สองยายหลานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาสิบสองปี จนกระทั่งวันหนึ่งคุณยายเกิดป่วยหนักอาการโคม่าต้องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในเมือง ครอบครัวฉินจึงได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง เมื่อคุณยายไม่สามารถดูแลฉินหร่านด้วยตัวเองได้ต่อไปได้อีก แม่ของเธอจึงอาสารับเลี้ยงเธอไว้แทน กระนั้นก็ยังไม่วายเหน็บแนมหญิงสาวอยู่ตลอดว่าอย่าทำตัวน่าขายหน้า ให้เอาอย่างฉินอวี่ผู้เป็นน้องบ้าง กระนั้นกลับไม่มีใครล่วงรู้เลยว่านอกจากฉินหร่านจะมีใบหน้างดงามเกินเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกันแล้ว เธอยังมีอีกหนึ่งตัวตนปริศนาที่ซุกซ่อนเอาไว้อยู่ เพราะใครกันล่ะที่ทำข้อสอบกากบาททุกข้อแล้วผลคะแนนสอบจะออกมาได้เท่ากับศูนย์ในทุกๆ วิชา เธอโง่จริงๆ หรือว่าตั้งใจกันแน่… เช่นเดียวกับ เฉิงเจวี้ยน หมอหนุ่มประจำโรงเรียนที่แสนธรรมดาคนนั้น ทว่า…เขาเป็นแค่หมอประจำโรงเรียนจริงหรือ เมื่อโชคชะตานำพาให้คนสองคนที่ปกปิดตัวตนของตัวเองเอาไว้ได้มาพบกัน หน้ากากของใครจะถูกกระชากออกมาก่อนนะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset