เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) – ตอนที่ 31 คุณภูมิใจที่ได้แต่งงานกับนารีมังกร ฉันก็ภูมิใจที่ถูกระบบครองร่าง

ภายใต้มุมมองที่แท้จริงของบัฟ ทำให้รูปร่างผอมเพรียวและใบหน้าอันงดงามของคุณนายจ้าวหายไป จากนั้นจึงแทนที่ด้วยงูหลามสีขาวหิมะ หางของมันยาวมาก และบนหัวของมันก็มีตุ่มยื่นออกมาสองตุ่ม

ดูเหมือนว่างูขนาดใหญ่ตัวนั้นกำลังยิ้มและพยักหน้าให้ฟางหนิงเบาๆ ซึ่งทำให้ฟางหนิงขนพองสยองเกล้าและหนาวสะท้านไปทั้งตัว

ฟางหนิง “ขอบคุณเทพแห่งระบบ คุณพูดถูก นี่เป็นแพ็กเกจทูอินวันที่ฉันกลัวมากจริงๆ – ปีศาจงู…”

เทพแห่งระบบไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด มันตอบกลับ “ไม่ต้องขอบคุณหรอก เมื่อตัวเลือกระบบปรากฏขึ้น โฮสต์แค่ช่วยเลือกให้ทันเวลาก็พอ”

ฟางหนิงซ่อนตัวอยู่ด้านหลังอาวุธเทพในร้านตีเหล็ก เขาได้แต่พยักหน้าเพราะไม่กล้าพูดอะไร ภาพนี้น่ากลัวจริงๆ สิ่งเดียวที่ทำให้เขาสบายใจขึ้นก็คือ โชคดีที่ประธานจ้าวและลูกสาวของเขายังคงเป็นคนธรรมดา

แจ้งเตือนของระบบดังขึ้น:เมื่อคุณเห็นประธานจ้าวและภรรยากับลูกสาวของเขามาเยือน แต่พบว่าร่างที่แท้จริงของคุณนายจ้าวคือปีศาจงู คุณในเวลานี้จะ…

ตัวเลือกที่หนึ่ง: เดินหน้าไปแล้วเปิดโปงว่าเธอคือปีศาจ พร้อมเผยตัวตนที่แท้จริงของคุณ แล้วใช้ทักษะเทพมังกรไร้เทียมทานของคุณต่อสู้กับมันเป็นเวลาสี่ชั่วโมง ไร้ผลแพ้ชนะ แต่ศัตรูมีพรสวรรค์มาก มีเกล็ดที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง อีกทั้งยังแข็งแกร่งอย่างมาก แต่ระดับของคุณในตอนนี้ต่ำเกินไป แม้แต่ป้องกันตัวก็ยังทำไม่ได้ และไม่สามารถทำให้เธอเหนื่อยล้าได้เลย แต่โชคดีที่คุณได้รับพลังปราณมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงสามารถเปิดใช้งานวิชาตัวเบาได้ แต่ต้องใช้ทั้งพลังปราณและรีบหนีออกจากเมืองไป ไปให้ไกลสุดขอบฟ้า แต่ปีศาจงูที่โกรธเนื่องจากความอับอายที่ถูกคุณเปิดเผยตัวตนก็จะตามล่าคุณอย่างไม่สิ้นสุด…’

ตัวเลือกที่สอง: ‘คุณแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น และแสร้งแสดงความนอบน้อมและคล้อยตาม หลังจากนั้น คุณไม่ได้ทำอาหาร แต่แอบหนีออกจากประตูหลังของห้องครัว ไปให้ไกลสุดขอบฟ้า และปีศาจงูที่ได้รับความอับอายต่อหน้าคนในครอบครัวก็จะเริ่มตามล่าคุณแบบลับๆ…’

ตัวเลือกที่สาม: ‘คุณเข้าใกล้พวกเขาอย่างใจเย็น และถอนออร่าทั้งหมดออกโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันไม่ให้ปีศาจงูรับรู้ถึงพลังที่แท้จริงของคุณ จากนั้นจึงมองไม่เห็นร่างที่แท้จริงของคุณนายจ้าว แต่ประกาศให้พนักงานทุกคนหยุดงานในวันนี้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น คุณต้อนรับพวกเขาและปรุงอาหารด้วยตัวเอง ในเวลานี้ คุณก็นึกถึงเรื่องราวในโลกของสัตว์ที่ว่า โดยพื้นฐานแล้วงูเหลือมจะไม่โจมตีผู้คนหลังจากที่พวกมันอิ่มแล้ว ดังนั้น คุณจึงใช้ค่าประสบการณ์ที่เหลือ อัปเกรดทักษะการทำอาหารให้ถึงระดับสูงสุด และพยายามอย่างสุดความสามารถในการทำอาหารอร่อยระดับเทพจำนวนมาก และเพิ่มอาหารทุกชนิดที่งูชอบกินอีกมากมายลงไป นอกจากนี้ยังใส่เครื่องปรุงรสที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ และนำอาหารและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทั้งหมดออกไป เพื่อป้องกันไม่ให้คุณนายจ้าวเผยร่างที่แท้จรและเกิดการปะทะกัน…’

“ฉันเลือกข้อสาม!” ฟางหนิงรีบคลิกที่ตัวเลือก ถ้ามีโอกาสที่สามารถอยู่บ้านต่อก็อย่าวิ่งหนีไปไหนเลย ข้างนอกก็คงมีปีศาจไม่น้อยเหมือนกัน แต่เทพแห่งระบบยังคงเก่งเหมือนเดิม ตอนนี้เขาเพิ่งระดับ 11 แต่สามารถสูสีกับปีศาจร้ายตัวนี้ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องกลัวแล้ว…

“นี่… นี่มัน เกรงใจจริงๆ เสี่ยวฟางไม่จำเป็นต้องให้เกียรติเรามากขนาดนี้ก็ได้ มันช่าง… ขอโทษที่ทำให้ทางร้านต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมาย ลำพังแค่วัตถุดิบ เท่าที่ดู ก็ต้องใช้วัตถุดิบที่ทางร้านตระเตรียมไว้ใช้สำหรับทำอาหารหนึ่งวันเลยใช่หรือไม่”

ประธานจ้าวมองอาหารที่นำมาเสิร์ฟในรอบที่หก อาหารโอชาหลากหลาย มีครบทุกอย่าง แต่ส่วนใหญ่เป็นเนื้อสัตว์ ซึ่งเขาตื่นตะลึงจนต้องอ้าปากค้าง และพยายามบอกฟางหนิงให้หยุดเสิร์ฟอาหารได้แล้ว

ขณะที่พูด เขากลับเมินเฉยต่อภรรยาที่กำลังก้มหน้าก้มตาจัดการกับแกะย่างทั้งตัวอยู่ และลูกสาวของเขาที่ได้โยนความเป็นกุลสตรีทิ้งไปและกำลังจัดการกับหมูหันย่างตรงหน้า…

ในขณะนี้ ฟางหนิงเพิ่งนำไก่ย่างสีทองอร่ามวางลงบนโต๊ะ ทันใดนั้น ก็มีมือขวาสองข้างปรากฏขึ้น…

คุณนายจ้าวตาลุกวาว หลิ่วเหยาเองก็ไม่ยอมแพ้ แต่สุดท้ายทั้งสองก็บรรลุข้อตกลง คนละครึ่ง…

ขณะที่ประธานจ้าวกำลังจะเอ่ยปากห้ามให้ฟางหนิงหยุดเสิร์ฟอาหาร ก็เห็นสายตาดุดันของภรรยาและลูกสาวที่เพิ่งแบ่งไก่ย่างกันเสร็จ ตอนนั้นเขาก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในปากของสัตว์ร้ายสองตัว จึงยิ้มอย่างลำบากใจและพูดว่า “ไม่มีปัญหาอะไร กินกันต่อเลย เดี๋ยวฉันให้เสี่ยวฟางทำอาหารจานโปรดของพวกคุณมาให้อีก…”

สายตาดุดันนั้นพลันสลายหายไป…

“ทุกคนกินให้อิ่ม ไม่ต้องเกรงใจ ผมต้องขอบคุณประธานจ้าวที่ช่วยชีวิตผมไว้ก่อนหน้านี้ อาหารพวกนี้เรื่องเล็กน้อย”

ฟางหนิงยิ้มพลางวางผัดกบยักษ์จานหนึ่งบนโต๊ะ…

ประธานจ้าวยังไม่ทันได้เห็นว่ากบยักษ์มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร ก็กลายเป็นจานเปล่าไปแล้ว…

“เหอะๆ เหอะๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าคนในครอบครัวภรรยาและลูกสาวของผมก็เอาแต่ใจแบบนี้ล่ะ เสี่ยวฟางอย่าถือสาเลยนะ” ประธานจ้าวหัวเราะและไม่มีท่าทีแปลกใจสักนิด

“ดีๆ ดีแล้วครับที่มองว่าเป็นคนในครอบครัว” ฟางหนิงพูดจบ ก็กลับไปทำงานในห้องครัวต่อทันที

ณ ครัวด้านหลังร้าน

“เสี่ยวฟาง คุณรู้สึกแปลกใจสักนิดหรือไม่?”

ขณะที่ ‘ฟางหนิง’ กำลังทอดไก่อยู่ เสียงอันอ่อนโยนของประธานจ้าวก็แว่วเข้าหู

ในเวลานี้ ระบบได้ลากตัวฟางหนิงออกมาจากร้านตีเหล็กของระบบ เพื่อรับมือกับประธานจ้าว ไม่ว่าฟางหนิงจะกลัวแค่ไหน ก็มาขี้ขลาดในเวลานี้ไม่ได้

“โอ้ แปลกใจเล็กน้อยเหมือนกันครับ แต่ก็ไม่มีอะไร เป็นเพราะภรรยาและลูกสาวของท่านก็ได้รับพลังพิเศษบางอย่างเหมือนผม แต่เป็นพลังพิเศษที่สามารถกินอาหารในปริมาณที่มากใช่ไหมครับ?”

“โอ้ ผมคิดว่าคงจะไม่ทำให้ประธานฟางกลัว จึงไม่ได้หักห้ามพวกเธอ แม่ลูกคู่นั้นเบื่ออาหารที่ผมทำแล้ว หลายปีมานี้ก็ถือว่าได้พาพวกเธอตระเวนกินอาหารอร่อยไปทั่วเฉินโจวแล้ว แต่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพวกเธอตะกละตะกลาม ไม่สิ มีความอยากอาหารมากมายขนาดนี้ต่างหากล่ะ ดูเหมือนว่าทักษะการทำอาหารของคุณฟางจะดีเกินจินตนาการของผมนะ คิดว่าน่าจะใกล้เคียงระดับเทพเลย…”

ฟางหนิงปฏิเสธคำชม “ท่านพูดเกินไปแล้วครับ ยังอีกไกลเลย”

ฟางหนิงไม่ได้อ่อนน้อมถ่อมตน ตามที่ระบบกล่าวไว้ ถ้าทักษะการทำอาหารถึงระดับสูงสุดแล้ว ก็จะสามารถเข้าใจทักษะเฉพาะตัวได้

จู่ๆ ประธานจ้าวก็ทำตัวลึกลับและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับกำลังโอ้อวดว่า “หลายวันก่อนผมเองก็ไม่รู้เรื่องนี้ และผมกลัวไอ้สารเลวนั่นมาก แต่ภรรยาของผมเห็นผมนอนไม่ค่อยหลับ จึงบอกผมว่าความจริงแล้วพวกเธอเองก็มีพลังพิเศษเหมือนกัน เสี่ยวฟางรู้หรือไม่ว่าพวกเธอมีพลังพิเศษอะไร?”

ฟางหนิง “บอกผมได้หรือเปล่าครับ?”

ประธานจ้าว “ในเมื่อเสี่ยวฟางมองว่าเราเป็นคนในครอบครัว ก็ไม่มีอะไรที่บอกไม่ได้”

จากนั้นประธานจ้าวก็มองไปรอบๆ หลังจากยืนยันแล้วว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น จึงพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาที่ภูมิใจและโอ้อวดว่า “อันที่จริง พวกเธอไม่ได้มีพลังพิเศษหรอก แต่เป็นเพราะสายเลือด ภรรยาบอกผมว่าเธอมีสายเลือดของนารีมังกร ดังนั้นการที่มีความอยากอาหารมากจึงเป็นเรื่องปกติ ลูกสาวของผมก็มีสายเลือดของนารีมังกรเช่นกัน แต่เธอยังเด็ก และต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะปลุกมันให้ตื่นขึ้นมาได้ เพียงแต่เธอต้องสะสมพลังงานไว้ก่อน ดังนั้นเธอเองก็มีความอยากอาหารไม่น้อยเหมือนกัน”

ฟางหนิงรู้สึกมึนตึ้บ ราวกับว่ามีอีกาสองตัวบินอยู่บนหัวพร้อมส่งเสียง ‘กา กา’ “เหอะๆ”

งูหลามสีขาวตัวใหญ่ขนาดนี้ แต่คุณกลับบอกว่ามันคือนารีมังกรอย่างนั้นหรือ? เพราะเหตุนี้ประธานจ้าวก็เลยภูมิใจมาก แถมยังโอ้อวดว่าตัวเองได้แต่งงานกับนารีมังกร?

ประธานจ้าวเอ่ยถาม “คุณไม่เชื่อเหรอเสี่ยวฟาง?”

ฟางหนิงโบกมือและพูดว่า “เปล่า เปล่า ไม่ใช่ครับ ผมเพียงแต่รู้สึกอิจฉาประธานจ้าวต่างหาก! คิดไม่ถึงว่าท่านจะได้แต่งงานกับนารีมังกร นั่นก็หมายความว่าท่านเป็นลูกเขยของราชามังกรน่ะสิครับ! เมื่อเห็นความรักที่คุณนายจ้าวมีต่อท่านแล้ว คนธรรมดาคงไม่มีบุญวาสนาเท่ากับท่านหรอก!”

หลังจากได้ยินเช่นนี้ ประธานจ้าวเองก็ยิ้มอย่างพอใจ “ฮ่าๆ ปากหวานจริงๆ เลยเสี่ยวฟาง ผมเองก็ไม่ง่ายหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะพอมีฐานะ คงเลี้ยงพวกเธอไม่ไหวจริงๆ จากสถานการณ์ในวันนี้ เสี่ยวฟางก็เกือบจะมีบุญวาสนานี้แล้วล่ะ แต่ต่อไปคุณต้องไม่เย่อหยิ่งอย่างผมนะ”

ฟางหนิงอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ‘ท่านภูมิใจกับบุญวาสนานี้ไปคนเดียวเถอะ อย่าลากฉันไปข้องเกี่ยวเลย! ตอนนี้ฉันมีระบบคอยคุมแล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวล ฉันภูมิใจในตัวเองมากพอแล้ว’

ฟางหนิงส่ายหน้าปฏิเสธ “ผมเป็นโอตาคุ และมีความสามารถในการทำอาหารเพียงเล็กน้อย ฐานะของผมไม่เท่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของประธานจ้าวเลย ผมไม่มีค่าพอที่จะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวท่านหรอก…”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ เขาก็หยุดชะงัก ทำให้ประธานจ้าวประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง

“ช้าก่อน มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น” ระบบตะโกน

“เหตุการณ์อะไรกัน?”

“ประธานจ้าวและคนในครอบครัวของเขาต่างกลายเป็นสีเขียว!”

ฟางหนิงมึนงง

ระบบ “ดูแผนที่สิ”

บนแผนที่ระบบ ภายในระยะรัศมีของร้านอาหารแห่งนี้ เนื่องจากฟางหนิงปิดร้าน และให้พนักงานทุกคนหยุดพัก ดังนั้นจึงมีเพียงพวกเขาสี่คนเท่านั้น

ตัวสีน้ำเงินบนสุดคือตัวฟางหนิงเอง แต่อีกสามคนล้วนแต่เป็นจุดสีเขียว และในตำแหน่งที่ประธานจ้าวยืนอยู่นั้น เป็นแค่จุดสีเขียวเล็กๆ ที่มืดมากและไม่โดดเด่นอะไร แต่อีกสองคนกลับต่างออกไป จุดเขียวทั้งใหญ่และกลม และสีสดเป็นพิเศษ ตำแหน่งที่หลิ่วเหยาอยู่นั้น เป็นแค่วงกลมที่มีขนาดเท่ากับแก้วใบหนึ่ง แต่คุณนายจ้าวกลับแตกต่างออกไป

อย่างน้อยก็ต้องมีขนาดเท่ากับกะละมังล้างหน้าทั่วไป ที่เต็มไปด้วยสีเขียวสดใส

ฟางหนิง “หมายความว่า พวกเขากลายเป็นพันธมิตรแล้วหรือ…”

ระบบ “นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอปีศาจสีเขียว ไม่สิ พันธมิตรต่างหากล่ะ ว่าแต่พันธมิตรคืออะไร?”

ฟางหนิงอธิบาย “หมายความว่าตราบใดที่เราไม่ฆ่าตัวตาย พวกเขาจะคอยช่วยเหลือเราที่ตกอยู่ในอันตราย และพวกเขาจะไม่โจมตีเรา แถมยังสามารถจัดหาที่หลบภัยให้เราได้”

ระบบ “โอ้ ก็ดีนะ ถ้าเกิดวันไหนเหนื่อยจากการฟาร์มเลเวลแล้ว ก็ไปพักผ่อนที่บ้านพวกเขาได้”

ฟางหนิงว่าต่อ “ใช่น่ะสิ เพราะแกไม่กลัวปีศาจงูและไม่กลัวการต้องไปไกลสุดขอบฟ้าอยู่แล้ว”

……………………………………………………..

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)

SBTS, 我被系统托管了
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2017 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)จู่ๆ ก็มีดาวตกพุ่งลงมาที่โลก ทำเอาพื้นดินถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นกลับทำให้ 'ฟางหนิง' หัวโขกกับโต๊ะคอมพิวเตอร์จนสลบไป ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเขามีระบบ ขณะที่กำลังจะดีใจว่าในที่สุดก็มีขาทองคำมาให้เกาะ เจ้าระบบนั่นกลับประเมินว่าเขาเป็นโรคขี้เกียจระยะสุดท้าย ปล่อยไว้ไม่มีทางเจริญก้าวหน้า และทำการยึดครองร่างของเขาซะงั้น!? ... จากหนุ่มโอตาคุผู้แสนจะขี้เกียจที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ กลับต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมตนเองเป็นฮีโร่คอยปราบปรามเหล่าปีศาจร้าย ปกป้องเมืองที่ตนอยู่อาศัย และฝึกวิทยายุทธ์เพื่อก้าวสู่จุดสูงสุดนิ้วทองคำของระบบ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset