เลขาบนเตียง – ตอนที่ 16

EP16: เลขาบนเตียง

“วันนี้ผมมีนัดลูกค้าดึก คุณขับรถกลับบ้านเองได้นะแก้ว”

“ให้แก้วไปด้วยไหมคะ”

“ไม่เป็นไรหรอก ผมไปคนเดียวได้ครับ”

กนกแก้วมองตามร่างสูงใหญ่ของภาคที่เดินจากไปด้วยความน้อยใจ และก็อดคิดไม่ได้ว่าลูกค้าที่ภาคพูดถึงอาจจะเป็นผู้หญิงคนเดิมนั่นก็เป็นได้

หล่อนถอนใจออกมาแรงๆ พยายามบอกตัวเองเป็นพันครั้งว่าอย่าคาดหวังกับความสัมพันธ์ที่มีเซ็กซ์เป็นตัวขับเคลื่อน แต่ก็ทำได้ยากเหลือเกิน

นิ้วเรียวยื่นไปปิดสวิตซ์คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ก่อนจะหยิบกระเป๋าขึ้นมาคล้องบ่า จากนั้นก็ลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานมุ่งหน้าตรงไปยังลานจอดรถ

หล่อนขับรถมาเรื่อยๆ ใจลอยไปตลอดทางเพราะคิดถึงภาค จนกระทั่งตัดสินใจจอดรถแวะที่ร้านกาแฟริมทางแห่งหนึ่ง ซึ่งนั่นก็ทำให้หล่อนได้พบกับสุพจน์โดยบังเอิญ

“คุณพจน์…”

“อ้าว คุณแก้ว เหลือเชื่อนะครับที่ได้พบคุณแก้วที่นี่ เชิญนั่งด้วยกันนะครับ”

หล่อนตอบรับด้วยความยินดี

“คุณพจน์มาทำอะไรแถวนี้คะ”

“ที่นี่ร้านกาแฟของผมครับ”

“คะ?”

หล่อนแปลกใจมาก มองไปรอบๆ ร้าน ก่อนจะหันมามองหน้าสุพจน์อีกครั้ง

“ร้านของผมจริงๆ ครับ”

“แก้วไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ ไม่คิดว่าคุณพจน์จะมาเปิดร้านกาแฟน่ารักๆ แบบนี้ แก้วจะมาอุดหนุนบ่อยๆ นะคะ”

“ไม่ต้องมาอุดหนุนหรอกครับ แค่แวะมาหาผมตอนที่คุณแก้วขับรถผ่านก็ถือว่าขอบคุณมากแล้วครับ”

หล่อนกับสุพจน์พูดคุยกันอย่างถูกคอ และสุพจน์เองก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะจีบหล่อนอีกเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งนั่นก็ทำให้หล่อนสบายใจยิ่งขึ้น

หล่อนนั่งคุยกับเขาจนมืดค่ำ จึงขอตัวกลับ

“แก้วขอตัวกลับบ้านก่อนนคะ คุยเพลินนี่จะสองทุ่มอยู่แล้ว”

“งั้นผมเดินไปส่งที่รถนะครับ”

“ขอบคุณค่ะ”

หล่อนเดินนำสุพจน์มาที่รถ และเมื่อล่ำลาเขาเสร็จก็รีบก้าวขึ้นรถ แต่พอสตาร์ทเครื่องยนต์เท่านั้นแหละก็ต้องหน้าเสียทันที

“เป็นอะไรครับคุณแก้ว”

สุพจน์ที่ยืนรอส่งอยู่เคาะกระจกถามด้วยความเป็นห่วง

“รถสตาร์ทไม่ติดค่ะคุณพจน์”

“งั้นผมขอดูหน่อยครับ”

“ขอบคุณค่ะ”

หล่อนกล่าวขอบคุณและก้าวลงมาจากรถ ให้สุพจน์ได้ลองสตาร์ทเครื่องให้บ้าง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ติดเหมือนเดิม ไม่ว่าจะพยายามสักกี่ครั้งก็ตาม

“สงสัยต้องเรียกช่างแล้วล่ะครับคุณแก้ว”

กนกแก้วยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะถอนใจออกมา

“แก้วว่าจะทนใช้อีกสักสองสามปีค่อยเปลี่ยน สงสัยต้องเปลี่ยนรถเร็วขึ้นแล้วล่ะค่ะ”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเรียกช่างมาให้ ส่วนคุณแก้วผมจะขับรถไปส่งที่บ้านเองครับ”

“เอ่อ… ไม่ต้องหรอกค่ะ แก้วเรียกแท็กซี่กลับบ้านสะดวกกว่าค่ะ” หล่อนเกรงใจ

“ผมยินดีครับ ถือว่าเป็นการตอบแทนที่คุณแก้วมาดื่มกาแฟที่ร้านของผมยังไงล่ะครับ”

“โอ้… แต่แก้วดื่มกาแฟแค่แก้วเดียวเองนะคะ แค่ห้าสิบบาทเองค่ะ”

“นั่นแหละครับ ผมต้องตอบแทน”

เมื่อเห็นความตั้งใจของคู่สนทนา กนกแก้วก็ไม่อาจจะขัดขืนได้อีก

“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณพจน์”

“ด้วยความยินดีครับ”

แล้วหล่อนก็ขึ้นรถของสุพจน์อย่างไม่มีทางเลือก

หล่อนยืนโบกมือ และรอจนรถยนต์ของสุพจน์หายไปในความมืด จึงเดินไปที่รั้วไม้ กำลังจะเปิดออก และเดินผ่านเข้าไปภายใน แต่แขนเรียวถูกกระชากเอาไว้เสียก่อน

“อุ้ยยย”

และเมื่อหันไปมองเจ้าของมือกระด้างก็ต้องแปลกใจยิ่งนัก

“บอส…”

แม้จะอยู่ในความมืดสลัวหล่อนก็สามารถเห็นความน่ากลัวของดวงตาคมกริบได้อย่างชัดเจน

“รถคุณไปไหน แล้วไอ้หมอนั่นมาส่งคุณได้ยังไง หรือว่ายังติดต่อกันอยู่”

“คือว่า…”

“ตลอดเวลาที่ผมเอาคุณ แต่คุณก็ยังลักลอบติดต่อกับไอ้หมอนั่นสินะ”

“บอสคะ มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ”

“อย่ามาแก้ตัว”

ภาคตวาดลั่น

“ผมเคยนึกว่าคุณจะแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น”

ชายหนุ่มตวัดตามองหล่อนทั้งตัวอย่างดูถูกเหยียดหยาม

“ทีแท้ คุณก็ซ่อนความร่านเอาไว้ใต้แว่นหนาๆ ของคุณนั่นเอง”

“บอส…”

“ผมไม่น่าหลงกลคุณเลย”

หล่อนถูกเขาผลักออกห่าง น้ำตาไหลรินลงมาอาบแก้มด้วยความเสียใจ

ใช่… หล่อนเสียใจ และเจ็บช้ำมากกับวาจาดูถูกหยามเกียรติที่เขาขว้างใส่หน้า ซึ่งนั่นก็ทำให้หล่อนขาดสติโต้ตอบออกมาเช่นกัน

“ก็ในเมื่อบอสยังไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นได้ ในตอนที่มีแก้ว แล้วทำไมแก้วจะทำบ้างไม่ได้ล่ะคะ”

“ผมยุ่งกับใคร”

เขาเค้นถามเสียงกระด้าง

“บอสรู้อยู่แก่ใจค่ะ”

ภาคจ้องหน้าหล่อนเขม็ง

“ผมว่าคุณอย่าเปลี่ยนเรื่องเลยดีกว่า คุณเลว ก็ใช่ว่าคนอื่นจะเลวไปด้วย”

ความหึงหวงทำให้ภาคขาดสติอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ผมเกลียดผู้หญิงร่าน จำเอาไว้ด้วย!”

แล้วเขาก็หมุนตัวเดินไปขึ้นรถ ที่จอดอยู่ไกลกว่าทุกวันและขับออกไปอย่างรวดเร็ว

หล่อนแทบทรุดฮวบลงกองกับพื้นถนน มองท้ายรถของภาคไปทั้งน้ำตา

“ทำไมบอส… ต้องกล่าวหาแก้วแบบนี้ด้วย… บอสเองก็ทำ…”

หล่อนยกมือขึ้นปิดหน้าร้องไห้ด้วยความทุกข์ทรมานแสนสาหัส และกว่าจะกลับเข้ามาในบ้านได้สำเร็จก็กินเวลานานเลยทีเดียว

“แก้ว… ทำไมวันนี้มาดึกนักล่ะลูก”

แม่ยังไม่นอนและเอ่ยทักหล่อน

“คือ… รถแก้วเสียน่ะแม่ ก็เลย… ให้เพื่อนมาส่ง”

สีหน้าของแม่เต็มไปด้วยความตกใจ ก่อนจะเดินเข้ามาหา

“แล้วทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือยังลูก”

“เรียบร้อยแล้วค่ะแม่ เพื่อนแก้วตามช่างมาลากรถไปที่อู่ให้แล้วค่ะ”

แม่ของหล่อนระบายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้

“เจ้านายของแก้วมารอแก้วตั้งแต่ยังไม่ห้าโมงเลยรู้ไหม แม่ก็งงๆ ว่ามาทำไมแต่วัน พอถามก็บอกว่าจะมาเซอร์ไพร์สแก้ว”

“เซอร์ไพร์สแก้ว…?”

“ใช่”

แม่ของหล่อนตอบสั้นๆ และก็เดินหายไปสักพัก ก่อนจะกลับมาพร้อมกับช่อดอกไม้ขนาดใหญ่ในมือ

“ดอกไม้ใครคะแม่”

“ก็เจ้านายแก้วนั่นแหละ ถือมาตอนที่มารอแก้วที่นี่น่ะ แต่นี่กลับไปแล้วล่ะ คงรอไม่ไหว ได้แต่ฝากดอกไม้เอาไว้ให้น่ะ”

หัวใจของหล่อนคล้ายกับกำลังถูกจับเขย่า ขณะยื่นมือไปรับช่อดอกไม้จากมือของมารดามากอดเอาไว้ สมองกำลังประมวลผลกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ไหนภาคบอกว่าจะไปเจอลูกค้าและกลับดึกยังไงล่ะ แถมยังไม่ยอมให้หล่อนไปด้วยอีก แล้วเขามาโผล่ที่บ้านของหล่อนได้ยังไงกัน แล้วยังจะช่อดอกไม้นี่เอง

“อ้อ มีการ์ดด้วยนะ แม่เปิดอ่านแล้วล่ะแต่อ่านไม่ออกมันเป็นภาษาอังกฤษ”

คำพูดของแม่ ทำให้หล่อนกวาดตามองหาการ์ดที่แม่พูดถึง ก่อนจะพบว่ามันสอดอยู่ภายในซึ่งลึกเข้าไปเล็กน้อย มือเล็กสั่นเทาขณะคลี่ออกอ่าน

ใจความในนั้นหากแปลเป็นภาษาไทยแล้วก็ประมาณว่า…

‘คุณคือสิ่งที่มีค่าสำหรับผม’

นี่ภาค… ภาคกำลังพยายามทำอะไรกันแน่ เขา… เขาเอาดอกไม้พร้อมกับการ์ดที่มีข้อความหวานซึ้งแบบนี้มาให้หล่อนทำไมกัน

“แม่ว่า เจ้านายของลูก เขาน่าจะมีใจให้กับลูกนะแก้ว”

“แม่…”

“แม่เตรียมกับข้าวเย็นเอาไว้ให้ในครัวนะแก้ว อาบน้ำอาบท่าซะแล้วก็ออกมากิน แม่ขอตัวก่อนนะ”

แล้วแม่ก็เดินจากไป ราวกับรู้ว่าหล่อนกำลังต้องการคิดทบทวนตามลำพัง

หลังจากร่างของมารดาหายไป หล่อนก็ทรุดลงนั่งกับเก้าอี้ อ่านข้อความในการ์ดแผ่นเล็กซ้ำไปซ้ำมานับครั้งไม่ถ้วน อ่านหลายๆ ครั้งเพื่อที่จะให้มั่นใจว่าตนเองไม่ได้ตาฝาด หรือมโนไปเอง

“บอส… บอสกำลังทำให้แก้ว… สับสนนะคะ”

มือเล็กคว้าหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋า พอเจอก็ต่อสายหาภาคทันที แต่เขาไม่ยอมรับสาย

“บอส… ได้โปรดรับสายแก้วหน่อยเถอะค่ะ”

หล่อนรู้ดีว่าเขากำลังโกรธมากแค่ไหน แต่หล่อนต้องการคำตอบ อยากรู้ว่าเขาทำแบบนี้ทำไม

นิ้วเรียวกดต่อสายหาภาคนับครั้งไม่ถ้วนแต่เขาก็ยังไม่รับเช่นเดิม จนกระทั่งหล่อนถอดใจกำลังจะวางสาย ปลายสายก็กดรับพอดี

หล่อนดีใจอย่างที่สุด รีบละล่ำละลักถามเขาออกไปน้ำเสียงสั่นเทา

“บอส… บอสคะ แก้วมี…”

หล่อนพูดได้แค่นั้น เสียงหวานของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังทิ่มแทงเข้ามาในหู

“พี่ภาคอาบน้ำอยู่ค่ะ ไม่ทราบว่ามีเรื่องด่วนไหมคะ ถ้าด่วนฝากน้ำเอาไว้ได้ค่ะ”

ผู้หญิงคนนี้นี่เอง…

เขาอยู่ด้วยกัน!

หัวใจของหล่อนแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี

“มะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”

หล่อนกำลังจะวางสาย แต่อีกฝ่ายเรียกเอาไว้เสียก่อน

“เดี๋ยวก่อนค่ะ”

“คุณมีอะไรกับฉันเหรอคะ” กนกแก้วจำใจต้องกลั้นสะอื้นตอบรับ

“คุณเป็นคนรักของพี่ภาคเหรอคะ”

คำถามจากปลายสายทำให้กนกแก้วถึงกับเบิกตากว้างตกใจ

“มะ ไม่ใช่หรอกค่ะ ทำไมคุณคิดแบบนั้นล่ะคะ”

ผู้หญิงที่คุยอยู่ปลายสายหัวเราะคิกคักก่อนจะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงสดใส ไร้วี่แววการหึงหวงจนน่าแปลกใจเป็นที่สุด

“ก็พี่ภาคเมมเบอร์ของคุณเอาไว้ว่า ‘ที่รัก’ น่ะสิคะ”

“คะ?”

นี่หล่อนฝันไปอีกแล้วใช่ไหม!

“หรือถ้าคุณไม่ใช่คนรักของพี่ภาค งั้นก็แสดงว่าพี่ภาคต้องแอบรักคุณแน่ๆ เลยค่ะ ไม่งั้นไม่เมมเบอร์ของคุณเอาไว้แบบนี้แน่ๆ”

กนกแก้วกำลังงง กำลังสับสน แล้วก็กำลังจะเป็นบ้าด้วย

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย!

“เอ่อ… ฉัน… ฉันงงไปหมดแล้วค่ะ คุณ… ช่วยอธิบายเพิ่มหน่อยได้ไหมคะ”

ในที่สุดกนกแก้วก็เค้นเสียงถามคู่สนทนาออกไปได้สำเร็จ

“ได้สิคะ ฉันเห็นพี่ภาคเมมเบอร์ของคุณว่า ‘ที่รัก’ ในมือถือของเขาน่ะค่ะ”

ชัดเจนเลย เต็มสองหูเลยทีเดียว

“คุณน้ำไม่ได้โกหกแก้วใช่ไหมคะ”

“น้ำจะไปโกหกคุณแก้วทำไมล่ะคะ ในเมื่อน้ำเห็นจริงๆ”

คนปลายสายยืนยันด้วยน้ำเสียงสดใสร่าเริงเช่นเดิม จนกนกแก้วอดแปลกใจไม่ได้

“แล้ว… คุณไม่หึงคุณภาคเหรอคะ”

คราวนี้คนปลายสายหัวเราะกร๊ากเลยทีเดียว ก่อนจะถามออกมา

“น้ำจะไปหึงพี่ชายตัวเองทำไมล่ะคะ”

“พี่ชาย?!”

“ใช่ค่ะ น้ำเป็นลูกของน้องชายพ่อพี่ภาคค่ะ”

หล่อนช็อกเป็นคำรบที่สองสามสี่ ดวงตากลมโตเบิกกว้างตลอดเวลา

“แล้ว… ทำไมแก้วไม่รู้ล่ะคะ แก้ว… รู้จักพี่น้องของ บอสแทบทุกคน”

“น้ำเป็นลูกเมียคนแรกของน้องชายพ่อพี่ภาคค่ะ ซึ่งก็คือคุณลุงของน้ำนั่นแหละ แล้วน้ำก็ไม่ได้อยู่เมืองไทยด้วย ก็เลยไม่ได้ติดต่อกับพี่ภาคบ่อยนักน่ะค่ะ”

ทำไมหล่อนถึงได้รู้สึกราวกับว่าภูเขาในอกมันสลายหายไปหมดแบบนี้นะ

รอยยิ้มที่ไม่เคยมีเลยตั้งแต่เกิดความหึงหวงในตัวของภาคเกิดขึ้นบนดวงหน้างาม

นี่หล่อนหึงหวงพี่น้องสายเลือดกันมาตลอดอย่างนั้นเหรอ โอ้… น่าละอายใจเหลือเกิน

“แก้ว… เข้าใจผิดคิดว่าคุณน้ำเป็นคนรักของบอสเสียอีก แก้วขอโทษนะคะ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อ้อ ว่าแต่คุณแก้วทะเลาะกับพี่ภาคหรือเปล่าคะ”

“เอ่อ…”

“อย่าหาว่าน้ำก้าวก่ายเลยนะคะ พี่ภาคหน้าบูดมากเลย แล้วก็ดูอารมณ์ร้ายมากด้วย นี่ขนาดน้ำยังเข้าหน้าพี่ภาคไม่ติดเลยค่ะ”

“ใช่ค่ะ บอสโกรธแก้วมาก และก็คงจะเกลียดมากแล้วด้วยล่ะค่ะ”

“พี่ภาคจะเกลียดผู้หญิงที่ตัวเองเมมเบอร์เอาไว้ว่า ‘ที่รัก’ ได้ยังไงกันล่ะคะ”

หัวใจของหญิงสาวพองฟูคับอก แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าภาค… ภาคจะรู้สึกไม่ต่างไปจากหล่อน นี่หล่อนไม่ได้ฝันไปใช่ไหม

“ฝากคุณน้ำ… ขอโทษบอสแทนแก้วด้วยนะคะ”

“คงไม่ได้หรอกค่ะ คุณแก้วเป็นคนทำให้พี่ภาคโมโห ก็ต้องมาขอโทษด้วยตัวเองค่ะ”

“เอ่อ แต่ว่า… นี่มันก็ดึกแล้ว…”

“เอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ แต่อย่าปล่อยไว้นานนะคะ พี่ภาคจะโมโหตัวแตกซะก่อน”

คู่สนทนาปลายสายของหล่อนหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะวางสายไป ในขณะที่หล่อนนั่งนิ่งราวกับหุ่นปูนปั้น สมองอึกทึกครึกโครมไปหมด

มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน ภาคจะรักเลขาที่ทั้งเฉิ่มทั้งเชยแบบหล่อนได้ยังไงกัน มันไม่มีเหตุผลเลยที่เขาจะลดตัวมารักหล่อน

หญิงสาวพยายามขบคิด คิดเป็นล้านๆ ตลับ ก็ยังหาเหตุผลมารองรับไม่ได้ จึงตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะไปทำงานแต่เช้าตรู่ เพื่อเอาถามหาเหตุผลของภาคจากปากของเขาเอง

เลขาบนเตียง

เลขาบนเตียง

เธอเฉิ่ม เธอเชย และเธอเป็นเลขาของเขา หน้าที่ของเธอคือเลขาหน้าห้อง แต่หลังจากความผิดพลาดในค่ำคืนนั้นเกิดขึ้น สถานะของเธอก็เปลี่ยนไปจากเดิม จากเลขาหน้าห้อง กลับกลายเป็นเลขาบนเตียงแทน… “เวลาทำงาน คุณก็เป็นเลขาหน้าห้องของผม แต่ถ้าผมเหงา คุณก็ต้องทำหน้าที่เลขาบนเตียง…” “บอส…?!” “ผมรู้ว่าคุณตกใจ ผมเองก็ตกใจเหมือนกันกับสถานะของพวกเรา แต่มันเกิดขึ้นแล้ว จะทำยังไงได้ล่ะ” “บอสคะ…” หล่อนขยับตัวพยายามจะออกจากอ้อมแขนของเขา แต่ชายหนุ่มไม่ยอมปล่อย “ว่าไงครับ” “แก้ว… แก้วว่าให้แก้วทำเหมือนเดิมดีกว่าค่ะ หรือไม่ก็ให้แก้วลาออกไป…” “ผมให้คุณลาออกไม่ได้หรอก คุณเป็นเลขาที่รู้ใจผมที่สุด อย่าลืมสิแก้ว” “แต่แก้ว…” หล่อนอยู่ในฐานะนางบำเรอของเขาไม่ได้ หล่อนทะเยอทะยานต้องการมากกว่านั้น แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีวันจะได้สิ่งที่หวังมาครอบครอง “ทำตามที่ผมบอก ไม่มีอะไรยากเย็นเลย”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset