เหล่าผู้หญิงที่ทำให้ผมช้ำชอกใจต่างก็จับจ้องมาที่ผม แต่ผมเกรงว่ามันน่าจะสายไปแล้วล่ะ – ตอนที่ 2: การรวมตัวสังสรรค์

การรวมตัวสังสรรค์

 

พวกเราทั้งหมด 22คน ก็ได้ไปรวมตัวกันที่บาร์คาราโอเกะ นั่นก็คือจำนวน 1/3 ของห้องที่มาร่วมกัน ต้องขอบคุณให้กับโคยูกิและซากุราอิที่ช่วยกันชวนพวกเพื่อนร่วมห้องมา มันดูสมดูลกันดีจากคนที่เข้าร่วม ซึ่งไม่มีกลุ่มหรือใครที่สนิทกัน และทั้งกลุ่มก็ได้ตรงไปยังบาร์คาราโอเกะ ที่พวกเขาต้องใช้สองห้องในการสนุกร่วมกันในแต่ละแบบของตัวเอง

 

“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับ โคโคโนเอะ เหรอ?” (???)

 

“เสียดายจังที่ไม่ได้มาเนอะ” (???)

 

หลังจากผ่านไปชั่วโมงนึงหรือกว่านั้นหน่อย กลุ่มปาร์ตี้สองกลุ่มก็เริ่มสนิทกัน แล้วหัวข้อของโคโคโนเอะ ก็ถูกยกขึ้นมา การพูดคุยระหว่าง มิเนตะ มิกิ และ ซากุราอิ ก็ถูก มิโฮะ และ คาซานาริ ทาเคชิ ที่เคยเป็นศูนย์หน้าของทีมฟุตบอลของโรงเรียนมัธยมต้นเข้าร่วมด้วย

 

“เขาเป็นตัวอันตรายอย่างแน่นอน มันเป็นไปไม่ได้ที่อยู่คนๆนั้นจะหลุดพูดสิ่งที่คิดออกมาในระหว่างการแนะนำตัวเองน่ะ” (คาซุนาริ)

 

“ไม่ต้องห่วงไปหรอกน่า คาซุนาริ เขาออกจะเป็นคนที่น่าสนใจออก” (มิโฮะ)

 

“มิโฮะ นี่นายดูจะถูกใจ โคโคโนเอะ เอามากเลยนา แล้วมันมีอะไรรึไง?” (คาซุนาริ)

 

“มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นก่อนหน้านานพอควรเลยน่ะ” (มิโฮะ)

 

“เอ๋ นี่นายรู้จักกันมาก่อนเหรอ?” (มิกิ)

 

“ไม่ล่ะ ฉันไม่คิดว่าเขาจะจำฉันได้หรอก และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันคุยกับเขาตรงๆด้วย แต่ฉันรู้จักแค่ว่าเขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมเท่านั้นน่ะ” (มิโฮะ)

 

“นายเป็นนักกีฬาไม่ใช่เหรอมิโฮะ? นั่นหมายความว่า โคโคโนเอะเองก็เก่งด้านกีฬาด้วยงั้นเหรอ?” (มิกิ)

 

“โคยูกิซัง ไม่ใช่ว่าเคยเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลในชั้นมัธยมต้นรึไงกัน?” (คามิชิโระ)

 

จากนั้นก็มีเสียงขึ้นแทรกเข้ามาในกลางวงสนทนาข้ามห้อง

 

ชิโอริ คามิชิโระ – เธอมีผมสีดำยาวถูกรวบไว้เป็นโพนี่เทล เธอดูค่อนข้างสูง ซึ่งสูงกว่า 170cm ถึงแม้ว่าเธอจะยังอยู่ในชุดนักเรียน หน้าอกที่ใหญ่โตนั้นก็เห็นได้อย่างเด่นชัด

 

“เธอรู้จักฉันด้วยเหรอ?” (มิโฮะ)

 

“ไม่ ฉันไม่รู้หรอก แต่ฉันคิดว่าถ้านายรู้จักยูกิ บางที่ก็คง……”(คามิชิโระ)

 

“อ่า เข้าใจละ งั้นเธอเองก็เป็นนักบาสเหมือนกันใช่ไหมล่ะ?” (มิโฮะ)

 

“ใช่ ฉันอยู่ในโรงเรียนมัธยมต้นเดียวกันกับยูกิ ฉันเล่นในทีมหญิงน่ะ……” (คามิชิโระ)

 

“โอ้ เข้าใจล่ะ งั้นเธอรู้ไหมว่าทำไมยูกิโตะถึงไม่ออกไปเล่นในตอนนั้นล่ะ?” (มิโฮะ)

 

“…ฉันขอโทษนะ ฉันไม่สามารถบอกได้” (คามิชิโระ)

 

“……….งั้นเหรอ” (มิโฮะ)

 

ซากุราอิ กับคนอื่นๆต่างก็เฝ้าดูอย่างสนใจขณะที่ทั้งสองคนนั้นสนทนาโดยมีนัยยะอะไรกันบางอย่าง

 

“เฮ้นี่ แล้วเธอไปสนิทกับยูกิโตะได้ยังไงล่ะ คามิชิโระซัง?” (มิโฮะ)

 

“…….ฉันว่าฉันคิดตรงกันข้ามมากกว่า ยูกิคงเกลียดฉันน่ะ” (คามิชิโระ)

 

“อะไรกันล่ะนั่น? นี่เธอหมายความว่าไงน่ะ คามิชิโระซัง?” (มิโฮะ)

 

บรรยากาศสนุกสนานจนถึงเมื่อกี้พลันหายไปจากใบหน้าของเธอ จากที่พูดไปพร้อมกับก้มหน้ามองต่ำลง

 

“ฉันแน่ใจว่า ที่ยูกิ ไม่ได้มาในวันนี้ก็เพราะฉัน……” (คามิชิโระ)

 

“ไม่ เธอเข้าใจผิดแล้ว เหตุผลเดียวที่ยูกิโตะไม่มาก็เพราะว่าฉัน–” (ซูซุราคาว่า)

 

“หา?” (คามิชิโระ)

“หา?” (มิโฮะ)

 

คำพูดที่ออกมาเหมือนกันเป๊ะ หลังจากผู้แทรกคนใหม่โผล่มา

 

ฮินากิ ซูซุริคาว่า – เธอเป็นหนึ่งในสาวสวยที่สุดของชั้น ทัดเทียมกับคามิชิโระ ทั้งสองคนต่างก็เป็นสาวสวยที่สุดของห้อง แล้วเธอเองก็เช่นกันที่เปลี่ยนอารมณ์ไปราวกับถูกความมืดพาดผ่าน

 

“นี่พวกเธอสองคนรู้จักกับโคโคโนเอะงั้นเหรอเนี่ย?” (มิโฮะ)

 

“นี่มันบ้าอะไรเนี่ย บอกฉันก่อนทีว่านี่เขาเป็นคนแบบไหนกันเนี่ย?” (ทาคาฮาชิ)

 

ทั้งสองคนส่งสายตาสาดเข้าใส่กันและกัน ราวกับพวกเธอนั้นไม่ได้ยินคำถามของ ทาคาฮาชิ เลย

 

“ฉันขอโทษด้วย คามิชิโระซัง ฉันก็แค่สงสัย ว่าอะไรที่ทำให้เธอเข้าใจว่าคุณเป็นคนผิดล่ะ” (ซูซุริคาว่า)

 

“แล้วนี่คุณมีความสัมพันธ์อะไรกับยูกิเหรอ ซูซุริคาว่าซัง?” (คามิชิโระ)

 

(เฮ้ยๆๆ! มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย? ทำไมอยู่เรื่องราวมันกลายมาเป็นดราม่าขึ้นได้ล่ะนี่?) (???)

 

(ฉันก็ไม่รู้ ทั้งคู่และโคโคโนเอะ ดูจะรู้จักกันนะ มีเหตุผลบางอย่างอะไรรึเปล่าเนี่ย?) (???)

 

“เธอทำอะไรลงไปกับ ยูกิโตะ……..?” (ซูซุริคาว่า)

 

ในขณะที่ มิโฮะ หัวเราะให้กับตัวเอง วงสังสรรคก็พลันเข้าสู่ห้วงเวลาอันอึดอัด

 

 

——————————————————————————————-

 

[มุมมองของ ชิโอริ คามิชิโระ]

 

ยูกิโตะ โคโคโนเอะ เป็นสมาชิกของชมรมบาสเก็ตบอลในโรงเรียนมัธยมต้น ทั้งเด็กผู้ชาย และผู้หญิงต่างก็ใช้โรงยิมทำกิจกรรมชมรมและมีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกคนอื่นๆในชมรมเดียวกัน ในตอนที่ฉันยังคงเป็นน้องใหม่ฉันยังไม่ได้รู้จักกับยูกิโตะ โคโคโนเอะเลย ในช่วงฤดูร้อนของชั้นปีที่สองที่ฉัน ชิโอริ คามิชิโระ ได้เริ่มที่จะสนใจในตัวเขา

 

ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่ในช่วงเวลานั้นเขาเริ่มพัฒนาทักษะบาสเก็ตบอลของเขา แต่มันดูจะไม่ใช่พรสวรรค์อะไรแบบนั้น ถ้าจะพูดให้ถูกต้องแบบไม่ให้เขาเสื่อมเสียก็คือ เขานั้นฝึกหนักยิ่งกว่าใครๆ ดังนั้นเลยยิ่งเก่งกว่าใครๆ ฉันมันใจว่าแค่นั้นจริงๆ

 

ยูกิโตะ เริ่มที่จะหมกมุ่นกับบาสเก็ตบอล ดูราวกับว่าเขานั้นพยายามที่จะสลัดอะไรบางอย่างออกไปให้ได้ เขานั้นเป็นคนเดียวที่ยังคงอยู่หลังเลิกเรียนฝึกจนเหลืออยู่ตัวคนเดียวเป็นชัวโมงๆ ในระหว่างหยุดฤดูร้อน บางครั้งเขาก็ฝึกคนเดียว มันไม่ใช่แค่ที่โรงเรียน แต่ฉันเคยเห็นเขาฝึกอยู่ข้างนอกที่สนามของสวนสาธารณะด้วย

 

ฉันเป็นคนที่สูงที่สุดในบรรดาเด็กผู้หญิง และตอนนั้นฉันก็เป็นผู้รับผิดชอบ ฉันไม่ค่อยกระตือรือร้นเกี่ยวกับกิจกรรมของชมรมอะไรเลย เพราะทีมไม่แข็งแกร่งพอที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุดของทัวร์นาเม้นได้ โรงเรียนของเราไม่ใช่โรงเรียนที่ใช้ความพยายามในการซ้อมอย่างหนักในด้านกีฬา และสมาชิกทีมทั้งชายและหญิงต่างก็มีความสุขแล้วกับระดับกลางๆของกิจกรรมชมรมที่มี

 

แต่กับเขานั้นแตกต่างออกไป เขาเป็นคนเดียวที่ยังจับบอลราวกับว่าถูกครอบงำด้วยอะไรบางอย่าง และยังคงยิงไปที่ห่วงเรื่อยๆ ราวกับเขาพยายามที่ทำเพื่อที่จะให้ลืมอะไรสักอย่าง

 

บางทีคงอาจจะได้รับแรงบัลดาลใจจากสิ่งที่เขาทำ พวกเด็กผู้ชายจึงเริ่มตั้งความหวังอย่างจริงจังแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แล้วเขายังกลายมาเป็นผู้เล่นป้องกันชั้นยอด เขาไปถึงจุดที่เรียกว่าผู้เล่นป้องกันระดับโลกได้เลย และได้ให้ความคาดหวังไว้กับเขา หวังว่าพวกเราจะไปถึงจุดสูงสุดที่จะเปลี่ยนแปลงทีมบาสเก็ตบอลได้

 

–ช่างมหัศจรรย์ ฉันคิด

 

เป็นการชื่นชมอย่างจริงใจที่สุด คนที่มหัศจรรย์ที่สามารถเป็นแบบอย่างให้กับคนอื่นเพียงแค่สิ่งที่เขาได้แสดงออกมาให้เห็น เขาไม่เหมือนฉันเลย ฉันนั้นอิจฉา สั่นเทา และอยากที่จะเฝ้ามองดูหลังเขาอยู่ตลอดไป แต่ในขณะเดียวกันฉันก็กังวลอันตรายที่จะเกิดจากการที่เขานั้นละเลยสภาพของตัวเอง ดังนั้นฉันจึงเริ่มเข้าไปคุยกับ ยูกิโตะ โคโคโนเอะ

 

หลังจากผ่านไปสักพัก ฉันก็รู้จักเขาเป็นอย่างดีและเริ่มที่จะเรียกเขาว่า ยูกิ และการสนทนาของพวกเราก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น พวกเราเริ่มที่จะพูดคุยกันอย่างสบายๆที่นอกชมรม ฉันไม่เคยมีเพื่อนคนที่เป็นเพศตรงข้ามมาก่อน ดังนั้นมันก็เลยเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานมากสำหรับฉัน เขานั้นอ่อนโยนและมีน้ำใจมาก แล้วเขานั้นก็ยังดูเป็นผู้ใหญ่มากจนฉันแทบจะไม่เชื่อเลยว่าเขานั้นเป็นเพื่อนร่วมห้องของฉัน เขาเป็นคนที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยเวลาที่ได้คุยด้วย

 

ฉันรู้ได้ชัดเจนแล้วตอนนี้ ว่าฉันนั้นติดใจในตัว ยูกิโตะ โคโคโนเอะ เข้าเสียแล้ว

 

แต่ในตอนนั้น ฉันที่ยังไม่โตพอที่จะส่งความรู้สึกให้เขาได้อย่างซื่อตรง ฉันไม่รู้จักที่จะแยกแยะความรู้สึกที่เกิดขึ้นครั้งแรกของฉันได้ ดังนั้นฉันก็เลยเข้าหาเขาด้วยความรู้สึกคลุมเคลือ แต่แล้วฉันก็ทำให้เขาต้องล้ม ฉันเสียใจมากที่ทำแบบนั้นกับเขา

 

มันเป็นการมองย้อนกลับไปดูความผิดพลาดทั้งหมดของฉัน ฉันควรที่จะอยู่ให้ห่างจากเขาตั้งแต่แรก แล้วในท้ายที่สุดฉันก็ได้ทำการทรยศเขาด้วยวิธีที่แล้วร้ายที่สุด ทำร้ายเขาและพรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเขา

 

—————————————————————————

 

“……….ฉันเป็นเพื่อนสมัยเด็กของยูกิโตะ” (ซูซุริคาว่า)

 

“หรือเป็นเพราะว่าเธอคือเป็นสาเหตุที่ทำให้ยุกิเปลี่ยนไป?” (คามิชิโระ)

 

“ใช่ แต่เธอล่ะเป็นใคร? บอกฉันได้ไหมว่าเธอทำอะไรลงไปกับยูกิโตะ” (ซูซุริคาว่า)

 

“ฉัน…..ฉัน—” (คามิชิโระ)

 

“เอ้า หยุด หยุด!” (ซากุราอิ)

 

ซากุราอิ เข้ามาขวางไว้เนื่องจากทนเห็นการโต้เถียงที่รุนแรงระหว่างทั้งสองคนไม่ได้

 

“นี่มันเป็นงานสังสรรค์กันนะวันนี้! ใช่มะ? มาสนุกด้วยกันดีกว่าเนอะทั้งคู่” (ซากุราอิ)

 

“เฮ้อ งั้นฉันขอตัวก่อนนะ” (คามิชิโระ)

 

“ฉันขอโทษที่ทำลายบรรยากาศนะ ซากุราอิซัง ฉันจะไปที่ห้องอื่นแล้ว โอเค้?” (ซูซุริคาว่า)

 

หลังจากที่ทั้งสองคนออกไปแล้ว บรรยากาศที่คาดไม่ถึงก็ได้โหมเข้าในห้อง

 

“แล้วฉันจะต้องทำยังไงกับไอ้บรรยากาศแบบนี้ล่ะเนี่ย?” (ซากุราอิ)

 

“เอาเลย คาซุนาริ ร้องอะไรหน่อยสิ” (มิกิ)

 

“เอ๋ ทำไมฉันจะต้องร้องก่อนเนี่ย?” (คาซุนาริ)

 

“ฉันจะต้องถามเธอเกี่ยวกับ โคโคโนเอะ ในครั้งหน้าให้ได้เลย” (มิโฮะ)

 

“ฉันว่าน่าจะจบไม่สวยเอานะถ้าต้องเจอกับบรรยากาศแบบนั้นน่ะ…….” (ซากุราอิ)

 

มันเกิดอะไรขึ้นระหว่าสามคนนั้นกันนะ? การปะทะกันอย่างรุนแรงกระทันหันของสาวสวยทั้งสองทำให้เพื่อร่วมชั้นนั้นหมดอารณ์กับการเพลิดเพลินไปกับคาราโอเกะและทำให้พวกเขานั้นคิดฟุ้งซ่านกันไปหมดเลย

 

 

 

เหล่าผู้หญิงที่ทำให้ผมช้ำชอกใจต่างก็จับจ้องมาที่ผม แต่ผมเกรงว่ามันน่าจะสายไปแล้วล่ะ

เหล่าผู้หญิงที่ทำให้ผมช้ำชอกใจต่างก็จับจ้องมาที่ผม แต่ผมเกรงว่ามันน่าจะสายไปแล้วล่ะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย เหล่าผู้หญิงที่ทำให้ผมช้ำชอกใจต่างก็จับจ้องมาที่ผม แต่ผมเกรงว่ามันน่าจะสายไปแล้วล่ะผมไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงอยากจะมาบอกกับผมในเรื่องนี้ บางทีเธอคงจะคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของเพื่อนสมัยเด็กละนะ แล้วผมก็อ่านความคิดของอื่นไม่ได้ซะด้วยสิ ในทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้นของเธอมันก็ได้ทำร้ายผมไปมากกว่าสิ่งที่เคยผ่านมาทั้งหมดเสียอีก ผมจำไม่ได้นะว่าพวกเราเคยไปสัญญาว่าจะแต่งงานอะไรกันไว้รึเปล่า ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นให้เห็นได้บ่อยๆกับหลายๆคนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็ก แต่ยังไงเธอนั้นก็พิเศษสำหรับผม เธอคงมีเหตุผลนั่นแหล่ะ แล้วผมก็ถูกผลักให้ตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของผมเลย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset