เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) – ตอนที่ 104 คนคํานวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิต…ให้สิบล้านก่อนแล้วจะบอกว่าหมายถึงอะไร

บทที่ 104 คนคํานวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิต…ให้สิบล้านก่อนแล้วจะบอกว่าหมายถึงอะไร
ผู้อาวุโสตระกูลไป๋ความรู้สึกไวมาก เมื่อสังเกตเห็นต้นตอของความโลภที่จ้องมองมาก็ตกใจทันทีเขาเคยมีความแค้นกับอัศวิน A มาก่อน จึงเตรียมการหลบหนีไว้อย่างดี เพราะหากเกิดการต่อสู้ขึ้น ก็แน่นอนอยู่แล้วว่าพระโพธิสัตว์ปีศาจจะคิดช่วยใคร หากเขามีความมั่นใจในการสู้มากกว่านี้ เมื่อครู่คงจะไม่ยอมให้อีกฝ่ายกำจัดปีศาจแมลงไปเด็ดขาด

ภายในพื้นที่ของระบบ

ฟางหนิงที่ไม่มีเวลาอีกแล้ว ตอนนั้นเองก็ได้ยินเทพแห่งระบบพูดขึ้นด้วยความกังวล

ระบบ “โอกาสมีครั้งเดียวเท่านั้น! โฮสต์ให้ระบบออกโรงเถอะ พระโพธิสัตว์ปีศาจได้ขัดขวางผู้เฒ่าไป๋นั่นไว้แล้ว ระบบต้องกำจัดเขาเดี๋ยวนี้!”

น้ำเสียงนั้นแข็งกร้าวและร้อนรนมากจนฟางหนิงสามารถสัมผัสได้ ระบบได้คิดเรื่องบอสระดับสูงตัวนี้มานานกว่าหนึ่งหรือสองวันแล้ว ตอนนั้นเขาบีบบังคับตัวเองจนเกินกำลัง พลิกแผ่นดินแผ่นฟ้าทั่วทุกมุมโลก ขอให้คนค้นหาตำแหน่งของผู้เฒ่าไป๋จอมเจ้าเล่ห์แต่ท้ายที่สุดก็หาไม่พบ วันนี้จึงไม่แปลกที่เขาจะร้อนรน…

แต่ฟางหนิงยังคงเมินเฉยมันอย่างไร้ความร้ปราณี

ฟางหนิง “โทษทีนะ แต่พระโพธิสัตว์ปีศาจไม่มีทางช่วยเรากำจัดมันหรอก”

ระบบตกตะลึงทันที “ทำไมล่ะ? เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่เขายังอยากช่วยเราจัดการกับผู้เฒ่าตระกูลไป๋อยู่เลย! แถมยังบอกอีกว่า ‘ข้าคนนี้ไม่ต้องการยืดเยื้อไปมากกว่านี้อีกแล้ว’“

ฟางหนิง “แกจำแม่นจริงๆ แต่ยังไม่เข้าใจเรื่องผลประโยชน์สินะ ผู้คนต่างบอกว่าอย่าเพิ่งฆ่ามันก่อนด้วยยังมีอีกหนึ่งข้อสันนิษฐานคือ ถ้าหากผู้อาวุโสตระกูลไป๋ไม่ส่งร่างอวตารร่างสุดท้ายของปีศาจแมลงให้ ตอนนี้ผู้เฒ่านั่นยินดีจะมอบมันให้ทั้งยังพูดเข้าตัวเองโดยบอกว่าเขาเป็นผู้ฆ่าปีศาจ แล้วทำไมเมื่อครู่ถึงจัดงานเลี้ยงฉลองปีศาจล่ะ”

ระบบ “ชั่วช้าจริงๆ ยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ? มันอยู่ตรงหน้าเราแล้ว พระโพธิสัตว์ปีศาจรูปนี้เป็นสีขาว เขาเป็นคนดีโดยสมบูรณ์แบบจะไม่ช่วยเรากำจัดมันได้ยังไง? โฮสต์คงขี้เกียจอีกแล้วแน่ๆ ไม่อยากช่วยระบบเพิ่มค่าความโกรธแต่อยากกลับไปเล่นเกมงั้นสิ?”

ในครั้งนี้ฟางหนิงถูกใส่ร้ายเต็มๆ เขาแทบจะกระอักเลือดออกมา “เอาเถอะ แกคงยังไม่เชื่อฉันสินะ ถึงได้ใส่ร้ายกันแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ใช้ความขี้เกียจของฉันไปวิเคราะห์รายละเอียดให้แกแล้วกัน ลองถามเขาสิว่าเขาเห็นด้วยไหม?”

เทพแห่งระบบไม่เชื่อคำพูดของฟางหนิงจริงๆ เขาจึงเอ่ยถามกับพระโพธิสัตว์ปีศาจ

อัศวิน A “พระโพธิสัตว์ผู้ทำหน้าที่ปัดเป่าความชั่วร้าย ร่วมมือกับข้าเพื่อฆ่าผู้เฒ่าตระกูลไป๋เถอะ!”

หลังจากพระโพธิสัตว์ปีศาจได้ยินข้อความเสียงนั้นของอัศวิน A เขาก็ประหลาดใจอย่างมาก ‘ดูเหมือนพี่ใหญ่มังกรจะเกลียดผู้เฒ่าตระกูลไป๋เข้ากระดูกดำเลยทีเดียว’

จากนั้นเขาก็คิดใคร่ครวญ ฉับพลันก็คล้ายกับนึกบางอย่างได้ ‘จริงสิ เพื่อการหยั่งรากได้รวดเร็วขึ้น ผู้เฒ่าตระกูลไป๋เลยจงใจยุยงให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขากินมนุษย์เพื่อเพิ่มพลังเวท ด้วยอารมณ์ความโกรธเแค้นของพี่ใหญ่มังกร จึงเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่จะเสแสร้งใส่อีกฝ่าย การแสดงออกนี้เป็นเรื่องปกติมาก

เขามีความจริงใจ ยืนกรานในหลักการของตนเสมอ ไม่อาจถูกข่มโดยพลังอันยิ่งใหญ่ของอีกฝ่าย

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตอบกลับด้วยเสียงอ่อนโยนและหนักแน่น “พี่ใหญ่มังกร ข้าเข้าใจในความตั้งใจที่จะกำจัดความชั่วร้ายและชื่นชมความชอบธรรมของท่าน ด้วยความแข็งแกร่งร่วมกันของท่านและข้า พวกเราไม่ต้องใช้ความพยายามในการฆ่าผู้เฒ่าตระกูลไป๋ด้วยซ้ำ แต่ผู้เฒ่าตระกูลไป๋ในฐานะผู้นำกลุ่มหนูยักษ์ ตอนนี้สามารถยับยั้งหนูยักษ์ได้หลายตัวและป้องกันไม่ให้พวกมันทำร้ายผู้คนได้แล้ว จำนวนหนูยักษ์ในตอนนี้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยหลายสิบล้านหรือหลายร้อยล้าน ถ้าวันนี้ท่านและข้าสังหารเขา หนูยักษ์เหล่านี้จะสูญเสียการควบคุมในทันทีและพวกมันทั้งหมดอาจจะรีบขึ้นไปบนพื้นดินเพื่อสร้างปัญหา เมื่อถึงตอนนั้นจำนวนประชาชนที่เดือดร้อนนั้นคงจะมีนับไม่ถ้วน หากต้องการฆ่าปีศาจตนนี้ จำเป็นต้องมีกลยุทธ์เข้าต่อกร”

ระบบได้ยินสิ่งนี้ ก็ห่อเหี่ยวไปในทันตา ‘อีกฝ่ายไม่เห็นด้วยจริงๆ และโฮสต์ก็มีไอคิวสูงกว่าเขาจริงๆ นั่นแหละ…’

อัศวิน A “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ข้าก็จะเชื่อฟังสิ่งที่ท่านบอก จะไว้ชีวิตเขาก่อนแล้วกัน”

หลังจากได้ยินพระโพธิสัตว์ปีศาจพลันโล่งใจ เป็นเรื่องยากที่พี่ใหญ่มังกรจะเข้าใจสถานการณ์โดยรวม เมื่อนึกถึงคำพูดของอีกฝ่ายก่อนหน้านี้ เขาก็ครุ่นคิดอีกครั้ง

อันที่จริงนี่เป็นเพราะว่าตอนนี้เทพแห่งระบบเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ ทั้งรู้ดีว่าหากปราศจากความร่วมมือของพระโพธิสัตว์ปีศาจแล้ว ผู้อาวุโสตระกูลไป๋อาจหลบหนีไปซ่อนได้อีก มันจึงไม่มีทางเลือกเลย คราวที่แล้วไป๋ซื่อซินสามารถหลบหนีจากอาการบาดเจ็บสาหัสได้ แต่ผู้อาวุโสไป๋ผู้นี้แข็งแกร่งกว่าไป่ซื่อซินมาก

หลังจากที่ทั้งสองเสร็จสิ้นการสนทนา ผู้อาวุโสไป๋ก็พบว่าอัศวิน A ได้ละสายตาไปจากตนแล้ว เขารู้สึกโล่งใจไม่น้อย แต่ก็ยังต้องระวังตัว

ขณะนั้นเองพระโพธิสัตว์ปีศาจก็พูดกับผู้อาวุโสตระกูลไป๋ น้ำเสียงของเขาเรียบนิ่ง “หายากที่ผู้อาวุโสจะระมัดระวังตัวอยู่เสมอ คราวนี้ข้าสามารถเห็นสถานการณ์ได้อย่างชัดเจนแล้ว ในเมื่อเป็นแบบนี้ข้ากับพี่ใหญ่มังกรจะยอมล่าถอยไป สุดท้ายนี้ข้าอยากจะแนะนำว่าก่อนจะทำทุกอย่างจงคิดให้รอบคอบ อย่าได้เข่นฆ่าผู้คนไปมากกว่านี้ ระวังบาปจะได้รับการชดใช้ในที่สุด…”

ผู้อาวุโสตระกูลไป๋ปรบมือแล้วกล่าว “คำชี้แนะของพระโพธิสัตว์จะตราตรึงอยู่ในใจข้าไปอีกช้านาน แม้ว่าหนูยักษ์จะมีจำนวนมากแต่ก็ยังไม่มีเหตุการณ์บาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งหมดนี้เป็นผลจากการควบคุมของข้า”

เขารู้แล้วว่าพระโพธิสัตว์ปีศาจไม่พร้อมจะลงมือ คงกลัวว่าเมื่อหนูยักษ์สูญเสียผู้นำของพวกมัน จะบ้าคลั่งไก้การควบคุมจนออกไปทำร้ายผู้คน

ประโยชน์ของฝูงสัตว์ที่ชุบเลี้ยงได้ปรากฏขึ้นแล้ว หากเขาอยู่คนเดียวคงไม่รอดแล้วแน่นอน พระโพธิสัตว์ปีศาจและอัศวิน A กำลังไล่ตามเขามาที่นี่ ในวันนี้สถานที่แห่งนี้อาจได้กลายเป็นหลุมฝังศพของตน

ตราบใดที่ไม่เกิดเรื่องร้ายแรงใด อีกฝ่ายก็จะยอมทนกับมันชั่วคราว

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาจึงลอบตัดสินใจบางอย่าง

ได้ยินดังนั้นพระโพธิสัตว์ปีศาจและอัศวิน A ก็พลันหายวับไปกลางอากาศอีกครั้ง

หลังจากทั้งสองมาถึงพื้นดิน พระอาทิตย์ก็ทอแสงอบอุ่นอีกครั้ง เนื่องจากที่แห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้จึงยังคงมีความเขียวขจีให้เห็นอยู่อีกมากมาย และห่างไกลออกไปก็มีคนเดินถนนที่กำลังเดินเตร็ดเตร่เที่ยวชมทิวทัศน์อันเงียบสงบ

พระโพธิสัตว์ปีศาจยิ้มกว้าง

เขาเอ่ยปาก “ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือจากพี่ใหญ่มังกรในครั้งนี้ เราถึงสามารถสังหารปีศาจแมลงที่เป็นปัญหามาหลายร้อยปีลงได้ ความสำเร็จของพี่ใหญ่มังกรนั้นไม่อาจอธิบายได้ด้วยถ้อยคำ”

อัศวิน A “ทั้งหมดนี้เป็นหน้าที่ของข้า ถ้ามีเรื่องที่เกี่ยวกับการปราบปีศาจหรือกำจัดมันในอนาคต พระโพธิสัตว์มาหาข้าคนนี้ได้เสมอ”

พระโพธิสัตว์ปีศาจผงกศีรษะและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ข้าควรจะให้ค่าตอบแทนแก่พี่ใหญ่มังกร แต่ว่านั่นเป็นเพียงสิ่งจอมปลอม ข้าคิดว่าพี่ใหญ่มังกรคงไม่ชอบใจนัก”

ฟางหนิง ‘คุณคิดผิดแล้วล่ะ ระบบไม่เคยปฏิเสธมันสักครั้งเดียว ยิ่งมากก็ยิ่งดี เพราะงั้นรีบไปเอาสิ่งจอมปลอมนั่นมาเถอะ’

พระโพธิสัตว์ปีศาจกล่าวต่อ “หากข้าจำไม่ผิด จำได้ว่าพี่ใหญ่มังกรเคยกล่าวไว้ ทุกครั้งที่ฆ่าปีศาจชั่วร้าย ล้วนพูดว่าเป็นอาณัติของสวรรค์และต้องการลงทัณฑ์แทนสวรรค์ เป็นไปได้ไหมว่าในอนาคตพี่มังกรจะสนใจตำแหน่งนั้น?”

อัศวิน A พูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง

ภายในพื้นที่ของระบบ

ระบบ “เขาหมายความว่ายังไง? ระบบไม่เข้าใจเลย แค่มอบอาวุธวิเศษกับระบบสักอันหรือไม่ก็เคล็ดวิชาดีๆ ก็พอแล้ว วกไปวนมาแบบนี้เพื่ออะไรกัน? โฮสต์คุณไปหลอกล่อเขาให้อธิบายให้ชัดเจนทีสิ”

ฟางหนิง “เมื่อกี้แกยังหัวชนฝาไม่เชื่อฉันอยู่เลย ตอนนี้ดันจะมาขอความช่วยเหลือจากฉันเหรอ ให้ฉันถามแกก่อนเถอะ คำพูดเสแสร้งที่แกพูดก่อนหน้านี้ว่าจะฆ่าปีศาจตนนั้น ยังมีนัยสำคัญอะไรหรือเปล่า? แกคงไม่เคยกล้าถาม หากกลัวว่าจะแตะต้องภารกิจหลักบางอย่าง”

ระบบ “มันไม่สำคัญหรอก ทุกข้อความคือคำพูดที่ระบบดึงมาจากนวนิยายบนอินเทอร์เน็ต ระบบแค่คิดว่าหลังจากที่พูดออกไป ชื่อเสียงของระบบก็จะพุ่งสูงเร็วขึ้นหรืออาจเรียกกฎที่ซ่อนอยู่ได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ได้ผล รู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป…”

ฟางหนิง “ให้ตายสิ แกทำร้ายคนอื่นมากจริงๆ ”

ฟางหนิงออกไปยึดร่างและเริ่มหลอกล่อ

อัศวิน A “คนคํานวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิตได้เล่า”

พระโพธิสัตว์ปีศาจพยักหน้า “พี่ใหญ่มังกรมีดวงใจอันเปิดกว้างสุดจะหาได้ ในอนาคตข้าจะลงคะแนนให้ท่านอย่างแน่นอน ด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรมของท่าน เหมาะสมยิ่งนักที่จะได้รับตำแหน่งนั้น”

อัศวิน A “ขอบคุณในความกรุณาของพระโพธิสัตว์”

พระโพธิสัตว์ปีศาจพยักหน้า “อย่างนั้นข้าคงต้องขอตัวลา หวังว่าพี่ใหญ่มังกรจะรักษาตนอย่างดี หากประสบปัญหาใดๆ ให้ใครสักคนแจ้งข้ามาได้โดยตรง”

อัศวิน A “โปรดยกโทษให้ข้าที่ไม่สามารถไปส่งท่านด้วยตัวเอง”

ฟางหนิง ‘ฉันก็พูดไปอย่างนั้นแหละ เจ้านี่เข้าใจยากชะมัด ที่ไม่ไปส่งก็เพราะไม่มีที่ไหนให้ไปส่งต่างหาก’

จากนั้น พระโพธิสัตว์ปีศาจก็ยิ้มให้เล็กน้อยและหายตัวไปอีกครั้ง

ระบบ “คุณสองคนเพิ่งตกลงกันว่าจะโหวตให้ได้ตำแหน่ง แล้วไอ้ ‘คนคํานวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิต’ นั่นหมายถึงอะไร โฮสต์หมายความว่ายังไงกัน”

ฟางหนิง “ไม่มีอะไรที่น่าสนใจหรอกน่า เพราะฉันรู้ฉันก็เลยไม่บอกแก ใครบอกให้แกไม่เชื่อใจฉันก่อนล่ะ ฉันต้องเช็คแจ้งเตือนในระบบอย่ามารบกวนฉันนะ”

ระบบ “…”

การแจ้งเตือนของระบบ ระบบใช้ความหมายที่ลึกซึ้ง: ระเบิดมังกรยักษ์

ระบบฆ่าร่างอวตารสุดท้ายของปีศาจแมลง

ระบบทำลายวิญญาณของปีศาจแมลง

ระบบฆ่าปีศาจแมลงโดยสมบูรณ์

ระบบได้รับคะแนนประสบการณ์ 3 ล้านคะแนน

ระบบกำจัดภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อโลกอย่างสมบูรณ์ โฮสต์จะได้รับคะแนนความชอบห้าคะแนนสำหรับคุณลักษณะทั้งหมดของเทพมังกรตัวจริง

ระบบได้รับชื่อเสียงว่าเป็นคนกล้าหาญ

ระบบได้รับค่าพลังปราณส่วนเกิน สล็อตพลังปราณเต็มแล้วและกระแสน้ำก็ล้นเกิน คำเตือนเพิ่มเติม: คุณสามารถให้ผู้ติดตามที่มีคุณสมบัติการฝึกฝน ‘พลังปราณฟ้าดิน’ สำรองพลังปราณเพิ่มเติมได้ ระดับจำนวนสล็อตพลังปราณสูงสุดของผู้ติดตามเป็นครึ่งหนึ่งของระบบ

ฟางหนิง “นับว่าเป็นเรื่องที่ดี แกเห็นไหมว่าการตั้งค่าอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ได้ถูกเปิดการใช้งานแล้ว จริงๆ แล้วเป็นความคิดริเริ่มที่จะบอกเราถึงวิธีเก็บพลังปราณที่เกินออกมา แกรีบกรอกเวอร์ชันที่ไม่สมบูรณ์เร็ว”

ระบบ “ความสามารถในการเปลี่ยนเรื่องของโฮสต์แย่มาก…”

ฟางหนิง “เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ? ฉันลืมไปแล้วล่ะ ครั้งนี้เหล่าเด็กๆ ออกแรงไปเยอะมากยกเว้นหมาดำไป๋หลี่ ส่วนอีกสองคนนั้นทุ่มสุดตัว รางวัลการทำงานของพวกเขาแกส่งมาให้ฉันก่อนล่ะ และรางวัลภารกิจที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ด้วยว่าอีกหนึ่งสัปดาห์หน้าจะเป็นเวลาว่างของฉัน อย่าคิดจะถอดสายอินเทอร์เน็ตเด็ดขาด ตอนนี้พวกเราไม่กลัวนายแล้ว”

ระบบเอือมระอาเหลือเกิน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะรับมือโฮสต์คนนี้ได้…

…………………………………………………..

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)

SBTS, 我被系统托管了
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2017 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)จู่ๆ ก็มีดาวตกพุ่งลงมาที่โลก ทำเอาพื้นดินถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นกลับทำให้ 'ฟางหนิง' หัวโขกกับโต๊ะคอมพิวเตอร์จนสลบไป ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเขามีระบบ ขณะที่กำลังจะดีใจว่าในที่สุดก็มีขาทองคำมาให้เกาะ เจ้าระบบนั่นกลับประเมินว่าเขาเป็นโรคขี้เกียจระยะสุดท้าย ปล่อยไว้ไม่มีทางเจริญก้าวหน้า และทำการยึดครองร่างของเขาซะงั้น!? ... จากหนุ่มโอตาคุผู้แสนจะขี้เกียจที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ กลับต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมตนเองเป็นฮีโร่คอยปราบปรามเหล่าปีศาจร้าย ปกป้องเมืองที่ตนอยู่อาศัย และฝึกวิทยายุทธ์เพื่อก้าวสู่จุดสูงสุดนิ้วทองคำของระบบ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset