เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย – ตอนที่ 450 คุณไม่มีสิทธิ์เลือก / ตอนที่ 451 รีบหนีเร็ว

ตอนที่ 450 คุณไม่มีสิทธิ์เลือก  

 

 

           แต่คนอย่างอินรุ่ยตัดสินใจแล้วย่อมไม่มีวันเปลี่ยนใจ  

 

 

           เขาเห็นท่าทางขัดขืนของเธอแล้วส่งสายตาให้ลูกน้อง จากนั้นลูกน้องอีกสองคนเดินเข้าไปในห้อง คนหนึ่งจับศีรษะเธอเอาไว้ อีกคนจับไหล่เธอเอาไว้จนเธอขยับเขยื้อนตัวไม่ได้  

 

 

           “ปล่อยฉันนะ! ฉันบอกให้ปล่อยไง! พวกแกจะทำอะไร!” เธอตกใจกลัวจนหน้าถอดสี พยายามดิ้นรนต่อสู้สุดแรงเกิด  

 

 

           อินรุ่ยมองดูท่าทางดิ้นรนขัดขืนของเธอพลางเดินช้าๆ เข้าไปใกล้พลาง มือหนึ่งถือแก้วน้ำ อีกมือถือขวดยา เขาเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ เอ่ยเสียงเย็น “กินเข้าไป ถ้าไม่กิน ผมยังมีวิธีอีกมากมายที่จะทำให้คุณกินมันแต่โดยดี!”  

 

 

           ทำไมเธอจะไม่เข้าใจความหมายของเขา เธอดิ้นรนสุดกำลัง “ไม่ ฉันไม่กิน!”  

 

 

           ให้ตายเธอก็ไม่ยอมกินเด็ดขาด เขามันเป็นไอ้ชาติชั่ว! เขามันเป็นปีศาจ!  

 

 

           อินรุ่ยมองดูเธอดิ้นรนขัดขืนแล้วชักหัวคิ้วชนกันแน่น เดินเข้าไปบีบแก้มเธอแรงๆ เธอรู้สึกเจ็บคางมากจนริมฝีปากเผยอออก  

 

 

           เขากำลังจะป้อนยาใส่ปากเธอ…  

 

 

           “ไม่!”  

 

 

           คนที่จับไหล่เธอเอาไว้เห็นเช่นนั้นแล้วผ่อนแรงลงไม่น้อย  

 

 

           เธอลืมตาพรึบ จ้องอินรุ่ยตาแข็งกร้าว  

 

 

           เขาไม่เคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของเธอมาก่อน ทั้งโกรธแค้น ทั้งดุร้าย ราวกับแม่สิงโตที่กำลังจะเสียลูกไปไม่มีผิด  

 

 

           เสี้ยววินาทีที่เขามัวแต่เผลอสติ จู่ๆ เธอก็ล้วงกรรไกรคมกริบออกมาจากกระเป๋า จากนั้นแทงลงบนร่างเขาอย่างแรง  

 

 

           เสียงร้องตกใจดังขึ้นรอบทิศ อินรุ่ยเพียงแค่ตกใจเล็กน้อยเท่านั้น  

 

 

           เฉียวซือมู่จับกรรไกรแน่น สองมือสั่นระริก  

 

 

           ตั้งแต่เล็กจนโต เธอไม่เคยลงมือทำร้ายใครก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก แม้เธอจะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่ก็ไม่อาจลบล้างความรู้สึกผิดในใจออกไปได้  

 

 

           นี่เป็นครั้งแรกที่เธอลงมือทำร้ายคนอื่นก่อน!  

 

 

           มือเธอสั่นระริก ดวงตาจับจ้องคนตรงหน้าตาเขม็ง  

 

 

           อินรุ่ยขยับมุมปากนิดๆ หัวเราะออกมาเบาๆ “ตำแหน่งไม่ค่อยดีเลยนะ น่าจะแทงขึ้นมาอีกหน่อย”  

 

 

           เธอแทงกรรไกรลงบนต้นขาของเขา ซึ่งไม่ใช่จุดสำคัญ  

 

 

           “คุณ…” เธอจ้องเขาตาแข็งกร้าว “ฉันน่าจะเล็งหัวใจคุณ!”  

 

 

           “น่าเสียดายที่คุณไม่มีโอกาสครั้งที่สองแล้ว” ริมฝีปากเขาเริ่มซีด เขาเริ่มบังคับให้เธอกินยาอีกครั้ง  

 

 

           เขาบีบแก้มเธอแน่น จากนั้นป้อนยาใส่ปากเธอ  

 

 

           ลูกน้องที่จับไหล่เธอเอาไว้ไม่กล้าผ่อนแรงอีก พยายามจับตัวเธอแน่น เธอจะได้ไม่มีโอกาสเล่นงานใครอีก  

 

 

           เธอแทบจะสิ้นหวัง  

 

 

           เสี้ยวเวลาแห่งความเป็นความตายเช่นนี้ จู่ๆ ก็มีเสียงแปลกๆ ดังมาจากชั้นล่าง  

 

 

           เสียงดังกังวานเหมือนเสียงคนจุดพลุ   

 

 

           อินรุ่ยตัวแข็งทื่อจนมือที่บีบแก้มเธอคลายออก  

 

 

           เธอรีบฉวยโอกาสเตะขาไปข้างหน้า และเตะถูกกรรไกรที่ปักอยู่ตรงต้นขาเขาพอดี  

 

 

           เขามัวแต่สนใจเสียงที่ดังมาจากชั้นล่าง จึงคิดไม่ถึงว่าเธอจะทำแบบนี้ เขาครางฮึกด้วยความเจ็บแล้วเซถอยหลังไปสองก้าว  

 

 

           “เจ้านาย…”  

 

 

           “เจ้านายไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”  

 

 

           ลูกน้องรอบข้างรีบเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ขณะเดียวกันก็ส่งสายตามองเฉียวซือมู่ตาเขียวปั๊ด  

 

 

           เธอไม่สนใจสักนิด ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อจับจ้องไปยังชายตรงหน้านิ่ง  

 

 

           อินรุ่ยชักหัวคิ้วชนกันแน่น ไม่สนใจบาดแผลของตนเองแม้แต่นิดเดียว แต่ส่งเสียงเรียกลูกน้องที่อยู่นอกประตูแทน “ไปดูซิว่าเกิดอะไรขึ้นข้างล่าง”  

 

 

           เขาคงดูถูกหญิงสาวตรงหน้ามากเกินไป คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเธอจะทำร้ายเขาซ้ำสอง  

 

 

           แต่นี่ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ…  

 

 

 

 

 

ตอนที่ 451 รีบหนีเร็ว  

 

 

           “เฝ้าเธอให้ดี ปิดประตูขังเอาไว้!”  

 

 

           เขาเพิ่งออกคำสั่งเสร็จแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องทันทีโดยไม่ทันเห็นสีหน้าโล่งอกของเธอ  

 

 

           เพิ่งเดินไปถึงประตูก็มีคนวิ่งพุ่งเข้ามาหาเขาด้วยความร้อนรน “เจ้านาย รีบหนีเร็ว!”  

 

 

           สีหน้าเขาตกใจเล็กน้อย “แกพูดอะไรน่ะ?”  

 

 

           ลูกน้องคนนั้นยังพูดไม่ทันจบ พลันได้ยินเสียงดังลอยมาจากทางบันได “มันบอกให้แกรีบหนีเอาตัวรอดไง แต่ดูเหมือนจะสายไปแล้วล่ะ”  

 

 

           เฉียวซือมู่คุ้นเสียงนี้มาก หัวใจเธอเต้นรัวเร็ว เบิกตาโพลงมองไปยังประตูห้อง  

 

 

           พลันเห็นชายรูปร่างสูงโปร่งเดินขึ้นบันไดช้าๆ ดวงหน้าสวยหวาน ดวงตาหวานหยาดเยิ้ม ผิวพรรณขาวผ่อง เขาเป็นผู้ชายที่สวยยิ่งกว่าผู้หญิง   

 

 

           เธอร้องออกมาด้วยความดีใจ “มู่หรง!”  

 

 

           มู่หรงอวิ่นเจ๋อพยักหน้าให้เธอเล็กน้อย “พี่สะใภ้!”  

 

 

           อินรุ่ยจ้องอีกฝ่ายตาแข็งกร้าว เขาถอยเท้าหนึ่งก้าว “จัดการ!”  

 

 

           เขายังมีลูกน้องอีกหลายคนอยู่ด้านหลัง แต่มู่หรงมาตัวคนเดียว  

 

 

           เขาคำนวณทุกอย่างอย่างดิบดี แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากออกคำสั่งแล้ว ลูกน้องเขากลับยืนนิ่งไม่ไหวติงแม้แต่คนเดียว  

 

 

           เขาชักสังหรณ์ใจไม่ดีเสียแล้ว หันหน้ากลับไปมอง “พวกแก…”  

 

 

           เพิ่งจะพูดได้แค่สองคำก็ต้องชะงักนิ่งอึ้งทันที  

 

 

           เบื้องหลังเขา ไม่รู้ว่าชายชุดดำกลุ่มใหญ่บุกเข้ามาในห้องของเฉียวซือมู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ คนที่เป็นผู้นำรูปร่างสูงใหญ่และดูทรงอำนาจ สายตาดุดันที่มองไปยังเขา ทำให้เขารู้สึกตกใจอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้  

 

 

           ลูกน้องของเขาถูกควบคุมตัวอย่างเงียบเชียบ แต่ละคนถูกกระบอกปืนสีดำเล็งอยู่ข้างหลังโดยชายฉกรรจ์หน้าเฉยชา บรรยากาศในห้องแทบจะจับตัวเป็นก้อนน้ำแข็ง        

 

 

           สีหน้าอินรุ่ยดูแย่มาก เขาพยักหน้าน้อยๆ พลางหัวเราะเบาๆ “ดีมาก ดีมาก จิ้นหยวน ดูเหมือนผมจะประเมินคุณต่ำเกินไปจริงๆ ด้วย”  

 

 

           จิ้นหยวนจ้องเขาสายตาเย็นเยียบ “ดีใจนะที่ยังรู้ตัว แต่ก็สายไปแล้วล่ะ”  

 

 

           พูดจบแล้วไม่ชายตาแลเขาอีก หากแต่เบนสายตามองไปยังหญิงสาวที่อยู่มุมห้องแทน  

 

 

           เฉียวซือมู่ตัวสั่นเทาไปทั้งร่าง กัดฟันแน่นจ้องมองชายตรงหน้าที่โผล่มากลางอากาศไม่วางตา   

 

 

           ตอนนี้เขากำลังตกอยู่ในอันตรายไม่ใช่หรือ? เขาถูกจับขังเอาไว้ไม่ใช่หรือ? แล้วจู่ๆ มาโผล่ที่นี่ได้อย่างไร?  

 

 

           หรือเขาตั้งใจ?  

 

 

           เธอกัดฟันแน่น มองเขาตาไม่กะพริบ เธอมีคำพูดมากมายในใจแต่กลับไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี  

 

 

           จิ้นหยวนค่อยๆ เดินไปหาเธอ ยื่นมือให้เธอ “ไปกับผม”  

 

 

           เธอชายตาขึ้นมองเขา น้ำตาคลอเบ้า ยังหลงเหลือความหวาดกลัวอยู่ในแววตา เขาเห็นแล้วหัวใจกระตุกอย่างแรง เขายื่นแขนออกไปรั้งตัวเธอเข้าไปกอดเอาไว้ในอกแกร่ง เอ่ยเสียงแผ่ว “ไปกับผมนะ”  

 

 

           น้ำเสียงเขาราบเรียบราวกับกำลังทำเรื่องที่ธรรมดาที่สุด  

 

 

           หัวใจเธอกระตุกอย่างแรง เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา จู่ๆ เขาก็ก้มกายลงช้อนตัวเธอขึ้นอุ้ม  

 

 

           เธออุทานเบาๆ ด้วยความตกใจ สองแขนคล้องคอเขาโดยอัตโนมัติ หางตาเหลือบเห็นสายตาซับซ้อนของอินรุ่ย  

 

 

           เธอชะงักเล็กน้อย รีบเบนสายตาหนีแล้วซุกหน้าลงกับอกแกร่งของจิ้นหยวน  

 

 

           แค่เรื่องที่เขาอยากจะฆ่าลูกในท้องของเธอ มันก็ทำให้เธอไม่อยากจะพูดอะไรกับเขาอีก  

 

 

           แม้เธอจะไม่เห็นหน้าเขาแล้ว แต่หูเธอกลับไวกว่าปกติ วินาทีต่อมา เธอจึงได้ยินสิ่งที่ทำให้เธอตกใจจนต้องเงยหน้าขึ้นจากอกจิ้นหยวน แล้วมองอินรุ่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อ  

เเสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

เเสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

เฉียวซือมู่ คุณหนูตระกูลเฉียวดันจับพลัดจับผลูไปเสียครั้งแรกให้กับ จิ้นหยวน หนุ่มนักธุรกิจเพลย์บอยแห่งเขตซีเฉิง ผู้มีสโลแกนประจำตัวว่า ‘รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน’ เธอขอให้เขาลืมเรื่องคืนนั้นไป ทั้งยังเสนอเช็คให้เขาอย่างไม่เจียมตัว แต่เมื่อเธอกลับถึงบ้าน ทุกอย่างกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ บ้านของเธอล้มละลาย พ่อพาเมียน้อยหนีไปพร้อมกับทิ้งภาระหนี้สินทั้งหมดให้เธอและแม่ ยังเคราะห์ซ้ำกรรมซัดถูกแฟนหนุ่มทิ้งไปหาศัตรูหัวใจ ชีวิตของเธอตกต่ำอย่างถึงที่สุด แต่แล้วชายผู้เป็นครั้งแรกของเธอกลับมาเล่นสกปรกปล่อยข่าวฉาวเรื่องคืนนั้น เพียงเพราะเขาถอนเงินจากเช็คไม่ได้! “จะให้ผมปล่อยคุณไปก็ได้ แต่คุณต้องยอมรับข้อเสนอของผมข้อหนึ่ง” เฉียวซือมู่เงยหน้าถามว่า “ข้อเสนออะไร” “คบกับผม แล้วผมจะปล่อยคุณไป”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset