เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) – ตอนที่ 38 ปล่อยเขาซะ

ในเวลานี้ ณ จัตุรัสกลางเมืองแห่งหนึ่งในเมืองฉี สมาชิกส่วนใหญ่ของสำนักงานกิจการพิเศษที่รอพวกเขาอยู่ได้เห็นโฉมหน้าแท้จริงของปีศาจแล้ว

สัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายแมงมุมยักษ์ปรากฏขึ้นกลางอากาศ มันมีหัวเจ็ดหัว แต่ละหัวมีใบหน้ามนุษย์ และใบหน้าทุกใบก็ประหลาดเสียจนไม่อาจอธิบายได้

ใบหน้าทั้งเจ็ดของมันหมุนไปรอบๆ และในแต่ละรอบ รูปร่างของมันก็จะค่อยๆ ชัดเจนขึ้น

แม้ว่าปีศาจตัวนี้จะมีรูปร่างพิลึกพิลั่น หากแต่โม่ซิ่งก็ยังรู้สึกประหม่าและตื่นเต้น ตอนนี้เขากำหนดค่าความแข็งแกร่งของสัตว์ประหลาดตัวนี้เรียบร้อยแล้ว มันอยู่ที่ระดับ C+ เท่านั้น และอยู่ในขอบเขตการแข่งขันของทีมอย่างสมบูรณ์

เวลานี้โม่ซิ่งกำลังนั่งยองๆ อยู่บนพื้น ตรวจสอบการเตรียมการรบของตนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และยืนยันรายละเอียดทั้งหมดกับทุกคนในทีม ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้ ดังนั้นเขาจึงโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย

ตอนนั้นเอง จู่ๆ ใครบางคนก็เอ่ยขึ้น

“ตรวจสอบตำแหน่งของอัศวิน A ฉันไม่อยากให้เขาเข้ามายุ่งเรื่องนี้”

ความจริงแล้วโม่ซิ่งรู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ปีศาจตัวนี้ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก

เขากังวลว่าครึ่งทางของการต่อสู้อัศวิน A จะเข้ามาร่วมประสมโรงกับเรื่องนี้ด้วย

สายตาเหยียดหยามเริ่มตามมา เมื่อสิ่งที่เขาทำก่อนหน้านี้มีแต่ไปเก็บกวาดงานหลังจากอัศวิน A จัดการกับพวกปีศาจเสร็จแล้ว แน่นอนว่านั่นเป็นงานสำคัญเช่นกัน แต่ย่อมมีข้อเสียเปรียบอยู่ดี สำนักงานกิจการพิเศษบางแห่งในเมืองอื่นๆ มักจะใช้คำพูดโจมตีสำนักงานของเขา โดยบอกว่า สำนักงานหน่วยพิเศษของเมืองฉีไร้ประสิทธิภาพในการต่อสู้

โม่ซิ่งมีจิตวิญญาณแห่งการเสียสละ แต่เขาต้องการยืนบนตำแหน่งที่สูงเพื่อทำตามความทะเยอทะยานของตน เขาเป็นคนรอบคอบ มีหลากหลายใบหน้า เขาเข้มงวดกับพวกทหาร และสามารถเดินไปรอบๆ กับคนหัวโบราณพวกนั้นได้

ไม่ว่าเขาจะทำได้ดีในการต่อสู้ครั้งนี้หรือไม่ นี่จะเป็นตัวกำหนดความเร็วในการขึ้นสู่ตำแหน่งสูงของเขาโดยตรง

ตอนนี้เขาอายุเพียงสามสิบห้าและเขาไม่ต้องการหยุดอยู่แค่นี้

โม่ซิ่งคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พักใหญ่ จากนั้นจึงกล่าวออกไป “สถานที่นี้เป็นร้านดั้งเดิมของร้านรสชาติฟางซื่อตามรายงานของผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ดูแลท้องถิ่น ตอนนี้คนในร้านรับประทานอาหารอยู่นานกว่าสามชั่วโมงแล้ว”

โม่ซิ่งตกตะลึง “เขาเป็นหมูหรือไงกัน ทำไมถึงกินได้มากขนาดนั้น เป็นไปได้ไหมว่าเขาออกกำลังกายที่ต้องใช้พลังงานมาก? แต่ช่างเถอะ ให้เขากินไปแบบนั้นก็ดีแล้ว อย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ทุกคนเตรียมพร้อมก่อนการต่อสู้สิบนาที!”

เวลาผ่านไป ทุกคนมองดูแมงมุมตัวนั้นที่ลอยอยู่กลางอากาศด้วยความหวาดหวั่นตอนนั้นเอง ใบหน้าทั้งเจ็ดก็หยุดหมุน!

เจ้าหน้าที่ทุกคนตัวสั่น

ใบหน้าเหล่านั้นกวาดสายตามาทางผู้คนด้านล่าง จากนั้นจึงเริ่มแสยะยิ้ม

โม่ซิ่งสัมผัสได้ถึงอันตราย!

ร้านเก่ารสชาติของฟางซื่อ

ตอนนี้ระบบกำลังยัดทุกอย่างลงไปยังกระเพาะของฟางหนิง

ฟางหนิงรีบเตือน “ปีศาจตัวนั้นกำลังจะปรากฏตัว เราต้องออกโรงแล้วนะ”

ระบบตอบกลับทันที “รับทราบ โฮสต์ไม่ต้องห่วง แต่ความจริงแล้วมีบางอย่างที่ประหลาดมาก โฮสต์สังเกตเห็นไหมว่าที่ที่ปีศาจจะปรากฏตัวมีจุดสีเหลืองกองอยู่เต็มไปหมด แบ่งออกเป็นแปดตำแหน่ง มันกำลังทำอะไรกันแน่ ระบบไม่เคยเห็นจุดสีเหลืองเหล่านี้มาก่อน เลยบอกไม่ได้ว่าพวกมันเป็นใคร มีเพียงคนเดียวที่คุ้นเคย คือชายคนหนึ่งที่น่าจะชื่อหลี่ว์เอ้อร์ โฮสต์เดาได้ไหมว่าพวกนั้นเป็นใคร?”

ฟางหนิงได้ยินก็ถามกลับไปทันที “เป็นไปได้ไหมว่าคนที่แกเคยพบมาก่อนจะแสดงเป็นจุดสีเหลืองหรือสีแดงบนแผนที่ระบบในอนาคต ดังนั้นแกเลยจำเขาได้”

ระบบเริ่มคล้อยตาม “ใช่ นี่ง่ายมาก หากไม่เกิดการกลายพันธุ์ โดยทั่วไปแล้วจุดบนแผนที่ระบบที่แสดงจุดเหล่านี้จะมีขนาดและการไล่สีคงที่เป็นเวลานาน และระหว่างคนสองคนจะมีความแตกต่างที่ลึกซึ้งมาก ขนาดจะเหมือนกันได้ง่าย แต่สีของคนสองคนจะไม่เหมือนกันทุกประการ เพียงเชื่อมโยงคนที่รู้จักด้วยขนาดและสีของจุดบนแผนที่ที่เกี่ยวข้อง ครั้งต่อไปที่เห็นจุดนี้ก็จะสามารถรับรู้ได้โดยพื้นฐานแล้วว่าใครเป็นใคร”

ในฐานะอดีตโปรแกรมเมอร์ ฟางหนิงเข้าใจความยากลำบากได้อย่างลึกซึ้ง เขาอดประหลาดใจไม่ได้ “แกนี่มันเยี่ยมจริงๆ นายท่านระบบ ฉันเดาไม่ถูกหรอก แต่อาจจะเป็นคนในสำนักงานกิจการพิเศษของเมืองฉี พวกเขาถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อจัดการกับสถานการณ์เร่งด่วน และการมาถึงของปีศาจก็เป็นเรื่องเร่งด่วนเช่นกัน หลี่ว์เอ้อร์เองก็ต้องอยู่ที่นั่นด้วยแน่นอน เขาน่าจะเข้าระบบเรียนซ้ำอะไรนั่นหลังจากก่อเรื่องเมื่อครั้งก่อน และครั้งนี้ก็น่าจะออกมาติดตามการฝึกฝนบางอย่าง”

ระบบชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วรีบวิ่งออกจากร้านราวกับพายุ “ไม่ พวกเขากำลังพยายามจะแย่งชิงปีศาจของเรา รีบไปเร็วเข้า!”

จ้าวอิ๋งที่จงใจเสิร์ฟอาหารให้ฟางหนิงด้วยตนเอง เพราะหวังว่าจะได้ใกล้ชิดเขา เมื่อเธอเดินมาพร้อมอาหารจานสุดท้าย ก็เห็นว่าอีกฝ่ายวิ่งหนีไปก่อนแล้ว ใบหน้าก็ฉายความงุนงง

ตอนนั้นเอง พนักงานทำความสะอาดของร้านก็เอ่ยขึ้นเบาๆ “ดูเหมือนพ่อหนุ่มนั่นจะยังไม่ได้จ่ายเงินนา”

จ้าวอิ๋งคิ้วขมวด “พูดอะไรกัน ฉันจะเป็นคนจ่ายค่าอาหารมื้อนี้เอง เท่าไรเหรอ”

พนักงานในร้านตกใจเล็กน้อย ก่อนจะกระซิบเสียงแผ่วอีกครั้ง “384,232 หยวน”

จ้าวอิ๋งตกตะลึง “หา?”

พนักงานกลอกตาเพราะรู้ว่าผู้จัดการร้านคนสวยคนนี้แอบมีใจให้อีกฝ่าย แล้วจงใจพูดว่า”คุณรู้ไหม เราเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมืองฉีเลยนะ”

จ้าวอิ๋งชะงักไปครู่หนึ่งแล้วกัดฟันพูด “รูดบัตรเครดิตของฉันได้เลย…”

ในเวลานี้สำนักงานหน่วยกิจการพิเศษเมืองฉีกำลังตกอยู่ในสภาพย่ำแย่มาก

“เฮ้ ทำไมไม่หัวเราะกันเลยล่ะ? ฉันไม่ตลกหรือ? ไม่ได้การแล้ว หัวเราะอออกมาหน่อยเถอะ วันนี้ใครไม่หัวเราะออกมาต้องตายไปภายในห้าวินาที!”

ใบหน้านั้นเปื้อนยิ้ม พร้อมกับส่งเสียงหัวเราะไม่หยุดแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ

“เฮ้ ทำไมไม่ร้องไห้ออกมากันบ้างล่ะ? เศร้าจัง มนุษย์นี่ช่างน่าเวทนาจริงๆ เลย เสียใจด้วยที่พวกแกต้องร้องไห้นะ มันดูเหมือนกับลูกแกะโง่เขลากำลังเดินผ่านเสือที่ซุ่มอยู่ในหญ้า เฮ้ เศร้าแค่ไหนก็รีบร้องไห้ออกมาทีละคนสิ ถ้าร้องไห้ออกมาล่ะก็…ฉันอาจจะปล่อยพวกแกไป…”

อีกด้านหนึ่ง ใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาก็เดินไปรอบๆ เช่นกัน มันพยายามกระตุ้นพวกเขาอย่างต่อเนื่อง

ในสถานการณ์ที่ไม่ต่างกันมากนักนี้ กลุ่มอื่นๆ ก็กำลังเผชิญกับชะตากรรมเดียวกัน

แต่ทีมสำรองสุดท้ายกลับเจอสถานการณ์ที่ย่ำแย่ยิ่งกว่ามาก…

พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับแมงมุมยักษ์…

โม่ซิ่งพยายามสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ลูกทีมของเขา โดยใช้บาเรียเกราะน้ำแข็งป้องกันเอาไว้

แต่ดูเหมือนแมงมุมยักษ์นั่นจะไม่รีบร้อนทำลายบาเรียเกราะป้องกันเลยแม้แต่น้อย มันเพียงแค่จ้องมาที่พวกเขา สายตานั้นคล้ายแมวกำลังจะจับหนู

ดังที่โม่ซิ่งเอ่ยไว้ ผู้ปลูกฝังและผู้ใช้ระดับสูงจะดึงดูดแมงมุมตัวนี้มากกว่ามดตัวน้อยที่ไม่โดดเด่นในระยะไกล

โมซิ่งหวนนึกถึงก่อนหน้านี้ ความพยายามในการต่อสู้ไม่ส่งผลแม้แต่น้อย ทุกคนถูกโจมตีแทบจะทันที และขวัญกำลังใจทั้งหมดก็หายไปโดยพลัน

เมื่อพวกเขาสงบลงหลังจากผ่านความปีติยินดีมา พวกเขาก็พบว่าตนถูกล้อมเอาไว้แล้ว การฝึกฝนเพื่อมาต่อสู้ไม่มีผลเลยแม้แต่นิดเดียว

“ตอนแรกก็ไม่ได้หวังอะไรมากมายนัก แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีอาหารมื้อใหญ่ขนาดนี้เตรียมเอาไว้ให้ แต่ละคนล้วนมีพละกำลังแข็งแกร่ง เป็นชายชาตรีสุขภาพดี เอาล่ะ มาปลุกความกลัวในตัวพวกแกกันหน่อยเถอะ ใครจะเป็นเหยื่อรายแรกดีล่ะ…”

หัวใจของโม่ซิ่งบีบรัดเมื่อได้ยิน เขารู้ว่าอย่างน้อยครั้งนี้ใครบางคนต้องกลายเป็นผู้เสียสละแน่นอน แต่เขาไม่รู้ว่าจะเป็นใคร

ตอนนั้นเองใยแมงมุมก็ทะลุบาเรียเกราะน้ำแข็งเข้ามา!

โม่ซิ่งตื่นตระหนก!

ด้านหลี่ว์เอ้อร์ที่อยู่ข้างๆ โชคดีที่ไหวตัวทัน ความสามารถของเขาเป็นประโยชน์ในเวลานี้มาก แต่เซ่าหานกลับไม่ได้โชคดีด้วย!

แมงมุมแสยะยิ้ม มันใช้ขาข้างจับตัวเซ่าหานที่กลัวขวัญหนีดีฝ่อเอาไว้ “เดี๋ยวก่อน ขอฉันทำสิ่งสุดท้ายก่อนตาย!”

สัตว์ประหลาดส่งเสียงหัวเราะ

“ก็ได้ๆ แกพูดมาสิ…”

“ที่นี่มีอินเทอร์เน็ต ขอฉันส่งต้นฉบับที่เก็บไว้ก่อน ฉันเป็นนักเขียนเรื่องXXXXXXX…”

ปีศาจแสยะยิ้ม “ฮ่าฮ่า ไม่มีทางซะล่ะ…”

ทุกคนมองเซ่าหานด้วยความเห็นอกเห็นใจ

กรงเล็บแหลมคมคู่นั้นค่อยๆ บีบท้องของเซ่าหานทีละนิด!

เซ่าหานลืมตาด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังพยายามก้มศีรษะหยิบโทรศัพท์ออกจากแขนและเริ่มกด…

ขณะที่ทุกคนคิดว่าเซ่าหานต้องตายแน่นอนแล้วนั่นเอง เสียงของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากที่ไกลๆ

“ปล่อยเขาซะ!!”

…………………………………………………………….

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)

SBTS, 我被系统托管了
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2017 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)จู่ๆ ก็มีดาวตกพุ่งลงมาที่โลก ทำเอาพื้นดินถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นกลับทำให้ 'ฟางหนิง' หัวโขกกับโต๊ะคอมพิวเตอร์จนสลบไป ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเขามีระบบ ขณะที่กำลังจะดีใจว่าในที่สุดก็มีขาทองคำมาให้เกาะ เจ้าระบบนั่นกลับประเมินว่าเขาเป็นโรคขี้เกียจระยะสุดท้าย ปล่อยไว้ไม่มีทางเจริญก้าวหน้า และทำการยึดครองร่างของเขาซะงั้น!? ... จากหนุ่มโอตาคุผู้แสนจะขี้เกียจที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ กลับต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมตนเองเป็นฮีโร่คอยปราบปรามเหล่าปีศาจร้าย ปกป้องเมืองที่ตนอยู่อาศัย และฝึกวิทยายุทธ์เพื่อก้าวสู่จุดสูงสุดนิ้วทองคำของระบบ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset